The Strongest Hokage – ตอนที่ 420 : หลายปี

“ตอบสนองได้เร็วมาก”

 

ไนโตะ หันหน้าไปมอง คาบูโตะ เล็กน้อย

 

ไนโตะ ไม่ได้ปล่อยแรงกดดันนอะไรออกไปเลย เขาแค่มองไปที่ คาบูโตะ เฉย ๆ เท่านั้น แต่การมองอย่างเรียบง่ายนี้ทำให้ คาบูโตะ รู้สึกหนาวที่หลังกระดูกสันหลัง

 

ความสยดสยองปรากฏชัดในสายตาของ คาบูโตะ และทันใดนั้นเขาก็ก้มหัวลงและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง ไนโตะ

 

จู่ ๆ เราก็เข้ามา ท่านไนโตะ จะมองว่าเราเสียมารยาทไหมเนี่ย?

 

ความคิดนี้แวบขึ้นมาอย่างรวดเร็วในหัวของ คาบูโตะ ในขณะที่หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นและร่างกายของเขาก็สั่นเล็กน้อย โอโรจิมารุ ที่อยู่ด้านข้างมองไปที่ ไนโตะ และ คาบูโตะ อย่างแปลกประหลาด

 

โอโรจิมารุ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าทัศนคติของ ไนโตะ ที่มีต่อ คาบูโตะ นั้นดูสบาย ๆ แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดในเวลานั้น เพราะถ้า คาบูโตะ ทำให้ ไนโตะ ขุ่นเคืองจริง ๆ เขาก็คงจะต้องอยู่คนเดียว

 

อันที่จริงการที่ ไนโตะ ไม่สนใจ คาบูโตะ ไม่ใช่เพราะจู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามา แต่เพราะ ไนโตะ ไม่ชอบผู้ชายคนนี้

 

แม้ว่าไอคิวของ คาบูโตะ จะสูงมาก แต่เขาก็มักจะซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อวางแผนสมคบคิดซึ่งคล้ายกับ เซ็ตสึ และ ดันโซ มากและ ไนโตะ ก็เกลียดพวกเขามาก

 

ในการ์ตูน โอโรจิมารุ มักจะใช้งาน คาบูโตะ เสมอ แต่ในตอนที่ โอโรจิมารุ ตาย คาบูโตะ ก็คิดว่าตัวเองเป็นรุ่นที่ดีกว่า เขาเข้าร่วมมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 และฟื้นคืนชีพให้กับ มาดาระ อีกครั้งซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในสงคราม

 

ต่อมาเขาก็ถูก อุจิฮะ อิทาจิ กักขังไว้ในคาถาลวงตาที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

ไนโตะ เพิกเฉยต่อการโค้งคำนับของ คาบูโตะ อย่างสิ้นเชิงและเดินผ่านร่างที่สั่นเทาของเขาจากนั้นก็หายไปในความมืด

 

คาบูโตะ ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะกลับมายืนตัวตรงหลังจากที่ ไนโตะ ออกไปแล้ว จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และขยับแว่นของเขา หยดเหงื่อยังคงปรากฏชัดบนหน้าผากของเขา

 

“ครั้งหน้าฉันต้องระวังตัวมากกว่านี้สะแล้ว”

 

คาบูโตะ กลับมารู้สึกตัวจากนั้นเขาก็เดินไป 2 – 3 ก้าวและพบว่า โอโรจิมารุ ยังคงยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าตกใจ

 

“ความรู้สึกนั้น…”

 

โอโรจิมารุ ครอบครองทั้งเซลล์ของ ฮาชิรามะ และ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผา ซึ่งทำให้การตรวจจับของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง ครั้งสุดท้ายที่เขาพบกับ ไนโตะ ใน หมู่บ้านคิริ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของ ไนโตะ ที่ดูเหมือนกับไม่มีที่สิ้นสุดราวกับทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

แต่ตอนนี้เมื่อเขาตรวจจับถึงความแข็งแกร่งของ ไนโตะ อีกครั้ง มันกลับไม่รู้สึกเหมือนทะเลเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เหมือนกับความกว้างใหญ่ของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจนไม่สามารถเข้าถึงได้!

 

“ท่านโอโรจิมารุ? พูดถึงความรู้สึกอะไรเหรอครับ?”

 

คาบูโตะ วางตัวอย่างการทดลองลงบนโต๊ะจากนั้นก็เดินไปที่ด้านข้างของ โอโรจิมารุ อย่างระมัดระวัง

 

ดวงตาของ โอโรจิมารุ ดูลึกล้ำ เขาพูดว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ดูเหมือนว่าเขาได้ครอบครองพลังแห่งเซียน 6 วิถีแล้ว…”

 

เมื่อพูดถึงสิ่งนั้นดวงตาของ โอโรจิมารุ ก็เปล่งประกายอย่างรวดเร็วและพูดว่า “และถ้าฉันเดาไม่ผิด คาบูโตะ นายจำตอนที่ดวงจันทร์ถูกทำลายดได้ไหม?”

 

“จำได้แน่นอนครับ”

 

คาบูโตะ พยักหน้าจากนั้นเขาก็ตอบสนองอย่างกะทันหันและด้วยสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ เขาพูดว่า “ท่านโอโรจิมารุ ท่านจะบอกว่า…”

 

“ใช่”

 

โอโรจิมารุ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมจากนั้นเขาก็พูดว่า “ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูเหมือนว่าเกิดการต่อสู้ขึ้นบนนั้น และคนเดียวที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ก็ไม่มีใครอื่นแล้วนอกจาก ไนโตะ”

 

“แต่! ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วใครเป็นคนที่สู้กับ ท่านไนโตะ ละครับ?”

 

คาบูโตะ ยังคงรู้สึกตกใจ เพราะถึงอย่างไรการต่อสู้ที่ทำลายได้แม้กระทั่งดวงจันทร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะได้ยินทุกวัน

 

“ใครจะไปรู้?” โอโรจิมารุ กางแขนออกจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “พูดง่าย ๆ ก็คือโลกใบนี้ยังมีเรื่องน่าสนใจที่ถูกซ้อนอยู่อีกมากมาย ตอนนี้เรายังไม่เข้าใจ แต่เราก็จะได้เข้าใจพวกมันอย่างช้า ๆ และนั่นคือสิ่งที่น่าสนใจของโลก จริงไหม?”

 

คาบูโตะ ข้าง ๆ เขาพยักหน้า

 

หลังจากเงียบไปสักพักเขาก็พูดว่า “ท่านโอโรจิมารุ ผมจะเริ่มทำการทดลองกับร่างที่ 13 ต่อ…”

 

“ไม่ ทำนี่ก่อน”

 

โอโรจิมารุ ส่ายหัวและวางม้วนหนังสือที่รับมาจาก ไนโตะ ลงบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดว่า “ลองทดสอบนี้ก่อน”

 

“ครับ”

 

หลังจากพยักหน้าและเปิดม้วนหนังสือและเริ่มทำงานกับตัวอย่าง

 

……..

 

หลายปีผ่านไป

 

หลังจากการขยายอาณาเขตของ หมู่บ้านอาเมะ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะยังเล็กกว่า โคโนฮะ แต่ขนาดของมันก็ใหญ่เกินกว่าหมู่บ้านในแคว้นเล็กอื่น ๆ และทำให้ตำแหน่งของมันมั่นคงในฐานะหมู่บ้านใหญ่ลำดับที่ 6 อย่างสมบูรณ์

 

ในสนามฝึกซ้อมของ หมู่บ้านอาเมะ ในตอนนี้

 

“วิชากระดูก : ดอกไม้นรก!”

 

คิมิมาโร่ ยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าสงบจากนั้นทันใดนั้นเขาก็โบกมือ

 

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!!!

 

ทันใดนั้นกระสุนกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขาราวกับห่าพายุที่พุ่งออกไปรอบทิศราวกับดอกไม้นรกสีเทาที่เบ่งบานอยู่ในทุ่ง

 

“คาถาน้ำแข็ง : กำแพงน้ำแข็ง!”

 

ฮาคุ มองไปที่กระสุนกระดูกที่พุ่งลงมาเต็มท้องฟ้า แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตระหนกใด ๆ และในขณะนั้นเขาก็ประสานอินด้วยมือเดียวและอีกมือหนึ่งเขาก็กดลงไปบนพื้น

 

แกร๊ก!!

 

กำแพงน้ำแข็งหนาพุ่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กำแพงน้ำแข็งนี้ไม่ได้มีเพียงจักระที่น่ากลัวเท่านั้น แต่ยังหนากว่ากำแพงดินอีกด้วย!

 

เป้ง – เป้ง แก๊ง แก๊ง!!!

 

กระดูกกระสุนของ คิมิมาโร่ ชนเข้ากับกำแพงน้ำแข็ง แต่มันก็แทงเข้าไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้นและหยุด มันไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงไปได้

 

“คาถาน้ำแข็ง : ยุคน้ำแข็ง!”

 

ฮาคุ กดมือลงบนพื้น และด้วยดวงตาที่มืดมิดและเคร่งขรึม ความหนาวเย็นที่น่ากลัวก็ระเบิดออกมาจากฝ่ามือของเขาและทั้งสนามก็เริ่มแข็งเป็นน้ำแข็งกระจายไปทุกทิศทาง

 

คลื่นเย็นสีฟ้าเข้มแผ่กระจายไปทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นหญ้าหรือต้นไม้ ทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง

 

พื้นผิวน้ำแข็งกระจายอย่างรุนแรง รวดเร็วและเกือบจะกระจายออกไปถึงชาวบ้านที่อยู่ห่างออกไป แม้แต่กำแงและอาคารบริเวณใกล้เคียงก็กลายเป็นน้ำแข็ง!

 

“เอาจริงดิ?! นี่นายจะแช่แข็งพวกเราให้ตายกันหมดเลยรึไง?!”

 

ทันใดนั้น คาริน ก็ตะโกนออกมาจากนอกสนามฝึกด้วยริมฝีปากของเธอที่กระตุก แม้ว่าเธอจะไม่ได้ถูกแช่แข็งตาย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดแบบนี้

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset