Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 111 แรงกดดัน

โดมคริสตัลลอยกลางอากาศที่สร้างจาก ‘พลังเทพ’ ก็พลันหายไป แต่ผู้คนยังคงอยู่กันในจัตุรัสกลาง ตราตรึงอยู่กับซิมโฟนีเพลงสุดท้าย เพลงที่ชื่อว่า ‘สงครามแห่งรุ่งอรุณ’

“ถ้าให้เปรียบเทียบนะ…” ซาลาลังเลเล็กน้อย “สงครามแห่งรุ่งอรุณงดงามก็จริง แต่ซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต สำหรับพี่ ยังน่าประทับใจกว่า”

ลิลิธพยักหน้า “ใช่ ข้ารู้สึกว่าความมุ่งมั่นในซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิตยังเข้มข้นกว่า” ว่าแล้วนางก็ขมวดคิ้วด้วยท่าทางเป็นกังวล “แต่การแสดงดนตรีของท่านคริสโตเฟอร์ก็จบลงอย่างงดงามมาก การแสดงคืนนี้ต้องทำให้ท่านอีวานส์กดดันมากแน่ๆ”

“ท่านอีวานส์ไม่เป็นอะไรหรอก…” ซาลาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี “เขาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง”

“แล้วถ้าเขากดดันล่ะ?” ลิลิธเงยหน้าขึ้นมา “คิดดูสิ เหมือนท่านอีวานส์กำลังประชันกับประธานสมาคมนักดนตรีเลย”

ซาลามองน้องสาวแล้วถอนหายใจ

ขณะเดียวกัน ณ ชั้นบนสุดของศาลาว่าการ เฟลิเซียถอนหายใจยาว ราวกับนางกำลังขับไล่ความกังวลและความประหม่าออกจากความคิด

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่กังวลเป็นห่วงการแสดงดนตรีของลูเซียน เม็กเคนซีเป็นหนึ่งในนั้น เขากำลังตื่นเต้นหลังการแสดงดนตรีคืนนี้ ไม่เพียงเพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่คริสโตเฟอร์สามารถบรรลุในบั้นปลายชีวิต แต่เพราะเม็กเคนซีเชื่อว่าความยอดเยี่ยมในการแสดงดนตรีประธานสมาคมจะบดบังรัศมีการแสดงของลูเซียนในวันรุ่งขึ้น เมื่อมีการเปรียบเทียบ

แกรนด์ดยุก เจ้าหญิง และขุนนางระดับสูงอื่นๆ ก็ยังอยู่ไม่ออกจากโรงละครซาล์มฮอลทันทีหลังการแสดงดนตรีจบ และกำลังสนทนากับคริสโตเฟอร์ในห้องชมการแสดงอีกห้องหนึ่ง ต่างพากันแสดงความยินดีกับความสำเร็จทางดนตรีอันยิ่งใหญ่พร้อมทั้งแสดงความเสียใจที่เขาจะไม่มีการแสดงดนตรีอีกแล้วในอนาคต

ขุนนางชนชั้นสูงและนักดนตรีอื่นๆ ยังคงนั่งอยู่กับที่นั่ง แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการแสดงดนตรี

“เจ้าเกือบขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญดนตรีแนวนี้แล้วนะ ลูเซียน” วิกเตอร์ประทับใจกับการตีความกระบวนแรกของ ‘เพลงสงครามแห่งรุ่งอรุณ’ “ข้าว่าเจ้าได้กำหนดทิศทางดนตรีและแนวคิดเพลงขึ้นมาแล้ว”

“ขอบคุณขอรับ อาจารย์วิกเตอร์ น่าเสียดาย ข้าเกรงว่าเส้นทางยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดนั้น” ลูเซียนตอบอย่างถ่อมตัว “สิ่งที่ข้าพูดถึงก็มาจาก ‘ดนตรีวิพากษ์’ กับ ‘ข่าวสารซิมโฟนี’ หนังสือพิมพ์มีงานวิจารณ์ดนตรีเชิงลึกของเพลงแนวนี้อยู่หลายชิ้นช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา”

อันที่จริง ความรู้ความเข้าใจเรื่องดนตรีที่ลูเซียนกำลังแลกเปลี่ยนกับวิกเตอร์และมาร์คัสล้วนมาจากห้องสมุดห้วงจิตของเขา

“อ๋อ… ข้าก็ได้อ่านบทความนี้เหมือนกัน ใช่ บทความพวกนี้เป็นเครื่องมือชี้แนะชั้นยอด” มาร์คัสเห็นด้วย แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “เจ้าเครียดบ้างไหมที่การแสดงดนตรีพรุ่งนี้จะถูกเปรียบเทียบกับการแสดงดนตรีที่สมบูรณ์แบบอย่างวันนี้ ลูเซียน?”

ขณะที่ลูเซียนกำลังจะตอบ วิกเตอร์ตบแขนมาร์คัสเบาๆ ให้เขาหยุด แล้ววิกเตอร์ก็พูดกับลูเซียน “อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น จงทำสิ่งที่เราอยากจะทำ”

จริงๆ แล้ว วิกเตอร์เองก็ห่วงว่าบรรดาเพลงเดี่ยวเปียโนพรุ่งนี้อาจไม่สามารถสร้างสุนทรียภาพทางดนตรีให้กับผู้ฟังได้มากพอ แต่เขาเลือกที่จะเชื่อใจลูกศิษย์

ลูเซียนไม่ได้กังวลเหมือนอย่างที่คนอื่นคิด แม้เขารู้ว่าการประพันธ์เพลงใหม่และรายชื่อเพลงของเขาค่อนข้างฉีกกรอบแหวกแนวจากแนวเพลงกระแสหลัก และการเล่นเดี่ยวเปียโนหลายเพลงมีความเสี่ยงสูงมาก ลูเซียนเชื่อว่าเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าต้องการอะไร

“ข้าจะพยายามเต็มที่ขอรับ” เขาพยักหน้า

อีกไม่กี่นาทีต่อมา ชนชั้นสูงก็เริ่มกลับจากโรงแสดงดนตรี ตามด้วยนักดนตรี ขุนนางชนชั้นสูงและนักดนตรีบางคนทักท้ายลูเซียนด้วยท่าทีแปลกๆ แน่นอน ทุกคนพยายามไม่พูดถึงการแสดงดนตรีวันพรุ่งนี้

วันที่ห้าเมษายน วันสุดท้ายของเทศกาลดนตรีแห่งนครอัลโต้

เวลาสิบเก้านาฬิกา สามสิบนาที แทบทุกคนในนครอัลโต้มารวมตัวกัน ณ จัตุรัสกลาง และถนนรอบข้าง เฝ้ารอการแสดงดนตรีรอบสุดท้าย

ปิโอลา ชารอน และสมาชิกวงคนอื่นๆ มาถึงจัตุรัสตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อจับจองทำเลเหมาะๆ ตอนนี้พวกเขาถูกคนมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง พร้อมด้วยการสนทนาอย่างออกรสออกชาติ

เมื่อมองขึ้นไปที่โดมคริสตัล ปิโอลาพึมพำราวกับเขากำลังฝัน “ข้าหวังว่าข้าจะได้แสดงดนตรีที่นี่บ้าง ให้ข้าตาย ข้าก็ยอม”

“ไม่มีทางเสียล่ะ โชคร้ายหน่อยนะ” กรีน มือวิโอลา ส่ายหน้าถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะมีความฝันเดียวกันก็ตาม

“เราเพิ่งอายุยี่สิบกว่าๆ เรายังหนุ่มยังแน่น อย่ามองโลกในแง่ร้ายนักเลย กรีน” ชารอนพูดขึ้น “ท่านคริสโตเฟอร์ยังสามารถพัฒนาศักยภาพดนตรีของท่านได้ในวัยเจ็ดสิบ เราต้องไล่ตามความฝันไปให้สุดทางจนกว่าฝันจะเป็นจริง”

“พูดถึงเรื่องอายุน้อย…” เกรซพูดกับทุกคน “อีกตั้งสองสามเดือนกว่าจะถึง ‘พิธีบรรลุนิติภาวะ’ ของท่านอีวานส์”

ชารอนซึ่งเกิดในครอบครัวนักดนตรีตอบ “นักดนตรีที่อายุน้อยที่สุดแสดงดนตรีในโรงละครซาล์มฮอลตอนอายุสิบห้าปี แต่ตอนที่เขาได้แสดงที่นี่ เขาเคยแสดงการแสดงดนตรีมาแล้วหลายๆ ที่ แต่ท่านอีวานส์กำลังจะแสดงดนตรีครั้งแรกในเทศกาลดนตรีอัลโต้ นี่แหละสิ่งที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ดนตรี”

คริสโตเฟอร์ก็มีการแสดงดนตรีครั้งแรกในโรงละครซาล์มฮอลในช่วงเทศกาลดนตรีอัลโต้สมัยที่เขาอายุยี่สิบหกปี นักดนตรีอาวุโสผู้แสดงดนตรีด้วยอายุหนึ่งร้อยสิบสองปีในโรงละครซาล์มฮอลนี้ยังมียศถึงชั้น ‘อัศวินหลวง’ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยากจะมีใครมาทำลาย

“ใครๆ ก็ตั้งตารอการแสดงดนตรีของท่านอีวานส์ คืนนี้” เกรซพูด “ข้ารู้สึกว่า… ตราบใดที่การแสดงดนตรีของเขาน่าประทับใจได้สักครึ่งหนึ่งของท่านคริสโตเฟอร์ ก็เรียกว่าสำเร็จได้แล้วละนะ”

“ข้าเห็นด้วย…” ปิโอลาพยักหน้า “แต่ท่านอีวานส์เพิ่งเรียนดนตรีมาไม่ถึงปี เขามาถึงขั้นนี้ได้ก็เป็นอัจฉริยะแล้ว และเขาก็ยังหนุ่มอยู่มาก”

“ข้าไม่คิดว่าคนอื่นจะคิดเหมือนเรา โชคร้ายหน่อย” ชารอนถอนหายใจ “ต้องมีคนที่หวังให้การแสดงดนตรีของท่านอีวานส์ล้มเหลวไม่เป็นท่า”

ด้านนอกของโรงละครซาล์มฮอล ลูเซียนสวมชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ เขากำลังต้อนรับแขกผู้มีเกียรติร่วมกับไรน์และสมาชิกวงออร์เคสตราคนอื่นๆ

ขุนนางชนชั้นสูงและนักดนตรีจำนวนมากหลั่งไหล่กันเข้าในในโรงละคร ในกลุ่มนั้น ยังมีเคานต์เฮย์น เคานต์ราฟาติ เคานต์ฮิลล์ โอเทโล่ และชนชั้นสูงจากต่างประเทศ และนักดนตรีที่ลูเซียนไม่รู้จักอีกหลายคน

แล้วคริสโตเฟอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับซิลเวีย ศิษย์เอกของเขา เขาพยักหน้าให้ลูเซียนพร้อมกับรอยยิ้มแสนอารีและขอให้เขาผ่อนคลาย ซิลเวียก็ยิ้มให้ลูเซียนเพื่อให้กำลังใจ

ลูเซียนยังได้เชิญ ‘ครอบครัว’ ของเขาที่อยู่ในนครอัลโต้มาร่วมงานเป็นพิเศษ จอห์น โจเอล อะลิซ่า ไอเวิน และเอเลน่าต่างได้รับเชิญจากลูเซียน พวกเขามาพร้อมกับวิกเตอร์และเฟลิเซีย บางคนดูท่าทางกังวลยิ่งกว่าลูเซียนเสียอีก เขายิ้มให้ทุกคนและบอกให้ทุกคนสบายใจว่าเขารู้สึกยอดเยี่ยมมาก

ในที่สุด รถม้าของแกรนด์ดยุกก็มาถึง แกรนด์ดยุกและเจ้าหญิงนาตาซาถูกรายล้อมด้วยขุนนางชนชั้นสูงมากหมาย ไม่ต่างจากมิเชล เจ้าชายแห่งอาณาจักซีราคิวส์ และซาร์ด พระคาร์ดินัลหลวงแห่งศาสนจักร

นาตาซายักคิ้วสีม่วงของนางและยิ้มให้กับลูเซียน “ข้าเชื่อมือเจ้า ที่ปรึกษาดนตรีของข้า”

ณ ห้องชมการแสดง แกรนด์ดยุกออร์วาริตกล่าวกับธิดา “นาตาซา พ่อว่าลูกใจร้ายไปหน่อยไหมที่จัดให้การแสดงดนตรี ‘ครั้งแรก’ ของลูเซียนเล่นหลังการแสดงของคริสโตเฟอร์ และเป็นการแสดงดนตรีปิดงานเทศกาลดนตรีอัลโต้ เจ้าไม่ได้อยากจะแกล้งเขาใช่ไหม ลูกพ่อ?”

“ไม่แน่นอน เพค่ะ เสด็จพ่อ” นาตาซาหัวเราะ “ลูกเชื่อใจเขา ลูกรู้ว่าเขาทำได้”

“แต่… ความเชื่อมั่นของเจ้าไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นนักดนตรีคุณภาพขึ้นมาได้ทันตาเห็นหรอกนะ” เวอร์ดี้พูดกับนาตาซา “เพลงที่เขามีก็แค่ ‘ซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต’ แล้วก็… อะไรนะ ‘แด่ซิลเวีย’”

“กระหม่อมคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่นักดนตรีหนุ่มมากพรสวรรค์จะได้เติบโต” คริสโตเฟอร์แสดงความเห็นเข้าข้างนาตาซา “การแสดงดนตรีที่มีความหมายที่สุดต่อนักดนตรีคือการแสดงดนตรีที่ทำให้ก้าวข้ามขีดจำกัดพะยะค่ะ”

ซาร์ดพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าบอกได้จากซิมโฟนีเพลงนั้นว่าเด็กหนุ่มคนนี้เด็ดเดี่ยวมาก เขามีหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค พระเจ้าจะอวยพรเขา”

ด้วยเสียงสนับสนุนจากคริสโตเฟอร์และซาร์ด นาตาซายิ้มตอบกลับเวอร์ดี้ “แล้ว ท่านคิดอย่างไรล่ะ?”

“เออ… แล้วเราจะได้เห็นกัน” เวอร์ดี้ไม่ได้โต้เถียงกับนาตาซามากนักในคืนนี้ ในหัวเขามีเรื่องราวให้คิดมากมายในตอนนี้

เมื่อลูเซียนปรากฏตัวขึ้นบนเวที ปิโอลาชี้ไปยังโดมคริสตัสและอุทาน “เขา… คนนั้นคือท่านอีวานส์?”

ปิโอลาอ้าปากค้าง เขาไม่อยากเชื่อสายตา

ชารอนต้องใช้เวลาหลายวินาทีเพื่อเรียบเรียงคำพูดให้เป็นประโยค “ใช่ ข้าว่าแล้วเชียว ชายหนุ่มที่เราคุยด้วยวันก่อน… คือท่านลูเซียน อีวานส์”

“ไม่สงสัยเลย…” เกรซพึมพำกับตัวเอง

เมื่อยืนเดี่ยวอยู่หน้าคณะออร์เคสตรา ลูเซียนยิ้มให้ไรน์และพยักหน้าให้สัญญาณ

แล้วลูเซียนก็เริ่มโบกไม้บาตอง

……………………………………….

Throne of Magical Arcana

Throne of Magical Arcana

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’ ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset