Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 15 เพื่อความยุติธรรม

ลูเซียนพลิกตัวนอนหงายบนพื้นด้วยอาการวิงเวียน มองขึ้นไปยังดวงอาทิตย์ยามเช้าที่ยังไม่ร้อนมากนัก และท้องฟ้าที่สดใสเป็นพิเศษ เขาสูดอากาศสดชื่นเข้าปอดอย่างเงียบๆ ความเจ็บปวดรวดร้าวบนตัวไม่อาจทำอะไรกับความรู้สึกพลุ่งพล่านในใจเขาได้ และรวมถึงเป้าหมายการเอาชีวิตรอดที่แน่วแน่และยึดมั่น

ทันทีที่เขาตัดสินใจว่าจะเรียนเวทมนตร์ ลูเซียนก็รู้ว่าเขายิ่งต้องระมัดระวังตัวและรอบคอบมากกว่านี้ในอนาคต แต่การตัดสินใจนั้นเหมือนกับความผ่อนคลายแสนสุขที่ปลดหินหนักๆ ที่ถ่วงอยู่ในใจเขามานานออกไป

‘นี่เป็นการคิดและให้เหตุผลที่แปลกประหลาดซับซ้อนผิดปกติจริงๆ’ ภายในไม่กี่วัน ลูเซียนผู้เคยใช้ชีวิตมากว่าสองทศวรรษในโลกก่อน อยู่ๆ ก็คล้ายจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เขาข่มกลั้นโทสะและความอ่อนแอที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แล้วหัวเราะกับตัวเอง ‘บางทีฉันคงจะอยากเรียนเวทมนตร์ ใช้พลังวิเศษนั้นให้เชี่ยวชาญ เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีสถานะที่สูงขึ้นมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ เหตุการณ์ทั้งหมดในช่วงสองสามวันมานี้ก็แค่ช่วยให้ฉันตัดสินใจได้สักที’

อะลิซ่าวิ่งมาหาลูเซียนและช่วยพยุงเขาขึ้น “อีวานส์น้อย เป็นอะไรไหม”

ลูเซียนพยายามขยับมือ เท้า และร่างกาย แต่ก็ต้องนิ่วหน้าขบฟันเพราะความเจ็บปวด “ไม่เป็นไรขอรับ ท่านน้าอะลิซ่า พวกมันไม่ได้อยากจะสังหารข้า มีเพียงบาดแผลเล็กๆ เท่านั้นขอรับ”

อะลิซ่ารู้สึกวางใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะสบถสาบาน “เจ้าพวกอันธพาลชั่วนั่นไม่สนใจกฎของแกรนด์ดยุก พวกมันทุกคนจะต้องถูกแขวนคอและตกนรกหมกไหม้แน่ๆ”

ขณะที่ก่นด่าสาปแช่งแก๊งอารอน อะลิซ่าก็ช่วยพาลูเซียนเข้าไปในบ้านนางและนั่งลง ทำความสะอาดใบหน้าอาบเลือดให้ด้วยน้ำและใช้ผ้าลินินสะอาดๆ มาช่วยห้ามเลือดให้เขา

หลังจากทำทั้งหมดนั้นเสร็จสิ้น อะลิซ่าก็เท้าสะเอวมองหน้าลูเซียน ตั้งใจจะถามลูเซียนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก่อนจะได้ถามอะไร ก็เหมือนนางจะนึกเรื่องอื่นขึ้นได้ จึงถามลูเซียนด้วยท่าทางโล่งอก “วันนี้วันจันทร์แล้วนะ จอห์นน้อยจะกลับมาบ่ายวันนี้ อย่าบอกเขาเรื่องนี้ล่ะ อีวานส์น้อย เจ้าก็รู้ เขาเป็นคนยึดมั่นถือมั่นในเกียรติของอัศวินและกฎมากๆ และเจ้าก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา หากเขารู้เข้า เขาคงจะไปหาเรื่องแก๊งอารอนเป็นแน่ และเมื่อไหร่ที่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เขาอาจจะถูกเซอร์เวนน์ขับไล่ก็ได้”

การเป็นผู้ยากไร้ ทำให้อะลิซ่าคุ้นชินกับการแสดงว่าตนอ่อนแอ

“ได้แน่นอนขอรับ ไม่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกับข้าหรอก ข้าจะไม่บอกจอห์นขอรับ ซี้ด” แม้ว่าตอนนี้ลูเซียนจะไร้พลัง แต่เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งในอนาคต เขาจะต้องทวงคืนความยุติธรรมได้และทำให้แก๊งอารอนพบกับจุดจบ เขาจึงแย้มยิ้มและยอมรับ อะลิซ่าพยักหน้าให้พร้อมกับที่หยาดน้ำเอ่อคลอในดวงตา “เจ้าเป็นเด็กดีจริงๆ อีวานส์”

“เจ้าวางแผนจะปกปิดอะไรจากข้าเช่นนั้นหรือ” ทันใดนั้นเอง เสียงทรงเสน่ห์ของจอห์นก็ดังขึ้น เขายังอยู่ในชุดอัศวินสีเทา และไม่อาจทราบได้ว่าเขามาอยู่ตรงประตูนานเท่าไหร่แล้ว

อะลิซ่าตะโกนตอบด้วยความลนลาน “ไม่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น จอห์นน้อย ทำไมเจ้าจึงกลับมาเร็วล่ะ”

จอห์นเดินเข้ามาในห้องด้วยการก้าวขายาวๆ และแย้มยิ้มขมขื่น “องค์ราชาเรียกตัวเซอร์เวนน์เข้าพบขอรับ ข้าจึงติดตามท่านมาที่เมืองอัลโต้ ท่านแม่ อย่าโกหกข้าเลย ข้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเป็นอัศวินฝึกหัดคนหนึ่ง ข้าได้เรียนรู้และมีประสบการณ์มากมายจากการรับใช้เซอร์เวนน์ ข้าหาใช่เด็กใสซื่ออีกต่อไป อย่าห่วงว่าข้าจะบุ่มบ่ามทำอะไรเลย”

หลังจากพูดกับอะลิซ่า จอห์นก็หันมาส่งยิ้มให้ลูเซียน ก่อนจะวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของเขาด้วยท่าทางอ่อนโยนและใจเย็น “เจ้าดูแย่กว่าตอนที่เราถูกซ้อมด้วยกันเสียอีก เอาล่ะ บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น อืม ข้าคิดว่าเพื่อนบ้านหลายคนข้างนอกนั่นคงได้เห็นว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ลูเซียนหันหน้าไปมองอะลิซ่า และเมื่อเห็นว่านางพยักหน้าให้อย่างคับข้องใจ เขาก็บอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ในตอนนั้นเองที่ลูเซียนรู้ว่าจอห์นแผ่รังสีกดดันที่คล้ายกับแกรี่และโคเรลลาผู้มีความสามารถออกมา

หลังจากได้รับฟัง สีหน้าจอห์นก็พลันแสดงอารมณ์ขึงโกรธ แต่เขายังควบคุมสติไว้ได้ ไม่นานเขาจึงสงบลงแล้วหัวเราะออกมา “ดูเหมือนว่าลูเซียนของเราจะอยากเรียนหนังสือจริงๆ แต่เจ้านี่ฉลาดที่สุดในพวกเราเสียจริง เจ้าถึงกับคิดได้ว่าควรไปหาของมีค่ามาจากกองขยะ”

เมื่อเห็นว่าจอห์นไม่ได้โกรธและคิดถึงแต่เกียรติของอัศวินจนออกไปหาเรื่องแก๊งอารอน อะลิซ่าจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อีวานส์น้อย เป็นเรื่องดีมากๆ ที่เจ้ามีความคิดและความพยายามเป็นของตนเอง”

จอห์นบิดตัว หมุนไหล่คลายกล้ามเนื้อ เดินเข้าไปในครัวที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว และหาไม้พลองแข็งๆ หน้าตาเหมือนดาบออกมา ก่อนจะพูดกับลูเซียนว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้ไม้พลองที่เมื่อก่อนเคยใช้ออกกำลังกาย”

จากนั้นเขาก็หันศีรษะไปอีกทาง “ท่านแม่ ให้ข้าไปเถอะนะขอรับ”

“จอห์นน้อย…” อะลิซ่าตะโกนอย่างร้าวรานใจ “แบบนี้เจ้าอาจถูกเซอร์เวนน์ขับออกได้นะ”

ลูเซียนรีบร้อนบอกปัด “จอห์น ไม่เป็นไร ข้าเพียงบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”

จอห์นส่ายหน้า “หลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวินฝึกหัดของเซอร์เวนน์แล้ว ท่านมักสอนเราว่าต้องทำตามกฎระเบียบของอัศวิน รักษาเกียรติแห่งอัศวิน ไม่หวั่นเกรงต่อคนชั่ว ปกป้องผู้อ่อนแอ รักษาบ้านเกิด และเชิดชูธงแห่งความยุติธรรมและความจริง แม้สหายคนอื่นๆ อาจไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ข้ารู้สึกว่านี่คือวิถีที่ข้าเต็มใจเชื่อในชีวิตข้า”

“ลูเซียนคือเพื่อนสนิทของข้าที่อ่อนแอยากไร้ และแก๊งอารอนก็คือกลุ่มคนชั่วร้ายจากการรวมกันของอันธพาล หากข้าไม่ลุกขึ้นมาฝ่าฝืนกฎในใจข้า แม้ว่าข้าจะไม่ถูกเซอร์เวนน์ขับไล่ ความรู้สึกน่ารำคาญนั้นคงจะติดค้างอยู่ในใจข้าจนข้าไม่อาจกระตุ้นพรในสายเลือดขึ้นมาได้ และข้าก็เชื่อว่าเซอร์เวนน์จะต้องเห็นด้วยกับการกระทำของข้า”

“แต่ว่า จอห์นน้อย…” อะลิซ่ายังคงไม่อยากให้จอห์นออกไป ใบหน้านางหม่นเศร้า

จอห์นยิ้มอ่อนโยนแล้วเข้าไปกอดอะลิซ่า “ลูเซียนเพียงโดนทำร้ายร่างกายและโดนขโมยของไป ข้าจึงทำอะไรเกินกว่านั้นไม่ได้ ข้าจะไม่ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขอรับ ท่านแม่ เชื่อข้าสิ ท่านก็เห็นว่าข้าถือแค่ไม้พลองเอง”

การปลอบใจและทักษะการโน้มน้าวจากการฝึกฝนเป็นอัศวินนั้นทำให้อะลิซ่ายอมเห็นด้วยในที่สุด นางพยักหน้าแรงๆ “จอห์นน้อย เจ้าต้องระวังตัวด้วยล่ะ”

“พวกมันต่างหากล่ะขอรับที่ต้องระวังตัว ลูเซียน รอฟังข่าวดีได้เลย” จอห์นถือไม้พลอง แย้มยิ้มอย่างมั่นใจ และกำลังจะก้าวออกไปทางประตู

“เดี๋ยว” เสียงลูเซียนพลันดังขึ้น

จอห์นหันมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ “มีอะไรงั้นหรือ ลูเซียน”

ลูเซียนลุกขึ้น การกระทำของจอห์นทำให้เขาซาบซึ้งใจ เขารู้สึกว่ากระแสโลหิตกำลังไหลบ่าออกจากหัวใจเขา ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้ “เราต้องไปด้วยกันสิ”

แม้ว่ารอยยิ้มของลูเซียนจะดูตลกเพราะมุมปากของเขามีรอยแตกอยู่ จอห์นก็ยังมองเห็นความหนักแน่นของลูเซียน เขาจึงไม่ปฏิเสธ กลับหัวเราะฮ่าๆ “ไม่มีปัญหา เหมือนกับตอนเรายังเด็กเลยแฮะ อ้อ ยังมีไม้พลองอีกอันอยู่ในครัวนะ”

ลูเซียนหาไม้พลองเจอก็นำมาถือไว้ในมือ แล้วกระซิบปลอบอะลิซ่าเมื่อเขาเดินผ่าน “ข้าจะดูแลจอห์นไม่ให้เขาก่อเรื่องวุ่นวายเองขอรับ”

แจ็คสันและลูกน้องเพิ่งจากไปไม่นาน จอห์นกับลูเซียนจึงสืบหาตำแหน่งของพวกนั้นได้อย่างง่ายดายจากการถามเพื่อนบ้านและผู้คนบนท้องถนน

ขณะเดินตามไป จู่ๆ จอห์นก็ถามขึ้น “ลูเซียน เจ้าเชื่อในความยุติธรรมหรือไม่” เสียงเขาฟังดูคล้ายกำลังสับสนเล็กน้อย

“อืม เชื่อสิ ทำไมหรือ” ลูเซียนไม่รู้ว่าจอห์นถามแบบนั้นเพราะเหตุใด จึงตอบกลับไปอย่างระมัดระวังตามนิสัย

จอห์นยังคงเร่งฝีเท้าเดินไปตามถนนขณะกล่าวว่า “ข้าเองก็เชื่อในความยุติธรรม แต่ข้าเข้าใจว่าตัวข้าหาใช่คนสูงส่งและไร้ความหวาดกลัวเหมือนอย่างที่ข้าเพิ่งกล่าวไป หากว่าเจ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทของข้า ก็เกรงว่าข้าคงไม่คิดยึดหลักเกียรติยศของอัศวินแล้วยกธงแห่งความยุติธรรมขึ้นเพื่อสู้กับแก๊งอารอนเป็นแน่ ข้าคุ้นเคยกับการประเมินกำลังของตัวเอง เมื่อไหร่ที่ข้าพบว่ามันมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและอนาคตของข้า ข้าจะถอยกลับ ไม่กล้าเดินหน้าต่อ เว้นแต่ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ ข้า บางทีความยุติธรรมอาจเป็นแค่คำขวัญสำหรับข้าก็ได้”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น อัศวินทุกคนย่อมมีสิ่งสำคัญอันดับแรกให้ปกป้อง บางคนทำเพื่อความยุติธรรม บางคนเพื่อความซื่อสัตย์ บางคนเพื่อความกล้าหาญ บางคนก็เพื่อความเมตตา ส่วนเจ้าเลือกครอบครัว มีเพียงคนที่รู้ว่าเขาต้องการปกป้องสิ่งใดที่จะยึดมั่นในความยุติธรรม มิเช่นนั้นความยุติธรรมก็จะเป็นเพียงสัญลักษณ์ของความไร้ค่า สิ่งที่ไร้เนื้อแท้และจับต้องไม่ได้”

ในตอนนั้นเองที่ลูเซียนรู้สึกว่าจอห์นก็ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เหมือนกับตัวเขา ในขณะเดียวกันนั้น ลูเซียนรีบอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเกียรติของอัศวินจากห้องสมุดในห้วงจิต แล้วเรียบเรียงคำพูดเพื่อปลอบให้จอห์นสงบลง

หลังจากฝึกฝนมาหลายวัน ลูเซียนก็สามารถเปิดหนังสือในห้องสมุดได้อย่างชำนาญขึ้นเรื่อยๆ และพบว่าเพียงแค่เขาคิด เขาก็สามารถหาหนังสือเล่มที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

จอห์นยังคงดูสับสัน “จริงหรือ”

“แน่นอน หากเจ้าสามารถทำทุกอย่างด้วยกำลังของเจ้าเอง เจ้าจะไม่กลัวคนชั่ว ปกป้องคนอ่อนแอ และยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมหรือไม่”

จอห์นพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าจะทำ”

“เช่นนั้นนะ จอห์น เจ้าก็ยังเป็นอัศวินแห่งความยุติธรรม อย่างไรเสีย การทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ไม่ใช่การยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม แต่เป็นการไปตาย หรือเสี่ยงโดยประมาท ตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องการคือคิดหาทางอื่นและใช้เส้นทางนั้นเพื่อไปสู่เป้าหมายให้ได้ เว้นแต่ว่าเจ้าจะไม่มีทางออกเลย” ลูเซียนค้นพบว่าตนเองเหมาะกับการเป็นผู้ให้คำแนะนำมากทีเดียว

จอห์นครุ่นคิดตามและดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรได้จึงหัวเราะออกมา “ทุกครั้งที่ข้าถามคำถามนี้กับเซอร์เวนน์ ท่านมักจะบอกว่าข้าประสบการณ์ยังน้อยเกินกว่าที่จะเข้าใจปัญหาด้วยการคิดเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่าช่วงที่ผ่านมา ลูเซียนจะเติบโตขึ้นมากทีเดียว และมันฟังดูสมเหตุสมผล อืม แต่ว่าข้าก็ยังโหยหาความยุติธรรมแท้จริงอยู่ดี”

“ครั้งหนึ่ง เซอร์เวนน์เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับดาบอัศวินในตำนานให้เราฟัง ตัวดาบมีพลังศักดิ์สิทธิ์รวบรวมอยู่ในนั้น ทว่าหน้าตามันกลับธรรมดา ไม่มีรัศมีเจิดจ้างดงาม ไม่มีสีสันเปล่งประกายของพลังเวท ไม่มีอัญมณีหรือไข่มุกฝังไว้ และแม้แต่ด้ามจับก็ทำมาจากไม้ธรรมดาๆ มันไม่ต่างอะไรจากดาบยามที่ทหารทั่วไปมีไว้ในครอบครอง พวกชนชั้นสูงกับอัศวินระดับสูงจึงไม่แม้แต่จะชายตามองดาบนั้น

แต่จริงๆ แล้วดาบนั้นทรงพลังเกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด โดยเฉพาะเมื่อใช้มันต่อกรกับปีศาจ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าประทับใจที่สุดก็คือถ้อยคำที่สลักบนตัวดาบว่า ‘ความยุติธรรมนั้นอ่อนด้อยและจืดจาง เมื่อเปรียบกับความรุ่งโรจน์และอำนาจ ทว่าความยุติธรรมมีอยู่ในตัวทุกผู้คน ไม่ว่าจะรวยหรือจน มีการศึกษาหรือไม่มี ไม่ว่าจะบนไร่นาหรือบนสมรภูมิอันร้อนระอุ ความยุติธรรมนั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง’

ประโยคดังก้องอยู่ในใจข้าตลอดเวลา

ดาบยาวนี้มีชื่อว่า ‘ความยุติธรรมจืดจาง’ แต่น่าเสียดายที่มันหายสาบสูญไปในเทือกเขาไร้แสงพร้อมกับอัศวินนภาผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง”

สีหน้าจอห์นพลันเต็มไปด้วยความโหยหาและตื่นเต้นเล็กน้อย ความสับสนของเขาถอยกลับไปอยู่ในมุมที่มองไม่เห็นแล้ว

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น ลูเซียนจึงหยอกว่า “เช่นนั้นคำขวัญของเราวันนี้ก็คือ ‘เพื่อความยุติธรรม!’”

“ฮ่าๆ เพื่อความยุติธรรม!” จอห์นโบกไม้พลองของตนไปมา

ทั้งสองหัวเราะไปด้วยกัน แต่ลูเซียนกลับคิดเงียบๆ ในใจว่าเขายังกำจัดเรื่องแย่ๆ ออกไปไม่หมดเสียทีเดียว

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้งสองก็มองเห็นแจ็คสัน เขากำลังเดินอยู่บนถนนกว้างขวางในตลาด โดยมีลูกน้องตามมาเป็นพรวน รวมถึงอังเดรด้วยเช่นกัน

————————————————

Throne of Magical Arcana

Throne of Magical Arcana

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’ ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset