War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3531

ตอนที่ 3531 : จักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ ยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารา!

 

“ขอบคุณพี่ฟงมาก”

 

ต้วนหรูเฟิงกับลี่หลัว กล่าวขอบคุณฟงชิงหยาง

 

หลังพยักหน้ารับเบาๆแล้ว ฟังชิงหยางก็หันไปมองถามตัวนหลิงเทียนว่า “เสี่ยวเทียน ในโลกใบเล็กภายในร่างเจ้าเหมือนจะยังมีทายาท 7 ทวาราเที่ยงแท้ของพวกเราอยู่อีกใช่ไหม?”

 

“ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนตอบ “เป็นหานเฉวี่ยไน่ ผู้สืบทอดธุลีแดงที่ข้าเคยเล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง แต่นางปิดด่านบ่มเพาะอยู่ กระทั่งข้าเรียกหานางตอนอยู่ในห้องลับแห่งกฎเวลาแล้วนางก็ยังไม่ตื่น”

 

“รอให้นางตื่นเมื่อไหร่ข้าจะให้นางออกมาพบท่านทันที”

 

ตอนที่อยู่ในห้องลับแห่งกฎเวลา หานเฉวี่ยไน่นั้นจมจ่อมในภวังค์บ่มเพาะถึงขั้นตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ แม้ต้วนหลิงเทียนจะพยายามปลุกนางแล้ว แต่ก็ไม่อาจปลุกนางให้ตื่นจากภวังค์ได้ถึงขั้นใช้การส่งเสียยงผ่านสำนึกเทวะแล้วก็ไม่เป็นผล

 

จริงอยู่ที่หากใช้กำลังก็อาจปลุกหานเฉวี่ยไม่ได้ แต่ต้วนหลิงเทียนไม่คิดทำอะไรแบบนั้น

 

เพราะดูจากสภาพการณ์ของหานเฉวี่ยไน่แล้ว หากเขาใช้กำลังปลุกนางขึ้นมา มีแนวโน้มว่านางจะโดนธาตุไฟเข้าแทรก และเกิดผลร้ายอันใหญ่หลวง…ทำให้ต่อให้มีโอกาสเลิศล้ำอย่างห้องลับแห่งกฎเวลาอยู่เบื้องหน้า เขาก็ไม่คิดจะปลุกนาง

 

นอกจากนั้นเขายังคิดเผื่อไว้แล้ว

 

ถึงรอบนี้หานเฉวี่ยไน่จะไม่ได้ลองใช้ห้องลับแห่งกฎเวลา ก็เพียงหาโอกาสให้นางใช้ครั้งหน้าก็พอ

 

หากเป็นคนอื่นต้วนหลิงเทียนอาจจะเกรงใจอาจารย์และไม่กล้าออกปาก แต่หานเฉวี่ยไน่นั้นเป็นคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ กล่าวได้ว่าหานเฉวี่ยไม่ก็เสมือนศิษย์หลานคนหนึ่งของฟงชิงหยาง

 

ในแง่อาวุโสแล้ว หานเฉลี่ยไม่สามารถเรียกหาฟังชิงหยางว่าบรรพจารย์ก็ได้ แต่ฟงชิงหยางชอบให้เรียกว่าอาจารย์อามากกว่า

 

“ไม่รีบ ไว้มีโอกาสเหมาะๆค่อยพบกันก็ได้”

 

ฟงชิงหยางคลี่ยิ้มบางๆ มันย่อมดีใจไม่น้อยที่ได้พบพานทายาทของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ตลอดช่วงชีวิตหมื่นกว่าปีที่ผ่าน ช่วงชีวิตที่ประทับอยู่ในความทรงจำของฟงชิงหยางลึกล้ำที่สุดก็คือช่วงที่อยู่ในระนาบเซียน

 

7 ทวาราเที่ยงแท้

 

เซียนกระบี่ไร้เทียมทาน…หมอกพิรุณ!

 

เป็นเกียรติยศอันสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิต!

 

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะขึ้นมายังระนาบเทวโลกแล้ว พอบรรลุถึงขอบเขตจอมราชันอมตะหรือจักรพรรดิอมตะ ก็เลือกใช้สมญานามว่าหมอกพิรุณรำลึกมาโดยตลอด สิ่งนี้บ่งบอกให้รู้ว่าใจมันมีความผูกพันกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้ขนาดไหน

 

ต้วนหลิงเทียนก็ทราบเรื่องนี้ดี เช่นนั้นเขาจึงมั่นใจว่าอาจารย์ต้องพยายามช่วยส่งเสริมหานเฉวี่ยไน่แน่

 

“ว่าแต่ศิษย์สะใภ้คนอื่นๆของข้าเล่า?”

 

ฟงชิงหยางมองต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ “ของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ไม่ได้เหลือแค่ของหานเฉลี่ยในเท่านั้น แต่ยังมีของขวัญให้ศิษย์สะใภ้อีกด้วย เจ้าไม่พานางออกมาแนะนำให้ข้ารู้จักหน่อยหรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าอาจารย์กำลังพูดถึงส่วนเอ๋อ จึงได้แต่คลี่ยยิ้มโง่งม “พอดีนางก็กำลังปิดด่านบ่มเพาะถึงช่วงสำคัญเช่นกัน หากนางตื่นเมื่อไหร่ข้าจะพานางมาแนะนำให้ท่านอาจารย์รู้จัก”

 

“เอาล่ะ”

 

ฟงชิงหางพยักหน้ารับ จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้จึงถามว่า “แล้วเจ้าคิดจะไปใช้ห้องลับแห่งกฎของวิหารเฟิงฮ่าวเมื่อใด?”

 

อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ชนะเลิศการประลองศึกอัจฉริยะสวรรค์นั้น ของรางวัลไม่ได้มีแต่ผลอมตะหยวนปะทุอย่างเดียว แต่ยังได้รับโอกาสเข้าสู่ห้องลับแห่งกฎของวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักเพื่อเลือกทำความเข้าใจกฏที่ต้องการได้อีกด้วย และเวลาที่สามารถใช้อยู่ในห้องลับได้ก็มากกว่าคนอื่นๆ

 

ยิ่งอันดับต่ำลง เวลาที่ได้อยู่ในห้องลับแห่งกฎก็ลดน้อยลง

 

“ข้าคิดว่าจะทะลวงให้ถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ และใช้เวลาอยู่กับครอบครัวสักระยะก่อนค่อยไป”

 

ตัวนหลิงเทียนเอ่ยเรื่องที่ตัดสินใจไว้แล้วออกมา ถึงแม้เพราะประสบการณ์ในการเข้าใช้ห้องลับแห่งกฎเวลา จะทำให้เขาคาดหวังกับห้องลับแห่งกฎของวิหารเฟิงฮ่าวไม่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้งในรอบหลายปี ก่อนหน้าเพราะศึกอัจฉริยะสวรรค์เขาจึงแทบไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว วันๆมีแต่ฝึกกับฝึก เช่นนั้นเขาก็ต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัวด้วย ยิ่งเส้นทางหลังจากนี้ไม่ทราบจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวอีกนานหรือไม่ พอมีโอกาสแล้วก็จำต้องถนอมให้มาก

 

“แล้วแต่เจ้า”

 

ฟงชิงหยางพยักหน้ารับ “หากเจ้าคิดไปเมื่อไหร่ก็เรียกหาข้าได้ตลอดเวลา ข้าจะไปกับเจ้าเอง”

 

ไม่อาจไม่ไปด้วยได้!

 

ในสายตาฟงชิงหยาง วิหารเฟิงฮ่าวตอนนี้ไม่พ้นต้องอยากกักตัวต้วนหลิงเทียนและรีดเค้นมรรคากระบี่มิติ กับวิธีเริ่มทำความเข้าใจวิถีควบคุมจนใจจะขาดแล้ว! ถึงแม้ผลประโยชน์จากการเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏจะมหาศาล แต่ความมั่งคั่งครั้งนี้ก็มาพร้อมอันตรายเช่นกัน มีเพียงมันไปด้วยถึงจะรับประกันความปลอดภัยให้ตัวนหลิงเทียนได้

 

เพราะอย่างน้อยๆหากมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น มันก็จะสามารถลงมือช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนได้ทันเวลา

 

“ขอบคุณท่านอาจารย์”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง และเรื่องนี้เขาไม่คิดปฏิเสธอาจารย์เลยเพราะเขารู้ดีว่าวิหารเฟิงฮ่าวในปัจจุบันก็ไม่ต่างอะไรจากถ้ำเสือสำหรับเขา หากไม่มีอาจารย์ไปด้วย ไม่ทราบวิหารเฟิงฮ่าวจะเล่นลูกไม้อะไรอีก

 

วิหารเฟิงฮ่าวแม้จะไม่ลงมือต่อหน้าเพื่อให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย แต่ลับสายตาผู้คนไม่ทราบมันจะเล่นตุกติกอันใด

 

และในวิหารเฟิงฮ่าวก็มีตัวตนระดับครึ่งก้าวเทพรวมถึงเทพมากมาย หากอีกฝ่ายคิดเล่นไม่ซื่อกับเขาจริงๆ นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่เขายังไม่บรรลุถึงจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศจึงไม่ทันได้ครอบครองพลังระดับเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ ต่อให้ครอบครองพลังระดับนั้นแล้วก็ยากจะต่อต้านพวกมัน

 

สถานที่ๆฟงชิงหยางจัดให้ครอบครัวกับสหายของต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นเทือกเขาลูกหนึ่งในเขตพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน ที่นี่มีหุบเขาใหญ่น้อยมากมาย และเปี่ยมล้นไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตเล็กๆอยู่กันอย่างสงบสุข

 

จากนั้นคนรอบตัวต้วนหลิงเทียนก็จับจองหุบเขาส่วนตัวกันตามใจชอบ เรียกว่ามีหุบเขาส่วนตัวกันทุกคน

 

อย่างเช่นต้วนหรูเฟิงกับลี่หลัว บิดามารดาเขา ก็ได้เลือกหุบเขาเล็กๆแห่งหนึ่งก่อนใครในหุบเขาดังกล่าวมีบ้านลานหลังน้อย แลดูสะอาดสะอ้านและสภาพแวดล้อมที่สงบร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนทั้งฝึกฝนเป็นที่สุด

 

หุบเขาอื่นๆก็เช่นกัน

 

และหุบเขาทั้งหลายเห็นได้ชัดว่าเป็นการตั้งใจจัดสร้างไว้อย่างดี ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

 

“เทียนเอ๋ออาจารย์ของเจ้าดูเหมือนจะเตรียมเทือกเขาแห่งนี้ไว้ให้เจ้าแต่แรก…”

 

ต้วนหรูเฟิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก็หันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่ใหญ่ฟังดีกับเจ้าถึงขนาดนี้ เจ้าอย่าได้ทำให้พี่ใหญ่ฟงต้องผิดหวังเด็ดขาด!”

 

“เรื่องนี้ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ข้าย่อมรู้ดีแก่ใจ”

 

ต้วนหลิงเทียนรับคำด้วยรอยยิ้ม

 

“พี่เฟิงท่านจะพูดซ้ำซ้อนเกินจำเป็นทำอะไร”

 

กี่หลัวที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ก็โพล่งกล่าวกับต้วนหรูเฟิงเสียงดุ “หรือพี่ไม่รู้ว่าลูกชายของพวกเราเป็นคนอย่างไร? เมื่อพี่ใหญ่ฟงทำดีกับเทียนเอ๋อแบบนี้ เทียนเอื้อต่อให้ตายก็ต้องดีกับพี่ใหญ่ฟงแน่!”

 

“เป็นท่านแม่ที่เข้าใจข้าดีที่สุด!”

 

พอเสียงลี่หลัวดังจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็คลี่ยิ้มสดใสกล่าวเห็นด้วยกับลี่หลัว เรื่องนี้ทำให้ต้วนหรูเฟิงอดส่ายหัวไม่ได้ “แม่ลูกเข้าข้างกันดีจริงๆ”

 

“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าไม่กวนแล้ว ข้าไปหาพวกเฟยเอ๋อก่อน”

 

หลังกล่าวลาต้วนหรูเฟิงกับหลัวแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เห็นร่างไปยังหุบเขาเล็กๆไม่ไกลแห่งหนึ่ง เป็นหุบเขาที่ภรรยาเขาลี่เฟย ลูกสาวเขาต้วนซื้อหลิง และเพิ่งเทียนหวี่อาศัยอยู่

 

หุบเขาแห่งนี้แม้จะไม่ใหญ่โต แต่บ้านลานที่พักนั้นสร้างมาในลักษณะคล้ายเรือนสี่ประสาน มีห้องหับที่พักยิบย่อยมากมาย กระทั่งให้ 3 คนอาศัยอยู่ด้วยกันยังดูวังเวงไม่ใช่เล่นๆ

 

สำหรับต้วนเนียนเทียนลูกชายของต้วนหลิงเทียนนั้น อีกฝ่ายตั้งใจจะพักอยู่กับต้วนหลิงเทียน “ท่านพ่อ ท่านพักที่ไหนหรือข้าจะไปอยู่ฝึกฝนกับท่าน”

 

ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มมองลูกชายด้วยความชื่นชม “เจ้าตามพ่อไปหาปูเฟิงของเจ้าก่อนแล้วจากนั้นค่อยกลับไปที่พักกับพ่อ”

 

ปูเพิ่งที่ต้วนหลิงเทียนพูดถึงก็คือ เพิ่งหรู่เต้า บิดาของเพิ่งเทียนหวี่

 

หลังพาต้วนเนี่ยนเทียนไปหาเพิ่งหมู่เต้าและเลือกที่พักของตัวเองเสร็จ ต้วนหลิงเทียนก็ไปรับพ่อแม่ของฮ่วนเอื้อมาเลือกหุบเขาที่พักตามอัธยาศัย

 

เหลียนชิวกับตู้เสวียนนั้น พักอาศัยอยู่ในสถานที่รับรองแขกของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์มาสักพักแล้ว เรียกว่าตั้งแต่กลับมาจากระนาบเซียนก็ไม่ได้ไปไหนเลย พอได้มาเห็นสถานที่พักใหม่และเลือกได้ตามใจ ก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก

 

“ส่วนเอ๋ออยู่ที่ไหนหรือ?”

 

แม้ที่พักจะน่าสนใจ แต่ทั้งคู่ก็สนใจลูกสาวคนเดียวมากกว่า

 

“ตอนนี้ส่วนกำลังปิดด่านบ่มเพาะอยู่ รอให้นางออกจากการกักตัวเมื่อไหร่ ข้าจะพามาหาพวกท่าน”

 

ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มบางๆกล่าวตอบตู้เสวียนกับเหลียนชิว

 

หลังจากจัดแจงที่พักให้ตู้เสวียนกับเหลียนชิวแล้วเสร็จ ต้วนหลิงเทียนก็ตระเวนไปจัดตั้งมหาค่ายกลปกคลุมสถานที่อยู่อาศัยของครอบครัวและสหายเขาทั้งหมด จากนั้นก็ถ่ายพลังวิญญาณฟ้าดินออกมาอยู่ในขอบเขตดังกล่าว

 

กล่าวง่ายๆคือนำพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกใบเล็กของเขามาเติมเต็มในพื้นที่ปิดกั้นของมหาค่ายกล

 

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว คนรอบตัวเขาก็จะมีพลังวิญญาณฟ้าดินของระนาบเทพบ่มเพาะฝึกปรือกันตลอดเวลาโดไม่ต้องอยู่ใกล้เขา การบ่มเพาะฝึกฝนของทุกคนก็จะมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

แน่นอนว่าหลังจากจัดการเรื่องราวทุกอย่างแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะพัก เขาเริ่มบ่มเพาะพลังโดยใช้ผลอมตะหยวนปะทุทันที

 

ระดับพลังในร่างเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วทุกๆวัน

 

ยิ่งผ่านไปก็ยิ่งเข้าใกล้ขอบเขตจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ทะลวงให้ถึงจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศก่อนอายุ 700…หลังจากนั้นอาศัยเวลา 300 ปีที่เหลือ ก็ต้องรีบทะลวงให้ถึงขอบเขตเทพโดยเร็วที่สุด

 

“หลังจากทะลวงถึงขอบเขตเทพแล้ว ก็ต้องหาทางยกระดับพลังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หากผ่านไป 300 ปีแล้ว แต่ข้ายังเป็นแค่เทพธรรมดา ถึงจะไปดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพได้ก็คงยากจะช่วยเหลืออะไรเค่อเอ๋อจากโชคชะตาในตระกูล

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้เรื่องนี้ดี

 

ในอดีตเขาไม่ค่อยเข้าใจขอบเขตเทพมากนัก คิดว่าเมื่อมีเวลาเป็นพันปี เรื่องจะไปช่วยเค่อเอ๋อในระนาบเทพก็น่าจะไม่มีปัญหา

 

แต่ตอนนี้ยิ่งเข้าใจระดับพลังของขอบเขตเทพและระนาบเทพมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตระหนักถึงความเล็กกระจ้อยของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

 

ในระนาบเทพ อาศัยแค่เทพธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนน

 

“ระนาบเทพ ตัวตนขอบเขตเทพมีให้เห็นเกลื่อนกลาด จำนวนเทพธรรมดาๆเกรงว่ายังจะมากกว่าสุนัขข้างถนนเสียอีก….”

 

ประโยคข้างต้นก็เป็นอาจารย์เขาฟงชิงหยางกล่าวให้ฟัง

 

ถึงแม้ในระนาบเทพก็ยังมีเหล่าเซียนอมตะอยู่ไม่น้อย แต่เชียนอมตะเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นชนพื้นเมืองของระนาบเทพ ตราบใดที่พรสวรรค์ไม่เลวร้ายจนเกินไป ก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนจะทะลวงถึงขอบเขตเทพ

 

การบ่มเพาะพลังนั้น วันเวลาเสมือนไม่มีอยู่จริง

 

หลังจากต้วนหลิงเทียนใช้ผลอมตะหยวนปะทุแล้ว เขาก็ทะลวงจุดรอคอยสุดท้ายของด่านพลังจักรพรรดิอมตะ 9 ตำหนัก และบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศได้ในที่สุด และเวลาที่ใช้บ่มเพาะครั้งนี้ก็เป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ

 

สำหรับต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ เวลาหนึ่งปีแทบไม่นับเป็นอะไร

 

แน่นอนว่าตลอดปีที่ผ่าน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะพลังอย่างเดียว เขาหมั่นไปใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ และลี่เฟยภรรยาเขา ไม่เว้นชี้แนะด้วนเนี่ยนเทียนกับซื้อหลิงเรื่องการฝึกปรือ นอกจากนั้นก็มีไปคุยเล่นกับเพิ่งหมู่เต้าและพวกตัวเล็กทั้ง 3 อย่างสม่ำเสมอ เรียกว่าการบ่มเพาะในอาทิตย์หนึ่งไม่ต่าง 3 วันจับปลา 4 วันตากแห

 

ส่วนเจ้าพวกตัวเล็กทั้ง 3 ก็เลือกหุบเขาที่อยู่ติดกับหุบเขาของต้วนหลิงเทียน

 

“จักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ..”

 

หลังจากทะลวงขั้นพลังสำเร็จ แม้วนหลิงเทียนจะไม่ได้โคจรใช้พลังอะไร หากแต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปครั้งใหญ่ เป็นความน่าเกรงขามตามธรรมชาติของด่านพลัง

 

“ท่านอาจารย์”

 

หลังปรับขั้นพลังให้เสถียรสมบูรณ์ ต้วนหลิงเทียนก็ส่งข้อความถึงอาจารย์เขา จักรพรรดิสวรรค์แห่งเมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง เพื่อกล่าวถามทันที “ช่วงนี้ท่านพอมีเวลาว่างบ้างหรือไม่ ข้าคิดจะไปรับรางวัลอันดับ 1 ของศึกอัจฉริยะที่เหลือจากวิหารเฟิงฮาวห้องลับแห่งกฎนั่น”

 

“เจ้าคิดไปเมื่อใดเล่า?”

 

คำตอบของฟงชิงหยางก็ตรงไปตรงมา บ่งบอกโดยอ้อมว่าช่วงนี้ว่างอยู่

 

Related

War Sovereign Soaring The Heavens

War Sovereign Soaring The Heavens

Ling tian zhan zun, WSSTH, 凌天战尊
Score 5.8
Status: Ongoing Type: Author: Released: 2014 Native Language: Chinese
จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้! ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ … ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset