Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 3 บัตรธนาคารดอกชงโค

บทที่ 3 บัตรธนาคารดอกชงโค

เดินเข้าไปในธนาคาร

เฉินตงเข้าไปรับบัตรคิวแล้วต่อแถว

ในตอนที่ถึงคิวเขา เขาถือบัตรธนาคารดอกชงโคไปที่หน้าเค้าเตอร์ พอมองพนักงาน ทันใดนั้นหางตาก็กระตุก

หลินเสว่เอ๋อ!

ช่างบังเอิญเสียจริงๆ

ดวงตาของเฉินตงหรี่ลง หลินเสว่เอ๋อเป็นแฟนสาวของหวางเห้าพอดี

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันในชีวิตจริง แต่ว่าเขารู้เรื่องราวของหลินเสว่เอ๋อผ่านทางหวางหนันหนัน แล้วก็ยังเคยเห็นรูป

สำหรับหลินเสว่เอ๋อ เขาไม่ได้ถึงขั้นโกรธเคืองหรือไม่พอใจ มากที่สุดก็แค่บึ้งตึงไม่มากไปกว่านั้น

หลินเสว่เอ๋อเธอผิวขาวหน้าตาดี การงานก็ไม่เลว มาชอบไอ้สวะหวางเห้าที่เกาะพ่อแม่กินก็ถือว่ามหัศจรรย์แล้ว

ส่วนเรื่องที่เธอต้องการสินสอดเท่าไหร่นั้น นั่นก็เป็นเรื่องของเธอแล้ว ทั้งสองมีทั้งเต็มใจ ที่เขาโกรธก็คือหน้าของคนตระกูลหวาง เอาเงินที่ใช้รักษามารดาของเขาไป ทำให้เขาเป็นตัวรับเคราะห์ของปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว)

“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย จะทำรายการอะไรคะ?” หลินเสว่เอ๋อผุดรอยยิ้มการตลาดขึ้น

เฉินตงสูดลมหายใจเข้า ข่มอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจลงไป ฉีกยิ้มแล้วส่งบัตรธนาคารดอกชงโคเข้าไปตรงเค้าเตอร์ “สวัสดีครับ ผมต้องการถอนเงินครับ”

หลินเสว่เอ๋อกำลังเตรียมจะถามเฉินตงว่าจะถอนเงินจำนวนเท่าไหร่ พอเห็นบัตรธนาคาร อยู่ๆหัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “คุณผู้ชายคะ แน่ใจเหรอคะว่านี่เป็นบัตรธนาคาร?”

กำลังพูดอยู่ เธอก็ดูบัตรธนาคารลายดอกชงโคซ้ำๆอีกรอบ

จากการบ่มเพาะในอาชีพของเธอ ไม่เคยเห็นบัตรธนาคารแบบนี้เลยจริงๆ

เฉินตงชะงักไปครู่หนึ่ง ท่านหลงคงจะไม่ได้หยิบบัตรธนาคารปลอมให้ใช่ไหม?

คิดไปคิดมา ท่านหลงสามารถที่จะสะบัดมือจัดการค่ารักษาสองแสนของแม่ได้ จะให้บัตรธนาคารปลอมกับเขาได้ยังไง?

“แน่ใจครับ” เฉินตงพยักหน้า สายตามองหลินเสว่เอ๋อตั้งแต่บนลงล่าง

เพราะว่ากำลังนั่งอยู่ เขาเลยมองส่วนสูงของหลินเสว่เอ๋อไม่ออก แต่ว่าชุดยูนิฟอร์มก็ได้เผยสัดส่วนงดงามของหญิงสาวออกมา ผิวขาวๆ เครื่องหน้าที่งดงาม ทำให้คนรู้สึกว่าเป็นหญิงสาวที่ดูน่าสงสารน่าทะนุถนอม

ถอนหายใจในใจอีกรอบ เป็นหญิงสาวดีๆอยู่คนหนึ่งแท้ๆ ทำไมถึงได้ดวงตามืดบอดกันนะ?

คิ้วเรียวของหลินเสว่เอ๋อขมวดเข้าหากันแน่นมากขึ้น แต่ว่าก็ยังคงดำเนินการกรอกบัตรธนาคารต่อไป

จนกระทั่งระบบมีเสียงร้อง “ติ๊ง” ขึ้นมา คอมพิวเตอร์ไม่สามารถที่จะอ่านบัตรได้ ในที่สุดความอดทนของเธอก็ได้หมดลง

ปั่ก!

หลินเสว่เอ๋อโยนบัตรธนาคารดอกชงโคไปที่ช่องเว้าด้านในของเค้าเตอร์ พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “ขออภัยด้วยค่ะคุณผู้ชาย บัตรธนาคารนี้ของคุณ ธนาคารของเราไม่สามารถอ่านบัตรของคุณได้ค่ะ”

เชี้ย!

ท่านหลงหลอกเขาจริงๆเหรอเนี่ย?

จ่ายไปก่อนสองแสน จากนั้นก็ให้บัตรธนาคารปลอมมาหลอกตัวเอง การกระทำแบบนี้ ไม่ถูกต้องมั้ง?

“คือว่า คุณช่วยลองใหม่อีกครั้งได้ไหมครับ นี่เป็นบัตรธนาคารจริงๆ” เฉินตงร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้อง

ตอนนี้หย่ากับหวางหนันหนันแล้ว บ้านหลังที่เคยเช่าเมื่อก่อน เขาไม่คิดที่จะเช่าต่ออีก ตั้งใจจะย้ายไปบ้านใหม่กับแม่

เงินสองแสนสุดท้ายก็โดนหวางหนันหนันเอาไปแล้ว ตอนนี้เขาสิ้นเนื้อประดาตัว ถ้าเกิดว่าไม่มีเงิน ไม่ต้องพูดถึงค่ารักษาพยาบาลหลังจากผ่าตัด แม้แต่ใช้ชีวิตก็ยังไม่มีหนทาง

“คุณผู้ชาย คุณตั้งใจจะมาหาเรื่องใช่ไหมคะ?”

คิ้วเรียวของหลินเสว่เอ๋อกระตุก สีหน้าเย็นชาเหมือนหิมะในตอนหน้าหนาว “ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว สายตาที่คุณมองฉันมันแปลกๆ จีบสาวอย่างน้อยก็น่าจะเอาบัตรธนาคารใบจริงมาหน่อยนะ เชิญคุณออกไปด้วยค่ะ อย่ามากินเวลาของลูกค้าท่านอื่นที่อยู่ด้านหลัง มิฉะนั้นฉันจะเรียกรปภ.”

เฉินตงนิ่งไปแล้ว นี่แม่งอะไรกับอะไรกันวะเนี่ย?

ไม่ทันได้รอให้เขาอ้าปากอธิบาย หลินเสว่เอ๋อยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก “รปภ.!”

ทันใดนั้น รปภ.สองคนก็เดินมา

ในตอนนี้ เป็นเวลาสายๆพอดี คนที่มาทำธุระก็ไม่น้อย ก็ค่อยๆหันมามองทางเฉินตง

เฉินตงร้อนใจแล้ว ชี้ไปที่บัตรธนาคารแล้วก็พูดขึ้น “นี่ก็คือบัตรธนาคาร ผมมาทำธุระ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาลากผมออกไปด้านนอก?”

หลินเสว่เอ๋อทำหน้านิ่ง ไม่ตอบอะไร

รปภ.พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้ม “คุณผู้ชายครับ ขอความกรุณาคุณออกไปด้วยครับ ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน คุณมารบกวนพนักงานธนาคารของเราแบบนี้ พวกเราจะแจ้งตำรวจแล้วนะครับ”

“ผม……..” เฉินตงโมโหจนแทบจะกระจุกมาอยู่ที่ลูกกระเดือกอยู่แล้ว ถอนเงินไม่ได้ไม่พอ ยังจะโดนหาว่าเป็นไอ้โรคจิตอีก?

ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนหน้าท้องโต สวมสูทคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

หลินเสว่เอ๋อที่ตอนแรกมีสีหน้านิ่งๆกลับงอตัวในทันใด ท่าทางดูน่าสงสาร กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ผู้จัดการ คนๆนี้เอาบัตรธนาคารปลอมมาถอนเงิน แถมยังแอบมองฉันอีกด้วยค่ะ”

สถานการณ์ตรงหน้า ทำเอาเฉินตงที่โกรธจนขึ้นสมองงุนงงไปเลย

ก่อนหน้านั้นสีหน้ายังเย็นชาราวกับหิมะอยู่เลย พอตอนหลังกลับมีอารมณ์เป็นหมื่นอย่าง?

ในความทรงจำ ตอนนั้นหวางหนันหนันบอกกับเขาว่าหลินเสว่เอ๋อเป็นสาวทึนทึก หัวโบราณ เป็นหญิงสาวที่ดี หลังจากที่ตกลงสานสัมพันธ์กับหวางเห้า ก็สงวนตัวอยู่ตลอด มากที่สุดก็คือจับมือ

เขาเองก็ไม่ได้โง่ แล้วก็ไม่ได้ตาบอด

หลินเสว่เอ๋อคนนี้……หัวโบราณจริงๆ? ทึนทึก? รักนวลสงวนตัว?

ในตอนนั้นชายวัยกลางคนก็เงียบลง มองสายตาของเฉินตง มีท่าทางเหมือนเจอศัตรู

“คุณผู้ชาย ที่นี่คือธนาคาร ขอความกรุณาคุณช่วยระวังด้วย ในนามของผู้จัดการธนาคาร ผมขอเชิญให้คุณออกไป มิฉะนั้นอย่ามาโทษว่าผมนั้นสั่งให้รปภ.โยนคุณออกไป”

รปภ.ที่อยู่ข้างๆสองคนทำท่าหัวเราะเยาะที่เห็นคนอื่นตกที่นั่งลำบาก ทั้งธนาคารมีใครไม่รู้บ้างว่าหลินเสว่เอ๋อนั้นเป็นของผู้จัดการ?

หนุ่มคนนี้มาจีบสาว ดันมาจีบหลินเสว่เอ๋อ หาเรื่องตายเหรอ?

หลินเสว่เอ๋อได้ยินคำพูดของผู้จัดการ ทันใดนั้นก็ยิ่งทำท่าทางบิดตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีก พูดขึ้นด้วยเสียงอ้อแอ้ “ผู้จัดการ คนแบบนี้ ทำไมยังจะต้องเสียเวลาเจรจากับเขาอีกคะ สั่งให้รปภ.โยนเขาออกไปเลยค่ะ”

เฉินตงฟังแล้วก็โกรธจัด อารมณ์ขุ่นเคือง แต่กลับไม่ได้ลุกขึ้น

บัตรชงโคเป็นท่านหลงที่ให้เขา เขาก็แค่มาถอนเงิน ยังจะต้องมารับอารมณ์น่าสมเพชแบบนี้?

ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่มีความขุ่นเคืองใจกับหลินเสว่เอ๋อเท่านั้น แต่ตอนนี้การกระทำแบบนี้ของหลินเสว่เอ๋อ ทำให้เขาโกรธเข้าจริงๆเสียแล้ว!

“ไล่เขาออกไป!”

ผู้จัดการเห็นว่าเฉินตงไม่ขยับ หัวคิ้วขมวด อยู่ๆก็ว่าขึ้นเสียงแข็ง

ถ้าเกิดไม่ได้นึกถึงเรื่องที่ตัวเองเป็นผู้จัดการของธนาคาร ลำพังแค่เฉินตงอยากได้หลินเสว่เอ๋อเรื่องเดียว เขาเข้ามาก็ต้องสั่งให้รปภ.เอาตัวออกไป

รปภ.สองคนกำลังจะเดินหน้าพอดี คนที่มุงดูรอบๆก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เฉินตงไม่ใช่คนอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่นินจาเต่าจอมขี้ขลาด(ผู้ชายที่สามารถทนต่อผู้หญิงของตัวเองเล่นกับผู้ชายคนอื่น ๆ )

โดนคนรังแกจนถึงขั้นนี้ ก็โกรธขึ้งแน่นอนแล้ว

แปะ!

เขาหยิบบัตรธนาคารดอกชงโคออกมาแล้วโยนลงไปบนเค้าเตอร์อย่างแรง ตวาดลั่น “ผมมาถอนเงินอย่างเปิดเผย ไม่ได้มาให้พวกคุณใส่ร้ายผมว่าเป็นพวกอันธพาล อยากบังคับให้ผมก่อเรื่องใช่ไหม?”

ทันใดนั้นรปภ.ก็หยุดลง

สายตาของผู้จัดการธนาคารใกล้จะกินคนได้แล้ว แต่ว่าหางตาที่เหลือบมองเห็นบัตรธนาคารดอกชงโค

วินาทีถัดไป

ครืน!

ผู้จัดการธนาคารราวกับโดนสายฟ้าฟาด ภายในหัวอยู่ๆก็ขาวโพลนขึ้นมาในทันใด ดวงตาเป็นเส้นตรง “นี่…….”

เม็ดเหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ผุดพรายออกมาจากขมับของเขาอย่างรวดเร็ว

“ผู้จัดการ เป็นของปลอมนั่นแหละค่ะ” หลินเสว่เอ๋อหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ แต่พอมองขึ้นไป กลับพบว่าบนใบหน้าของผู้จัดการนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทันใดนั้นเธอก็นิ่งไป

แค่พริบตา ผู้จัดการธนาคารก็ยกมือขึ้นมาปาดเม็ดเหงื่อบนหน้าผาก ใบหน้าหงุดหงิดก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มแย้มภายในพริบตา

ช่วงหลังที่ยืนตรงก็โค้งงอลงมา ยิ้มให้กับเฉินตงแล้วว่าขึ้น “คุณผู้ชาย ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ทราบจริงๆว่าคุณเป็นแขกคนพิเศษที่มีบัตรธนาคารลายดอกชงโค ขออภัยคุณด้วยจริงๆ เชิญคุณรีบไปที่ห้องทำงานของผมเลยครับ ผมจะจัดทำรายการให้คุณเอง”

ครืน!

ร่างอ้อนแอ้นของหลินเสว่เอ๋อขยับ ร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่ นี่เป็นบัตรธนาคารจริงๆเหรอ?”

“คุณจะไปรู้อะไรล่ะ!”

ศีรษะของผู้จัดการธนาคารเต็มไปด้วยเหงื่อ เขม็งตาใส่หลินเสว่เอ๋อ จากนั้นก็กลับมายิ้มแย้มแล้วพูดขึ้นกับเฉินตง “คุณผู้ชาย เชิญทางนี้ครับ”

ในที่สุดก็เข้าใจแล้วใช่ไหม?

เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น มองหลินเสว่เอ๋อ ที่ยังมีสีหน้างุนงงอย่างไม่ใส่ใจ ลุกขึ้นแล้วเดินตามผู้จัดการธนาคารไปยังห้องทำงาน

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถอนเงิน ตอนนี้ผู้จัดการธนาคารนั้นรู้จักกลัวแล้ว เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกัดไม่ปล่อย สำหรับหลินเสว่เอ๋อคนนี้ วันนี้คิดเสียเวลาเขาได้รู้จักจริงๆแล้วประมาณหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน เขาเองก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอ บัตรธนาคารดอกชงโคที่ท่านหลงให้มา มีเพียงผู้จัดการธนาคารเท่านั้นที่รู้จัก จะต้องมีน้อยมากแน่ๆ ภายในบัตรตกลงว่ามีเงินจำนวนเท่าไหร่?

รอหลังจากที่ทั้งสองคนเข้าไปในห้องทำงานแล้ว

โถงรับแขกที่ไร้สุ้มเสียงของธนาคาร อยู่ๆก็มีเสียงดังระงมขึ้นมา

แต่ละใบหน้าที่ชมเรื่องราวน่าอายเมื่อกี้ ล้วนแต่แสดงสีหน้ากับท่าทางประหลาดใจออกมา

ใครๆก็ล้วนคิดไม่ถึง เรื่องราวจะกลับกลายมาเป็นแบบนี้ไปเสียได้

หลินเสว่เอ๋อยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ร่างอ้อนแอ้นสั่นเทาเล็กน้อย

เพราะว่าเธอรู้แล้วว่าเกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้น

เจอเข้ากับเรื่องใหญ่แล้ว!

ชนเข้ากับเรื่องใหญ่ขนาดที่ว่าแม้แต่ผู้จัดการก็ไม่กล้าที่จะหนุนหลังเธอ!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset