Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 93 ความกังวลของเฉินตง

บทที่ 93 ความกังวลของเฉินตง

ระเบิดกะทันหัน ทำให้เฉินตงและกูหลังที่คาดไม่ถึงพากันตกตะลึง

หันหลังกลับไปมองไฟที่ลุกโชน

ที่ไกลห่าง ยังมีเสียงร้องด้วยความตกใจและโมโหของโจวจุนหลง

เฉินตงย่นจมูกเล็กน้อย หัวเราะด้วยความจนปัญญา:“เมื่อกี้พูดเกลี้ยกล่อมแล้ว แต่ไม่ฟัง ทำเวรทำกรรมเอาไว้เยอะ บาปกรรมก็เลยตามทัน”

กูหลังเองก็ส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา

บริเวณโดยรอบรถยนต์ไมบัคมีควันลอยฟุ้งออกมาและกลิ่นน้ำมันที่เหม็นจนแสบจมูก

หากโจวจุนหลงสงบสติลงเล็กน้อย ก็จะสามารถได้กลิ่น

ทว่า โจวจุนหลงดันเป็นคนหยิ่งไม่มีความคิดที่จะใจเย็นลง

“คุณเฉิน ความแค้นที่มีกับโจวจุนหลง ก็ไม่สามารถจัดการให้หมดสิ้นไปได้แล้ว”

กูหลังพูดด้วยความเป็นห่วง มีชีวิตของโจวเห้าอยู่ ถึงแม้โจวจุนหลงจะเป็นคนทำให้เกิดขึ้น จากนิสัยของโจวจุนหลง ต้องโยนความผิดทั้งหมดให้กับเฉินตงอย่างแน่นอน

เฉินตงลูบจมูก:“ความแค้นในอดีต สามารถจัดการแก้ไขได้?”

กูหลังหยุดชะงัก ตามด้วยส่ายหน้า

“เช่นนั้นก็ไม่ถูกแล้ว”

เฉินตงหมุนตัวหันหลัง สีหน้าเย็นยะเยือก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ:“ฉันไม่เคยฆ่าเขา แต่เขาอยากตาย แต่ฉันก็จะทำให้พวกสมหวัง”

……

ท้องฟ้ายามค่ำคืนหนาวเย็นเล็กน้อย

ตอนที่เฉินตงกลับเข้าไปยังเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

คุนหลุนยืนอยู่ในห้องรับแขกด้วยความเคารพ

“คุณชายครับ คุณผู้หญิงและฟ่านลู่นอนหลับไปแล้วครับ”

เฉินตงพยักหน้า:“ท่านหลงล่ะ?”

“ท่านหลงอยู่ที่ระเบียงชั้นบนครับ” คุนหลุนพูด

“นายไปพักผ่อนเถอะ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่อยไปหาเขา” เฉินตงหมุนตัวหันหลังเดินจากไป

คุนหลุนมองดูเสื้อผ้าสกปรกของเฉินตง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ

เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าแปรงฟัน เฉินตงเดินไปยังบนระเบียง

ท่านหลงกำลังถือกาน้ำชา นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองที่อยู่ไกลออกไปเงียบๆ

“ท่านหลง……”

เฉินตงร้องตะโกน

ท่านหลงดึงสติกลับมา ยิ้มด้วยความใจดี:“ตอนกลางคืนเกิดเรื่องขึ้น?”

“อื้ม มีความแค้นกับโจวจุนหลงของเมืองนี้ คืนนี้มีปัญหากันนิดหน่อยครับ” เฉินตงไม่ได้ปกปิด

ความเป็นจริง ท่านหลงพึ่งพิงตระกูลเฉิน คอยช่วยเหลือเขาในเมืองนี้ เขาไม่มีความสามารถในการปิดบังท่านหลง

ขอเพียงท่านหลงต้องการ ไม่มีเรื่องที่เขาไม่รู้

“เรื่องของโจวจุนหลง ควรรีบจัดการอย่าได้รอช้า”

ท่านหลงดื่มชา พูดด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก:”ต้องรู้ เลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้”

เฉินตงพยักหน้า เหยียดตัวลงนั่ง

ใบหน้าที่นิ่งสงบ ความหดหู่ปรากฏออกมา เอ่ยถาม:“ท่านหลง เฉินเทียนเซิงมีท่าทีอะไรหรือยังครับ?”

“ไม่มี” ท่านหลงพูด เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย:“ทำไมจู่ๆถึงถามถึงเขา?”

“เช่นนั้นคนที่อยู่หลังฉากกั้น ก็น่าจะไม่ใช่เขาแล้วครับ”

เฉินตงลูบจมูก หัวเราะแปลกๆ

ถ้าคำพูดนี้โจวเย่นชิวได้ยิน ต้องตกลงจนคางหลุดอย่างแน่นอน

ความเป็นจริง หลังจากเฉินตงเข้าไปในเทียนเก๋อ ในตอนแรกเริ่มฉากกั้น《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》ได้ดึงดูดความสนใจจากเขา

แต่ หลังจากที่เขาถูกคุนหลุนฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่เพียงแต่ความสามารถของร่างกายและทักษะในการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้น แม้แต่ความสามารถในการทำสงครามก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย

แววตาคมกริบด้านหลังฉากกั้น แม้เพียงแค่กวาดสายตาผ่านตัวเขาไป เขาก็สามารถจับมันได้

ถึงอย่างไร ภายใต้สถานการณ์เผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ความรู้สึกที่ถูกจดจ้องแบบนั้น มันรุนแรงมากเป็นพิเศษ!

เพียงแต่ ตอนที่โจวเย่นชิวเข้ามา เกี่ยวข้องกับ《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》โดยตรง ในเมื่อโจวเย่นชิวกำลังช่วยปกปิด เช่นนั้นเขาจึงทำได้เพียงข้องเกี่ยวกับ《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》

เฉินตงรู้ดี ก่อนหน้านั้นโจวเย่นชิวช่วยเขาขนาดนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเพราะท่านหลง

ชื่อเสียงของคนสำคัญราวกับเงาของต้นไม้ สามารถทำให้โจวเย่นชิวไล่คนของเทียนเก๋อ เวลาแรกที่เขานึกถึงก็คือคนที่อยู่ด้านหลังฉากกั้นคือเฉินเทียนเซิง

ดังนั้นเขาจึงถามท่าทีของเฉินเทียนเซิงจากท่านหลง

เพียงแต่ หากคนที่อยู่ด้านหลังฉากกั้นไม่ใช่เฉินเทียนเซิง แล้วจะเป็นใคร?

“วันนี้ผมไปร่วมงานเลี้ยงกินข้าวของโจวเย่นชิว พบเจอคนๆหนึ่ง ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด แม้แต่โจวเย่นชิวยังคอยช่วยเหลือเขา” เฉินตงยิ้มแล้วพูด

ท่านหลงยิ้มฮ่าๆ:“คุณชาย บนโลกใบนี้มีแต่ผลประโยชน์ที่ยั่งยืน ไม่มีมิตรภาพที่ยั่งยืน ฮีโร่แบบโจวเย่นชิวประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพล แสวงหาข้อดีและหลีกเลี่ยงข้อเสีย”

“ผมเข้าใจ” เฉินตงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “รบกวนท่านหลงช่วยตรวจสอบ ท่าทีของเฉินเทียนเซิงในตระกูล”

“ผมเข้าใจ”

ท่านหลงพยักหน้า:“เฉินเทียนเซิงเคร่งขรึมนิ่งสงบและอดทนยิ่งกว่าเฉินเทียนหย่าง หากปกปิดการกระทำแล้วมาเมืองนี้เงียบๆ จะส่งผลเสียอย่างมากต่อตัวคุณชายจริงๆครับ!”

“ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคือเวลา” เฉินตงลุกขึ้น เดินลงไปชั้นล่าง

ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเปลี่ยนแปลงโครงการ กำลังดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ไท่ติ่งของเขา ก็ต้องอาศัยการแก้ไขโครงการ บินสะท้านขึ้นฟ้า

ช่วงเวลานี้ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ!

ตอนที่ไท่ติ่งแก้ไขโครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเสร็จสิ้น ไม่มีใครในเมืองนี้สามารถกำราบเขาได้!

แม้ว่าโจวเย่นชิวและโจวจุนหลงร่วมมือกัน ก็ไม่ได้!

เช้าวันรุ่งขึ้น

เฉินตงมาทำงานที่ไท่ติ่งแต่เช้า

สั่งให้เสี่ยวหม่าและคนที่รับผิดชอบมาที่ห้องทำงาน ประกาศข่าวใหญ่

หลังจากฟังจบ เสี่ยวหม่าและคนอื่นๆต่างตกตะลึง

“พี่ตง พี่ พี่คิดทบทวนให้ชัดเจน ขายอสังหาริมทรัพย์สามอันล่วงหน้าพร้อมกัน แบบนี้ แบบนี้มันเสี่ยงเกินไป!”

เสี่ยวหม่ากังวลเล็กน้อย:“โครงการเมืองภาคตะวันตกเราแม้จะได้รับความนิยมไปทั่วทั้งเมือง แต่การขายอสังหาริมทรัพย์พร้อมกันสามอัน จะเป็นการกระจายความสนใจของผู้ซื้อบ้าน ลดผลการขายล่วงหน้า”

“จริงด้วยพี่ตง โครงการเมืองภาคตะวันตกของเรา ตอนนี้คือไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำ ขอเพียงเราดำเนินการด้วยความมั่นคง สามารถกินเนื้อได้ทั้งหมด ไม่ต้องรีบร้อนกังวลใจ”

“พี่ตง พี่เสี่ยวหม่าพูดมีเหตุผล ลดผลการขายล่วงหน้า หากถูกคนในธุรกิจเดียวกันเข้ามายุ่งวุ่นวาย เช่นนั้นจะทำให้ราคาบ้านที่เมืองภาคตะวันตกได้รับกระทบ”

……

ฟังคำพูดของพวกคนที่รับผิดชอบ

เฉินตงนวดขมับ:“ฉันรู้ดีว่าจะเป็นยังไง ทำตามนี้แหละ”

ใช้เวลาสามปีก็ไปถึงตำแหน่งประธาน สายตาเฉียบแหลมนี้ เขามี

แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถค่อยเป็นค่อยไปได้ ต้องรีบหาเงินเข้าบริษัท เพื่อขยายไท่ติ่ง

เมื่อเห็นเฉินตงยืนกราน พวกเสี่ยวหม่าก็จนปัญญา หลังจากรับคำ ก็ออกไปจากห้องทำงาน

ในห้องทำงาน เงียบสงัด

เฉินตงนวดขมับด้วยความเหนื่อยล้า:“ฉันอยากรอ อยากทำให้ได้กำไรสูงสุด แต่หากเรื่องของยี่เคอกรุ๊ป เกิดขึ้นล่ะ?”

ท่านหลงกลับมา โจวเย่นชิวคนในเทียนเก๋อ และความแค้นที่มีต่อโจวจุนหลง ปลุกให้เขาระมัดระวัง

พูดถึงที่สุด โครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองสามารถทำให้เขากินอิ่ม ล้วนเป็นเพราะอาศัยข่าวของยี่เคอกรุ๊ปจากตระกูลเฉิน

ใช้หนังเสือตีกลอง ไม่ว่าใครก็สามารถตีให้ดังสนั่นได้

แต่พ่อที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนของเขาตอนอยู่ในตระกูลไม่ใช่คนที่ใช้ฝ่ามือเดียวในการปิดท้องฟ้าได้ หากข่าวปลอมที่ยี่เคอกรุ๊ปประจำในเมืองถูกเปิดเผย

ถึงเวลานั้นเขาก็จะตกที่นั่งลำบาก หนังเสือถูกตีจนฉีกขาด ต่อให้เปลี่ยนเป็นเทพบนสวรรค์ ก็ไม่สามารถตีกลองให้ดังได้

ในเวลาเดียวกัน

วิลล่าภายในตระกูลโจว

เต็มไปด้วยชุดไว้อาลัยสีขาว

ชั่วข้ามคืน วิลล่าตระกูลโจวกลายเป็นโถงไว้ทุกข์

ในอากาศ เคล้าไปด้วยควันแสบจมูก

ทั้งยังเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้

“จุนหลง……เสี่ยวเห้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของนาย นาย นายปล่อยให้เขาตายฟรีๆแบบนี้ไม่ได้……” หญิงวัยกลางคนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด น้ำหูน้ำตารินไหล

โจวจุนหลงนั่งเงียบ มองดูรูปของโจวเห้าที่แขวนอยู่ตรงกลางโถงไว้ทุกข์ กัดฟันกรอด

“ใครก็ได้มาที!ไปเชิญเฉินตงมาให้ฉัน สวมชุดไว้อาลัยให้น้องชายฉัน!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset