Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 94 สวมชุดไว้อาลัย

บทที่ 94 สวมชุดไว้อาลัย

เวลาเที่ยงตรง

ใต้ตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ผู้คนเดินไปมา

ทันใดนั้นเอง รถเบนซ์สีดำห้าคันขับพุ่งเข้ามา

เอี๊ยด เสียงดังขึ้น!

รถเบนซ์ทั้งห้าคันจอดพร้อมกัน ขวางประตูใหญ่ของตึกเอาไว้

การกระทำแบบนี้ ดึงดูดสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา ทุกคนมุงดูด้วยความแปลกใจ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คนใหญ่คนโตมาหรือเปล่า?”

“ไม่เห็นจะได้ยินเรื่องนี้เลย ในตึกก็ไม่มีบริษัทไหนต้อนรับ ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนมาหาเรื่องล่ะ?”

…….

ท่ามกลางเสียงพูดคุย

ประตูรถเบนซ์สีดำทั้งห้าคันเปิดพร้อมกัน

ชายในชุดสูทรองเท้าหนัง พร้อมทั้งสวมแว่นกันแดดสีดำเดินออกจากรถ เรียงเป็นแถวยาว ด้านนอกตึกใหญ่

สองในทั้งหมดเดินขึ้นหน้า เปิดแบนเนอร์ออกมา

ครืน!

คนที่มองอยู่นั้นถึงกับตกใจทันที

สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยน

ตรงแบนเนอร์ เขียนอย่างเด่นชัด:เฉินตง!สวมชุดไว้อาลัย!

แบนเนอร์หนึ่งแผ่น ราวกับระเบิดตกลงไปในน้ำ ทุกคนวุ่นวายขึ้นมาทันที

“สร้างปัญญา ต้องมาสร้างปัญหาแน่ๆ!”

“ประธานเฉินของไท่ติ่ง มีเรื่องกับใคร?”

“โอ้แม่เจ้า กลางวันแสกๆแบบนี้ประกาศยิ่งใหญ่ที่จะให้ประธานเฉินสวมชุดไว้อาลัย เป็นฝีมือใครกันแน่?”

…….

ขณะที่คนล่างตึกกำลังอลหม่านอยู่นั้น

ภายในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

กูหลังวิ่งไปที่ห้องทำงานของเฉินตงด้วยสีหน้าแตกตื่น

“คุณเฉิน ด้านล่างตึก มีคนมาก่อความวุ่นวาย!”

สีหน้าของกูหลังเคร่งขรึม นัยน์ตาฉายแสงเหี้ยมโหด

เปิดแบนเนอร์ใต้ตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เท่ากับตบหน้าไท่ติ่งแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังบอกให้เฉินตงสวมชุดไว้อาลัย!

“ใครมาก่อความวุ่นวาย?” เฉินตงถาม

นัยน์ตากูหลังฉายความเหี้ยมโหด:“คนของโจวจุนหลง เปิดแบนเนอร์ที่เขียนเอาไว้ว่าให้คุณเฉินสวมชุดไว้อาลัย”

กึก!

ปากกาในมือเฉินตงหัก ความหดหู่เพิ่มสูง ใบหน้าเย็นยะเยือก

ให้เขาสวมชุดไว้อาลัยให้กับโจวเห้า?

นี่มันเรื่องตลกชัดๆ!

ชั่วขณะนั้น อุณหภูมิภายในห้องลดต่ำลงหลายองศา

เฉินตงเหยียดตัวลุกขึ้น เดินออกไปด้านนอกด้วยความเย็นยะเยือก

รูขุมขนกูหลังหดตัว เดินตามไปเงียบๆ

คนที่สวมชุดไว้อาลัย เป็นคนรุ่นหลังของผู้ตายเท่านั้น

ตอนนี้โจวจุนหลงให้เฉินตงสวมชุดไว้อาลัยให้กับโจวเห้า เป็นการเหยียบย่ำเฉินตงให้จมลงไปในดินโคลนอย่างไม่ต้องสงสัย

เฉินตงเป็นคนที่มีความอดทน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมคนอื่น

ล่างตึก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของไท่ติ่งหลายนายยืนอยู่ตรงประตู กลัวพวกที่มาสร้างความเดือดร้อนจะทำเรื่องอื่นขึ้นมา

คนที่มาดูเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านในสามชั้นด้านนอกสามชั้น ชี้นั่นชี้นี่พูดคุยกัน เสียงคนดังระงม

ยิ่งมีคนรู้งาน หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป แล้วโพสต์ในหน้าฟีดของตนเอง

【ช็อกโลก!บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งถูกขวางทางเอาไว้ ประกาศกร้าวบอกให้ประธานของไท่ติ่งสวมชุดไว้อาลัย!】

ช่วงนี้ไท่ติ่งกำลังไปได้ดี มาวันนี้แค่แบนเนอร์ “สวมชุดไว้อาลัย” เพียงพอทำให้เกิดภาพพจน์เสียหายต่อไท่ติ่ง

นี่เป็นข่าวใหญ่!

เฉินตงและกูหลังแมาถึงโถงใหญ่ของตึกเงียบๆ โดยไม่รบกวนใคร

มองผ่านกระจกใสขนาดใหญ่ เห็นแบนเนอร์ด้านนอก

สีหน้าของเฉินตงยิ่งอยู่ก็ยิ่งเย็นยะเยือก แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

“โจวจุนหลง แกคิดว่าฉันเป็นเด็กอมมือหรือไง?”

เสียงเย็นยะเยือก เล็ดลอดออกมาจากฟัน

ตอนที่พูดประโยคนี้ สีหน้าของกูหลังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน เป็นความอาฆาตรุนแรงที่ทำให้เขาหวาดผวา

“กูหลัง ช่วยฉันบอกคุนหลุนหน่อย”

จู่ๆ เฉินตงก็พูดขึ้น

แววตากูหลังเป็นประกาย พยักหน้าแล้วพูด:“ผมจัดการตอนนี้เลยครับ”

เขารู้ คุณเฉินจะลงมือแล้วจริงๆ!

หลังจากกูหลังบอกกับคุนหลุนเสร็จ เพิ่งหันหลังกลับมา เขาก็นิ่งค้างไปแล้ว

ในระยะสายตา มือทั้งสองข้างของเฉินตงล้วงกระเป๋า เดินไปนอกตึก

ขณะที่เขากำลังนิ่งค้าง สีหน้าของกูหลังเปลี่ยนไปมากในทันที ถ้าหากเฉินตงออกไปตอนนี้ เท่ากับถูกผลักเข้าหาคำวิพากษ์วิจารณ์

แต่ยังไม่รอให้เขาห้ามปราม เฉินตงก็เดินไปปรากฏตัวในสายตาผู้คน

“รีบดูเร็ว คือประธานเฉิน!”

เสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจดังขึ้น ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปยังเฉินตงทันที

ทุกคนล้วนพากันสงสัย เป็นถึงบอสใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ทำเรื่องอะไรกันแน่ ถึงทำให้คนมาปิดประตูขวางทางแล้วเขียนแบนเนอร์ให้สวมชุดไว้อาลัย!

“ทุกคน ทำให้ไท่ติ่งของผมอับอายแบบนี้ หมายความว่าอะไร?”

เฉินตงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาเฉียบแหลมจับจ้องไปยังพวกผู้ชายที่สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง

“คุณเฉิน คุณควรไปกับพวกเรา!” ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำพูดตอบเสียงเย็นยะเยือก “ประธานโจวของพวกผม กำลังรอคุณที่โถงไว้อาลัย!”

“แล้วถ้าฉันไม่ไปล่ะ?” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น

“นับตั้งแต่วันนี้ ไท่ติ่งจะมีแบนเนอร์นี้อยู่ทุกวัน” ชายหนุ่มพูด

เฉินตงยักไหล่ หัวเราะเย้ยหยัน:“แล้วถ้าฉันไปคราวนี้ พวกแกจะเสียใจทีหลังหรือเปล่า?”

“ไปได้ไม่เป็นอะไร”

“กูหลัง เตรียมรถ!” เฉินตงร้องตะโกนเสียงดัง

ครืน!

คนที่ยืนมองพูดคุยเสียงดังกันทันที

“จริง ไปจริงๆหรอ? ประธานเฉินใจกล้าเกินไปแล้ว?”

“สวมชุดไว้อาลัย เป็นการทำให้เขาอับอายขายหน้า ยังจะตามไปจริงๆหรอ?”

“พระเจ้า เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่นอน!”

……

คำพูดของคนที่ยืนมองเข้าหูกูหลังทั้งหมด ทำให้กูหลังหน้าดำหน้าแดง โมโหอย่างมาก

แต่คำสั่งของเฉินตง เขาไม่กล้าขัดคำสั่ง จึงทำได้เพียงหมุนตัวหันหลังไปขับรถมา

อย่างรวดเร็ว กูหลังขับรถบีเอ็มดับบลิวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งออกมา

เฉินตงหันไปยิ้มให้กับคนที่มุงดูรอบๆแล้วพูดขึ้น:“ทุกคนครับ แยกย้ายกันเถอะครับ ทำให้ทุกคนแตกตื่นเพราะเรื่องเล็กๆ เฉินตงขอโทษด้วยครับ”

พูดจบ เขาก็หมุนตัวหลังขึ้นไปบนรถ

เมื่อเห็นเฉินตงขึ้นไปบนรถ คนของโจวจุนหลงก็แยกย้ายกันกลับไปที่รถ

รถเบนซ์ห้าคัน รถบีเอ็มดับบลิวหนึ่งคัน ขับรถบนท้องถนน

ภายในรถบีเอ็มดับบลิว บรรยากาศเหมือนถูกผนึกเอาไว้

กูหลังพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม:“คุณเฉิน เดี๋ยวจะทำยังไงครับ?”

ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าเฉินตงไปบ้านตระกูลโจวไม่ดีเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเฉินตงตัดสินใจแล้ว เขาที่เป็นคนติดตามก็จะตามไป เป็นผู้ติดตามของผู้นำเฉินตง

เฉินตงลูบจมูก แสยะยิ้ม

“ฉันอยากจะดูสิ โถงไว้อาลัยของโจวเห้า โจวจุนหลงมีสิทธิ์อะไรให้ฉันสวมชุดไว้อาลัย ไม่รู้ว่าโลงศพของโจวเห้า จะรับเอาไว้ได้ไหม!”

เมื่อได้ฟัง กูหลังเลิกคิ้วขึ้น คล้ายรู้อะไรบางอย่างแล้ว ครุ่นคิด

ภายในวิลล่าตระกูลโจว

ผู้คนแออัด ทั้งด้านนอกประตูและภายในโถงไว้อาลัย มีชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำและรองเท้าหนังยืนเข้าแถวเรียงราย

บรรยากาศในงาน ดูยิ่งใหญ่มาก!

ภายในโถงไว้อาลัยที่เต็มไปด้วยชุดไว้อาลัยสีขาว เคล้าไปด้วยบรรยากาศของความโศกเศร้าเสียใจ

พ่อแม่ของโจวเห้าเจ็บปวดจนสิ้นหวัง อยู่ตรงหน้าโรงศพ ร้องไห้ไม่มีน้ำตา

ในเตาผิง ยังคงมีไฟเผาไหม้ ควันลอยล่องขึ้นมา

โจวจุนหลงนั่งเงียบๆอยู่ด้านข้าง ในมือจับบุหรี่ซิการ์เอาไว้ ราวกับสามารถระเบิดอารมณ์ได้ตลอดเวลา เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังจะกลืนกินมนุษย์

ความเหี้ยมโหดน่าเกรงขามนั้น ทำให้ลูกน้องที่อยู่รอบๆไม่กล้าเข้าใกล้

ทันใดนั้นเอง ลูกน้องวิ่งเข้ามาในโถงไว้อาลัย

“พี่ใหญ่ เฉินตงมาแล้ว”

เสียงไม่ดังมาก ทว่ากลับเหมือนฟ้าผ่าเสียงดังในโถงไว้อาลัย

สีหน้าของทุกคนเคร่งขรึม

โจวจุนหลงหรี่ตาลง เต็มไปด้วยสายตาอาฆาต พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก:“หยิบเสื้อไว้อาลัยออกมา ให้ไอ้ขยะนั่นใส่!”

ขณะพูด เขาเดินไปตรงหน้าพ่อแม่ของโจวเห้า:“คุณลุงคุณป้า เสี่ยวเห้าตายตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่มีลูกหลานสวมชุดไว้อาลัยให้เขา ผมหาคนมากตัญญูต่อเสี่ยวเห้าแล้วครับ”

“จุนหลง คนนอก จะร้องไห้ให้กับเสี่ยวเห้าได้ยังไง?” พ่อแม่ของโจวเห้าปาดน้ำตา

โจวจุนหลงหัวเราะ ตอนที่เขาพูดออกมา ชั่วขณะนั้นในโถงไว้อาลัยเต็มไปด้วยความอาฆาต

“ถ้าเขาไม่ยอมสวมชุดไว้อาลัยให้กับเสี่ยวเห้า ผมก็จะทำให้เขากลายเป็นแบบเดียวกับเสี่ยวเห้า ถูกหามออกไป!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset