Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 97 พูดคุยแสดงความคิดเห็น!

บทที่ 97 พูดคุยแสดงความคิดเห็น!

รถโรลส์รอยซ์ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน

ภายใน เงียบสนิท

เฉินตงหันไปมองนอกหน้าต่าง อย่างใช้ความคิด

การมาของท่านหลง เป็นบทเรียนชีวิตของเขา

นิสัยของเขา ความสามารถของเขา ล้วนไม่แย่ แต่เวลาทำงานอะไรก็ตามเขาจะเข้มงวดมาก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นกังวลเรื่องต่างๆ

เหมือนตอนเผชิญหน้ากับโจวจุนหลง หากเปลี่ยนเป็นท่านหลงตั้งแต่เล็ก

เขาไม่สงสัยแม้แต่น้อย ท่านหลงต้องมีท่าทีน่าเกรงขาม ฟาดโจวจุนหลงให้ตาย

เมื่อเทียบกับตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่ โจวจุนหลงเป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น

แต่เขา กลับให้โอกาศโจวจุนหลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“คุณชาย เรียนรู้หรือยังครับ?”

ข้างหู เสียงอ่อนโยนของท่านหลงดังขึ้น

เฉินตงดึงสติกลับมา หันไปมองท่านหลง ยิ้มเศร้า:“เข้าใจแล้วครับ”

ท่านหลงพยักหน้าด้วยความปลื้มปริ่ม:“ด้วยพรสวรรค์ นิสัย ความสามารถของคุณชาย ไม่ด้อยไปกว่าคนหนุ่มสาวยาวฝีมือพวกนั้นในตระกูล เพียงแต่ประสบการณ์ในตอนเด็กและสิ่งแวดล้อมพันธนาการคุณชายเอาไว้ ผมเพียงแค่ทำให้คุณชายรู้ว่า หลังจากปลดเปลื้องพันธนาการชั้นนี้ได้ เรื่องยากลำบากบางเรื่องก็จะเปลี่ยนเป็นง่าย”

ขณะพูด เขาชี้ไปยังคุนหลุนที่อยู่ด้านข้าง

“ยกตัวอย่างเช่นตุนหลุน ตอนที่เขาเป็นราชาทหารรับจ้าง ไม่พูดคุยหลักเหตุผลการทหารรับจ้าง และไม่ชั่งข้อดีและข้อเสีย”

“พวกเขาไม่คู่ควร” สีหน้าคุนหลุนนิ่งสงบ แววตาฉายความทระนง

ซึ่งเป็นความทระนงของราชาทหารรับจ้าง

เหมือนราชาสัตว์ดุร้ายในทุ่งหญ้า

เฉินตงเงียบ หวนคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิธีการทำงานของเขาเมื่อก่อน มีเล่ห์เหลี่ยม และมีความเด็ดขาด แต่ถึงอย่างไรก็ขาดความเผด็จการแบบที่ท่านหลงและคุนหลุนมี

มีตระกูลเฉินอยู่ด้านหลัง เขามีสิทธิ์ที่จะมีความเผด็จการแบบนี้

“ฟู่~”

เป่าลมหายใจออกอย่างแรง เฉินตงเผยรอยยิ้มเล็กน้อย:“ท่านหลงเหนื่อยแล้วไ

ท่านหลงยิ้มด้วยความปลื้มปริ่ม ไม่ได้พูดอะไรอีก

ในเวลาเดียวกัน

ภายในโถงไว้อาลัยตระกูลโจว เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

บรรยากาศเคร่งขรึม เศร้าโศกหายไปนานแล้ว

โจวจุนหลงนั่งอยู่บนเก้าอี้ เสื้อผ้าของเขาเปียกปอนไปหมด ดูน่าเวทนาอย่างเห็นได้ชัด

บุหรี่ซิการ์ในมือ มีควันลอยขึ้นมา หัวบุหรี่กลับถูกนิ้วมือของเขาขยี้จนกลายเป็นผุยผง

คนที่อยู่รอลๆ มองโจวจุนหลงด้วยความตกใจ แม้แต่หายใจก็แทบจะไม่กล้าหายใจเสียงดัง

กลัวว่าจะทำให้โจวจุนหลงระเบิดอารมณ์ หาเรื่องให้ตนเอง

ทุกคนล้วนรู้ดี โจวจุนหลงที่นิ่งเงียบในเวลานี้ คือสัตว์ดุร้ายที่กำลังโมโห ใครหาเรื่องใครตาย

เพี๊ยะ!

บุหรี่ซิการ์ถูกโจวจุนหลงโยนลงไปบนพื้น

เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองดูทุกคนในงาน ผายมือ:“ออกไปกันก่อนเถอะ”

ลูกน้องรีบทยอยเดินออกไป

ญาติของโจวเห้า กลับยังคงลังเลยืนอยู่ที่เดิม

โจวจุนหลงมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก พูดเสียงเหี้ยม:“กูบอกให้พวกมึงออกไปไง!”

พวกคนที่กำลังลังเลอยู่นั้นตกใจและรีบออกไปทันที

ชั่วพริบตา ภายในโถงไว้อาลัยเหลือโจวจุนหลงแค่คนเดียว

ดวงตาของเขาแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เหมือนแก่ไปสิบปีในชั่วพริบตา

ความรู้สึกเสียใจ พลุ่งพล่านขึ้นมา

หากสามารถเริ่มต้นขึ้นใหม่ ต่อให้เขายอมให้โจวเห้าตาย ก็ไม่มีวันหาเรื่องเฉินตง

สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเฉินตง เขามองไม่ออก และไม่แน่ชัด แต่เขารู้ดี ฝ่ายนั้นไม่ใช่คนที่เขาสามารถมีเรื่องด้วยได้

“จบแล้ว……ทุกอย่างจบลงแล้ว……”

เคล้าไปด้วยเสียงสะอื้น สะท้อนในโถงไว้อาลัย:“ครึ่งชีวิตของฉันโจวจุนหลงเปล่าประโยชน์ เดินผิดก้าวเดียว แต่กลับกลายเป็นลำบากเพื่อคนอื่น!โจวเย่นชิว แกมันฉลาดมาก!”

อีกด้านหนึ่ง

เขตวิลล่าเขาเทียนซาน

ภายในวิลล่าของโจวเย่นชิว

ห้องทำงานหรูหรา โจวเย่นชิวใช้ปลายนิ้วถือบุหรี่เอาไว้ ควันไฟหมุนวน

หลังจากวางโทรศัพท์ลง เขายิ้มบางเบา:“โจวจุนหลงจบแล้ว โถงไว้อาลัยถูกทำลาย ยกหุุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงให้กับเฉินตงหกสิบเปอร์เซ็นต์ เขามันซวยจริงๆ”

ในฐานะคู่แข่งของโจวจุนหลง เป็นธรรมดาที่โจวเย่นชิวจะจับตาดูโจวจุนหลงตลอดเวลา

ยิ่งไปกว่านั้น โจวจุนหลงจัดโถงไว้อาลัยในบ้าน สั่งให้คนเอาแบนเนอร์บีบบังคับให้เฉินตงสวมชุดไว้อาลัยที่ใต้ตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เรื่องนี้ถูกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายวิดีโอลงโซเชี่ยลไปนานแล้ว

ไม่อยากจะสนใจยังเป็นเรื่องยาก

“หุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์แลกกับชีวิตของเขา คุ้มค่ามากแล้ว”

ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างดันกรอบแว่นของเขา มองโจวเย่นชิวด้วยแววตานิ่งเฉย:“ผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่”

โจวเย่นชิวชะงัก ยิ้มแห้ง:“ในห้องทำงานของผมติดตั้งระบบลมถ่ายเทอย่างดี ไม่มีกลิ่นบุหรี่ลงเหลือ……”

ชายหนุ่มหัวเราะเย็นยะเยือก:“ถ้าอย่างนั้น ผมไม่ชอบมองคนสูบบุหรี่

โจวเย่นชิวจนปัญญา ขยี้บุหรี่ให้ดับในที่เขี่ยบุหรี่

จากนั้น เขาจึงพูด:“เฉินตงยอมรับหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง บอกกับไท่ติ่งในมือเขา ตอนนี้ถือว่ามีอสังหาริมทรัพย์มากเป็นอันดับหนึ่งในเมืองนี้แล้ว”

ตอนที่พูดคำนี้ โจวเย่นชิวถอนหายใจเล็กน้อย

เขาสู้มาครึ่งชีวิต กว่าจะทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตนกลายเป็นอันดับหนึ่ง

แต่เฉฺนตงล่ะ?

แค่เป็นเพราะมีตระกูลเฉินคอยช่วยอยู่ด้านหลัง ก็สามารถเทียบเท่ากับสิ่งที่เขาทำมาครึ่งชีวิต

ราวกับว่าชายหนุ่มรู้ความในใจของโจวเย่นชิว ยิ้มเศร้า:“ดังนั้นต่อให้สู้แค่ไหน ก็ไม่เท่าเกิดในครอบครัวที่ดี ยืนถูกข้าง”

โจวเย่นชิวยิ้ม พยักหน้าเห็นด้ว

……

กลับไปถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

พนักงานภายในบริษัทล้วนเป็นห่วงเฉินตง เมื่อเห็นเฉินตงกลับมา ทุกคนก็โล่งใจ

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เฉินตงจากบอส กลายเป็นเสาหลักของพนักงานทุกคนแล้ว

เฉินตงกลับไปที่ห้องทำงาน เสี่ยวหม่าเดินตามเข้ามา พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ:“พี่ตง เรื่องเมื่อกี้ คงจะยุ่งยากเล็กน้อยแล้วครับ”

“ว่ายังไง?” เฉินตงถาม

เสี่ยวหม่าหยิบโทรศัพท์ยื่นไปตรงหน้าเฉินตง:“เรื่องแบนเนอร์ใต้ตึกบริษัท ถูกโพสต์ในโซเชี่ยลแล้วครับ ดังมาก”

เฉินตงรับโทรศัพท์มาดู ข่าวและช่องทางใหม่ต่างๆ ล้วนโพสต์ภาพแบนเนอร์ใต้บริษัทเมื่อกี้ หรือไม่ก็คลิปวิดีโอ

อีกทั้ง พาดหัวข่าวแต่ละอันน่าตกตะลึงกว่าแต่ละอัน

หนึ่งในพาดหัวข่าวที่เป็นประเด็นร้อนที่สุด พาดหัวข่าวเอาไว้ว่า:【ตกตะลึง!ประธานบริษัทไท่ติ่งบ้าคลั่ง ญาติผู้ตายมาถึงบริษัท บีบให้เขาสวมชุดไว้อาลัย!】

มองดูพาดหัวข่าว เฉินตงขมวดคิ้วเป็นปม

จากนั้นเขาก็กดไปยังช่องแสดงความคิดเห็น

ข้อความคาดเดา ประชดประชัน โกรธเคือง ด่าทอ ปรากฏในสายตา

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนรับบทบาท “ผู้รู้” พิมพ์อธิบายอย่างละเอียดตรงช่องแสดงความคิดเห็น

โจวจุนหลงที่เป็นคนทำแบนเนอร์ ก็ถูกขุดออกมาอย่างรวดเร็ว

สิ่งนี้ทำให้ช่องแสดงความคิดเห็นไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ

มีคนบอกว่าเฉินตงและโจวจุนหลงเป็นหนี้ชีวิตกัน

และมีคนบอกว่าโจวจุนหลงอิจฉาไท่ติ่ง จึงจงใจทำลายชื่อเสียงของเฉินตง

ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ผลลัพธ์สุดท้าย เฉินตงรู้ดีที่สุด

ซึ่งก็คือส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ถึงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคาบ้านในโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลับที่ภาคตะวันตกของเมือง!

“พี่ตงครับ ครั้งนี้โจวจุนหลงทำร้ายเราเข้าแล้วจริงๆ” สีหน้าเสี่ยวหม่าเต็มไปด้วยความเศร้า เมื่อเห็นเฉินตงทำหน้าเคร่งขรึม จึงรีบพูดปลอบ:“แต่ว่าพี่วางใจได้ครับ ผมสั่งให้คนประชาสัมพันธ์วิกฤตนี้แล้วครับ”

“ยกเลิกเถอะ”

เฉินตงวางโทรศัพท์ลง คลี่ยิ้มบางๆ:“ยกเลิกประชาสัมพันธ์วิกฤต จะเปลืองเงินไปกับส่วนนี้ทำไม?”

เสี่ยวหม่านิ่งค้างทันที

พี่ตงบ้าไปแล้ว?

ตอนนี้ไท่ติ่งและเขาได้รับข่าวเสียหายไปหมดแล้ว หากปล่อยให้พูดกันแบบนี้ต่อไป ราคาบ้านของบริษัทอสังริมทรัพย์ไท่ติ่งและภาคตะวันตกของเมือง ต้องร่วงแล้วจริงๆ!

ยกเลิกประชาสัมพันธ์วิกฤต นี่เป็นการสูญเสียงานใหญ่เพราะเรื่องเล็กๆไม่ใช่หรอ?

ไม่รอให้เสี่ยวหม่าพูด เฉินตงพิงเก้าอี้ ยิ้มประหลาดแล้วพูด:“พรุ่งนี้ฉันจะเซ็นสัญญา ราคาบ้านของเราทางภาคตะวันตกของเมืองต้องขึ้นราคา!”

ตึ้ง!

เสี่ยวหม่าตัวสั่น ม่านตาขยายอย่างรวดเร็ว:“พี่ตง พี่ พี่ล้อเล่นหรือเปล่าครับ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset