Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 98 สร้างความตกตะลึงทั่วทั้งเมืองอีกครั้ง

บทที่ 98 สร้างความตกตะลึงทั่วทั้งเมืองอีกครั้ง

เรื่องที่เกิดขึ้นใต้ตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ถูกคนที่มุงดูถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงโซเชี่ยลจริงๆ ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย

หากเป็นแค่นี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อไท่ติ่งจริงๆ

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวิลล่าโจวจุนหลง ไม่มีใครถ่ายเอาไว้!

ด้วยนิสัยรักชื่อเสียงของโจวจุนหลง ไม่มีวันปล่อยให้ลูกน้องแพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปอย่างแน่นอน

พรุ่งนี้หลังจากเซ็นสัญญาโอนย้ายหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง ความคิดเห็นของคนในอินเทอร์เน็ตสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องทำอะไร

อีกทั้ง เฉินตงมั่นใจมาก ขอเพียงข่าวโอนย้ายหุ้นประกาศออกไป เป็นการส่งเสริมชื่อเสียงของไท่ติ่งอย่างแน่นอน

ต้องรู้ก่อนว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของเมือง!

ไม่เพียงแค่นี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงยังเป็นบริษัทที่อยู่ในตลากหลักทรัพย์

ในมือไท่ติ่งมีโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง มีโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ส่งเสริม เพียงพอที่จะทำให้หุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงขึ้น

สำหรับเฉินตง นี่คือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!

แน่นอนว่าเขาไม่มีวันเป็นกังวล

แต่รายละเอียดที่อยู่ด้านใน เฉินตงไม่ได้บอกกับเสี่ยวหม่า หลังจากปลอบโยนเสี่ยวหม่าแล้ว ก็สั่งให้เขาออกไป

ตามด้วยข่าวติ่งเฉินตงถูกแบนเนอร์เขียนประกาศกร้าวให้สวมชุดไว้อาลัยในโลกอินเทอร์เน็ตดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ

กระแสในที่พูดถึงก็ส่งผลเสียต่อเฉินตงและไท่ติ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เวลาครึ่งค่อนวัน เหล่าพนักงานไท่ติ่งอ่านข่าวต่างๆในโลกอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตื่นตระหนกตลอดทั้งวัน

เขตวิลล่าเขาเทียนซาน

หลี่หลานกำลังดูข่าวของเมืองผ่านโทรศัพท์มือถือ ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าลำบากใจ

หน้าจอโทรศัพท์ คือรูปภาพเฉินตรงถูกคนวิจารณ์ด้วยแบนเนอร์

ในฐานะแม่ของเฉินตง เมื่อเห็นภาพนี้ ทำให้หลี่หลานรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกมีดกรีดแทงหัวใจ

ตงเอ๋อไปมีเรื่องกับใครกันแน่?

ทำไมถึงถูกคนบีบบังคับถึงขั้นนี้?

“คุณน้า เป็นอะไรไปคะ?”

ฟ่านลู่เดินถือจานผลไม้เข้ามา เมื่อเห็นหลี่หลานเศร้าใจ จึงเอ่ยถาม

“เกิดเรื่องขึ้นกับตงเอแล้ว” ลี่หลานทอดถอนหายใจ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ฟ่านลู่

ฟ่านลู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ใบหน้างดงามหดหู่ลง:“คนพวกนี้ ทำแบบนี้กับคุณเฉิน พวกเขาไม่รู้สึกปวดใจหรือไง?”

งานของเธอเฉินตงเป็นคนให้ เมื่อคราวที่แล้วเกิดเรื่องขึ้นที่ชุมชนเฮติ เฉินตงก็เป็นคนช่วยเธอเอาไว้

สำหรับเฉินตง ฟ่านลู่รู้สึกซาบซึ้งมาก

บอสแบบนี้ อย่างน้อยตลอดหลายปีที่เธอทำงาน เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน

เธอเองก็ไม่เชื่อสิ่งที่ในข่าวพูด!

บอสที่ยอมทุ่มสุดชีวิตเพื่อลูกน้องของตนเอง จะฆ่าคน?

หลังจากใจเย็นลง ฟ่านลู่รีบพูดปลอบหลี่หลาน:“คุณน้าคะ คุณน้าไม่ต้องเป็นกังวล ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวทางการ ตอนนี้พวกสำนักข่าวเขียนมั่วไปเอง คุณเฉินต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนค่ะ คุณน้าลองโทรถามคุณเฉินดูไหมคะ?”

“ลูกชายของน้า น้าต้องเชื่อใจอยู่แล้ว”

หลี่หลานขมวดคิ้ว ยิ้มบางเบา:“น้าแค่โมโหเท่านั้น ช่างเถอะ ตงเอ๋อยุ่งขนาดนั้น ไม่ต้องถามเขาแล้ว เดี๋ยวจะทำให้เขาเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของน้าเปล่าๆ”

ในเวลานี้เอง ท่านหลงและคุนหลุนเดินเข้ามาในห้องรับแขก

“คุณผู้หญิง”

ท่านหลงพยักหน้าให้กับหลี่หลาน

หลี่หลานยิ้มแล้วพูด:“ท่านหลง ท่านหลงเรียกฉันว่าเสี่ยวหลานเถอะค่ะ ต่อหน้าคุณฉันจะเป็นคุณผู้หญิงสามคำนี้ได้ยังไง”

ท่านหลงยิ้มอ่อน พาคุนหลุนเดินไปใกล้ ทว่าสายตากลับชำเลืองมองเนื้อความในโทรศัพท์

เขายิ้มพร้อมกับพูด:“คุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นกังวล คุณชายไม่กลัวคำนินทาใดๆครับ”

“นิสัยของตงเอ๋อฉันรู้เป็นอย่างดี” หลี่หลานมองท่านหลงด้วยแววตาลุ่มลึก ยิ้มแล้วพูด:“แต่ว่า ต้องให้ท่านหลงช่วยอบรมสั่งสอนตงเอ๋อให้มาก”

ท่านหลงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ

ตามด้วย เขาผายมือ เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้คุนหลุนและฟ่านลู่ถอยออกไปพักหนึ่ง

หลังจากทั้งสองออกไปจากห้องรับแขก ท่านหลงถามอย่างมีความหมายลึกซึ้ง:“คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงไม่คิดจะบอกคุณชายจริงๆหรอครับ?”

หลี่หลานยิ้มเศร้า:“เรื่องผ่านไปนานแล้ว เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ทำไมต้องทำให้ตงเอ๋อลำบากใจด้วย?”

ท่านหลงลูบหนวดเครา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ:“ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน คุณผู้หญิงเคยคิดไหมครับ ตอนนี้คุณชายกำลังเติบโตขึ้นทีละก้าว วันข้างจะกลายเป็นไม้ใหญ่โดนลมโค่น?”

หลี่หลานชะงัก

แววตาฉายแสงแวววับ จากนั้นหม่นหมองกะทันหัน

ภายในห้องรับแขก เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตก

ท่านหลงมองหลี่หลานด้วยแววตาลึกล้ำ รอเงียบๆ

นานพักหนึ่ง

ในห้องรับแขกมีเสียงถอนหายใจของหลี่หลานดังขึ้น

“เหตุเพราะคนรุ่นก่อน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนรุ่นก่อน ตอนนั้นเขาไปแล้ว พวกเขารังแกข่มเหงพวกเราสองแม่ลูก ฉันอดทนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว”

น้ำเสียงของหลี่หลานเคล้าไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและจนปัญญาที่ไม่สามารถอธิบายได้:“อย่าเพิ่งบอกเลยค่ะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ฉันทำให้ตงเอ๋อต้องลำบากมามาก ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าตงเอ๋อจะสบายขึ้นบ้าง”

“อืม……คุณผู้หญิงตัดสินใจแล้วก็ยิ่งดีครับ” รอยยิ้มของท่านหลงจนปัญญาเล็กน้อย “เพียงแต่ผมเป็นห่วงการยอมของคุณผู้หญิง จะทำให้คนอื่นได้คืบเอาศอก แต่ตอนนี้คุณชายก็โตแล้ว ทั้งยังมีนายท่านอยู่ เชื่อว่าคนพวกนั้น ไม่สามารถทำเรื่องอะไรได้”

……

ตลอดทั้งคืนไร้ซึ่งคำพูดใดๆ

เช้าวันถัดไป ตอนที่แสงแดดสาดส่อง

ข่าวหนึ่ง เหมือนเป็นระเบิดขนาดใหญ่ สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งเมือง

“วันนี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงจะโอนย้ายหุ้นให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ประธานโจวจุนหลงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงแสดงเจตจํานง ยกหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงหกสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับเฉินตงแห่งไท่ติ่ง!”

เมื่อข่าวแพร่ออกมา ตกตะลึงไปทั่วทั้งเมือง

ทุกคนตะลึงงัน

เมื่อวานหลังจากข่าวเฉินตงถูกคนนำแบนเนอร์มากางตรงใต้ตึกบริษัท ไม่นานก็มีผู้หวังดีสืบรู้อย่างรวดเร็วว่าเจ้าของแบนเนอร์คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง

ในตอนนั้นมีคนต่อว่าไท่ติ่งและเฉินตง

ทว่าใครก็คิดไม่ถึง เพิ่งมีปัญหากันแท้ๆ นอนหลับไปแค่คืนเดียว ทำไมถึงโอนย้ายหุ้นให้กันแล้ว?

อีกทั้งยังเป็นหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์อีกด้วย โจวจุนหลงขายบริษัทอย่างไม่ต้องสงสัย!

ขณะที่กำลังมึนงงสงสัยอยู่นั้น มีคนจับใจความสำคัญของประเด็นนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งก็คือ เฉินตงในตอนนี้ ไม่ได้เป็นแค่บอสของไท่ติ่ง แต่ยังเป็นบอสของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง

บริษัทอสังหาริมทรัพย์สองบริษัทรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไปแล้วไม่ใช่หรอ?

จากการแถลงข่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก

สำหรับหัวข้อบทสนทนาเรื่องโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนในเมืองพูดถึงกันอีกครั้ง

มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองอยู่ ไม่มีใครสงสัยอีกแล้ว โครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองมีความเสี่ยงหรือไม่ เริ่มมีการขึ้นเล็กน้อยแล้ว

ในเวลาเดียวกัน มีโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงที่อยู่ภายใต้การดูแลของเฉินตงเหมือนกัน ตอนเช้าหลังจากตลาดหุ้นเปิด ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นสูง

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง กลายเป็นที่พูดถูก

สีหน้าของพนักงานของทุกคนเลือดฝาด เหมือนเป็นเลือดไก่อย่างไรอย่างนั้น

เมื่อข่าวแถลงการณ์ออกไป ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึง

เสี่ยวหม่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก หัวใจเกือบจะกระดอนออกมาด้านนอก

เมื่อเทียบกับพนักงานทั่วไปแล้ว เมื่อวานเขาได้ยินคำพูดของเฉินตงด้วยหูตนเอง

“เซ็นสัญญา ราคาบ้านทางภาคตะวันตกของเมืองก็จะขึ้น”

นิ่งสงบเหมือนแค่พูดเรื่อยเปื่อย ตอนนี้เสี่ยวหม่าหวนคิดกลับไป รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

สิ่งนี้ทำให้เสี่ยวหม่าอยากจะวิ่งเข้าไปในห้องทำงานแล้วคุกเข่าต่อหน้าเฉินตง กราบไหว้บูชาเขา

พระเจ้า!

พี่ตงทำอะไรลงไปกันแน่?

ภายในห้องทำงาน ได้ยินพนักงานที่อยู่ด้านนอกพูดถกเถียงกัน

เฉินตงยิ้มอ่อน มือขวาเลื่อนเมาส์เบาๆ

หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นราคาหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง

เปิดตลาดหุ้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เส้นสีแดงขึ้นสูงเรื่อยๆ กลายเป็นเส้นตรงสีแดง

เขามีหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงหกสิบเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ความร่ำรวยของเขาเป็นไปตามเส้นสีแดงนี้ รวยเละแล้ว!

เพียงแต่ เรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน

เพียงแค่โทรศัพท์สายหนึ่ง กลับทำให้สีหน้าของเฉินตงฉายความรำคาญขึ้นมาทันที

โทรศัพท์……หวางหนันหนันเป็นคนโทรมา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset