Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 100 พวกเราไปโรงแรมกันเถอะ

บทที่ 100 พวกเราไปโรงแรมกันเถอะ

นานครู่หนึ่ง

หวางเต๋อดึงสติกลับมา ผลักจาวซิ่วจือหนึ่งที:“ดูสิ่งที่คุณทำสิ หนันหนันถูกคุณด่าจนออกไปแล้วจริงๆ”

สีหน้าจาวซิ่วจือเปลี่ยนไปมา พูดอย่างไม่ยอมรับ:“เกี่ยวอะไรกับฉัน? ฉัน ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าหนันหนันจะเป็นแบบนี้?”

“คนที่เป็นแม่อย่างคุณ เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้หรอ?” หวางเต๋อตะคอกด้วยความโมโห

“คุณตะคอกใส่ฉันทำไม?”

จาวซิ่วจือคิ้วคว่ำ:“ฉันแค่ล้อเล่นกับหนันหนัน ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ตลก?”

หวางเต๋อหัวเราะ:“หนันหนันหัวเราะรึยัง?”

“คุณ……” จาวซิ่วจือหน้าแดงก่ำ ใบ้รับประทานจนพูดไม่ออก

ประจวบเหมาะเวลานี้

ประตูบ้านถูกคนเปิดออก

หวางเต๋อและจาวซิ่วจือดีใจขึ้นพร้อมกัน หันไปมองที่ประตู

ตอนที่เห็นว่าเป็นหวางเห้า สีหน้าของทั้งสองสามีภรรยาก็หม่นหมอง

จาวซิ่วจือถอนหายใจ กลับไปนั่งบนโซฟา

“พ่อครับแม่ครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

หวางเห้ารู้สึกหดหู่เป็นทุนเดิม แต่เมื่อเดินเข้าบ้านแล้วเห็นสีหน้าของพ่อแม่ จึงเอ่ยถามขึ้น

“แม่ของแก บีบให้พี่สาวของแกออกไปแล้ว” หวางเต๋อมองค้อนจาวซิ่วจือด้วยความหงุดหงิด

จาวซิ่วจือโมโหทันที โวยวายเสียงดัง:“อะไรคือการบอกว่าฉันบีบเธอไป? เธอเป็นคนไปเองชัดๆ”

หวางเต๋อกำลังจะพูดโต้เถียง

หวางเห้ายกมือขึ้นลูบหน้าตนเอง:“ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ให้ผมสงบจิตสงบใจก่อน”

เมื่อเห็นหวางเห้าหดหู่ อาการซึมๆ จาวซิ่วจือจึงเดินไปข้างๆหวางเห้าพร้อมถามด้วยความเป็นห่วง:“เสี่ยวเห้า ลูกกับเสว่เอ๋อคุยกันเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

เมื่อได้ยิน “เสว่เอ๋อ” สองคำนี้

ตัวของหวางเห้าสั่นสะท้านทันที

ดวงตาแดงก่ำ

จากนั้นร้องตะโกน กอดตาวซิ่วจือเอาไว้:“แม่ครับ……เสว่เอ๋อหายไปแล้ว เธอ เธอไปจากเมืองนี้แล้ว”

ตึ้ง!

หวางเต๋อและจาวซิ่วจือเหมือนถูกฟ้าผ่า

“เป็นอะไรไป? อยู่ดีๆ เสว่เอ๋อทำไมถึงไปได้?” หวางเต๋อถามด้วยความร้อนใจ

หวางเห้าไม่ได้ตอบ ซบหน้าตรงหัวไหล่จาวซิ่วจือ ร้องไห้เสียงดัง

จาวซิ่วจือเองก็ร้อนใจ ตบหลังหวางเห้าไปด้วย พร้อมกับพูดขึ้น:“ลูกรีบพูดสิ!”

“ไม่รู้ครับ ผมเองก็ไม่รู้”

หวางเห้าร้องไห้สะอื้นแล้วพูด:“ผมหาแล้ว แต่หาเธอไม่เจอ บ้านที่ก่อนหน้านี้เสว่เอ๋อเช่าเอาไว้ก็ไม่เช่าแล้ว อีกทั้งเธอยังลาออกจากงานที่ธนาคาร ผมโทรศัพท์ไปหาเธอแต่กลับติดต่อไม่ได้ และเธอก็ไม่ได้ออนในเกมส์ด้วย”

ช่วงที่ผ่านมานี้ หวางเห้าวิญญาณออกจากร่าง เหมือนได้รับกระทบเทือนจิตใจอย่างรุนแรง

หลินเสว่เอ๋อหายตัวไปกะทันหัน ทำให้เขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่ม

เขาอยากจะแต่งงานกับหลินเสว่เอ๋อจริงๆ คุณสมบัติของเขากับหลินเสว่เอ๋อเทียบกันแล้ว เขาสามารถแต่งงานกับหลินเสว่เอ๋อได้ เอาคำพูดของคนรอบกายมาพูด ถือว่าหลุมฝังศพของบรรพบุรุษมีควันเขียว เป็นวาสนาที่สั่งสมมา

แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หลินเสว่เอ๋อที่ก่อนหน้านี้ไม่ถือสางานหมั้นของเขา กลับหายตัวไปกะทันหัน

ร้องไห้ไปด้วย หวางเห้าหยิบโทรศัพท์ออกมา

“นี่เป็นวีแชทที่ตอนเที่ยวเสว่เอ๋อส่งมาให้ผม หลังจากส่งข้อความมาเสร็จ เธอลบบัญชีวีแชทผมไปแล้วครับ”

จาวซิ่วจือและหวางเต๋อรีบแย่งโทรศัพท์

เนื้อความในวีแชทสั้นมาก และตรงมาก

“หวางเห้า เราเลิกกันเถอะ คุณเป็นคนดี ไม่ต้องตามหาฉัน ฉันจะไม่กลับมาอีกแล้ว”

เมื่ออ่านเนื้อความจบ ดวงตาจาวซิ่วจือถลึงกว้าง:“แย่แล้ว แย่แล้วๆ ต้องเป็นเพราะเสว่เอ๋อโมโหที่ครอบครัวเราหาสินสอดมาไม่ได้สักที ดังนั้นจึงโมโหแล้วจากไป”

พูดจบ เธอชกหวางเต๋อหนึ่งที:“ไอ้คนไม่ได้เรื่อง ยังไม่รีบใช้โทรศัพท์ของคุณโทรหาเสว่เอ๋ออีก ให้เสี่ยวเห้ารั้งเธอเอาไว้”

หวางเต๋อรีบคว้าโทรศัพท์ออกมา

ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหวางเห้า กะพริบปริบๆมีแสงแวววับ

เหมือนคนที่สิ้นหวัง มีความหวังอีกครั้ง

สั้นๆเพียงไม่กี่วินาที

หวางเต๋อวางโทรศัพท์ลงด้วยความสิ้นหวัง:“โทรไม่ติด ไม่มีหมายเลขนี้แล้ว”

“ไร้สาระ!”

จาวซิ่วจือไม่เชื่อ คว้าโทรศัพท์ของตนเองออกมาแล้วกดโทรหาหลินเสว่เอ๋อ

อย่างรวดเร็ว เธอเองก็วางโทรศัพท์ลง พูดด้วยสีหน้าเสียใจ:“ไม่มีหมายเลขนี้แล้ว เสว่เอ๋อยกเลิกแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ ตัดขาดการติดต่อกับครอบครัวเราแล้ว”

“แม่……” ความหวังสุดท้ายของหวางเห้าจบลงแล้ว ร้องไห้แล้วซบอกจาวซิ่วจือ

จาวซิ่วจือเองก็ร้องไห้ด้วย:“เสี่ยวเห้า แม่ผิดเอง แม่ทำผิดเอง…….ทำให้ลูกต้องเสียผู้หญิงดีๆอย่างเสว่เอ๋อไป……”

ชั่วพริบตา เสียงร้องไห้ดังระงม

มองดูสองแม่ลูกร้องไห้ด้วยความเสียใจ หวางเต๋อเองก็นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความเศร้า รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก

……

เวลาค่ำคืนค่อยๆคืบคลานเข้ามา

ฝนตกลงมากะทันหัน

ฟ้าร้องเสียงดัง

ฝนตกหนักกะทันหัน ทำให้คนจำนวนมากบนท้องถนนไม่ทันได้ป้องกัน รีบวิ่งอย่างบ้าคลั่ง

มีเพียงแค่คนๆเดียว ที่ไม่สนใจฝนตกหนักนี้แม้แต่น้อย ปล่อยให้ฝนสาดเข้ามาที่ลำตัว เดินช้าๆอย่างไม่มีจิตวิญญาณ

ตั้งแต่ออกมาจากบ้าน หวางหนันหันไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหน

เธอเหมือน “สัมภเวสี” อย่างไรอย่างนั้น เร่ร่อนอยู่ในเมือง เหนื่อยก็นั่งพัก พอพักเรียบร้อยแล้ว เดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย

เธอปิดเครื่องแล้ว

หัวใจของเธอ เย็นยะเยือกไปแล้ว

ปฏิกิริยาของพ่อแม่ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

ครอบครัว?

ตลก!

ที่ตรงนั้น คือบ้านภาษาอะไร?

น้ำตาแห้งเหือดไปหมดแล้ว ดวงตาเองก็บวม

ฝนเม็ดใหญ่สาดลงมาจนเธอเปียกไปหมดทั้งตัว ผมที่เปียกปอนทิ้งตัวลงบนหัวไหล่ ดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก

หวางหนันหนันเดินอย่างไร้จุดหมาย แววตาของเธอเหม่อลอย

อย่างไม่รู้ตัว เธอเดินไปจนถึงถนน กำลังจะข้ามถนนแล้ว

ไฟสัญญาณให้คนเดินเขียวแดงยังคงเป็นสีแดง แต่เธอกลับเหมือนมองไม่เห็น เดินบนทางเท้า ไปฝั่งตรงข้ามช้าๆ

ตอนที่เธอเดินถึงตรงกลางถนน ทันใดนั้นเองก็มีเสียงแตรดังขึ้น

เอี๊ยด……

เสียงเหยียบเบรกแสบแก้วหู

ร่างอรชรของหวางหนันหนันสั่นเทา ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อหันกลับไปมอง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปมาก ม่านตาขยายกว้าง

แสงไฟรถยนต์สาดส่องไปที่ตาของเธอจนต้องหยีตาเล็ก แต่เธอก็ยังมองเห็น รถคันหนึ่งกำลังพุ่งมาที่เธอ

“ว๊าย!”

ความตายเข้ามาใกล้ ทำให้เธอตกใจจนร้องกรีด

ร่างสั่นเทิ้ม นั่งลงบนแอ่งน้ำ

แบบนี้คือตายแล้วหรอ?

บางทีอาจจะดีก็ได้

มองดูแสงไฟที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งจ้า ความคิดในหัวของหวางหนันหนันเหลือแค่อย่างเดียว

โชคดีก็คือ

ตอนที่รถกำลังจะเข้ามาใกล้ เหลือไม่ถึงครึ่งเมตร

ในที่สุด รถยนต์หยุดลง

มองดูรถที่หยุดลง หวางหนันหนันรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง

ตามด้วยความโมโหที่ปะทุขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

เธอนั่งอยู่บนน้ำ ฟาดมือไปที่รถ ร้องไห้และตะโกน:“ชนสิ ชนฉันให้ตายสิ!ทำไมต้องเบรกด้วย? ทำไมต้องจอดรถด้วย?”

“ฮือๆๆ……ทำไม? ทำไม? ฮือ……”

หลังจากด่าจบ ตัวของหวางหนันหนันนั่งกอดเข่า ร่างอรชรสั่นเทา ก้มหน้าลงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

รถแลมโบกินี่สีเหลืองเปิดประตูลงมา

ชายหนุ่มสวมชุดไปรเวทเดินลงมาจากรถ กางร่ม เดินมาด้านข้างหวางหนันหัน เพื่อบังฝนให้เธอ

“ชีวิตของคุณ ไร้ค่ามากขนาดนี้เลยหรอครับ?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ร่างอรชนของหวางหนันหัน เงยหน้าขึ้นเตรียมจะด่า

แต่คำพูดของผู้ชายเพียงคำเดียว กลับทำให้เธอนิ่งค้าง

“ด้านนอกฝนตกหนักขนาดนี้ ให้ผมส่งคุณกลับบ้านไหมครับ?”

ผ่านหยาดฝนและแสงไฟรถยนต์ หวางหนันหนันมองใบหน้าใต้ร่มที่สวมแว่นเอาไว้ ดวงตาเป็นประกาย กำลังยิ้มบางๆ

เธอนิ่งค้างไปแล้ว

“กลับบ้าน? ฉันไม่มีบ้านแล้วค่ะ” หวางหนันหนันยิ้มเศร้า

ชายหนุ่มย่อตัวลง ยื่นมือซ้ายออกมา:“ผมชื่อเทียนเซิง”

หวางหนันหนันชะงัก คงเป็นเพราะตอนที่เธอสิ้นหวังที่สุด มีคนบังฝนให้เธอ ทำให้หัวใจที่เย็นเฉียบของเธออบอุ่นขึ้นมาบ้าง

จากนั้น มือของเธอ วางลงบนมือของเทียนเซิง ถูกเขาพยุงขึ้นมา

“ขึ้นรถเถอะครับ”

เทียนเซิงพาหวางหนันหนันเดินไปยังที่นั่งข้างคนขับ

เวลานี้หวางหนันหนันเพิ่งเห็นว่านี่คือรถแลมโบกินี่ ดวงตาของเธอเป็นประกาย

เห็นเทียนเซิงเปิดประตูรถให้เธอ เธอพูดขอบคุณ แล้วเข้าไปในรถ

หลังจากรอให้เทียนเซิงกลับขึ้นมาบนรถ เธอจึงถามด้วยความแปลกใจ:“นี่คือ……แลมโบกินี่?”

“ครับ แค่รถใช้ในบ้านเท่านั้น” เทียนเซิงขับรถ ยิ้มแล้วตอบกลับ:“บ้านของคุณอยู่ที่ไหนครับ? ผมส่งคุณกลับบ้าน”

“ฉันไม่มีบ้าน”

หวางหนันหนันเกลี่ยผมเปียกปอนตรงหน้าผากไปไว้ด้านหลัง แวตาลุ่มลึก ลังเลไม่แน่นอน สุดท้ายหลอมละลายกลายเป็นยืนกราน สูดลมหายใจเข้า ตั้งใจพูดด้วยเสียงอ่อนโยน:“พวกเราไปโรงแรมกันเถอะค่ะ”

เทียนเซิงยิ้มบางๆ :“ครับ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset