Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 5 บรรยากาศห้องเตียงใหญ่

บทที่ 5 บรรยากาศห้องเตียงใหญ่

หลังจากที่หลินเสว่เอ๋อได้รับข้อความตอบกลับจากเฉินตง ก็รีบไปทำเรื่องลางานกับผู้จัดการทันที ไปเตรียมตัวเรื่องเย็นวันนี้

นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเธอ แล้วก็เกี่ยวข้องกับอนาคตของผู้จัดการเหมือนกัน ช่องทางการติดต่อเฉินตง ผู้จัดการก็ทำผิดกฎโดยการหาข้อมูลส่วนตัวมาจากบัตรธนาคารของเฉินตง

ในตอนที่เธอเดินออกมาจากธนาคารด้วยความกังวล ตรงหน้าก็พบเข้ากับหวางเห้าที่กำลังลงจากรถ

แต่ว่า หวางเห้าไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของเธอเลยตั้งแต่ต้น ยิ้มแล้วพูดขึ้น “เสว่เอ๋อ วันนี้เลิกงานก่อนเวลาอย่างนั้นเหรอ?”

“หวางเห้า?!”

หลินเสว่เอ๋อตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็นึกถึงที่นัดไว้กับหวางเห้าตอนเย็นนี้ ทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ใช่ ใช่จ้ะ วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ดังนั้นก็เลยไปขอผู้จัดการลางานแล้วเลิกงานก่อนเวลาน่ะ”

“ฮ่าๆ….พอดีเลย เลิกงานเร็วขนาดนี้ พวกเราสองคนไปหาที่นั่งกัน ไปเล่นเกมกันสักสองสามตา ช่วงนี้ฉันเล่นKai(ตัวละครเกม)เก่งมากๆ พวกที่ว่าคนเดียวฆ่า5ตัวติดกันทั้งตา วันนี้จะแบกให้เธอชนะเอง” หวางเห้ายิ้มแล้วพูดขึ้น

คิ้วเรียวของหลินเสว่เอ๋อขมวดมุ่น ไอ้คนๆนี้ฟังสิ่งที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง?

มองใบหน้ายิ้มแย้มของหวางเห้า อยู่ๆเธอก็โมโหขึ้น แบกแม่มึงสิ! เย็นนี้แฟนแกจะโดนส่งไปให้คนอื่นแล้ว แกยังจะมาอวดคนเดี่ยวฆ่า5ตัวติดกันทั้งเกมอีก?

เธออดทนข่มความโกรธลงไป “หวางเห้า เย็นนี้ฉันมีธุระนิดหน่อย พวกเราค่อยนัดกันใหม่ครั้งหน้านะ”

หวางเห้าชะงักไปเล็กน้อย “แต่ว่าพวกเรานัดกันเอาไว้แล้วนะ กินข้าวเย็นแล้วจะส่งเธอกลับบ้าน เสร็จแล้วคืนนี้พวกเราสองคนก็จะเล่นเกมด้วยกันไง!”

หางตาของหลินเสว่เอ๋อกระตุก ความไร้น้ำยาของหวางเห้าเธอรู้ดีตั้งนานแล้ว แต่ว่าเถียงไม่ได้ว่าหวางเห้าเป็นคนในเมือง

จากฐานะของเธอ อยากที่จะซื้อบ้านในเมือง มีสถานที่ให้เธอนั้นได้อาศัย นั้นไม่มีสิทธิ์เลยด้วยซ้ำ ต่อให้เธอมีความสัมพันธ์กับผู้จัดการ แต่เธอก็รู้ดี ว่าผู้จัดการไม่มีทางที่จะทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อมาหาเธอหรอก

ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่าอยากจะให้หวางเห้ามารับตัวเอง เธอคงจะเตะลงไปบนตัวเขาสักทีหนึ่ง

สูดลมหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง หลินเสว่เอ๋อก็พยายามยิ้มออกมา หยิกแก้มของหวางเห้าเบา “พอแล้วน่าที่รัก คืนนี้ติดธุระจริงๆ นี่ตอนบ่ายฉันไม่ค่อยสบายลางานออกมาก่อนแล้วใช่เหรอ? มีงานอีกนิดๆหน่อยๆที่จะต้องทำโอทีชดเชย นัดของพวกเราเปลี่ยนวันเถอะนะ”

“ก็ได้ครับ” หวางเห้าคอตกตอบเสียงเศร้า

จากนั้นหวางเห้าก็เสนอที่จะไปส่งหลินเสว่เอ๋อที่บ้าน แต่หลินเสว่เอ๋อกลับปฏิเสธ หวางเห้าเลยทำได้แค่เพียงช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้หลินเสว่เอ๋อเท่านั้น

สถานการณ์ตรงหน้า โดนผู้จัดการธนาคารเห็นเข้าพอดี จึงหัวเราะเยาะออกมาไม่รู้ตัว ด่าออกมาเสียงเบาคำหนึ่ง “ไอ้โง่”

หลังจากที่ขึ้นแท็กซี่ได้แล้ว หลินเสว่เอ๋อก็เม้มริมฝีปากแดงอีกครั้ง รูปร่างที่โดนชุดยูนิฟอร์มรัดรึงให้เด่นออกมาสั่นเทา น้ำตาอยากจะไหลออกมาด้านนอกอย่างห้ามไม่อยู่

เธอทึ้งผมด้วยความกลัดกลุ้ม ดวงตาคลอน้ำตามองออกไปนอกหน้าต่าง

วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองวู่วาม เรื่องราวไหนเลยที่จะมาถึงขั้นนี้?

เธอไม่ได้รังเกียจที่จะโดนคนรวยจีบ ถึงขนาดที่ว่าไม่ได้รังเกียจที่จะได้กระพือปีกเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนรวยเหมือนกับผีเสื้อที่กระพือปีกเข้าหาดอกไม้ เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ มิฉะนั้นเธอก็คงจะไม่เป็นของๆผู้จัดการแค่คนเดียว

แต่ว่า เพราะว่าความวู่วามเมื่อกี้ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนแรก เปลี่ยนแปลงไปหมด

คิดถึงการพบเจอในตอนเย็น เธอก็มีความรู้สึกเสียใจและอดสู

เธอไม่สามารถที่จะเชิดหน้าได้อย่างทระนง เปิดเผยความงามของตัวเอง แล้วเชยชมเงียบๆ แต่กลับต้องทำตัวต่ำต้อยเป็นคนที่อยู่ต่ำกว่า โดนกดดันจนถึงที่สุด…….

เฉินตงเช่าบ้านหลังเล็กๆที่มีสองห้องนอนที่ละแวกใกล้เคียงกับโรงพยาบาลลี่จิง ใช้สำหรับช่วงเวลาต่อจากนี้ ดูแลมารดาแล้วก็เป็นสถานที่พักฟื้นของแม่หลังจากการรักษาในโรงพยาบาล

หลังจากที่เซ็นต์สัญญาเช่าบ้านเสร็จ เขาก็ไปตามหาบริษัทขนของต่ออย่างไม่หยุดพัก ไปขนของที่บ้านเก่าที่เคยพักอยู่กับหวางหนันหนัน

ทำให้เขารู้สึกปวดใจอย่างหนึ่งเลยก็คือ ในตอนที่เขาผลักประตูบ้านเข้าไป ภายในบ้านนั้นเละเทะไปตั้งนานแล้ว

ของทุกสิ่งที่เคยเป็นของหวางหนันหนัน ล้วนแต่โดนย้ายออกไปจนว่างเปล่าแล้ว ของที่เหลือที่เป็นของเขากับแม่ ก็โดนเทสาดกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

รูปที่ตกอยู่บนพื้น เป็นรูปแต่งงานของเขากับหวางหนันหนัน แต่ว่าตอนนี้รูปภาพนั้นโดนฉีกออกไปครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงเขาแค่คนเดียว

แถมรูปคู่รูปเดียวของเขากับแม่ ก็ตกลงมาอยู่บนพื้น กรอบรูปแตกละเอียด ด้านบนยังมีรอยเท้าอยู่ชัดเจน

เฉินตงหยิบรูปถ่ายคู่กันของเขากับแม่ขึ้นมา กัดฟันเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นมัว คำพูดหนึ่งประโยคเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน “ในใจของคุณ ผมกับแม่ของผมมันเหลือทนขนาดนี้เลยหรือไง?”

สูดลมหายใจเข้า แล้วนำรูปเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยความหวงแหน คนที่เฉินตงจ้างมาย้ายบ้านจากบริษัทเริ่มขนย้ายของ

รอจนทุกๆสิ่งย้ายมาถึงบ้านหลังใหม่ หลังจากรวบรวมจนเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว โทรศัพท์ของเฉินตงก็ได้รับข้อความที่หลินเสว่เอ๋อส่งมาพอดี

เขาบิดขี้เกียจ แล้วก็ลุกขึ้นยืนและไปยังโรงแรมที่หลินเสว่เอ๋อกำลังอยู่

โรงแรมAlston

เป็นโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง เป็นห้องที่อยู่ชั้นสูงสุด สามารถที่จะมองเห็นวิวกลางคืนของเมืองทั้งเมืองได้ผ่านหน้าต่างของกระจกบานยาว

หลินเสว่เอ๋อสวมชุดคลุมอาบน้ำ เอกเขนกอยู่บนโซฟาที่อยู่ติดกับหน้าต่างบานยาว เส้นผมยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ รู้ได้ว่าเพิ่งจะออกมาจากห้องอาบน้ำได้ไม่นาน

แกว่งแก้วไวน์แดงในมือไปมา หลินเสว่เอ๋อเริ่มที่จะเมาแล้ว แก้มทั้งสองข้างเห่อแดง ตาเยิ้มกำลังมองออกไปยังวิวตอนกลางคืนที่ด้านนอกหน้าต่าง แววตากลับมีน้ำตาเอ่อคลอ

เธอมาจากชนบทแล้วเข้ามาในเมือง อยากที่จะเป็นคนเมือง ดังนั้นก็เลยคิดทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ปีนขึ้นไป

งานธนาคาร ทำให้เธอนั้นมีความสดใสเรียบร้อยและน่ารักน่ามอง แล้วก็ยังทำให้เธอเกิดความรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจในตัวเอง

เธอกลายเป็นแฟนของหวางเห้า นั่นไม่ใช่เป็นเพราะว่ารักมาก แต่เป็นเพราะว่าหวางเห้าสามารถให้สิ่งที่เธอต้องการได้

เงินค่าสินสอดห้าแสน บ้านหนึ่งหลัง รถราคาสามแสนหนึ่งคัน นี่ก็มากพอที่จะทำให้เธอนั้นภาคภูมิในช่วงเวลาหนึ่งแล้ว

ค่าสินสอดห้าแสนนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มาก แต่ว่าก็มากพอที่จะให้เธอนั้นซื้อบ้านหนึ่งหลังได้ก่อนแต่งงาน ใช้เป็นทรัพย์สินก่อนแต่งงาน ต่อให้อนาคตจะมีจุดหมายที่ดีกว่า เธอกับหวางเห้าหย่ากัน ก็ไม่ได้ไม่มีอะไรติดตัวเลย

เพียงแต่ว่าน่าเสียดาย ความวู่วามครั้งนั้นเมื่อตอนบ่าย กลับทำให้เธอนั้นต้องถอดโค้ทแห่งความภาคภูมิใจนั้นลง น้อมรับความอัปยศไม่มีที่สิ้นสุด

ถ้าเกิดว่าย้อนเวลาได้อีกครั้ง เธอจะต้องเลือกวิธีที่ดีกว่า และก็เป็นภาพที่ใฝ่ฝันไว้มากกว่า

ก๊อกๆ!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ประตูไม่ได้ล็อกค่ะ” หลินเสว่เอ๋อเช็ดน้ำตาที่หางตา เสียงหวานดังขึ้น

เฉินตงผลักประตูเข้ามา มองดวงไฟที่มีเสน่ห์สวยงามกับหลินเสว่เอ๋อที่นอนอยู่บนโซฟา ใบหน้าไร้อารมณ์ ภายในใจกลับเยาะเย้ยอยู่หนักๆ

ตระกูลหวางยกยอจนขึ้นหิ้ง ไม่ลังเลที่จะกดให้ผมตกต่ำ ถึงขนาดที่ว่าไม่สนใจชีวิตของแม่ ล้วนแต่อยากจะขอสาวเข้าบ้าน ตอนนี้กลับมานอนอยู่ในห้องนี้

ถ้าเกิดว่าปล่อยให้พวกเขารู้ พวกเขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกันนะ?

“คุณเฉิน…….”

หลินเสว่เอ๋อลุกขึ้น เทไวน์แดงลงในแก้ว เดินไปอยู่ตรงหน้าของเฉินตง ส่งแก้วให้เฉินตง “คุณเฉิน เรื่องเมื่อตอนบ่าย เสว่เอ๋อขอโทษจริงๆค่ะ”

ภาษา กริยา ท่าทาง สีหน้า มายาร้อยเล่มเกวียน

เฉินตงรับแก้วไวน์แดงมาเงียบๆ “คุณไม่รู้เหรอครับว่า ขโมยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าธนาคารมาใช้ เป็นปัญหาใหญ่มากเลยนะ?”

หลินเสว่เอ๋อชะงักไปแล้ว ปฏิกิริยาของเฉินตงทำให้เธอนั้นคิดไม่ถึง

แป๊บเดียว เธอยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา “ก็คนเขาอยากจะขอโทษคุณเฉินไม่ใช่เหรอคะ?”

“จะขอโทษยังไง?”

เฉินตงยิ้มน้อยๆ ดื่มไวน์แดงจนหมดแก้ว

ไม่ได้รอจนวางแก้วไวน์ หลินเสวเอ๋อที่อยู่ตรงหน้าก็พุ่งตัวเข้ามา

เพล้ง!

แก้วไวน์ตกลงไปอยู่บนพื้น และแตกละเอียด

เศษแก้วที่แตกเป็นชิ้นๆใต้ไฟสีแดงที่สาดกระทบ ก็เกิดเป็นแสงสีแดงสะท้อนกลับ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset