Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 115 แลกชีวิต !

บทที่ 115 แลกชีวิต !

เปรี้ยง !

แสงของฟ้าผ่าทำให้ห้องรับแขกสว่างขึ้น

เฉินตงวิ่งเข้าหาเฉินเทียนเซิงทันทีด้วยท่าทีดุร้ายที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก พร้อมกับเสียงขู่คำรามและถือกริชที่ดูน่ากลัวอยู่ในมือ

เจตนาฆ่าที่รุนแรงทำให้คุนหลุนและกูหลังหน้าถอดสี

คุนหลุนตะโกนออกมาเสียงดัง “คุณชาย” คิดที่จะเข้าไปขวางแต่ก็สายไปเสียแล้ว

ทันใดนั้นเอง เหมือนกับเวลาค่อยๆ เดินช้าลง

สีหน้าของเฉินเทียนเซิงซีดเผือด ใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ รูม่านตาขยายจนถึงขีดสุด

เขาในตอนนี้ ไม่หลงเหลือท่าทีที่สงบดังเช่นก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย จะหลงเหลืออยู่ก็เพียงแค่ท่าทีที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวต่อความตาย

เขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่าเฉินตงจะแทงเขาด้วยกริชจริงๆ !

ความเป็นความตาย อยู่ในเสี้ยววินาที !

“อ้า !”

เฉินเทียนเซิงร้องตะโกนเสียงดังออกมาทันที

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัว หรือเป็นเสียงตอบโต้ของคนที่กำลังตาย

พรึบ !

ตัวของเฉินตงกับเฉินเทียนเซิงแนบเข้าด้วยกัน

ซวบ !

เสียงของกริชแทงเข้าไปในเนื้อ ดังสะท้อนอยู่ในห้องรับแขก

จากนั้นทั้งสองคนดูราวกับถูกตรึงอยู่

ติ๋ง……ติ๋ง……

เลือดสีแดงสด ค่อยๆ หยดลงบนพื้นระหว่างทั้งคู่ทีละหยดๆ ไม่นานบนพื้นก็ฉาบไปด้วยสีแดง

คุนหลุนและกูหลังยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง

กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งทำให้ทั้งสองคนได้สติกลับมา

คุนหลุนถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่ : “จบเห่แล้ว……”

หลังจากพูดจบ

“อ้า !”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมา

คุนหลุนและกูหลังต่างตกตะลึงไปพร้อมกัน

เสียงนี้เป็นเสียงของเฉินเทียนเซิง !

ทั้งสองรีบตามไปติดๆ จึงเห็นภาพของเฉินเทียนเซิงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความสงสัย ความโกรธแค้น……

ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ มีความรู้สึกมากมายปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดเผือดของเฉินเทียนเซิง

จนสุดท้าย ใบหน้าที่ซีดเผือดนั้นก็เผยให้เห็นความโกรธแค้นที่อัดแน่นออกมา

ถึงขั้นที่ร่างกายของเฉินเทียนเซิงสั่นอย่างรุนแรง

“แก แกนี่มัน……”

“เหอะ !”

เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเพื่อตัดบทคำด่าทอของเฉินเทียนเซิง

หลังจากนั้น

เขายกมือซ้ายขึ้น แล้วผลักเฉินเทียนเซิงที่กำลังโกรธแค้นออกไป จากนั้นตนเองจึงเดินโซเซถอยหลังไป

เสียงล้มดังขึ้น

เฉินตงร่วงลงไปนั่งอยู่บนพื้น สีหน้าซีดเผือดอย่างรวดเร็ว แต่มุมปากยังปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัวอยู่ แววตายังคงเชือดเฉือนราวกับมีด

ส่วนมือซ้ายของเขานั้นกุมบริเวณท้องเอาไว้แน่น

กริชที่แหลมคมจนส่องแสงแวววาวถูกถือเอาไว้ในมือ ไม่ได้เสียบอยู่ในเนื้อ

เลือดสีแดงสดไหลอาบลงมา

บูม !

ภาพที่เห็นนี้ ทำให้เหมือนมีเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องกังวานอยู่ในหัวของคุนหลุนและกูหลัง

ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในทันที ดวงตาเบิกโพลงจนถึงขีดสุด

ทำไม ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ?

มีดเล่มนี้ควรจะปักอยู่ที่เฉินเทียนเซิงไม่ใช่หรือ ?

“คุณชาย !”

“คุณเฉิน !”

หลังจากความตื่นตระหนกผ่านพ้นไป คุนหลุนและกูหลังก็พุ่งเข้าไปหาเฉินตงพร้อมกัน

“อ่า……ไอบ้า ไอลูกนอกคอก แกมันบ้าไปแล้ว !”

เฉินเทียนเซิงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง รีบสะบัดเลือดสีแดงสดในมือออกจากสุดกำลัง เขารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

เขาไม่มีทางคิดถึงเลยว่า สุดท้ายแล้วเฉินตงจะใช้ไม้นี้กับเขา !

เมื่อครู่เขาถึงขั้นได้สัมผัสถึงความรู้สึกของคนที่กำลังจะตาย แต่ขณะที่สัมผัสกับเฉินตง ความกลัวที่จะต้องตายก็กลับกลายเป็นความวิตกกังวลในทันที

ในชั่วขณะนั้นที่เฉินตงนำกริชใส่เข้าไปในมือของเขา จากนั้นก็จับมือของเขาเอาไว้ แล้วนำกริชแทงเข้าไปในท้องของตนเอง !

ทุกอย่าง ถูกวางแผนเอาไว้หมดแล้ว !

ด้วยสมองระดับเฉินเทียนเซิงแล้ว ตอนนี้เขาจึงสามารถรับรู้ได้ทันที

ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินตงไม่ได้คิดที่จะเอาชีวิตเขา !

แต่กลับใช้วิธีเอาหนึ่งชีวิตแลกกับอีกหนึ่งชีวิต เพื่อระบายความโกรธแค้นที่ทำลายแม่ของเขา !

หากทำเช่นนี้ ต่อให้ทำผิดกฎของตระกูลจริง ก็ยังพอจะเหลือทางหนีทีไล่ !

คำถูกคุนหลุนและกูหลังทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ภายใต้คำสั่งของเฉินตง

แต่สุดท้าย เขาเองก็แทงเฉินตงไปหนึ่งครั้ง

การทำผิดกฎของตระกูลเช่นนี้ ต่อให้มีผู้ใหญ่ภายในตระกูลคอยหนุนหลังอยู่ แต่จะใช้กฎของตระกูลจัดการได้อย่างไร ?

“แม้แต่แลกชีวิตก็ไม่กล้า แล้วแกคิดจะเอาอะไรมาจัดการกับฉัน ?”

เฉินตงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา ขณะที่เผชิญหน้าอยู่กับเฉินเทียนเซิงที่แทบจะเป็นบ้า แววตาที่เขาใช้มองเฉินเทียนเซิงเต็มไปด้วยการดูถูกเยาะเย้ย

เฉินเทียนเซิงนิ่งไป

จู่ๆ เขาก็พบว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตัวเขาเองรู้สึกถึงความหวาดกลัว !

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาเป็นหัวกะทิของตระกูลเฉิน กระทั่งว่าเป็นถึงผู้สืบทอดมรดกที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งของตระกูลเฉินเลยก็ว่าได้

รัศมีนตัวของเขา ความหยิ่งผยองของเขา ทำให้เขามีความเชื่อมั่นว่าเขาอยู่เหนือผู้อื่น

แต่ตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินตง ซึ่งเป็นแค่ลูกนอกคอกคนหนึ่งของตระกูลเฉิน

เขา……กลับรู้สึกกลัว !

คนที่ก้าวเดินไปให้ถึงผลลัพธ์โดยไม่สนใจวิธีการ ถึงขั้นจัดวางตนเองเอาไว้ในแผนการ และไม่เกรงกลัวที่จะต้องทำร้ายตัวเอง คนเช่นนี้จะน่ากลัวแค่ไหนกัน ?

เฉินเทียนเซิงถามตัวเอง เขาไม่มีทางทำแบบเดียวกับที่เฉินตงทำได้ !

ไอ้ลูกนอกคอกคนนี้ มันบ้าไปแล้วจริงๆ !

เสียงล้มดังขึ้น !

เฉินเทียนเซิงล้มลงไปบนพื้นอย่าไร้เรี่ยวแรง เสียงดูถูกเยาะเย้ยของเฉินตง ดังก้องอยู่ในหู

ตอนนี้เอง ความมั่นใจในตัวเองของเขาถูกสั่นคลอนแล้ว

และสิ่งที่ตามมาคือ ความรู้สึกอัปยศอดสูที่หลั่งไหลมาเหมือนกับสายน้ำที่เชี่ยวกราด

หัวกะทิของตระกูลเฉิน ต้องมาพ่ายแพ้ให้ไอ้ลูกนอกคอกเช่นนี้หรือ ?

สมควรตายจริงๆ !

ไอ้ลูกนอกคอกนี่ สมควรตายจริงๆ !

“หึ ! ฉันจะฆ่าแก !”

ทันใดนั้นดวงตาก็เฉินเทียนเซิงก็เป็นสีแดงก่ำ เขาพุ่งเข้าไปหาเฉินตงด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

“เกมจบแล้ว”

เฉินตงเลิกคิ้วแล้วหันมองคุนหลุน : “ลงมือ !”

ตุ๊บ !

คุนหลุนก้าวเข้ามาแล้วพุ่งหมัดเข้าใส่เฉินเทียนเซิงทันที จนเขาลอยกระเด็นออกไป

หลังจากตกกระแทกลงบนพื้น หน้าอกของเฉินเทียนเซิงขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง “พรวด” เขากระอักเลือดออกมา สภาพเลวร้ายถึงขีดสุด

“ถ้าแกอยากจะสู้ ฉันก็จะยอมเล่นกับแกจนจบ แต่ถ้าหากแกทำร้ายคนที่ฉันต้องการจะปกป้องแล้วล่ะก็ ฉันจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้แกต้องตาย !”

กูหลังค่อยๆ ประคองเฉินตงขึ้นมา ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่แสดงถึงความเจ็บปวดออกมาเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าที่ซีดเผือดยังคงฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่เย้อหยันเฉินเทียนเซิงอยู่ตลอดเวลา

พูดจบ เขาก็พาคุนหลุนและกูหลังกลับออกจากวิลล่าไป

ด้านนอก ฟ้าฝนยังคงกระหน่ำและมีฟ้าผ่ารุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง

รถโรลส์-รอยซ์และรถบีเอ็มดับเบิลยูขับออกไปจากเขตวิลล่าเขาเทียนซานอย่างรวดเร็ว ภายใต้สายฝนที่ตกกระหน่ำอยู่

ภายในรถโรลส์-รอยซ์

ร่างกายของเฉินตงเปียกปอนไปด้วยฝน มือขวายังคงกุมอยู่ตรงบริเวณท้องที่ถูกมีดแทงเอาไว้แน่น เสื้อครึ่งตัวถูกย้อมด้วยเลือดจนเป็นสีแดง เพียงแต่เมื่อครู่ตอนที่เดินออกมาจากวิลล่า ถูกน้ำฝนชะล้างจนกระทั่งจางไปเล็กน้อย

แต่ก็ยังคงมีเลือดสดไหลออกมาเรื่อยๆ จากบาดแผล จนกระทั่งเสื้อกลายเป็นสีแดงสดอีกครั้ง

“คุณชาย อดทนเอาไว้นะครับ กำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้ว”

คุนหลุนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน

“ไม่ต้องรีบร้อน ฉันไม่เป็นอะไรมาก” เฉินตงยังยิ้มออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

คุนหลุนขมวดคิ้วแน่น เหมือนมีคลื่นลูกใหญ่กำลังถาโถมอยู่ภายในจิตใจ

ต่อให้เฉินตงจะกำหนดจุดที่จะให้กริชแทงเข้าไปเอาไว้แล้วว่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากสูญเสียเลือดเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวในตอนนี้ก็คือความใจเย็นของเฉินตง

ภายใต้การบาดเจ็บแบบเดียวกัน คุนหลุนเองก็สามารถใจเย็นเช่นนี้ได้เช่นเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพราะเขาผ่านการฆ่าคนมาอย่างโชกโชน การที่ต้องเหยียบย่ำศพของคนอื่นเพื่อให้ตนเองไต่เต้าขึ้นมานั้น ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีอุปนิสัยเช่นนี้

แล้วเฉินตงล่ะ ?

คุนหลุนสูดหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า : “คุณชาย อันที่จริงแล้วคุณวางแผนทั้งหมดเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหม ?”

“ไม่เช่นนั้นล่ะ ?”

รอยยิ้มของเฉินตงแฝงไปด้วยความเจ็บปวดจางๆ แววตาดูลึกซึ้ง : “ถ้าไม่กวนน้ำให้ขุ่น จะหลีกเลี่ยงกฎของตระกูลข้อนั้นได้อย่างไร ? ในเมื่อกล้าทำร้ายแม่ของฉัน ก็จะต้องชดใช้ ถึงต่อให้ฉันต้องชดเชยความผิดนี้ ฉันก็ไม่รู้สึกเสียดาย”

“วิธีนี้อันตรายเกินไปแล้ว แลกชีวิตหรือ……ถ้าหากเมื่อครู่เกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยตอนที่มีดแทงเข้าไป คุณชายก็คงจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นั่นแล้ว” ในใจของคุนหลุนยังคงรู้สึกกลัว

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินตงเริ่มมีความเจ็บปวดและจนใจผสมปนเปเข้ามามากขึ้น

เขาค่อยๆ หันหน้าออกไปมองฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่าง

“คุนหลุนเอ๋ย……ชีวิตนี้เกิดมาเหมือนกับความผิดพลาด เป็นอคติที่ฝังอยู่ในใจของทุกคน การที่คิดจะก้าวข้ามไปนั้นช่างยากลำบากเหลือเกิน !”

“ด้วยชาติกำเนิดของฉัน จำจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลเฉินด้วยความเสียเปรียบแทบทุกด้าน หากต้องการจะแก้แค้นให้แม่ ถ้าไม่ใช้วิธีเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้ นายว่าฉันยังมีวิธีไหนอื่นอีกหรือ ?”

“คุณชาย……” คุนหลุนรู้สึกสะเทือนใจ

เมื่อลองคิดดูดีๆ ก็ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ

เมื่อแม่ได้รับความอับอาย จึงจำต้องแก้แค้น

แต่เมื่อแก้แค้น ก็ต้องละเมิดกฎของตระกูล

จึงเหลือแค่เพียงวิธียอมเจ็บไปพร้อมกับศัตรู จึงจะสามารถทำทั้งสองอย่างให้สำเร็จได้

“วิธีการไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือผลลัพธ์”

รอยยิ้มของเฉินตงดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย : “ผู้ชนะถึงจะได้เป็นราชา สิ่งที่ต้องการก็คือผลลัพธ์ไม่ใช่หรือ ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset