Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 119 ประณามความผิดของอีกฝ่าย

บทที 119 ประณามความผิดของอีกฝ่าย

แสงอาทิตย์แรกสาดส่องมายังพื้นในช่วงเช้าตรู่

เฉินตงก็ลืมตาขึ้น แต่กลับพบว่าในห้องพักผู้ป่วยมีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน

ท่านหลงเอนกายอย่างเหนื่อยล้าอยู่บนโซฟาในห้องพักผู้ป่วย โดยใช้มือทำเป็นหมอนแล้วหลับตาพักผ่อนอยู่

เฉินตงรู้สึกยินดีขึ้นมาทันที

รีบหันไปส่งสายตาถามกูหลังที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า

“ท่านหลง คุณเฉินตื่นแล้ว”

กูหลังกลับตะโกนเรียกออกมาทันที

เฉินตงขมวดคิ้ว ที่เขาหันไปมองกูหลังเป็นเพราะไม่ต้องการรบกวนเวลาพักผ่อนของท่านหลง

ท่านหลงปรากฏตัวขึ้นในห้องพักผู้ป่วยแต่เช้าเช่นนี้ แสดงว่าจะต้องรีบเดินทางกลับมาโดยไม่ได้หยุดพักตลอดทั้งคืน

ท่านหลงลืมตาขึ้น เขาหันมองเฉินตงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณชาย ผมเป็นคนสั่งกูหลังเองว่า หากคุณตื่นแล้ว ให้ปลุกผมทันที”

เฉินตงพยักหน้า เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า : “ที่ตระกูลเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ?”

เรื่องของกฎตระกูล แน่นอนว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว

แต่ความวุ่นวายที่จะตามมาหลังจากนี้ ก็คงจะมีไม่น้อยเช่นกัน

ยังไงเสียเฉินเทียนเซิงก็เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ส่วนตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่ “ลูกนอกคอก” ในสายตาของคนตระกูลเฉินเท่านั้น

ถ้าเรื่องทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายเพียงเพราะการช่วยกันกวนน้ำให้ขุ่นของพ่อกับท่านหลงแล้วล่ะก็ เช่นนั้นเฉินเทียนเซิงก็คงไม่มีค่าพอที่จะอยู่ในฐานะของผู้สืบทอดมรดกหรอก

เมื่อได้ยิน

ท่านหลงก็ยิ้มออกมาอย่างหดหู่ : “ผมรีบเดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมาก็ด้วยสาเหตุนี้ เมื่อคืนคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเดินทางมาที่เมืองนี้”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ?

เฉินตงอึ้งไป ม่านตาของเขาหดลง

หลังจากตื่นตกใจแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาอย่างจนใจ : “คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินออกโรงเองมาแล้ว ฐานะของเฉินเทียนเซิงในตระกูลเฉินถือว่าไม่ธรรมดาเลย”

ม่านหลงก็รู้สึกจนใจและหดหู่จนหาที่เปรียบไม่ได้

ในตระกูลเฉิน ฐานะของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงมีอำนาจเปรียบประดุจดั่งไทเฮาที่คอยชักใยอยู่หลังม่าน

เธอไม่ได้เป็นผู้ควบคุมตระกูลเฉิน แต่ต่อให้เจ้าบ้านเอง ก็ยังต้องยอมอ่อนข้อให้แก่เธออย่างมาก

เพราะเจ้าบ้านเอง มีคำว่ากตัญญูค้ำคออยู่

ท่านหลงสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วพูดว่า : “ดังนั้นนายท่านจึงสั่งให้ผมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมา เพราะเป็นห่วงว่าคุณชายจะไม่สามารถรับมือกับคุณหญิงใหญ่ได้”

“เหอะ !”

เฉินตงหัวเราะเยาะออกมา : “การประณามความผิดของอีกฝ่าย เกรงว่าท่านหลงเองก็อาจจะรับมือไม่ไหวเช่นนี้ ?”ท่านหลงหัวเราะเยาะตัวเอง และไม่ได้โต้แย้งอะไร

เขาเป็นเพียงแค่คนรับใช้ของตระกูลเฉิน คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเดินทางมาเมืองนี้เพื่อประณามความผิดของอีกฝ่าย เขาเองก็ยากที่จะรับมือได้จริงๆ และไม่มีสิทธที่จะรับมือด้วย”

ที่เดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมานั้น ก็เพื่อที่จะมาอยู่เคียงข้างเฉินตง เกรงว่าเฉินตงจะทำเรื่องรุนแรงเกินกว่าเหตุจนทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โตจนยากจะแก้ไข

ท่านหลงพูดว่า : “นายท่าน……อาจจะตามมาด้วย”

คุณพ่อ ? !

เฉินตงผงะไป จู่ๆ ก็มีความคิดซับซ้อนวุ่นวายเกิดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด

จู่ๆ ในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด

ทั้งลังเล วิตกกังวล โกรธแค้น……ความรู้สึกทุกอย่างรวมเข้าด้วยกัน

ถ้าหากเขามาจริงๆ ฉัน……ควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรดี ?

ในใจของเฉินตกตอนนี้ ก็รู้สึกวิตกกังวลจนทำอะไรไม่ถูก

“คุณชาย ยังไงเสียก็จะต้องพบกัน”

ท่านหลงมองความคิดของเฉินตงออก จึงยิ้มอย่างอ่อนโยน : “เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ นายท่านเองก็กลัวว่าคุณจะไม่สามารถรับมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินได้”

“เขาจะมาถึงเมื่อไหร่ ?” เฉินตงถาม

“น่าจะเป็นคืนนี้” ท่านหลงตอบ “คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตัดสินใจได้เมื่อคืน และออกเดินทางในทันที ตระกูลเฉินใหญ่โตเช่นนั้น เจ้าบ้านจึงจำเป็นจะต้องจัดการเรื่องทุกอย่างภายในบ้านเอาไว้ให้เรียบร้อยทั้งหมดเสียก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถไปไหนตามอำเภอใจได้เหมือนกับคุณหญิงใหญ่”

เฉินตงพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนแล้วพูดว่า : “เรื่องนี้ ห้ามให้กระทบกระเทือนไปถึงคุณแม่โดยเด็ดขาด”

ตอนนี้แม่ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลได้สติขึ้นมาแล้ว คุนหลุนอยู่ที่นั่น จึงสามารถมั่นใจได้ว่าตอนนี้แม่จะไม่เป็นอะไร

แต่การกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันหลังจากที่เวลาร่วงเลยไปกว่ายี่สิบปีแล้วนั้น สำหรับแม่แล้วเขาไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจกันแน่

“เข้าใจแล้วครับ” ท่านหลงพยักหน้า

หลังจากพูดจบ

ประตูของห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก

มีผู้ชายสวมใส่ชุดสูทสีดำสามคนเดินเข้ามา

ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้กูหลังขมวดคิ้วแน่น และเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา

คนที่เป็นหัวหน้าพูดออกมาอย่างหนักแน่นว่า : “เฉินตง คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเรียกให้คุณไปพบ”

น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชา เป็นการแสดงออกถึงท่าทีว่าอยู่เหนือกว่า

มาเร็วขนาดนี้เลยหรือ ? !

เฉินตงและท่านหลงรู้สึกตกใจพร้อมกัน

“เรียกให้ไปพบ ?”

เฉินตงหัวเราะ แววตาที่ลึกซึ้งมองไปที่ชายที่อยู่ในชุดสูททั้งสามคน : “พวกนายคิดว่าอาการบาดเจ็บของฉันในตอนนี้ สามารถออกจากโรงพยาบาลได้อย่างนั้นหรือ ? เธอมาหาฉันเองได้”

ท่านหลงหางตากระตุก คำพูดนี้ของเฉินตงถือเป็นการท้าทายคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอยู่

ที่บอกว่า “เรียกให้ไปพบ” เป็นวิธีที่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจะใช้แสดงฐานะและตัวตนของเธอ แม้แต่ในตระกูลเฉิน เจ้าบ้านเองก็ยังต้องถูกเธอเรียกให้ไปพบ !

“เหอะ ! ตราบใดที่ยังไม่ตาย คุณก็จำเป็นต้องไปเข้าพบ” ชายในชุดสูทหัวเราะเยาะออกมา : “แต่ถ้าหากตายแล้วแต่คุณหญิงใหญ่ยังอยากพบอีกล่ะก็ ต่อให้พวกเราจะต้องหามโลงศพของคุณไปเข้าพบก็ต้องทำ”

เฉินตงหรี่ตาทั้งสองข้างลง รู้สึกเกิดความมืดหม่นขึ้นในจิตใจ

ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด ท่านหลงกลับชิงยกมือขึ้นคารวะเสียก่อน จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “เวลาสองทุ่ม ผมจะเป็นคนพาคุณชายไปเข้าพบคุณหญิงใหญ่เอง”

“คลับสี่ยิ่นนอกเมือง”

ชายในชุดสูททิ้งที่อยู่เอาไว้ให้ จากนั้นจึงพาคนกลับไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่พูดอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้เลยสักคำ

ท่าทีสูงส่งและหยิ่งผยอง ไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น

แม้แต่กับท่านหลงก็ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด

“ท่านหลง นายนี่เป็นคนรับใช้ที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่เลยนะ แม้แต่เด็กหนุ่มสามคนยังไม่ไว้หน้านายเลย” เฉินตงพูดติดตลก

เขาไม่เคยคิดที่จะหลีกหนีมาก่อน ในเมื่อคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเองก็มาถึงเมืองนี้แล้ว ต่อให้คิดจะหลบก็คงหลบไม่พ้น

ปฏิกิริยาเมื่อครู่ เป็นเพราะท่าทีของชายในชุดสูททั้งสามคน ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์นัก

ท่านหลงลูบคางอย่างจนใจ : “พวกเขาเป็นคนรับใช้คนสนิทของคุณหญิงใหญ่ อยู่ในตระกูลเฉินก็มีหน้าที่รับใช้คุณหญิงใหญ่โดยเฉพาะ ผมเป็นคนรับใช้คนสนิทของนายท่าน แน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าผม โครงสร้างภายในตระกูลเฉินนั้นสลับซับซ้อนจนยากเกินจะเข้าใจ”

ตอนนี้เอง แววตาของกูหลังซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็เป็นประกายขึ้นมาทันใด

“คุณเฉิน คลับสี่ยิ่นนี่……”

เฉินตงเลิกคิ้ว แล้วหันมองกูหลังด้วยความสงสัย

“นายจะบอกว่าคลับสี่ยิ่นนี้คือคลับส่วนตัวที่ผู้ชายที่มีอำนาจที่สุดในเมืองนี้คนนั้นเป็นคนเปิดใช่ไหม ?” ท่านหลงพูดพลางยิ้มออกมา

เขาถูกนายท่านส่งมาให้ช่วยสนับสนุนคุณชาย ตอนที่มาถึงนี่นี่ เขาก็ทำความเข้าใจกับสภาพต่างๆ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นอย่างชัดเจนในทันที”

หากอาศัยเครือข่ายที่ตระกูลเฉินมี เพื่อทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเลยสักนิด !

“ถูกต้อง !”

กูหลังพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ตอนแรกที่ผมยังอยู่ในโรงยิมมวยใต้ดิน เคยบังเอิญได้ยินเจ้าของโรงยิมมวยพูดว่า คลับสี่ยิ่นถือเป็นสุดยอดของคลับที่อยู่ในเมืองนี้ เกรงว่ามีเพียงแค่คนที่มีอำนาจอย่างโจวเย่นชิว โจวจุนหลงเท่านั้น ที่จะมีสิทธทำเรื่องขอเข้าไปข้างในได้”

“แม้แต่พวกของโจวเย่นชิวยังต้องทำเรื่องขอเข้าไปข้างในเลยหรือ ?”

เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างประหลาดใจ โจวเย่นชิว โจวจุนหลงถือว่ายิ่งใหญ่ค้ำฟ้าในเมืองนี้ แต่ภายใต้คำว่า “ใหญ่ค้ำฟ้า” นั้น ก็ยังต้องผ่านขั้นตอนการทำเรื่องขอด้วยหรือ?

แต่ทว่า ไม่ช้า สีหน้าของเฉินตงก็เคร่งขรึมขึ้นทันที ในแววตามีความคิดที่เป็นปรปักษ์ปรากฏขึ้น

“ถ้าหากอยู่ในนั้น การประณามความผิดของฝ่ายตรงข้าม ก็คงจะทำได้ยากแล้ว”

“เป็นเช่นนี้จริงๆ”

ท่านหลงพยักหน้า ใบหน้าปรากฏความรู้สึกที่ซับซ้อน : “ถ้าหากคนผู้นั้นมีอคติต่อคุณชายเพราะคุณหญิงใหญ่แล้วล่ะก็ ต่อไปธุรกิจของไท่ติ่งก็จะเจริญเติบโตในเมืองนี้ได้ยาก

เฉินตงขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดอย่างมีนัยว่า : “ถ้าหากโจวเย่นชิวเป็นคนรับหน้าที่นี้ ก็คงจะจัดการได้ง่ายกว่า”

ถ้าหากเป็นโจวเย่นชิว เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องกลัวเลยสักนิด เพียงแค่ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีรับมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่มังกรผู้ยิ่งใหญ่มาเท่านั้น แต่ยังมีไส้เดือนคอยสนับสนุนอยู่ด้วย หากเฉินตงถูกกดดันจากทั้งสองฝ่ายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ คงทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย

“ผมจะไปติดต่อนายท่าน” ท่านหลงรีบเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป

……

เวลาหนึ่งทุ่ม

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

เฉินตงและท่านหลงขึ้นรถโรลส์-รอยซ์พร้อมกัน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังคลับสี่ยิ่นที่อยู่นอกเมือง

คุนหลุนรับหน้าที่ขับรถ ส่วนกูหลังไม่ได้ตามมาด้วย

ฐานะของกูหลังไม่เหมาะที่จะพามาด้วย อีกทั้งจุดหมายที่มาในคืนนี้ก็เพื่อที่จะให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตำหนิความผิด หากมีคนเยอะเกินไปคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

ระหว่างทาง บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความกดดัน

สีหน้าของเฉินตงและท่านหลงเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ในมือของท่านหลงถือโทรศัพท์เอาไว้ แล้วคอยก้มหน้าลงไปมองเป็นระยะๆ

ทันใดนั้น คุนหลุนที่กำลังขับรถอยู่ก็ส่งเสียงออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด

“คุณชาย ท่านหลง ใกล้จะถึงคลับสี่ยิ่นแล้วครับ”

“ดี”

เฉินตงขานรับ จากนั้นจึงนั่งตัวตรง แล้วจู่ๆ ก็ยกหมัดขวาขึ้นมา

ตุบ !

เขาออกแรงต่อยไปที่บาดแผลที่ถูกพันเอาไว้อยู่

ใบหน้าของเฉินตงบิดเบี้ยว และส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ผ้าพันแผลที่พันปิดบาดแผลเอาไว้อาบไปด้วยเลือดสีแดงสด

“คุณชาย นี่คุณทำอะไรของคุณ ?”

ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้ท่านหลงตกใจจนหน้าซีด

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset