Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 121 คุกเข่า!

บทที่ 121 คุกเข่า!

น้ำเสียงที่เย็นเฉียบ ดังสะท้อนในห้องโถง

พริบตาเดียวทำให้อากาศในห้องเหมือนจะยึดเกาะติดกัน

วัยกลางคนที่มีจอนสีขาวม่านตาหด ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ท่านหลงกับคุนหลุนก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด

ท่านหลงรีบพูดกับเฉินตง: “คุณชาย ห้ามเสียมารยาท!”

พูดจบ เขาก็รีบพูดกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน: “คุณหญิงใหญ่ กระผมขอโทษท่านแทนคุณชาย ท่านโปรดอภัยด้วย”

“เห่อ!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินหัวเราะอย่างเย็นชาไปหนึ่งที มองก็ไม่มองท่านหลงที่อยู่บนพื้น แต่กลับจ้องตากับเฉินตง ค่อยๆหรี่ตาลง

มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าของเฉินตงนอกจากความเย็นชา ก็ไม่มีความรู้สึกอื่นๆเลย

สำหรับการจ้องตากับคุณหญิงใหญ่ ก็ยิ่งไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

ตั้งแต่เขาเข้ามาในห้องโถง ก็ได้ยินบทสวดที่คุณหญิงใหญ่กำลังสวดนั้นเป็นบทสวดมนต์ดั้งเดิมที่สวดให้กับคนตาย 《กษิติครรภโพธิสัตวมูลปณิธานสูตร》

แต่เขาที่โอ้อวดว่าเป็นคนที่มีความผิด มาเพื่อขอความเมตตา เพื่อให้คุณหญิงใหญ่ยอมถอยหนึ่งก้าว ดังนั้นจึงทนระงับความโกรธเอาไว้

แต่ว่าคุณหญิงใหญ่กลับสวดมนต์ตลอดเวลา ให้เขายืนเจ็บอยู่ตรงนี้ หากไม่ใช่เพราะท่านหลงมาขัด ไม่แน่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอาจจะสวดหนึ่งร้อยจบจริงๆก็ได้《กษิติครรภโพธิสัตวมูลปณิธานสูตร》

ระยะเวลาในการสวดหนึ่งร้อยจบ เพียงพอที่จะให้เขาเสียเลือดมากจนอาจถึงขึ้นเสียชีวิต

เขานั้นมาขอความเมตตาจริง

แต่เขาไม่ใช่คนที่จะมารักแกได้ง่ายๆ และไม่ใช่ว่าไม่ได้ไตร่ตรองมาก่อน

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินยังสวดบทคนตายให้กับเขา เขาจะอดทนทำไม?

ท่านหลงร้อนรนเหมือนกับมดที่อยู่บนเตา มองคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ตาก็แดงหมดแล้ว

ตอนที่เข้ามาในบ้าน ทำไมเขาจะฟังไม่ออกละว่าคุณหญิงใหญ่สวดบทสวดให้คนตาย?

แต่เขาไม่กล้าห้าม!

ถ้าหากไม่ใช่เพราะเห็นอาการของเฉินตงยิ่งอยู่ยิ่งแย่ คนที่เป็นคนรับใช้อย่างเขา จะกล้าพูดได้อย่างไร?

แต่คิดไม่ถึง เฉินตงนั้นก็ฟันออกว่ามันคือบทสวดที่สวดให้คนตาย อีกอย่างยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน เปิดเผยโดยตรง

แบบนี้ถือเป็นการลบหลู่อย่างมาก!

เวลานี้ คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินค่อยๆลุกขึ้น เดินไปด้านหน้าคอมพิวเตอร์ ปิดบทสวดมนต์ ก็หยุดทันที

ในห้องโถง เงียบเหมือนป่าช้า

ไม่ว่าจะเป็นท่านหลงหรือคุนหลุน หรือชายวัยกลางคนมีจอนผมสีขาว ต่างก็มองคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอย่างอกสั่นขวัญแขวน ถึงขึ้นเกือบจะหยุดหายใจ

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา: “ดีมาก ดีมาก ไม่เสียทีที่เป็นลูกของเต้าหลิน คาดเดาได้ยาก มีความกล้า ฉันมันคนแก่ที่ใช้การไม่ได้แล้ว ถึงได้ถูกแกเถียง”

แม้ว่าจะกำลังยิ้มอยู่ แต่ทุกคนก็สามารถรับรู้ได้ว่าคำพูดที่ออกมานั้นเชือดเฉือนมากแค่ไหน

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด ทันใดนั้นคุณหญิงใหญ่ก็หันมา สายตาเปล่งแสงออกมา จ้องบีบบังคับเฉินตงโดยตรง

“ในเมื่อแกยังรู้จักแทงตัวเองให้บาดเจ็บ เพื่อมาขอให้ฉันถอยหนึ่งก้าว งั้นฉัน ทำไมจะไม่สามารถสวดบทสวดคนตายให้แก?”

รูม่านตาของเฉินตงหดลง

เวลานี้ การเผชิญหน้ากับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน เขารู้สึกว่าเหมือนถูกมองจนทะลุปรุโปร่ง

เป็นเพราะเดาได้ว่าผมจะเปิดบาดแผล ดึงนั้นจึงจงใจสวดบทสวดสำหรับคนตาย?

ปีศาจจิ้งจอกชัดๆ!

“คุกเข่าลง!”

ทันใดนั้นคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยอำนาจ

เฉินตงขมวดคิ้ว ลังเลไม่แน่ใจ

สายตานั้นสับสนอย่างมาก มือขวาอดไม่ได้ที่จะกดแผลให้แน่น โกรธจนอยากที่จะสอดนิ้วเข้าไปในแผล

เข่าของลูกผู้ชายนั้นเหมือนมีทองคำ มีไว้คุกเข่าให้ฟ้าให้พ่อแม่เท่านั้น

หากเขาคุกเข่า ก็จะกลายเป็นคนที่ก้มหัวให้กำกับอำนาจของตระกูลเฉิน ไปโดยสิ้นเชิง!

และคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินนั้น มาเพื่อถามหาความผิดกับเขา!

“คุณชาย……รีบคุกเข่าลง”

ท่านที่หลงตาแดง กล่าวกับเฉินตงด้วยน้ำเสียงที่สั่งเครือ

ต่อให้ท่านหลงที่ปกตินั้นเป็นคนที่สงบเยือนเย็น เวลานี้ก็ไม่สามารถปกปิดสีหน้าที่หวาดกลัวไว้ได้

อยู่ในตระกูลเฉิน ฐานะคุณหญิงใหญ่สูงที่สุด

เวลานี้คุณท่านไม่อยู่ หากทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้ ต่อให้คุณท่านมา ก็จะไม่สามารถที่จะพลิกมันกลับมาได้อีก

เมื่อถึงเวลานั้น หากเฉินตงถูกคัดออกจากสิทธิ์ของผู้สืบทอด ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า!

“คุณชาย……….”

คุนหลุนอยากจะพูดแต่แล้วก็ไม่พูด ทำตากะพริบๆ

“ฮู้……….”

เฉินตงถอนหายใจอย่างแรง บนใบหน้าที่เยือกเย็นก็ได้ปรากฏขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ได้ ผมจะคุกเข่า!”

ตามมาด้วย เขาพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่แสนสาหัสจากแผลฉีกขาดที่หน้าท้อง

เวลานี้ ราวกับว่าเวลามันได้หมุนช้าลง

ใบหน้าที่ซีดซิวเซียวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในแววตา กลับเปล่งประกายเจิดจ้า

สองมือของเขา กำแน่นโดยไม่รู้ตัว จนเห็นเส้นเอ็นได้อย่างชัดเจน

ถึงขั้น กัดฟันแน่น จนเกิดเสียง

นี่คือการเหยียบหยาม!

เพราะการเกิดของเขาเทียบกับเฉินเทียนเซิงไม่ได้จึงได้นำมาซึ่งความอัปยศนี้

ต่อให้เขาไม่ยินยอมจะก้มหัวคุกเข่า แต่ไม่คุกเข่าก็ไม่ได้

คุกเข่าแล้ว ยังมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้ชนะ

หากไม่คุกเข่า สิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือความพ่ายแพ้ หรืออาจจะแย่กว่านั้น

พรึบ!

เข่าได้กระทบกับพื้น ทำให้หัวใจของเฉินตงสั่นสะเทือนไปหนึ่งที

เวลานี้ เฉินตงรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ

“ฉันนึกว่าแกเป็นคนกระดูกแข็ง เป็นคนที่มีความทระนง ที่แท้เข่าของแก็สามารถงอได้ด้วย?

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินที่มองลงมาจากข้างบน มองเฉินตงโดยรอบ สายตาที่เต็มเป็นไปด้วยความดูถูก “ทำร้ายหลานรักของฉัน แกควรจะถูกลงโทษยังไง?”

ท่านหลงร้อนรน “คุณหญิงใหญ่ เรื่องนี้ได้ตัดสินกันไปที่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ฮึ่ม!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินยกมือขึ้นห้าม ใบหน้าที่วางอำนาจ “รังแกหลานรักของฉันที่เกิดมาก็เป็นคนดีมีเมตตา แล้วยังอยากทำให้เรื่องวุ่นวายอีก คิดว่าฉันตายแล้วใช่มั้ย? ร่างกายที่แข็งแรงของหลานฉัน กลับถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแค่แทงตัวเองหนึ่งแผลก็สามารถจบเรื่องนี้ได้?”

คนดี?

มีเมตตา?

เฉินตงหัวเราะอย่างเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ

ลำเอียงแบบนี้ ยังจะมาถามหาความผิด!

“คุณหญิงใหญ่ คุณชายเฉินตงก็ได้แทงตัวเองไปแล้วหนึ่งแผลแล้ว อาการบาดเจ็บนี้ คุณมองไม่เห็นเลยเหรอ?”

ท่านหลงที่ตาแดง ทวงความเป็นธรรมให้กับเฉินตงด้วยร่างกายที่สั่นเทา

“บังอาจ แค่คนรับใช้ แกมีสิทธิ์พูดเหรอ?”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินคิ้วคว่ำลง ทำตาถลน เหลือบมองเฉินตงแวบหนึ่ง: “มันที่เป็นเพียงลูกสวะ มีสิทธิ์อะไรที่จะมาเรียกร้องความเสมอภาค? ครั้งที่แล้วเป็นเทียนหย่าง ครั้งนี้เป็นเทียนเซิง ไอ้ลูกสวะอย่างแก เก่งเหลือเกิน!”

รอยยิ้มหยันบนใบหน้าของเฉินตงยิ่งชัดขึ้น

ลูกสวะเหรอ?

ใช่ลูกสวะจริงๆ!

“คุณหญิงใหญ่ คุณชายเฉินตงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณท่าน เขาก็เป็นสายเลือดที่มีสิทธิ์ของตระกูลเฉินเหมือนกัน!” ท่านหลงตอนนี้ลืมห่วงฐานะที่ต่ำต้อยของตัวเองไปแล้ว

คำพูดของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน มันไม่ใช่ว่าเข้าข้างใครแล้ว และยิ่งไม่ใช่คนที่จะมาถามความผิดแล้ว

แต่อยากจะบีบเฉินตงให้ตายโดยตรง!

ในฐานะที่เป็นคนรับใช้ หากปกป้องเจ้านายไม่ได้ ยังจะเป็นคนรับใช้ได้อย่างไร?

“สถานะของตระกูลเฉินคืออะไร? เขาคืออะไร?”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจ้องมองท่านหลง มือเรียวยาวที่เหี่ยวแห้งชี้ไปที่เฉินตง มันก็แค่ลูกสวะที่เกิดกับนางแพศยาคนนั้น จะเป็นสายเลือดที่มีสิทธิ์โดยตรงของกูลเฉินได้อย่างไร?

“แต่………”

ท่านหลงอยากจะโต้แย้ง

คุนหลุนที่คุกเข่าอยู่ก็โกรธอย่างมาก ก็อยากที่จะโต้แย้ง

ในห้องโถง บรรยากาศตึงเครียดมา

แรงอาฆาตที่ดุเดือด

ชายวัยกลางคนที่มีจอนผมสีขาวกลับขมวดคิ้วอย่างแน่น มองเฉินตงด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

“พูดได้ดี!”

เฉินตงตะโกนพูด

พริบตาเดียว คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็อึ้งไปเลย ท่านหลงกับคุนหลุนก็อึ้งไปด้วย

จากนั้น ภายใต้สายตาของผู้คน

เฉินตงที่กุมบาดแผลไว้ ค่อยๆลุกขึ้นมา: “คุณพูดถูก กระดูกของลูกสวะ เป็นกระดูกเหล็ก ไม่สามารถที่จะงอได้!”

“แก…….แกคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” ทันใดนั้นคุณหญิงใหญ่โกรธจนตาจะถลนออกมาแล้ว

อยู่ในตระกูลเฉิน ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เคารพเธอแบบนี้มาก่อน!

อยู่ด้านนอก ยิ่งไม่มีใครกล้าล่วงเกินเธอเลย!

“ในเมื่อไม่ยอมรับผม เห็นผมเป็นลูกสวะ ดูถูกแม่ผมเป็นคนชั้นต่ำ แล้วกู……..ทำไมต้องคุกเข่าให้มึงด้วย?”

เฉินตงที่เต็มไปด้วยไฟโกรธ สายตาคมเหมือนมีด

เวลานี้ มีพลังน่าเกรงขาม

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset