Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 6 แพะรับบาป

บทที่ 6 แพะรับบาป

เช้าตรู่ หลินเสว่เอ๋อตื่นขึ้นมาจากความฝัน

ภายในห้องเหลือเพียงเธอแค่คนเดียว

เธอลุกขึ้นมานั่งด้วยความเมื่อยล้า ห่อตัวเข้าหาผ้าห่มอย่างโศกเศร้า เมื่อคืนอาการเมาค้างทำให้หัวของเธอยังไม่ค่อยมีสติ

ทันใดนั้น หางตาที่เหลือของเธอก็เหลือบไปเห็นแผ่นข้อความที่ตรงหัวเตียง

พอหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นก็ทำให้ความรู้สึกอดสูในใจของเธอนั้นระเบิดออกมาอีกครั้ง

“คุณ…….คงจะเคยเล่นโยคะมาก่อนใช่ไหม?”

ต่อให้เฉินตงจะไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงรู้สึกได้ถึงการล้อเลียนผ่านตัวอักษร

ขยุ้มผมอย่างกลุ้มใจ หลินเสว่เอ๋อมีความรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเอาความโมโหโยนไปไว้ที่ไหนได้แต่เก็บเอาไว้

แต่ว่าที่ทำให้เธอดีใจก็ดี อีกฝ่ายถึงกับทิ้งข้อความเอาไว้แบบนี้ อย่างนั้นเรื่องเมื่อวานก็คงจะนับว่ายกโทษให้แล้ว

และในเวลานี้พอดี หวางเห้าก็โทรมาหา

“เสว่เอ๋อ เสว่เอ๋อ เธอรีบๆล็อกอินเข้ามาดูคะแนนฉันสิ เมื่อคืนฉันน่ะสุดยอดมากๆเลยนะ ได้MVPติดกันสิบตาเลยล่ะ!”

น้ำเสียงตื่นเต้นในโทรศัพท์ของหวางเห้า ทำให้หลินเสว่เอ๋อเป็นบ้า แกคิดแต่เล่นเกม?

เธอระเบิดออกมาเลยทันที “หวางเห้า เธออายุเท่าไหร่แล้ว ยังไร้สาระขนาดนี้อีกเหรอ? ที่สั่งให้เธอไปเตรียมค่าสินสอดมา เมื่อไหร่เธอถึงจะเตรียมให้ฉันได้สักที? ตกลงนี่เธอยังอยากแต่งงานอยู่หรือเปล่า? จะมาสู่ขอฉันไหม?”

ปลายสายอีกฝั่งอย่างหวางเห้ารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เงียบไปไม่กี่วินาที ก็รีบพูดขึ้นมา “เสว่เอ๋อเธออย่าโกรธสิ ครอบครัวของเรากำลังพยายามเก็บเงินอย่างหนักอยู่ ต้องโทษไอ้เฉินตงคนชาติชั่วไร้ประโยชน์ เร็วๆนี้แหละ อีกไม่นานผมก็จะได้สู่ขอคุณแล้ว”

เฉินตง?!

ร่างกายอ้อนแอ้นของหลินเสว่เอ๋อสั่น คนเมื่อคืนก็ชื่อเฉินตงเหมือนกัน!

ตามความสามารถเดิม เธอเปิดปากถามขึ้น “ใครคือเฉินตง? เฉินตงที่เธอบอกมีเงินเยอะอย่างนั้นเหรอ?”

“มีเงินกับผีน่ะสิ!”

หวางเห้าด่าทอออกมา “เป็นพี่เขยไร้ประโยชน์ของผมเอง เป็นชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)คนหนึ่ง หลังจากที่พี่สาวของผมแต่งงานกับเขาก็ย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เขามีเงินก็สบายไปแล้ว”

หลินเสว่เอ๋อส่ายหน้า หัวเราะเยาะตัวเอง เฉินตงที่ออกมาจากปากหวางเห้า ชัดเจนเลยว่าไม่ใช่ผู้ที่ถือบัตรธนาคารลายดอกชงโคคนนั้น

“เสว่เอ๋อ เธอรอก่อนนะ พ่อแม่ของฉันกับพี่สาวของฉันกำลังช่วยฉันเก็บเงินอยู่ ไม่นานก็จะเก็บเงินครบแล้ว”

ปลายสายหวางเห้าที่พูดถึงเฉินตงขึ้นมา ดูเหมือนกรุ่นก็ปะทุขึ้นมาด้วยเหมือนกัน “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไอ้พี่เขยเฮงซวยคนนั้นของผม อ้อ ไม่ใช่ อดีตพี่เขยไร้ประโยชน์ ตอนนี้พวกเราสองคนก็คงจะมีงานเลี้ยงไปแล้ว”

“เกี่ยวอะไรกับเขา?” หลินเสว่เอ๋อสงสัย

“เขาแต่งงานกับพี่สาวผม ก็คือพี่เขยของผม ผมที่เป็นน้องชายจะแต่งงาน เขาก็ควรจะช่วยสักหน่อยไม่ใช่เหรอ? เขากลับกันเลย มัวแต่เอาเงินไปเททิ้งไว้กับแม่ที่กำลังจะตายที่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่ไม่ช่วยผม แถมยังหย่ากับพี่สาวผมอีก เธอว่าเขาชาติชั่วหรือไม่ชาติชั่ว?”

ริมฝีปากแดงเรื่องของหลินเสว่เอ๋อขยับ อยู่ๆก็มีความรู้สึกเหมือนกินแมลงวันเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

เธอพูดขึ้นอย่างเสียอารมณ์ “เอาอย่างนี้ก่อนแล้วกัน เมื่อคืนฉันทำงานล่วงเวลามาทั้งคืน ขอนอนก่อน” จากนั้นก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง

เวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น เฉินตงไปๆกลับๆระหว่างบ้านเช่ากับโรงพยาบาล ทุ่มเทไปกับการดูแลมารดา

หลังจากที่เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายตับ ร่างกายของมารดาก็กำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง จากการตัดสินของแพทย์ ไม่นานก็สามารถที่จะกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว

ส่วนเรื่องของหลินเสว่เอ๋อ เขาไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

เรื่องในคืนนั้น เป็นแค่เพียงความคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเจอเข้ากับหวางเห้า บวกกับถ้าไม่ใช่เพราะหวางเห้ามาพูดจาเย้ยหยันดูถูกเหยียดหยามเขา เขาก็ไม่มีทางที่จะใช้หลินเสว่เอ๋อเป็นเครื่องโจมตี

วันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เฉินตงดูแลแม่มาทั้งคืน เตรียมที่จะกลับบ้านไปพักผ่อนสักครู่ เพิ่งจะเดินออกมาจากโรงพยาบาล ก็มีสายจากบริษัทเรียกเข้า

“เฉินตง มึงแม่งไปตายห่าที่ไหนแล้ว?” เพิ่งจะรับสาย อีกฝั่งของสายก็มีเสียงแหลมดังของผู้ชายดังขึ้น

คิ้วของเฉินตงขมวดเข้าหากัน ปลายสายของโทรศัพท์เป็นเจ้านายของเขาที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เจ้าหลี่

ในตอนแรกที่แม่ป่วยหนัก เขาไปขอเจ้าหลี่หยุดงานหนึ่งสัปดาห์ ช่วงเวลานี้มีเรื่องเข้ามาติดกันทีละเรื่องๆ จนทำให้ลืมเรื่องที่หยุดงานไปเสียสนิท

“ขอโทษครับเจ้าหลี่ แม่ของผมเข้าโรงพยาบาล” เฉินตงพูด

“ตายหรือยัง? แม่ของมึงตายหรือยัง? ยังไม่ตายมึงก็กลับมาทำงานเดี๋ยวนี้!”

เจ้าหลี่ดูเหมือนว่าได้ตะโกนออกมาแล้ว “แม่มึงสิ มึงขอลาหนึ่งอาทิตย์ ทุกเรื่องก็เป็นกูทั้งนั้นที่ทำ วันๆนึงกูแม่งช่วยเช็ดก้น(ช่วยตามล้างตามเช็ด)ให้มึง มึงรีบๆกลับมาเดี๋ยวนี้ มาจัดการงานพวกนั้นให้เสร็จ!”

ปั่ก!

สายตัดไปแล้ว

“เช็ดก้น? ตกลงใครช่วยใครเช็ดก้นกันแน่?”

เฉินตงหัวเราะเย้ยหยันออกมา แววตามีแววเย้ยชา

เขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ ตอนที่อยู่ในโรงเรียนคะแนนแต่ละวิชาล้วนแต่อยู่อันดับต้น ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงแม่กับฐานะทางบ้าน เขามีความสามารถที่จะโดนส่งไปเรียนต่อเมืองนอกได้ ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่กว้างขึ้น

หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็สมัครเข้าทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ เวลาสั้นๆสามปี ก็ได้เข้ามาในลำดับชั้นผู้ดูแลแล้ว กลายเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของบริษัท

ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ว่าเพราะข้างบนมีเจ้าหลี่เป็นรองผู้จัดการ เวลาสามปี ความสำเร็จของเขาไม่ได้อยู่แค่จุดๆนี้แน่

ส่วนที่เจ้าหลี่สามารถที่จะปกปิดความสามารถของเขาเอาไว้ได้ง่ายดายนั้น เหตุผลก็เป็นเพราะ เจ้าหลี่เป็นน้องเขยของเจ้าของบริษัท

เพียงแค่งานระดับนี้พร้อมกับคอนเนคชั่น ก็มากพอที่จะทำให้คนที่ไร้ความสามารถ รู้จักแต่คั่วสาว หละหลวมที่จะปฏิบัติตามกฎอย่างเจ้าหลี่สามารถอยู่ได้อย่างมั่นคงเหมือนภูเขาไท่

ไม่กี่ปีมานี้ เรื่องเล็กๆน้อยๆของบริษัท เรื่องไหนกันที่ไม่ใช่เขาแก้ไข?

เจ้าหลี่ที่ใช้ก้นตัดสินใจ ปัญหามากมายที่ก่อ ครั้งไหนที่ไม่ใช่เขาไกล่เกลี่ยอยู่ด้านหลัง?

ที่ตลกไปกว่านั้น เจ้าของบริษัทก็ยังเอาแต่จะเชื่อ “ความสามารถ” ของเจ้าหลี่ ทำให้สองสามปีมานี้เขาจะต้องเป็นแพะรับบาปให้เจ้าหลี่มานับไม่ถ้วน

ในบริษัท พนักงานแอบตั้งฉายาให้เขาว่า “แพะรับบาป”

ถ้าไม่ใช่เพราะตำแหน่งผู้ช่วยรองสวัสดิการดี เขาจำเป็นที่จะต้องดูแลแม่ไปด้วย แล้วก็ต้องอุ้มครอบครัวของหวางหนันหนันไปด้วย เขาก็คงจะลาออกไม่ทำไปตั้งนานแล้ว

หยิบบัตรธนาคารดอกชงโคออกมาจากกระเป๋ากางเกง แววตาของเฉินตงก็วาววับขึ้น หัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว “บัตรใบเดียวก็มีเงินสดพันล้าน ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดคนที่เอาเงินมาชดเชยแบบคุณมากๆ แต่ว่าจำเป็นต้องบอกเลยว่า มีเงินทำให้คนมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มีทางเลือกที่มากขึ้นนะ”

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เฉินตงเดินเข้าไปในบริษัทด้วยความรีบร้อน ทั้งโดนเจ้าหลี่บิดหู หยิกแก้มลากตัวเข้าไปในห้องทำงานของรองผู้จัดการ

“ปัง” เสียงประตูห้องทำงานปิดลง เจ้าหลี่นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยใบหน้าหงุดหงิด เท้าทั้งสองข้างวางเอาไว้บนโต๊ะ ซ้อนขาเอาไว้ด้วยกัน ท่าทางกลุ้มอกกลุ้มใจจุดซิการ์

เฉินตงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่สูบบุหรี่ แล้วก็เกลียดกลิ่นบุหรี่มาก

“ถ้าเกิดว่ากูไม่โทรศัพท์ไป สงสัยมึงคงจะตายอยู่ด้านนอกไม่กลับมาแล้วใช่ไหม?” เจ้าหลี่พ่นควันบุหรี่ออกมา หัวเราะเย้ยหยันออกมา มือซ้ายลูบไปบนหัวล้านที่ด้านบนหัว

“ไม่ใช่ครับ เป็นเพราะว่าเรื่องของแม่ผมจริงๆ ยุ่งจนไม่มีเวลาแล้ว” เฉินตงพูด

ที่จริงเจ้าหลี่ก็อายุแค่สี่สิบกว่าปี เพียงแต่ลุ่มหลงในตัวหญิงสาว ร่างกายโดนใช้งานจนกลวง อายุยังน้อยก็หัวล้านเสียแล้ว

“เหอะๆ!”

เจ้าหลี่หัวเราะเยาะอีกเล็กน้อย หรี่ตาแล้วว่าขึ้น “เฉินตงเอ๋ย อย่าว่ากูที่เป็นพี่ชายที่ไม่ยอมเตือนมึงสักหน่อย แม่ของมึงนั่นก็คือไอ้คนขี้โรค สองปีมานี้เรื่องของแก พี่ชายนั้นรู้ดีอยู่ แทนที่จะผูกชีวิตตัวเองเอาไว้กับคนแก่แบกรับความลำบาก ไม่สู้ปล่อยให้เขาจากไปดีเสียกว่า มึงเองก็จะได้เอาใจมาใส่กับงานทั้งหมด”

แววตาของเฉินตงมีประกายดุร้ายออกมา อดกลั้นความโมโห ถามขึ้น “คุณรีบให้ผมกลับมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”

แปะ!

เจ้าหลี่โยนเอกสารชุดหนึ่งลงบนโต๊ะ พูดขึ้นเย็นชา “ตอนบ่ายพี่เขยของฉันจะมาตรวจงานที่บริษัท นี่เป็นสัญญาที่ก่อสร้างย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง คิดอะไรไม่ออกแล้ว ตอนแรกเรื่องนี้เป็นมึงที่ต้องไปคุย มึงลางานกูเลยต้องออกหน้า เรื่องนี้จะโทษมึงเลย!”

“พวกหญิงโสเภณีอีกฝ่ายดื่มกันเก่งโคตรๆ มอมเหล้าจนกูมึน ทรมานกันอยู่ทั้งคืน ทำให้กูต้องเซ็นสัญญาราคาสูงลิ่วฉบับนี้”

เฉินตงไม่ได้อ่านสัญญา เรื่องเดิมๆ เจ้าหลี่ทำมาไม่ใช่แค่ครั้งแรก

แค่เบียร์ไม่กี่แก้วลงท้อง ช่วงเวลาทั้งคืน ไม่ต้องพูดถึงสัญญาราคาสูงลิบ ต่อให้เซ็นต์สัญญาธรรมดา เขาล้วนไม่แปลกใจ

เห็นว่าเฉินตงไม่ขยับ เจ้าหลี่วางเท้าทั้งสองข้างลง ยืดหลังนั่งตัวตรง “เรื่องนี้ แกรู้ใช่ไหมจะต้องทำยังไง?”

“ต้องการให้ผมเป็นแพ้รับปากอีกแล้วเหรอครับ?” เฉินตงหรี่ตาลง ในดวงตามีแววหาเรื่อง

ปัง!

เจ้าหลี่ตบมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ พูดออกมาอย่างโมโห “พูดบ้าอะไรออกมา? อะไรคือแพะรับบาป? นี่ฉันกำลังดูแลแกอยู่ ยกย่องแก แกเป็นใครมีความสามารถที่จะมาทำเรื่องนี้? เฉินตงไม่ใช่ว่าฉันจะว่าแก เป็นคนเนี่ยก็ต้องรู้จักทดแทนบุญคุณ แกเพิ่งจะจบมาแค่สามปี ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ฉันที่ดูแลแก พึ่งแค่ความสามารถของแก แกสามารถที่จะมานั่งอยู่ในจุดๆนี้ได้เหรอ?”

เฉินตงโมโหจัดจนหัวเราะกลับไป กูแม่งโคตรขอบใจมึงเลย!

ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะมึงดูแล กูก็เป็นรองผู้จัดการไปตั้งนานแล้ว

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset