Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 123 พ่อผมดุมาก!

บทที่ 123 พ่อผมดุมาก!

ในห้องโถง เสียงของเฉินเต้าหลินดังสะท้อนทั่วห้อง

น้ำเสียงที่เรียบผิดปกติ กลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะโต้แย้ง

ท่าทางที่น่าเกรงขามแบบนี้ มีเพียงเจ้าบ้านตระกูลเฉินเท่านั้น!

สีหน้าของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินขุ่นมัว ร่างกายที่ค่อนข้างผอมสั่นเทา กัดฟันเอาไว้

เฉินเต้าหลินถึงจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน แต่ก็เป็นรุ่นหลานของเธอ

คนที่อายุน้อยกว่า เถียงเธอที่เป็นผู้อาวุโส มันหมายความว่ายังไง?

แบบนี้มันทำให้เธอไม่มีทางลงเลย และได้ขยี้หน้าของเธอแหลกละเอียดเป็นผุยผง

ท่านหลงกับคุนหลุนตื่นเต้นดีใจ ดวงตาที่แดงได้มองไปเงาคนที่อยู่ด้านหลังลานป่าไผ่

คำพูดของเฉินเต้าหลิน เห็นได้ชัดว่าต้องการปกป้องเฉินตง!

แต่เป็นชายวัยกลางคนที่มีจอนผมสีขาว ในเวลานี้สีหน้าก็ปรากฏด้วยความประหลาดใจ

เฉินตงนั้นรอดแล้ว

จู่ๆก็รู้สึกอยากจะร้องไห้

พ่อคนนี้ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน…….ดุขนาดนี้เลยเหรอ?

“เฉินเต้าหลิน ในฐานะที่นายเป็นเจ้าบ้าน พูดกับผู้อาวุโสด้วยน้ำเสียงแบบนี้เหรอ?”

น้ำเสียงที่ออกมาจากซอกฟันของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน “ความกตัญญูของตระกูลเฉิน นายเอาไปไว้ที่ไหนแล้ว?”

“น้าสามมีอะไรจะแนะนำมั้ย?” ทันใดนั้นเสียงของเฉินเต้าหลินก็เผยให้เห็นถึงความล้อเล่น

“ลูกสวะคนนี้ ต่อต้านและเถียงฉัน ดื้อรั้นอกตัญญู แกที่เป็นเจ้าบ้านไม่ปฏิบัติตามกฎของบ้าน กลับปกป้องความผิด ต่อไปจะทำให้คนอื่นเชื่อฟังได้อย่างไร”

ทันใดนั้นคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ชี้ไปที่เฉินตง พลังที่ทรงอำนาจของเธอพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ในบ้านตระกูลเฉิน กฎของครอบครัวนั้นเข้มงวดมาก ความกตัญญูเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้

นี่คือสิ่งสาเหตุที่ทำให้ตระกูลเฉินดำรงอยู่มาเป็นเวลานาน ตั้งตระหง่านโดยไม่ล้ม อยู่ในที่สูงสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

“ความดื้อรั้นนี้มาจากไหน? หากไม่ใช่เพราะคุณบีบบังคับ ลูกชายผมจะกล้าเถียงคุณ? เขานั้นแทงตัวเองแล้วมาขอให้คุณอภัย คุณในฐานะผู้อาวุโส ทำอะไรลงไป?”

ทันใดนั้นน้ำเสียงอของเฉินเต้าหลินเคร่งขรึม

รูม่านตาของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเปล่งประกายด้วยแสงแปลกๆ เขามองชายวัยกลางคนที่มีจอนผมสีขาวอย่างรังเกียจ

ชายวัยกลางคนมีท่าทีที่อึ้งเล็กน้อย รีบก้มหัวลง

ในห้องโถง อากาศเหมือนกับถูกจับตัวเป็นก้อน

บรรยากาศตึงเครียดมาก

เฉินตงก็ไม่พูดแทรกอีก เขาเข้าใจ การถามหาความผิดครั้งนี้ เป็นศึกของพ่อกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินแล้ว

และแล้ว วินาทีต่อมา คำพูดเดียวของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน กลับทำให้หัวใจของเฉินตงเหมือนถูกหยิกอย่างแรง

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกัดฟันพูด “หากวันนี้ฉันต้องลงโทษลูกสวะคนนี้ให้ได้ล่ะ?”

แรงอาฆาตที่ดุเดือด

น้ำเสียงเหมือนสายลมหนาวที่พัดมาจากแดนไกล

คำพูดนี้พูดออกมา อุณหภูมิในห้องเหมือนถูกลดลงไปหลายองศา

“เห่อๆ!”

เฉินเต้าหลินหัวเราะ “น้าสามคิดว่าผมยังคงเป็นเต้าหลินเมื่อหลายปีก่อน ถูกบีบบังคับจนต้องทิ้งลูกทิ้งบ้านเพื่อกลับบ้านตระกูลเฉินอีกเหรอ? น้าสาม ตระกูลเฉินในวันนี้……..ผมถึงจะเป็นผู้ที่มีสิทธิ์พูดสิทธิ์ในการตัดสินใจ!”

“ในเมื่อผมเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน จะยอมให้คุณมาทำร้ายลูกเมียผมอีกเหรอ?”

น้ำเสียงเผด็จการ ไม่ยอมแม่แต่น้อย

ตู๊ม!

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโกรธถึงสุดขีด จึงตบโต๊ะด้วยความโมโห

“เฉินเต้าหลิน วันนี้ฉันจะให้นายมองดูลูกสวะคนนี้ตายอยู่ตรงหน้าของนาย!”

พูดจบ คุณหญิงใหญ่ก็ได้ตะโกนไปทางประตู “เด็กๆ มาฆ่าเฉินตงลูกสวะคนนี้ซะ!”

พริบตาเดียว

คนรับใช้ที่สนิทของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินที่รออยู่ในสวนก็พุ่งเข้ามาในห้องโถง

“คุนหลุน!”

เฉินเต้าหลินตะโกนอย่างเสียงดัง

ในความเป็นจริง ก่อนที่เฉินเต้าหลินจะพูด ร่างสูงตระหง่านคล้ายหอคอยของคุนหลุนก็ได้ยืนตระหง่านอยู่ที่หน้าประตูห้องโถงแล้ว

ความกดดันจากร่างที่สูงใหญ่ ทำให้คนรับใช้ที่สนิทสามคนของของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินหยุดนิ่งไปทันที

“เฉินเต้าหลิน!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินสั่นไปทั้งตัว จ้องมองด้วยแววตาที่โกรธแค้น ไม่เหลือคราบความสง่างามอย่างปกติอีกเลย

“ฉัน ยังไม่ตาย!”

เสียงโกรธที่สะท้อน แสบหูอย่างมาก

“น้าสาม เฉินตงเป็นลูกของผม!”

เฉินเต้าหลินค่อยๆพูดขึ้น “หากคุณยืนยันที่จะทำแบบนี้ ผมก็ไม่ถือสาที่วันนี้ในห้องไหว้บรรพชนของตระกูลเฉิน จะมีป้ายวิญญาณเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอัน!”

น้ำเสียงเย็นเฉียบ ดังเหมือนเสียงฟ้าผ่า

ใบหน้าของเฉินตงเต็มไปด้วยความสยดสยอง และมีคลื่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นในใจของเขา

คนโหด!

พ่อผมดุมากจริงๆ!

คำพูดนี้ พูดเพื่อที่จะฆ่าคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโดยตรง!

ได้มองข้ามกฎของตระกูลเฉินไปแล้วทั้งหมด!

พริบตาเดียว ทุกคนล้วนอึ้งกันไปหมด

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเฉินเต้าหลินจะพูดคำพูดที่เผด็จการแบบนี้ออกมา

“ฉัน…………” คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินพยายามอั้นความโกรธเอาไว้ หน้าอกกระพือขึ้นลงอย่างรุนแรง

แต่ไม่รอให้เธอพูดจบ

เสียงของเฉินเต้าหลินก็ดังขึ้น “น้าสาม น้ากับผมก็ไม่ได้เป็นญาติที่สนิทกันขนาดนั้น หากคุณทำตามข้อสรุปที่เราคุยกันในบ้าน ผมเฉินเต้าหลินยังคงนับถือคุณน้าเหมือนเดิม หากคุณยังดึงดันต่อ เชงเม้งปีหน้า ผมที่เป็นผู้นำตระกูลเฉินก็จะไปจุดธูปให้คุณที่สุสาน!”

โครม!

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโกรธอย่างมาก ลูกตาแทบกระเด็นออกมา ทุบโต๊ะด้วยความโมโห แล้วก็ด่าขึ้นมาทันที

“ได้ เฉินเต้าหลิน ไม่เสียทีที่นายเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน!”

“ลูกสวะที่เย่อหยิ่งป่าเถื่อนแบบนี้ ช่างเหมาะที่จะเป็นผู้สืบทอดของนายจริงๆ!”

“เมื่อก่อนฉันตาบอดเอง ถึงได้ให้นายเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน!”

……

เสียงด่าที่เกรี้ยวกราดแสบหู ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเหมือนคนที่ไร้เหตุผลด่าคนตามท้องถนน

ทำให้คนที่มองอยู่ต่างตกตะลึง ไม่กล้าที่จะเชื่อ

เวลาครู่ใหญ่

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็สะบัดมืออย่างโมโห “พวกเราไป!”

จ้องมองเฉินตงอย่างดุดันแวบหนึ่ง เดินออกไปจากห้องโถงด้วยความโกรธ พาคนรับใช้ที่สนิทสามคนเดินจากไป

“พวกน้าๆ……..คิดว่าฉันเฉินเต้าหลินกินเจจริงเหรอ?” เฉินเต้าหลินที่อยู่ด้านหลังลานป่าไผ่หัวเราะหนึ่งที

ตามมาด้วย

ในห้องโถงก็กลับสู่ความเงียบสงบ

ชายวัยกลางคนที่มีจอนผมสีขาวยิ้มเล็กน้อย หันหน้ายกมือคารวะไปทางเฉินเต้าหลินที่อยู่หลังลานป่าไผ่

“เจ้าบ้านเฉิน ผมของตัวก่อนแล้ว”

“ขอบคุณท่านเมิ่งที่มาในวันนี้”

“ที่ไหนกัน สามารถรับใช้เจ้าบ้าน เป็นบุญของผม”

ชายวัยกลางคนนที่มีจอนผมสีขาวยิ้มแล้วส่ายหัว จริงๆแล้วเฉินเต้าหลินได้มาถึงที่คลับสี่ยิ่นนานแล้ว เขาก็รู้ เพียงแต่ได้ทำตามที่เฉินเต้าหลินกำชับ จึงไม่ได้บอกให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินทราบ

จึงได้มีภาพที่เฉินเต้าหลินรออยู่ที่หลังลานไผ่ ทำให้เห็นเรื่องราวทั้งหมดได้ชัดเจน

ชายวัยกลางคนหันกายเดินจากไป ขณะที่เดินเฉียดกับเฉินตงนั้น ดวงตาที่ลึกๆของเขา ยิ้มและทำท่าคารวะให้กับเฉินตง

“ขอบคุณครับ” ใบหน้าที่ซีดเซียวของเฉินตงปรากฏด้วยรอยยิ้ม พยักหน้าเป็นการตอบ

หลังจากที่ชายวัยกลางคนจากไปแล้ว ในห้องโถงก็เงียบสงบอีกครั้ง

อารมณ์ที่สับสนซับซ้อนของเฉินตงมองไปเงาคนที่อยู่ด้านหลังลานป่าไผ่

เงาคน ที่ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย

แต่กลับใช้คำพูดที่เผด็จการที่สุด มองข้ามกฎของตระกูล ไล่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินออกไป

ภาพแบบนี้ เฉินตงเคยคาดหวัง

อีกทั้งคาดหวังมาตั้งยี่สิบกว่าปี!

ครู่ใหญ่

เฉินตงก็ยิ้มขึ้นมา “ไม่ออกมาเหรอ?”

“ฉันไปก่อนละ”

เฉินเต้าหลินจู่ๆก็กล่าวขึ้น ก้าวเท้าเดินไปทางนอกห้องโถง

ทันใดนั้นภาพนี้ ก็ทำให้เฉินตงอึ้งไปทันที

ใบหน้าของท่านหลงกับคุนหลุนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

มาก็มาแล้ว จะไม่เจอกันหน่อยเลยเหรอ?

“ฉันหวังว่าการเจอกับนายครั้งแรก จะเป็นวินาทีที่นายเดินเข้ามาในบ้านตระกูลเฉิน!”

น้ำเสียงของเฉินเต้าหลินดังมาจากระยะไกล จบแล้วตามมาด้วยเสียงไอที่รุนแรง

“คุณท่าน สุขภาพของคุณ………”

สีหน้าของท่านหลงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วถาม

“ไม่เป็นไร!”

เสียงของเฉินเต้าหลินยิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป

สายตาที่ลึกๆของท่านหลง หันมามองเฉินตง

เมื่อหันมามอง เขาก็อึ้งไปทันที

เฉินตงในเวลานี้ ดวงตาบวมแดงเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้า

เขาไม่ได้วิ่งออกตามออกไป แต่กลับตั้งใจมองท่าทางของเฉินเต้าหลิน

และยืนอยู่ตรงที่เดิม พร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ บ่นพึมพำไปหนึ่งประโยค “สารเลว!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset