Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 125 เสี่ยวเฉินตงนั้นไม่เลว!

บทที่ 125 เสี่ยวเฉินตงนั้นไม่เลว!

“ตื่นเต้น?” ท่านหลงถาม

เฉินตงยิ้มๆ “คุณทายดู?”

ท่านหลงลูบคางเบาๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “คุณชาย ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องเจอกันอยู่ดี”

เฉินตงหน้าดำคร่ำเครียด ไม่มีคำพูด

เพียงแต่ หากพูดว่าไม่ตื่นเต้น มันก็โกหกแล้ว

แม้ว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย จะเคยเห็นพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งก็ตาม

แต่ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว

ตอนนั้นเจอในฐานะของเพื่อน แต่วันนี้เจอในฐานะของแฟน

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังผ่านการหย่าร้างมาอีก

มันเพียงพอที่จะทำให้ภาพเขาที่อยู่ในใจของพ่อแม่กู้ชิงหยิ่ง ถูกหักคะแนนไปมาก

ครั้งที่แล้วที่กู้ชิงหยิ่งจากไป ทั้งสองคนก็คุยสื่อสารกันน้อยอยู่แล้ว ตอนนี้เจอมากัน ยังต้องเจอพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งด้วย

ครั้งนี้ มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างอีก?

เฉินตงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย

ขายโครงการอสังหาริมทรัพย์พร้อมกันทั้งสามโครงกัน เฉินตงสามารถรักษาความสงบในใจได้

แต่การเจอกู้ชิงหยิ่งอีกครั้ง กลับทำให้ใจเขาไม่สามารถสงบลงมาได้

ท่านหลงที่อยู่ด้านข้างมองเฉินตงที่ขมวดคิ้ว ท่าทางที่ตื่นเต้น หัวเราะพูด

“คุณชายท่าทางตอนนี้ของคุณ เหมือนกับสมัยที่พ่อของคุณตอนไปเจอครอบครัวของแม่คุณเลย”

“พ่อแม่ของฉัน?”

เฉินตงมองไปท่านหลง

ท่านหลงตกใจ แววตาเปล่งประกายไปครู่เดียว จากนั้นก็ยิ้มแล้วยกมือห้าม “ล้วนเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง”

ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงจริงเหรอ?

ในใจเฉินตงมีความสงสัย

เพราะไม่มีพ่อตั้งแต่เด็ก สำหรับอดีตของพ่อแม่ น้อยมากที่จะไปทำความเข้าใจ

ท่านหลงพูดถึง ทันใดนั้นก็ทำให้เขาสนใจขึ้นมา

แต่ท่านหลงนั้นได้หยุดหัวข้อสนทนานี้ทันที เห็นได้ชัดว่ามันมีความหมายที่ลึกซึ้ง

เช้าวันรุ่งขึ้น

ความสนใจของคนทั้งเมือง ล้วนอยู่ในขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่ฝั่งตะวันตกของเมือง

หลังจากผ่านกันโฆษณามาระยะหนึ่ง คนที่อยู่ในเมืองต่างก็รู้นานแล้วว่าไท่ติ่งที่อยู่ฝั่งตะวันตกของเมืองจะขายโครงการอสังหาริมทรัพย์สามโครงการพร้อมกัน

ครั้งที่แล้วที่โครงการหลงถิงฮัวหยวนขายหมดในวันเดียว ภาพยังคงชัดเจน

วันนั้นเพิ่งจะผ่านไปไม่นานเอง?

ก็จะมีการพรีเซลล์อีกครั้งแล้ว อีกอย่างมันคือสามโครงการ!

วันนี้ราคาบ้านของฝั่งตะวันตกของเมือง ต่อให้ขายพร้อมกันสามโครงการ ก็ไม่มีผลกระทบต่อกระแส

ครั้งที่แล้วหลงถิงฮัวหยวนขายหมดในวันเดียว มันทำให้คนที่เตรียมตัวจะซื้อบ้าน ต้องผิดหวังกลับบ้าน

และครั้งนี้ พรีเซลล์สามโครงการพร้อมกัน ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ที่ผิดหวังเลือดในตัวกลับมาพลุ่งพล่านอีกครั้ง

การมาซื้อบ้านของทุกคน เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ฟรี

เพียงแต่ มันเหมือนกับสิ่งที่พวกของเฉินตงคาดการณ์เอาไว้เลย

พรีเซลล์โครงการทั้งสามโครงการในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้ความสนใจถูกกระจายตัวออกไปจริงๆ

สิ่งนี้ยังนำไปสู่ความจริงที่ว่า โครงการทั้งสามแห่งได้รวบรวมผู้ซื้อและผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่บรรยากาศของโครงการทั้งสามแห่งเทียบไม่ได้กับการต่อคิวยาวเหยียดที่หน้าหลงถิงฮัวหยวนในครั้งที่แล้ว

หลังจากจบพิธีตัดริบบิ้น เฉินตงกลับไปที่บริษัทไท่ติ่งโดยตรง

นั่งอยู่นั่งจอคอมพิวเตอร์ ใส่ใจกับข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์ที่ส่งมาจากโครงการทั้งสามแห่ง

แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะไม่ระเบิด แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในสภาวะนี้การขายแบบนี้ การขายหมดก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

“พี่ตง กระแสครั้งนี้เทียบไม่ได้กับหลงถิงฮัวหยวนจริงๆ คาดว่านักข่าวก็คงไม่รู้จะสร้างกระแสข่าวยังไงแล้ว”

เสี่ยวหม่ารู้สึกเซ็งเล็กน้อย เมื่อคิดถึงบรรยากาศการพรีเซลล์ที่ร้อนแรงที่ได้รับความสนใจจากคนทั้งเมืองครั้งที่แล้ว ใจเขาก็รู้สึกเคว้งคว้างเล็กน้อย

เดิมหากพรีเซลล์ครั้งละหนึ่งโครงการ บรรยากาศที่ร้อนระอุก็จะสามารถเกิดขึ้นได้อีกหลายครั้ง!

นี่เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการโชว์ศักยภาพของไท่ติ่งในเมืองนี้!

“การโชว์ศักยภาพเพียงครั้งเดียวก็พอแล้ว”

เฉินตงยิ้มอย่างอิสระ และชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “ตัวเลขการขาย ถึงจะเป็นสิ่งที่ต้องไขว่คว้า ร่ำรวยอย่างเงียบๆ คือวิถีแห่งราชา”

เสี่ยวหม่าก็ได้ตามเฉินตงสังเกตข้อมูลตัวเลข สำหรับสถานการณ์การพรีเซลล์โครงการทั้งสามแห่งก็เป็นที่น่าพอใจ

เพียงแต่คำพูดของเฉินตง เขายังมีจุดที่ไม่ค่อยเข้าใจ “แต่ว่าการที่ให้ไท่ติ่งโชว์ศักยภาพอีกสักสองสามครั้ง ให้สื่อรายงานข่าวเยอะหน่อย มันน่าจะเอื้อให้ภาพลักษณ์ของไท่ติ่งของเราถูกฝังรากลึกในใจของผู้คนไม่ใช่เหรอ?”

“ต้นไม้ใหญ่ง่ายต่อการถูกลมโค่น!”

เฉินตงเอ่ยคำพูดประโยคนี้ด้วยดวงตาที่ลึกๆ จากนั้นก็ดูข้อมูลตัวเลขในคอมพิวเตอร์ต่อไป

และเสี่ยวหม่าก็ก้มหน้าอย่างครุ่นคิด

ก็อยู่ในช่วงเวลาของการพรีเซลล์ของโครงการทั้งสามแห่ง

ด้านหน้าหนึ่งในโครงการ รถเบนซ์จิ๊บสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามา บนถนนที่ไม่ไกลจากตัวโครงการ รถก็ได้หยุดลง

เมื่อกระจกรถถูกเลื่อนลงมา ชายวัยกลางคนผมหงอก หวีผมไปด้านหลังทั้งหมด ใบหน้าที่แลดูน่าเกรงขาม ยื่นหัวออกมา

มองดูสำนักงานขายที่เต็มไปด้วยผู้คน

ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย “เจ้าหมอนี่ บริหารจัดการได้ไม่เลวเลย”

“พ่อคะ อะไรไม่เลวเหรอ เฉินตงครั้งนี้ทำเรื่องโง่ๆแล้ว”

ในรถ น้ำเสียงที่ต่อว่าก็ดังขึ้น “พรีเซลล์ครั้งก่อนได้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งเมือง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน คราวนี้กลับไม่ใช้โอกาสตีเหล็กในขณะที่กำลังร้อนอยู่ ยังจะมีพรีเซลล์โครงการสามโครงการในเวลาเดียวกัน นี่ไม่ใช่เพราะโลภเหรอ? ถ้าเราสามารถทำพรีเซลล์ให้ได้กระแสร้อนแรงซ้ำอีกครั้ง ไท่ติ่งของเขาก็จะเป็นที่จดจำของคนทั้งเมือง “

“อ้อ คลิปดูวิดีโอนั้นพ่อเคยดูทางอินเทอร์เน็ตแล้ว การแสดงความรักกับลูกน้อยที่น่ารักของพ่ออย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้น มันดังไปทั้งเมืองแล้วจริงๆ”

ชายวัยกลางคนหัวเราะและพูดติดตลก “มันใช่พรีเซลล์ที่ดังในเมืองที่ไหนกันล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกสาวของพ่อที่ดังไปทั้งเมือง!”

“พ่ออะ……..”

น้ำเสียงที่ความโกรธนั้นไม่รู้จะทำยังไงดี

“คุณนี่มันหน้าไม่อายจริงๆเลย มีที่ไหนกันล้อเล่นกับลูกสาวแบบนี้เหรอ?” มีเสียงที่อ่อนโยนแฝงด้วยความโกรธเล็กน้อยดังขึ้น

ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงดัง เลื่อนกระจกรถขึ้นมาอีกครั้ง

รถเบนซ์จิ๊บค่อยๆถูกสตาร์ทขึ้น

และในรถ ชายวัยกลางคนก็ได้หยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ้นมาดู

ยิ่งดู รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น

พยักหน้าเป็นระยะ

ด้านข้าง มีผู้หญิงสองคนมองอยู่เงียบๆ

หนึ่งในนั้น ที่น่าประหลาดใจมันคือ……….กู้ชิงหยิ่ง

และคนที่อยู่ข้างกายกู้ชิงหยิ่ง ก็คือสาวสวยคนหนึ่ง มีเสน่ห์น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือหน้าตาซึ่งไม่มีริ้วรอยของกาลเวลาหลงเหลือไว้เลย

หากคนอื่นมาเห็น ไม่คิดว่าเขาทั้งสองเป็นแม่ลูกอย่างแน่นอน กลับคิดว่าเขาสองคนเป็นพี่น้องกัน

ในความเป็นจริง เมื่อคืนกู้ชิงหยิ่งและพ่อแม่ของเธอได้กลับมาถึงเมืองนี้แล้ว

เพียงเพราะอยู่กับพ่อแม่ บวกกับเฉินตงกำลังยุ่งการเรื่องพรีเซลล์ ดังนั้นกู้ชิงหยิ่งก็เลยไม่ได้บอกเฉินตงทันที

เช้านี้ เป็นคุณพ่อที่เสนอ อยากจะมาดูสถานการณ์การพรีเซลล์ในโครงการของเฉินตง

จากนั้น ก็เลยมีภาพอย่างในตอนนี้

“พ่อคะ ทำไมพ่อถึงชื่นชมเจ้าทึ่มนั่นจัง?” กู้ชิงหยิ่งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เพราะความโลภมาก จึงยอมทิ้งความคิดเห็นแรงผลักดันของคนทั้งเมืองที่มีต่อไท่ติ่ง ในมุมมองของเธอ วิธีการทำงานของเฉินตงนั้นโง่มาก

เค้กชิ้นใหญ่ขนาดนี้อย่างเมืองฝั่งตะวันตก ค่อยๆปล่อยออกมาทีละนิด ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องยอดขายเลย ในทางกลับกันมันสามารถทำให้ไท่ติ่งค่อยๆซึมเข้าไปในใจของคนในเมืองนี้

ธุรกิจหากอยากให้มันเติบโตในระยะยาว การยอมรับของคนในสังคมและมีภาพลักษณ์ที่ดี ต่างก็ขาดไม่ได้เลย

แต่แล้ว ปฏิกิริยาของคุณพ่อ ทำไมจึงไม่ค่อยปกตินัก?

“เจ้าลูกโง่!”

ชายวัยกลางคนลูบผมของกู้ชิงหยิ่งอย่างอ่อนโยน แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต้นไม้ใหญ่ดึงดูดลม ปืนก็จะยิงนกที่โผล่หัวออกมา การโชว์ศักยภาพที่มากเกิน กลับจะนำหายนะมาสู่ตัวเอง”

เขาชี้ไปที่โครงการที่กำลังขายกันอย่างดุเดือดที่อยู่ด้านนอก แล้วกล่าว “ฝั่งตะวันตกของเมืองตอนนี้ก็คือเค้กที่หอมกรุ่น มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่อยากได้มัน ถ้าหากทำให้เป็นมันเป็นที่สนใจครั้งแล้วครั้งเล่า มันเพียงแต่จะทำให้คนที่อยากได้เกิดความอิจฉา ไม่กลัวโจรมันขโมยของแต่กลัวโจรมันฝังใจ

“สนามธุรกิจก็เหมือนกับสนามรบ คนที่คอยจะแทงข้างหลังนั้นมีมากมาย ลูกว่าการโชว์ศักยภาพนั้นดี หรือว่าเอาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเงียบๆดีกว่าละ?”

พูดจบ ชายวัยกลางคนก็ลูบที่คาง แล้วยิ้มๆ

“เสี่ยวเฉินตงคนนี้ไม่เลว เมื่อก่อนตอนที่พ่อเห็นเขา ทำไมถึงไม่รู้สึกว่าเด็กคนนี้จะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลขนาดนี้?”

เมื่อได้ยินพ่อของเธอชื่นชมเฉินตง กู้ชิงหยิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง มีความรู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติ

เธอกะพริบตา แล้วพูดว่า “แล้วพ่อกับแม่ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเจอเขาเมื่อไหร่?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset