Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 128 คนไม่จริงใจ? เชิญนายออกไปจากที่นี่!

บทที่ 128 คนไม่จริงใจ? เชิญนายออกไปจากที่นี่!

โครม!

คำพูดนี้ทำให้คนตะลึงกันไปหมด

พริบตาเดียวบรรยากาศในห้องโถงเหมือนจะเกาะตัวเป็นก้อน

ท่าทีของกู้โก๋ฮั้วก็ดูเย็นชา

สีหน้าแม่ของกู้ชิงหยิ่งก็ไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติแล้ว

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“คุณอาเจิ้ง เฉินตงไม่มีทางที่จะเอาภาพเขียนปลอมมาเป็นของขวัญ” กู้ชิงหยิ่งรีบพูดแทนเฉินตง

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินตงมาพบคุณแม่คุณแม่

ด้วยฐานะของเธอ พ่อแม่นั้นไม่ได้ใส่ใจของขวัญที่เฉินตงมอบให้นั้นต้องมีราคาแพง ถ้าหากของขวัญเป็นของปลอม ก็มีความหมายที่แตกต่างออกไป!

นี่ไม่กลายเป็นการคนที่ไม่จริงใจและไม่ให้เกียรติเหรอ?

“ใช่ เหล่าเจิ้ง นายช่วยดูให้มันละเอียดๆหน่อย อย่าพูดไปเรื่อย” ผู้อำนวยการหลิวก็ได้พูดต่อจากกู้ชิงหยิ่ง

เขานั้นรู้ตัวตนที่แท้จริงของเฉินตง คนที่มีฐานะแบบนี้ จะให้ของปลอมได้อย่างไร?

ต้องเป็นเจิ้งโก๋โส่วที่ดูผิดอย่างแน่นอน!

ท่านเมิ่งก็พูดขึ้น “เหล่าเจิ้ง เมื่อกี้แกมองไปแค่แวบเดียวเอง นายต้องดูผิดอย่างแน่นอนเลย นายมันเป็นคนดื้อรั้น เวลาใจร้อนเคยฟังใครที่ไหน?”

“ใครเป็นคนพูด?”

เจิ้งโก๋โส่วถลึงตาใส่ท่านเมิ่ง

แต่เขาเป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมเลยนะ เป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก แค่ภาพหนึ่งภาพก็สามารถประมูลได้ในตัวเลขเจ็ดหลักขึ้นไป

เขาหมกมุ่นอยู่กับการวาดภาพมานานหลายสิบปี และได้ศึกษาเกี่ยวกับการเขียนอักษรจีนและภาพวาดโบราณนับไม่ถ้วน

ภาพเขียนตัวอักษรโบราณธรรมดาๆ เขาที่มองแค่แวบเดียวอาจจะเกิดความผิดพลาดได้

แต่ว่านี่เป็นภาพเขียนของถังป่อหู่《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》เขาแยกความแตกต่างระหว่างจริงของปลอม แค่แวบเดียวก็เพียงพอแล้ว!

“นาย……..”

ท่านเมิ่งหนังตากระตุกอย่างแรง เหลือบมองเฉินตงโดยไม่รู้ตัว พูดกับเจิ้งโก๋โส่ว “นายมันไอ้คนดื้อรั้น วันนี้เป็นวันที่เสี่ยวหยิ่งพาแฟนมาเจอผู้ใหญ่ นายเป็นบ้าอะไร?”

ลูกชายเจ้าบ้านตระกูลเฉิน จะมอบภาพปลอมได้อย่างไร?

ล้อเล่นอะไรกัน!

หากเรื่องนี้ทำให้เฉินตงโกรธ ตระกูลเฉินมีคำสั่งลงมา ต่อให้เหล่าเจิ้งจะเป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรม ก็ต้องหยุดงาน!

“เหล่าเมิ่ง ทำไมนายมาโทษฉันล่ะ?”

เจิ้งโก่วโส่วพูด้วยสีหน้าที่จริงจัง “นายเห็นฉันเจิ้งโก่วโส่วทำให้ฟรีเหรอ? ฉันดูถูกไอ้หมอนี่เจอเหล่ากู้สองสามีภรรยาก็ให้ภาพปลอม มีคำพูดที่ว่าของขวัญไม่ได้อยู่ที่แพงแต่อยู่ที่ใจ ไม่มีปัญญาให้คนแพง งั้นก็มอบของที่มีราคาถูกหน่อยก็ได้!”

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนเตาไฟ ใจตื่นแรงมาก

ทั้งสองคนสบตากัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

เห็นได้ชัดว่าเหล่าเจิ้งกำลังทำเรื่องที่อันตรายต่อตัวเอง หาเรื่องตาย!

แต่เขาสองคนนั้นรู้นิสัยที่ดื้อรั้นของเหล่าเจิ้งดี หากมันมีความเกี่ยวข้องกับภาพวาด มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านไปได้!

ทันใดนั้น

“คุณอาเจิ้ง โปรดชี้แนะด้วย” เฉินตงยิ้มแล้วกล่าวด้วยสีหน้าที่สงบ

ภาพวาดภาพนี้ท่านหลงเป็นคนเตรียมให้เขา ตอนที่ได้มันมา เขาก็ไม่ได้เปิดออกมาดู

แต่เขาเชื่อว่า ของที่ท่านหลงเอาให้ ไม่มีทางที่จะเป็นของปลอม!

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวก็นิ่งไปพร้อมๆกัน

“เห่อ!ความสามารถในการรับมือกับเรื่องแบบนี้เก่งไม่เบาเลยนะ”

เจิ้งโก๋โส่วหัวเราะอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและกล่าวว่า “ก็ดี ฉันจะทำให้นายตายอย่างชัดเจน นายเอาภาพปลอมมาเล่นต่อหน้าฉัน มันก็เหมือนคนที่อวดเก่งต่อหน้าคนที่เก่งกว่า!”

พูดจบ เขาก็ได้ทำท่าคารวะไปทางกู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยา

“เหล่ากู้ ขออภัยด้วย”

กู้โก๋ฮั้วยิ้มๆ แล้วพยักหน้า

จากนั้น สายตาที่เขามองไปทางเฉินตงก็มีความเย็นชา

เดิมทีสถานะของเฉินตง ก็ทำให้ความประทับใจในตัวเขานั้นถูกลดลง

ต่อให้วันนี้เฉินตงจะบริหารไท่ติ่งจนมีชื่อเสียง ชื่อเสียงเพียงแค่นี้ มันก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของกู้โก๋ฮั้ว

นอกจากความคิดอ่านของเฉินตง ที่ทำให้กู้โก๋ฮั้วพอจะชื่นชมอยู่บ้าน

แต่ภาพปลอมภาพนี้ กลับทำให้ความรู้สึกดีๆที่มีต่อเฉินตงหมดไปเลย

กู้ชิงหยิ่งกลัวอย่างมาก จับมือของเฉินตงเอาไว้แน่นๆ ฝ่ามือของเธอนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

เธออยากจะอธิบาย แต่เรื่องราวมันได้บานปลายมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถช่วยได้แล้ว!

เหล่าเจิ้งหยิบ《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง พูดอย่างมีหลักการ “《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》เป็นผลงานของถังป่อหู่ ด้วยชื่อเสียงของถังป่อหู่ในแวดวงการภาพเขียน เมื่อสามปีก่อนราคาตลาดของภาพเขียนนี้อยู่ที่ยี่สิบสี่ล้านหกแสนสี่หมื่นหยวน! “

โครม

คำพูดนี้พูดออกมา คนที่อยู่ในห้องโถงล้วนตกตะลึงกันไปหมด

แม้ว่าทุกคนจะไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับภาพวาดที่เก็บสะสม

ด้านภาพเขียนอักษร ยิ่งไม่มีใครที่จะเข้าใจได้เหมือนกับเหล่าเจิ้งที่เป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมจีนอีกแล้ว

ภาพหนึ่งภาพราคายี่สิบกว่าล้าน หากเป็นของจริง ของขวัญนี้ก็ใหญ่เกินไปแล้ว!

ก็ทำให้เฉินตงตกใจเหมือนกัน ท่านหลงก็ใจกว้างเกินไปแล้ว เอาของขวัญที่ให้เขามอบให้กับคนอื่น ในราคายี่สิบกว่าล้าน!

จากนั้น เขาก็ยิ้มขึ้นมา “คุณอาเจิ้ง ตอนนี้แม้ว่าผมยังประสบความสำเร็จไม่เท่ากับคุณอาที่นั่งอยู่ตรงนี้ แต่ว่าของยี่สิบล้าน ผมก็สามารถมอบให้ได้อยู่”

“อายุน้อยๆ คุยโวเก่งเหมือนกันนะ!”

คิ้วของเหล่าเจิ้งคว่ำลง ใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาดูดุร้ายและโกรธเล็กน้อยในเวลานี้

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหว เมื่อคิดถึงสถานะของเฉินตง ยี่สิบล้านมันก็ไม่เท่าไหร่จริงๆ

ขณะที่เธอกำลังจะช่วยเฉินตงพูดนั้น

จู่ๆเหล่าเจิ้งก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วถามเฉินตง “หรือว่านายได้ยินไม่ชัดเจน ราคาภาพเขียนที่ฉันพูดถึงเมื่อกี้คือราคาของเมื่อสามปีก่อน?”

“ได้ยินชัดเจนแล้ว” เฉินตงพยักหน้าอย่างใจเย็น

“ตัวเลขราคายี่สิบสี่ล้านหกแสนสี่หมื่นหยวน นายคิดว่าฉันรู้ได้อย่างไร?”

ดวงตาของเหล่าเจิ้งกะพริบๆ เขายิ้มอย่างเย็นชา พูดอย่างเฉียบขาด “นั่นเป็นเพราะตอนที่ภาพนี้ถูกประมูล ฉันอยู่ในที่เกิดเหตุ มันถูกประมูลไปในราคายี่สิบหกล้านสี่แสนหยวน มันถูกผู้ลึกลับท่าหนึ่งประมูลไป !”

“อีกอย่าง ภาพเขียนนี้เมื่อสามปีก่อนที่ถูกประมูลไป ก็ไม่เคยปรากฏอีกเลย นายที่อายุยังน้อย หรือนายจะบอกฉันว่า ตอนนั้นคนที่ประมูลภาพนี้คือนาย?”

โครม!

ร่างกายของกู้ชิงหยิ่งสั่นสะท้าน สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เมื่อสามปีที่แล้ว…….พอดีเป็นปีที่เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน

เฉินตงในตอนนั้น จะมีเงินยี่สิบกว่าล้านมาซื้อรูปภาพภาพนี้ได้อย่างไรกัน?

หรือว่า……..มันจะเป็นของปลอมจริงๆ?

พริบตาเดียว กู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกหน้ามืด ใจเหมือนโดนควักออกไปแล้ว รู้สึกว่างเปล่าที่ไม่รู้จะพูดยังไง

การแสดงออกของกู้โก๋ฮั้วก็เย็นชามาก

เขาไม่สงสัยคำพูดของเหล่าเจิ้งเลย

เหล่าเจิ้งเป็นปรมจารย์ด้านจิตรกรรม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เขาก็ได้พูดถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ปลอมได้ยังไง?

“เฉินตง อาคิดไม่ถึงเลยว่านายจะเป็นคนที่หน้าซื่อใจคดแบบนี้!”

กู้โก๋ฮั้วกล่าวด้วยเสียงที่ต่ำ “ตอนนั้นที่อาเจอนายนั้น นายยังเป็นเด็กที่จริงใจและฉลาดอยู่เลย!”

“คุณอากู้……..” ท่าทีของเฉินตงลนลานเล็กน้อย

“นายยังมีอะไรอยากจะพูดอีก?”

กู้โก๋ฮั้วโบกมือด้วยความโกรธ “เสี่ยวหยิ่งชอบนาย ดังนั้นฉันจึงรับปากกับแม่ของเธอเพื่อมาเจอนายสักครั้ง ด้วยฐานะของฉันกู้โก๋ฮั้ว ฉันไม่ได้สนใจมูลค่าของของขวัญที่นายให้ แต่ขอแค่จริงใจ นายเอาของแบบนี้มา ต้องการอะไร? เพื่ออยากจะบอกฉันว่าความรู้สึกที่นายมีต่อเสี่ยวมันเป็นความรู้สึกจอมปลอมงั้นเหรอ?”

“เหล่ากู้ พูดให้มันน้อยๆหน่อย ถ้าหากเป็นเพราะเฉินตงไม่ทันระวังแล้วดูผิดไปล่ะ?” ผู้อำนวยการหลิวรีบช่วยพูด

ท่านเมิ่งสะกิดเหล่าเจิ้งเบาๆ แล้วก็ขยิบตาให้เขา “เหล่าเจิ้ง นายดูไปเพียงแวบเดียว มันจะดูแม่นขนาดนั้นเลยเหรอ ลองดูอีกครั้งซิ ดูให้ละเอียดๆ ถ้าหากนายดูพลาด แล้วเป็นการใส่ร้ายเฉินตงล่ะ?”

เขารู้ฐานะของเฉินตง ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เห็นภาพที่เจ้าบ้านตระกูลเฉินพูดว่าจะเชิญป้ายวิญญาณของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปไว้ในห้องโถงไหว้ป้ายบรรพชนของตระกูล

หากเป็นคนอื่นที่มอบภาพนี้ ท่านเมิ่งต้องเลือกที่จะเชื่อเหล่าเจิ้งอย่างแน่นอน

แต่คนที่ให้ภาพเขียนนั้นเป็นเฉินตง ภาพนี้จะปลอมได้อย่างไร?

ทั่วทุกมุมโลก ไม่มีภาพวาดที่ตระกูลเฉินจะหามาไม่ได้?

“เหล่าเมิ่ง นายกำลังสงสัยฉัน อย่ามาโทษที่ฉันโกรธนายละ!” เหล่าเจิ้งก้าวร้าว มองท่านเมิ่งอย่างโกรธเคือง “ของปลอม ฉันบอกแล้วไงว่าภาพนี้มันเป็นของปลอม ไม่มีทางที่จะจริงอย่างแน่นอน!”

ท่านเมิ่งสมองว่างเปล่าทันที ทนไม่ได้จนต้องตบหน้าอกตัวเอง

ในเวลานี้

กู้โก๋ฮั้วก็กล่าวด้วยความโกรธ

“เฉินตง เชิญนายออกไปจากที่นี่!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset