Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 131 ฟ้าถล่มแล้ว

บทที่ 131 ฟ้าถล่มแล้ว

หลังกลับจากเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

เฉินตงก็ได้รับโทรศัพท์ตามมาอีกสองสาย ซึ่งได้แก่สายจากผู้อำนวยการหลิวและสายจากท่านเมิ่ง

ทั้งสองล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักที่คบหากันมานานของเจิ้งโก๋โส่ว เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ จึงเกรงว่าหากเฉินตงทำการสืบสวนเข้า ด้วยอำนาจที่เขามีจะต้องเป็นการทำลายชีวิตที่เหลืออยู่ของเจิ้งโก๋โส่วอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงคิดที่จะโทรมาเพื่อขอความเมตตาให้กับเจิ้งโก๋โส่ว

หลังจากที่เฉินตงแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาไม่คิดที่จะติดใจเอาความ ทั้งสองถึงได้โล่งใจ

หลังจากวางสายโทรศัพท์ ถือว่าทุกอย่างก็สงบลง

เฉินตงล้มตัวลงนอนด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขามีฐานะของคุณชายเฉินตงคอยค้ำคออยู่ เห็นทีว่าในคืนนี้ ภาพวาดของจริงซึ่งเป็นฝีมือถังป่อหู่ คงจะถูกเจิ้งโก๋โส่วกล่าวหาว่าเป็นของปลอมอย่างแน่นอน เขาเองก็คงยากที่จะอธิบายให้ชัดเจนได้

คำว่าชาติกำเนิดช่างเป็นคำที่น่ารังเกียจและน่าเบื่อหน่ายสิ้นดี

ถ้าหากเจิ้งโก๋โส่วรู้ฐานะของเขาตั้งแต่ต้น ต่อให้ภาพที่เขานำไปจะเป็นของปลอม เขาก็สามารถพูดจนกระทั่งกลายเป็นของจริงได้ ?

สองวันหลังจากนั้น ทุกอย่างอยู่ในความสงบ

การเปิดขายบ้านล่วงหน้าทั้งสามตึกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เป็นไปตามที่เฉินตงคาดการณ์เอาไว้ ถึงแม้จะไม่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากทั่วทั้งเมือง แต่การเปิดขายให้หมดภายในหนึ่งสัปดาห์ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสักเท่าไหร่นัก

นี่คือสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด ตอนนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งยังถือว่ามีขนาดที่เล็กมากเกินไป

หากไม่นับรวมถึงหุ้นที่มีอยู่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งมีอย่างมากสุดก็แค่ มีโอกาสได้ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของเมืองนี้เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วยังถือว่าห่างไกลมากกับอันดับที่หนึ่งของเมือง

โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เดิมทีเป็นโครงการที่ยืดเยื้อกันมานาน แต่เพราะเขาได้รับการเอื้ออำนวยจากตระกูลเฉิน จึงสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้

ถ้าหากยอดขายอสังหาริมทรัพย์สามารถขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้อีกครั้ง ก็คงจะทำให้คนในวงการเดียวกันที่เหลือ ต่างก็ต้องรู้อิจฉาตาร้อนอย่างแน่นอน

ถ้าหากมีใครคิดอย่างได้ส่วนแบ่งจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ลำบากพอตัว

เขาสามารถพึ่งพาอำนาจของตระกูลเฉินเพื่อทำให้เขามั่นคงได้ แต่เขาเองก็รู้ดีว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น มีเพียงแค่การพัฒนาและเติบโตของตัวเขาเองเท่านั้น ถึงจะทำให้เขาสามารถเดินเข้าไปในตระกูลเฉินได้อย่างเต็มภาคภูมิ และทำให้แม่ของเขาได้รับความรุ่งโรจน์กลับคืนมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้น จึงจะเป็นเวลาที่เขาสามารถครอบครองอำนาจของตระกูลเฉินเอาไว้ในมือได้อย่างแท้จริง

ก่อนจะถึงเวลานั้น ด้วยความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนและความขัดแย้งอย่างลับๆ ที่มีอยู่ภายในตระกูลเฉิน เขาคงไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉินทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้น

หากในระหว่างนี้ มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้นในตระกูลเฉิน ประกอบกับการที่มีคนในแวดวงเดียวกันคอยอิจฉาริษยาอยู่ สำหรับเขาแล้วคงจะกลายเป็นปัญหาใหญ่พอดู

การที่เขาค่อยๆ พยายามอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงค่อยสร้างความประหลาดใจให้ปรากฏแก่สายตาของทุกคน สิ่งนี้ถึงจะเป็นสิ่งที่เขายินดีที่จะเห็นและยินดีที่จะลงมือทำมากที่สุดในตอนนี้

สองวันมานี้ กู้ชิงหยิ่งเองก็มาหาเขาอยู่หลายครั้ง เขาเองก็ตอบรับด้วยความอดทน เกรงว่าสาวน้อยคนนี้จะคิดว่า เขายังคงโกรธเรื่องที่เกิดในผับสี่ยิ่นคืนนั้น

ในความเป็นจริงแล้วกู้ชิงหยิ่งเองก็คิดเช่นนี้จริงๆ ไม่ว่าเฉินตงจะอธิบายเช่นไร สาวน้อยคนนั้นก็ไม่ยอมเชื่อ

ถึงขั้นว่าต้องการจะมาที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งด้วยตนเอง แต่ถูกเฉินตงปฏิเสธเสียก่อน

หลายวันมานี้ เขาจดจ่ออยู่กับเรื่องของการเปิดขายบ้านล่วงหน้าทั้งสามตึกเท่านั้น จึงไม่สามารถแยกตนเองออกไปทำเรื่องอื่นได้อีก

ยังดีที่ในที่สุดกู้ชิงหยิ่งก็ยอมละทิ้งความคิดที่จะมาบริษัท หลังจากได้ฟังคำพูดโน้มน้าว

เช้าตรู่ของวันนี้

ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง

ขณะที่เฉินตงกำลังฝึกฝนร่างกายอยู่กับคุนหลุน ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามา

“พี่ตง รีบดูข่าวเร็วเข้า เกิดปัญหาใหญ่แล้ว !” ในสายโทรศัพท์เป็นเสียงของเสี่ยวหม่าที่กำลังพูดด้วยความร้อนใจเป็นอย่างมาก

“ฟ้าถล่มเหรอ ?” เฉินตงพูดหยอกล้อ

เสี่ยวหม่าเงียบไปเสี้ยววินาที จากนั้นจึงตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ : “อืม !”

เฉินตงหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ในหัวของเขาเหมือนมีเสียงระเบิดดังขึ้น

เขารีบถามเสี่ยวหม่ากลับไปทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เสี่ยวหม่าพูดว่า : “ยี่เคอ กรุ๊ปประกาศว่า จะระงับแผนการที่จะย้ายเข้ามาปักหลักในเมืองของเราเอาไว้ชั่วคราวก่อน”

เปรี้ยง !

เหมือนมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นตอนกลางวันแสกๆ

เฉินตงตัวสั่นไปหมด จู่ๆ สมองก็ว่างเปล่า

ถึงขั้นว่า เหมือนตัวเขาจะขาดการติดต่อกับโลกใบนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นเสี่ยวหม่าที่อยู่ปลายสายพูดอะไรต่ออีกนั้น เขาไม่ได้ยินเลยสักนิด

“คุณชาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือครับ ?”

น้ำเสียงร้อนใจและเป็นกังวลของคุนหลุนที่ดังขึ้นในหู ทำให้เฉินตงกลับมาสู่ของโลกของความเป็นจริงทันที

“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”

เขาพยายามระงับความโกรธแล้ววางสายสนทนากับเสี่ยวหม่า

มือข้างขวาของเฉินตงกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นไม่ยอมวางลง มีเสียงดังกรอบขึ้นในมือ และมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาที่หลังมือ

และในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ

ความโกรธที่ดูสงบนี้ ทำให้คุนหลุนยิ่งรู้สึกหวาดกลัว

“การแก้แค้นครั้งสุดท้าย ? คิดที่จะถอนรากถอนโคนสินะ !” เฉินตงกัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธ

หลังจากความตกใจและความโมโหชั่วขณะผ่านไปแล้ว เขาก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

ยี่เคอ กรุ๊ปเป็นธุรกิจของตระกูลเฉิน เริ่มแรกท่านหลงเป็นคนช่วยจัดการเรื่องปล่อยข่าว นี่ถึงทำให้สถานการณ์ของโครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเปลี่ยนไป เมื่ออาศัยศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของยี่เคอ กรุ๊ป ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์แถบภาคตะวันออกของเมืองเขยิบสูงขึ้นมา

หากพูดกันตามหลักความจริงแล้ว ขอแค่ยี่เคอ กรุ๊ปไม่ปล่อยข่าวที่เป็นไปในทิศทางตรงข้ามเช่นนั้นออกมา ราคาอสังหาริมทรัพย์แถบภาคตะวันตกของเมืองนี้จะไม่มีวันตกลงอย่างแน่นอน

แต่ทว่าตอนนี้ จู่ๆ ยี่เคอ กรุ๊ปก็ประกาศว่าจะระงับแผนการย้ายเข้ามาปักหลักในเมืองนี้ไว้ชั่วคราว ทำให้เฉินตงนึกถึงคนที่จะมีศักยภาพมากพอที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น !

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน !

ในตระกูลเฉินทั้งตระกูล มีเพียงคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินคนเดียวเท่านั้นที่จะกล้าคิดต่างกับคุณพ่อ สั่งให้ยี่เคอ กรุ๊ปปล่อยข่าวที่สร้างความเสียหายเช่นนี้

ก่อนหน้านี้เฉินเทียนหย่างและเฉินเทียนเซิงเอง ก็คงจะรู้วิธีจัดการให้สิ้นซากในคราวเดียวแบบนี้เช่นกัน เพียงแต่ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่เคยใช้วิธีนี้คงเป็นเพราะ เขาไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับยี่เคอกรุ๊ป

นี่ถือเป็นวิธีจัดการกับปัญหาแบบถอนรากถอนโคน เป็นเหมือนการใช้ดาบแทงเข้าไปที่คอของเฉินตงในคราวเดียวอย่างโหดร้าย

หลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกทั้งหมด ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ถึงขั้นว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งต้องล้มละลาย !

สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งแล้ว นี่ถือว่าฟ้าถล่มจริงๆ !

“คุณชาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?” คุนหลุนเห็นท่าทีโมโหของเฉินตงก็รู้สึกร้อนใจขึ้นทันที

“ไม่มีอะไร วันนี้ยกเลิกการฝึกไปก่อน กลับบ้านกัน”

เฉินตงสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด จากนั้นจึงวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

ในห้องรับแขก กำลังถ่ายทอดข่าวเช้าอยู่

ท่านหลงนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนหลี่หลานที่นั่งอยู่ด้านข้างก็สีหน้าไม่สู้ดีนักเช่นกัน

ฟ่านลู่ยังคงจัดเตรียมอาหารเช้าอยู่ในห้องครัว โดยปกติแล้วในช่วงเวลานี้ของทุกวัน ทุกคนในบ้านจะตั้งตารอคอยอาหารเช้าฝีมือฟ่านลู่

แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครรู้สึกหิวเลยสักคน

แม้แต่หลี่หลานที่เห็นฟ่านลู่เป็นเหมือนลูกสาว ก็ยังรู้สึกกินไม่ลงด้วยเช่นกัน

“ท่านหลง เรื่องครั้งนี้ตงเอ๋อจะสามารถผ่านมันไปได้ไหม ? น้ำเสียงของหลี่หลานเคร่งเครียดเล็กน้อย

ข่าวเช้าในโทรทัศน์ กำลังนำเสนอข่าวที่ยี่เคอ กรุ๊ปประกาศว่าจะระงับแผนการที่จะย้ายเข้ามาปักหลักในเมืองของเราเอาไว้ชั่วคราว

หลี่หลานรู้ว่าเฉินตงเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง จึงรู้ดีว่าข่าวทำนองนี้ จะส่งผลกระทบมากมายมหาศาลเท่าไหร่ต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง !

ถ้าจะพูดว่าเป็นการฆ่าให้ตายในคราวเดียวก็คงไม่เกินไปนัก

ท่านหลงส่ายหัว ตอนนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกจนปัญญา : “นี่มันรุนแรงเกินไปจริงๆ ข่าวนี้จะสั่นสะเทือนวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในเมืองนี้ รวมถึงจะเป็นการล้างไพ่ของภาคตะวันตกใหม่ทั้งหมด ครั้งนี้ถือว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งต้องตกอยู่ในวิกฤตจริงๆ !”

ต่อให้การเปิดขายอสังหาริมทรัพย์ทางภาคตะวันตกอย่างต่อเนื่องทั้งสองครั้ง จะได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย

แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นการเปิดขายล่วงหน้าที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น หรือแม้แต่ราคาของอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันตกที่สูงขึ้น ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลมาจากการที่ยี่เคอ กรุ๊ปประกาศที่จะเข้ามาปักหลักในเมืองนี้

หลังจากที่สูญเสียยักษ์ใหญ่อย่างยี่เคอ กรุ๊ปไปแล้ว สภาพทั้งหมดของภาคตะวันตกก็จะเหมือนถูกถอดเสื้อคลุมออก ต้องกลับคืนสู่สภาพเดิมในระยะเวลาอันสั้นอย่างรวดเร็ว

“ท่านหลง ให้เขาจัดการด้วยตัวเองเถอะ” หลี่หลานจ้องมองด้วยแววตาแน่วแน่ “เต้าหลินไม่มีทางปล่อยให้ตงเอ๋อ ตกลงไปในเหวโดยที่ตนเองเอาแต่มองดูอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยอย่างแน่นอน !”

ท่านหลงยิ้มอย่างหดหู่ : “คุณผู้หญิง นายท่านทราบเรื่องนี้แล้ว อีกทั้งตัวกระผมเองก็เชื่อว่า ตอนนี้คุณท่านกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อคิดหาวิธีช่วยคุณชายอยู่ ครั้งนี้พวกเขาหวังที่จะจัดการกับคุณชายให้สิ้นซาก เพียงพอที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณชายพยายามสั่งสมมาทั้งหมด ดังนั้นนายท่านไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรอย่างแน่นอน”

“ถ้าแม้แต่เขาก็ยังช่วยไม่ได้ ไม่เท่ากับว่า……”

หลี่หลานร้อนใจเป็นอย่างมาก มือทั้งสองข้างบีบกันแน่น : “ไม่เท่ากับว่าครั้งนี้ตงเอ๋อจะต้องตกลงไปในขุมนรกหรอกหรือ ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset