Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 138 เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นทั้งเมือง !

บทที่ 138 เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นทั้งเมือง !

บริษัทชิงหยิ่นถือเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมทางด้านการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการก่อสร้างขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่

แต่ทำไมเฉินตงจึงนึกไม่ถึงเลยว่า เจ้านายของกู้ชิงหยิ่ง ที่แท้ก็คือประธานของบริษัทชิงหยิ่น !

อีกทั้ง เขาเองไม่คิดว่ากู้โก๋ฮั๋วจะรู้สึกระลึกถึงบ้านเกิด ถึงได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนเหมือนที่นำเสนออยู่ในข่าว

การที่กู้โก๋ฮั๋วยังคงเก็บบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เอาไว้ ก็ถือเป็นการระลึกถึงบุญคุณได้อย่างดีแล้ว

ถ้าคิดที่จะเข้ามาลงทุนในเมืองนี้จริง ด้วยศักยภาพของบริษัทชิงหยิ่นแล้ว ทำไมถึงมาเอาตอนนี้ ?

อีกทั้งในเมืองนี้ก็มีที่ทำเลดีมากมาย ด้วยความสามารถของบริษัทชิงหยิ่น ถ้าคิดที่จะลงทุน มีหรือที่จะสรรหาที่ทำเลดีในเมืองนี้ไม่ได้ ?

แล้วทำไมถึงได้บังเอิญมาเลือกเอาพื้นที่ที่กำลังจะล่มสลายอย่างภาคตะวันตกของเมืองกัน ?

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นการจงใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยไท่ติ่งของเขา

นำสิ่งที่ยี่เคอ กรุ๊ปทำไม่ได้ มาทำให้สำเร็จ

และบริษัทชิงหยิ่นจะสามารถยกระดับภาคตะวันตกของเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน

“มั่งคงแล้ว ตอนนี้พวกเรามั่นคงแล้ว !”

เสี่ยวหม่าไม่อาจระงับสติอารมณ์ได้อีก เขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง : “พี่ตง ผม ผมจะรีบออกไปบอกทุกคนเดี๋ยวนี้ !”

เสี่ยวหม่าวิ่งออกไปได้ไม่นาน ด้านนอกห้องทำงาน ก็มีเสียงตะโกนโห่ร้อด้วยความยินดีดังขึ้น

ไม่มีใครนึกสงสัยเลยว่า บริษัทชิงหยิ่นจะสามารถรักษาเสถียรภาพของภาคตะวันตกเอาไว้ได้หรือไม่

อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนี้ ขอแค่รักษาเสถียรภาพของราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันตกของเมืองเอาไว้ได้ ไท่ติ่งก็จะกลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง !

เฉินตงที่กำลังฟังเสียงตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดีอยู่นั้น สีหน้าของเขาก็เริ่มดูซับซ้อนและแปลกประหลาด เขาอยากจะหัวเราะ แต่ก็หัวเราะไม่ออก ด้วยนิสัยของเขา ไม่ชอบพึ่งพาผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร

แต่ครั้งนี้……

เฉินตงหัวเราะออกมาด้วยความโล่งใจที่สามารถยกภูเขาออกจากอกได้แล้ว เขาลูบจมูกไปมา : “ข้าวนุ่มๆ นี่……ช่างหอมจริงๆ”

หลังจากที่มีการแถลงข่าวของบริษัทชิงหยิ่น เรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมทันที

ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เหมือนมีพายุลูกใหญ่เกิดขึ้นทั่วเมือง

ราวกับมีระเบิดนิวเคลียร์ลูกใหญ่พุ่งเข้าถล่มเมือง

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า จู่ๆ บริษัทชิงหยิ่นจะประกาศเรื่องการลงทุนในภาคตะวันตกของเมืองนี้ออกมา !

อีกทั้ง ยังเป็นการสานต่อโครงการที่ยี่เคอ กรุ๊ประงับไปแล้วอีกด้วย

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ราคาอสังหาริมทรัพย?ในภาคตะวันตกจะไม่มีทางดิ่งลงอย่างแน่นอน !

ด้วยศักยภาพของบริษัทชิงหยิ่น แม้แต่ยี่เคอ กรุ๊ปก็ไม่อาจเทียบได้

เพราะอย่างไรเสีย บริษัทหนึ่งก็เป็นถึงบริษัทระดับนานาชาติ ส่วนอีกบริษัทหนึ่งเป็นเพียงแค่บริษัทระดับแนวหน้าในประเทศเท่านั้น

เป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน !

อีกทั้ง บรรดาผู้ซื้อที่กำลังดีใจอยู่กับการขายบ้านคืนได้สำเร็จก่อนหน้านี้เพียงแค่ครู่เดียวเหล่านั้น ตอนนี้เหมือนถูกยิงแสกเข้าไปตรงกลางหน้าผาก จนผ่านไปพักใหญ่ก็ยังไม่ได้สติ

เมื่อยี่เคอ กรุ๊ปจากไป บริษัทชิงหยิ่นก็เข้ามาทันที บริษัทยักษ์ใหญ่พวกนี้เขาเล่นอะไรกัน ?

ราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีทางดิ่งลงแล้ว แล้วสัญญาการขายบ้านคืนที่อยู่ในมือล่ะ ?

ชั่วพริบตาเดียว บรรดาผู้ซื้อที่สามารถขายห้องคืนได้สำเร็จก็รู้สึกเสียใจและตีอกชกตัวในทันที

ถึงขั้นว่ามีบางคนเรียกสติกลับมาได้เร็ว จึงรีบมุ่งหน้ากลับไปยังศูนย์กลางที่ทำการขายใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่าศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่งของไท่ติ่งนั้น ปิดให้บริการไปนานแล้ว

เมื่อนำข้อมูลของศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่งมารวมกันพบว่า ยังมีผู้ซื้ออีกประมาณ 10 % ที่ยังไม่ได้มาทำเรื่องขายบ้านคืน

อีกทั้งในขณะที่มีการรายงานข่าวเรื่องนี้ออกมา คนที่ต้องการขายบ้านคืนทั้งหมด ก็หายไปโดยพร้อมเพรียงกันทันที

ถึงขั้นว่า บางคนที่กำลังดำเนินการขายบ้านคืนอยู่นั้น ยอมที่จะฉีกสัญญา และหันหลังเดินจากไป

คนที่ยังขายบ้านคืนไม่สำเร็จ ต่างก็กำลังแอบดีใจกับตัวเองอยู่

พวกเขารู้ดีว่า หากบริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก บ้านที่อยู่ในมือของพวกเขาไม่มีวันที่จะราคาตกอย่างแน่นอน สิ่งที่ควรจะได้นั้นยังคงอยู่ !

อีกทั้งเมื่อส่งลูกค้าคนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ก็ปิดบริการลทันที

นี่ทำให้คนที่ต้องการจะซื้อบ้านกลับคืนมาเหล่านั้น ต่างทุบอกชกตัวด้วยความเสียใจ ร้องโฮออกมาด้วยความเสียดาย

เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงบ่าย

บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้หัวใจของทุกคนในเมืองพลอยสั่นสะท้านอย่างรุนแรงไปด้วย

อีกทั้งความคิดเห็นของสาธารณชนทั้งหมด ที่ก่อนหน้านี้พูดถึงภาคตะวันตกในแง่ลบ มาตอนนี้กับเยินยอในด้านดีอีกครั้ง

ประกอบกับในช่วงเช้า สื่อแขนงต่างๆ ได้ปักหลักอยู่ที่ศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่ง ได้นำเสนอภาพข่าวของบรรดาผู้ซื้อชุดสุดท้ายที่ยังดำเนินการขายบ้านคืนไม่เรียบร้อย ต่างตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ทำให้การพูดถึงภาคตะวันตกของเมืองในแง่ดีมีเพิ่มมากขึ้นอย่างทวีคูณ

บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง

ผู้ช่วยเปิดประตูห้องทำงานของโจวจุนหลงเข้ามาอย่างตื่นเต้น

“ประธานโจว พุ่งแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทเราพุ่งแล้ว !

โจวจุนหลงมีสีหน้าที่ซับซ้อน ไม่ได้แสดงอาการตื่นตกใจมากนัก

ตอนนี้ คำพูดที่ท่านหลงพูดกับเขาก่อนหน้านี้ จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาทันที

เขาโบกมือให้ผู้ช่วยออกไป

โจวจุนหลงลูบใบหน้าของเขา แล้วยิ้มออกมาอย่างหดหู่ แล้วพึมพำว่า : “ลมหายใจเดียวกัน นี่ฉันถูกผูกติดกับเฉินตงแล้วจริงหรือ……เรื่องของโชคชะตา ช่างอยู่เหนือการคาดเดาของคนเสียจริงๆ”

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานอันโอ่โถง

โจวเย่นชิวกำลังมองหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่ขยับเขยื้อน

แต่แววตาของเขา กลับแสดงออกให้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

ผ่านไปพักใหญ่

โจวเย่นชิวหยิบซิการ์ขึ้นมาค่อยๆ จุดไฟ หลังจากสูบแล้ว กลับรู้สึกว่ารสชาติของควันที่ลอยคลุ้งอยู่ในปากนั้น ช่างขมจนยากจะหาอะไรเปรียบได้

เขาวางซิการ์ลง จากนั้นจึงบ่นพึมพำเสียงเข้มว่า : “ยี่เคอ กรุ๊ปไป บริษัทชิงหยิ่นก็มา มีเทวดาคอยคุ้มครองจริงๆ ทั้งตระกูลเฉิน ทั้งบริษัทชิงหยิ่น เฉินตงเอ๋ย เฉินตง……เบื้องหลังชีวิตมังกรของนาย มีเทวดาคอยคุ้มครองอยู่กี่องค์กันแน่ ?”

โจวเย่นชิวเอามือลูบหน้า แววตาเป็นประกายออกมา : “มุมหนึ่งของเมืองนี้ ทำไมถึงได้มีมังกรอย่างนายแอบซ่อนตัวอยู่ ? ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฉินกับนายเป็นอย่างไรกันแน่ ? แล้วที่ฉันยอมซื้อที่ดินภาคตะวันตกเพื่อค้ำชูนายในช่วงที่เกดิวิกฤติ นายจะยอมลืมเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนเพราะที่ดินผืนนี้ไหม ?”

คำถามที่ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้โจวเย่นชิวยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งขึ้น

ครั้งหนึ่งเฉินตงเคยเป็นประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา และนั่นคือที่ที่เขาให้น้องชายของภรรยาเอาไว้พักอาศัยยามแก่ชรา

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เฉินตงจะทำให้เขาต้องแปลกใจครั้งแล้วครั้งเล่า

หรืออาจพูดได้ว่า……ตกใจ !

บางครอบครัวมีความสุข บางครอบครัวโศกเศร้า

ข่าวเพียงแค่ข่าวเดียว สามารถส่งผลกระทบไปได้ทั้งเมือง

ทำให้ทั้งเมืองเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น

ช่วงบ่าย เสียงแสดงความคิดเห็นของประชาชนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น

ถึงขั้นมีบางคนเริ่มเชื่อว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ทางภาคตะวันตกจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน

หากเป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้บรรดาผู้ที่สามารถขายบ้านคืนได้สำเร็จเหล่านั้น ต่างรู้สึกอยากตายไปตามๆ กัน บางคนถึงขั้นว่ายอมมุ่งหน้าไปยังบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เพื่อต้องการที่จะซื้อบ้านกลับคืนมาในทันที

แต่เฉินตงให้บริษัทปิดพักร้อนเรียบร้อยแล้ว

เข้ามอบหมายให้เสี่ยวหม่าพาเหล่าพนักงานไปผ่อนคลายสักพัก

ใน่ช่วงระยะเวลาสองวันสั้นๆ นี้ ทุกคนในไท่ติ่งคือคนที่จับมือกับเขาก้าวผ่านขุมนรกมาด้วยกัน !

ตอนนี้บริษัทชิงหยิ่นยื่นมือเข้ามาแล้ว ไท่ติ่งก็เหมือนฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง จึงควรจะเป็นเวลาที่ทุกคนได้แสดงความยินดีร่วมกัน

ส่วนตัวเขาเอง ปลีกตัวไปยังคลับยี่สิ่นตามลำพัง

ข้าวนุ่มช่างหอมอร่อย แต่สิ่งที่ควรขอบคุณก็ควรขอบคุณ

ถ้าไม่ใช้เพราะก็โก๋ฮั๋วยื่นมือเข้ามาช่วยเขาในเวลาคับขันเช่นนี้ เขาคงไม่อาจแน่ใจได้ว่า เขาจะสามารถถ่วงเวลาไปจนกระทั่งถึงผลการตัดสินระหว่างพ่อและคุณหญิงใหญ่ออกมาได้

เมื่อเห็นก็ชิงหยิ่ง เฉินคงก็ตรงเข้าไปสวมกอดกู้ชิงหยิ่งเอาไว้แน่น

เขารู้ดีว่านี่คือผลงานของกู้ชิงหยิ่ง !

หลังจากที่ทานข้าวร่วมกับกู้ชิงหยิ่ง และกู้โก๋ฮั๋วพร้อมทั้งภรรยา เพื่อแสดงความขอบคุณแล้ว เฉินตงก็กลับไป เพราะเขายังกลับไปเตรียมแผนการดำเนินงานของไท่ติ่งหลังจากนี้อีก

เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน สิ่งที่เขาควรจะเตรียมพร้อมก็ยังไม่ได้เตรียม แต่เขาแน่ใจว่าจะต้องจัดงานเลี้ยงเพื่อแสดงความขอบคุณต่อกู้โก๋ฮั๋วอย่างแน่นอน

สำหรับเรื่องนี้ กู้โก๋ฮั๋วและภรรยากลับไปได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ที่ไม่เหมาะสมอะไร

ตอนที่เฉินตงกลับไป ฟ้าก็มืดลงพอดี

กู้โก๋ฮั๋วและภรรยา หันมองกู้ชิงหยิ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงยิ้มออกมาด้วย

“เจ้าเด็กคนนี้ ผ่านมาสองวันแล้ว ในที่สุดก็เห็นรอยยิ้มออกมาจนได้” หลี่หวั่นชิงพูดด้วยความเอ็นดู

กู้โก๋ฮั๋วพยักหน้า : “ลูกสาวเมื่อโตแล้ว ไม่ควรจะเก็บเอาไว้ข้างตัวจริงๆ ดูสิ พอมีแฟนขึ้นมา ก็ใช้เงินพ่อไปหลายพันล้าน”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ กู้ชิงหยิ่งก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข แล้วเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่อ : “ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย”

กู้โก๋ฮั๋วและภรรยาหัวเราะร่าออกมา

“พ่อจะไปดูข่าวสักหน่อย” กู้โก๋ฮั๋วลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์

ทุกๆ วันเขาจคอยดูข่าวอยู่ตลอด เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

แต่ในขณะที่เขากดเปิดหน้าเว็บไซต์ขึ้นมา จู่ๆ ตัวของเขาก็สั่น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที

เวลาเดียวกันนี้

ลูกระเบิดอีกลูกที่เหมือนอุกกาบาตกำลังตกลงสู่พื้นดิน

ถึงจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ แต่กลับมีพลังมากพอที่จะสั่นสะเทือนทั้งเมืองได้อีกครั้ง

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset