Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 139 ความสุขสองเท่า

บทที่ 139 ความสุขสองเท่า

ตอนที่เฉินตงกลับถึงบ้าน

บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความสุข

ใบหน้าของทุกคนต่างฉาบไปด้วยรอยยิ้ม

ฟ่านลู่และแม่ของเขา จัดเตรียมอาหารชั้นเลิศเอาไว้มากมายเต็มโต๊ะ รวมไปถึงไวน์แดง เพื่อเป็นการแสดงความยินดี

“ทุกคนรู้เรื่องหมดแล้วหรือ ?”

ที่เฉินตงรีบร้อนกลับมา ประการแรกก็เพื่อที่จะเตรียมวางแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ของไท่ติ่ง ส่วนอีกประการหนึ่งคือต้องการที่จะมาบอกข่าวดีกับทุกคน

“สั่นสะเทือนไปทั้งเมืองแล้ว รู้ตั้งนานแล้ว”

หลี่หลานยิ้มและพูดกระตุ้นว่า : “ครั้งนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตงเอ๋อ ลูกช่าโชคดีจริงๆ มัวยืนบื้ออยู่ทำไม รีบไปล้างมือเร็วเข้า”

“ใช่แล้วๆ คุณชาย คุณผู้หญิงกับเสี่ยวลู่ง่วนอยู่ในครัวตลอดทั้งบ่ายเลยนะ” คุนหลุนพูดเสริม

เฉินตงเพิ่งจะกินข้าเย็นมา แต่เมื่อเห็นคนในบ้านกำลังมีความสุข เขาจึงไม่ปฏิเสธ ยิ้มแล้วเดินเข้าไปล้างมือในห้อครัว จากนั้นทั้งครอบครัวก็นั่งร่วมโต๊ะกันอย่างมีความสุข

ท่านหลงยกแก้วขึ้นมาก่อน เขายิ้มแล้วพูดว่า : “ความสุขสองเท่า ฉลอง !”

ขณะที่ทุกคนกำลังชนแก้วกันนั้น เฉินตงกลับเลิกคิ้ว : “ความสุขสองเท่า ? ยังมีเรื่องน่ายินดีอะไรอีกหรือ ? ไม่ใช่ว่าฉลองเรื่องที่เราสามารถรักษาบริษัทเอาไว้ได้หรอกหรือ บริษัทชิงหยิ่นยื่นมือเข้ามาช่วยให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ของเรามีเสถียรภาพ ?”

พวกหลี่หลานหันมองหน้ากัน จากนั้นจึงยิ้มออกมาด้วยท่าทีแปลกประหลาด

หลังจากนั้นท่านหลงก็วางแก้วลงแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงพูดว่า : “คุณชาย เชิญมากับกระผมหน่อยครับ ผมจะให้คุณดูเรื่องน่ายินดีอีกเรื่อง”

เฉินตงเดินตามท่านหลงไปยังห้องรับแขกด้วยความสงสัย

มีรอยยิ้มแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหลงตั้งแต่ต้นจนจบ

ท่านหลงหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมา จากนั้นจึงกดเปิดโทรทัศน์

ตอนนี้เอง เป็นเวลานำเสนอข่าวภาคค่ำของเมืองนี้พอดี

ข่าวใกล้จะจบแล้ว

เมื่อเห็นการรายงานข่าวข่าวหนึ่ง ก็มีเสียงดัง “เปรี้ยง” เกิดขึ้นในหัวของเฉินตง

“ยี่เคอ กรุ๊ปประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเริ่มดำเนินแผนการลงทุนทางภาคตะวันตกของเมืองที่งับเอาไว้ก่อนหน้านี้ต่อไป”

มีเพียงเนื้อหาข่าวสั้นๆ ที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไร

มีความยาวเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น !

แต่กลับไม่กระทบถึงอานุภาพอันร้ายแรงของข่าวนี้เลยแม้แต่น้อย

ต่อให้เป็นเฉินตงเอง ก็รู้สึกสั่นสะเทือนไปพักใหญ่ จากนั่นจึงค่อยๆ ตั้งสติกลับมาได้

เขาหันมองท่านหลงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ : “ชนะ……แล้ว ?”

“คุณชายชนะแล้ว” ท่านหลงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “กระผมเองก็เพิ่งได้ข่าวเมื่อช่วงบ่าย”

เปรี้ยง !

เฉินตงรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า หัวใจของเขาเต้นระส่ำจนไม่เป็นจังหวะ

ใบหน้าของเขาเริ่มแดง จังหวะการหายใจเริ่มเร็วขึ้น ลำคอเคลื่อนไหวรุนแรง

ด้วยนิสัยพื้นฐาน ตอนนี้ในใจของเขาเหมือนกำลังมีคลื่นซัดถาโถมอยู่ และเป็นการยากที่จะสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้

ในช่วงวิกฤตที่ไท่ตงกำลังจะพังพินาศลง

บริษัทชิงหยิ่นได้ยืนมือเข้ามาช่วยเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาอสังหาริมทรัพย์เอาไว้

แต่ตอนนี้ยี่เคอ กรุ๊ปกลับขว้างระเบิดลงในเมืองอีกครั้ง คิดที่จะกลับเข้ามาปักหลักใหม่

นี่หมายถึงอะไร เฉินตงรู้ดีกว่าใคร !

ฝั่งหนึ่งเป็นบริษัทระดับนานาชาติ ส่วนอีกฝั่งเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของประเทศ

สองยักษ์ใหญ่ที่แข็งแกร่งต้องการที่จะเข้ามาปักหลักในภาคตะวันตกพร้อมกัน ราคาอสังหาริมทรัพย์……จะต้องพุ่งทะยานอย่างแน่นอน !

สำหรับเฉินตงแล้ว การที่บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก ทำให้เขาและไท่ติ่งสามารถปีนขึ้นมาจากขุมนรกได้

ส่วนตอนนี้ การที่ยี่เคอ กรุ๊ปเข้ามาปักหลัก ทำให้เขาและไท่ติ่งสามารถบินขึ้นไปบนสวรรค์ได้ !

“ฉลอง ต้องฉลองจริงๆ !”

ตาของเฉินตงแดงก่ำแล้ว สองวันมานี้ เขาต้องแบกรับแรงกดดันที่มหาศาล

ความรู้สึกเหมือนไร้ซึ่งความสามารถ ทำได้เพียงลุ้นว่าจะต้องรอคอยความตายหรือจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง ถึงขั้นทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

มาวันนี้ กลับเกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นเป็นสองเท่า

ทำให้เขารู้สึกหายใจทั่วท้องและโล่งอกจริงๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า……ต้องฉลอง !” ท่านหลงหัวเราะร่า รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมกับเฉินตง

ทั้งครอบครัวร่วมแสดงความยินดีพร้อมกันอย่างมีความสุข

หลังจากดื่มฉลองและทานอาหารร่วมกันแล้ว

เฉินตงเริ่มเมามาย ถ้าไม่ใช่เพราะมีแม่คอยปรามอยู่ เขาเองก็คงจะดื่มเพื่อเฉลิมฉลองต่อไปเรื่อยๆ

วันนี้ถือเป็นวันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นจริงๆ

หลี่หลานและฟ่านลู่ง่วนอยู่กับการจัดเก็บโต๊ะอาหาร

ส่วนเฉินตงนั้นเดินโซเซไปยังระเบียงพร้อมกับท่านหลงและคุนหลุน

“ท่านหลง คุนหลุน พวกนายรู้ไหม ? สองวันมานี้ ฉันถึงขั้นเตรียมใจที่จะก้าวลงสู่นรกแล้ว”

เฉินตงนอนลงบนเก้าอี้ สายลมยามค่ำคืนพัดมา เขายิ้มอย่างมีความสุข : “คิดไม่ถึงเลยว่า สวรรค์จะไม่ใจร้ายกับคนอย่างฉัน เฉินตง เกิดเรื่องยินดีขึ้นสองเท่า ทำให้ฉันยังพอมีคุณสมบัติที่จะไปแข่งขันกับพวกหัวกะทิของตะกูลเฉินเหล่านั้นได้ มารอดูว่าท้ายที่สุดแล้ว ใครจะได้เป็นพระราชาตัวจริงกันแน่ !”

ท่านหลงและคุนหลุนต่างก็หัวเราะ ทั้งสองก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อยเช่นกัน

ยิ่งมีสายลมยามค่ำคืนพัดมา ยิ่งทำให้เมามายยิ่งขึ้น

“คุณชาย บริษัทชิงหยิ่นเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ ?” จู่ๆ ท่านหลงก็ถามขึ้นมา

คนทั่วไปไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีกว่าใคร

จู่ๆ บริษัทใหญ่ระดับนานาชาติก็ประกาศว่าจะเข้ามาลงทุนในเมืองนี้ เพียงเพื่อที่จะให้ประธานบริษัทตอบแทนบุญคุณบ้านเกิดเท่านั้นหรือ ?

นั่นมันฟังดูไร้สาระสิ้นดี !

บริษัทชิงหยิ่นมาเพื่อที่จะช่วยไท่ติ่ง !

เฉินตงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดด้วยความเมา : “ข้าวนุ่ม……หอมจริงๆ”

“กู้ชิงหยิ่ง ?” ท่านหลงผงะไป จากนั้นจึงยิ้มออกมาแล้วส่ายหัว : “น่าอาย น่าอายจริงๆ……กระผมคิดไม่ถึงเลยว่า ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้จะมีชื่อเสียงขนาดนี้ !”

……

ขณะที่พวกของเฉินตงกำลังยืนตากลมอยู่ที่ระเบียง

หลังจากการายงานข่าวภาคค่ำสิ้นสุดลง ก็มีลมพายุพัดไปทั้งเมืองอีกครั้ง

เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั้งเมือง !

ทุกคนต่างตกตะลึงไปหมด

ใครจะไปคิดว่ายี่เคอ กรุ๊ปที่ประกาศระงับโครงการแล้ว จู่ๆ จะกลับลำหันมาปักหลักในภาคตะวันตกของเมืองนี้อีกครั้ง ?

บริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้ กำลังคิดที่จะเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ ?

หลังจากความตื่นตระหนกผ่านพ้นไป ทุกคนก็ตระหนักได้ถึงความจริงข้อหนึ่ง

ราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันตก……จะพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง !

ภายในระยะเวลาสองวันสั้นๆ ตั้งแต่การกรูกันไปขายบ้านคืน ทุกคนต่างพูดด้วยความโศกเศร้า มาบัดนี้ราคากลับพุ่งทะยานขึ้นเหมือนกับจรวด !

ไม่มีใครเข้าไปวิเคราะห์อย่างจริงจังว่า เพราะเหตุใดบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองถึงได้เข้ามาปักหลักในภาคตะวันตก

ตอนนี้ความสนใจของทุกคนต่างรวมอยู่ที่ภาคตะวันตกของเมือง

ตอนนี้สถานที่แห่งนี้ถือเป็นบ่อทองจริงๆ !

ในสายตาของนักเก็กำไร ภาคตะวันตกกลายเป็นสถานที่ทำเงินไปเสียแล้ว

หากคว้าบ้านมาได้สักหลัง ก็เพียงพอที่จะทำกำไรก้อนโตได้แล้ว

อีกทั้งตอนนี้โครงการปฏิรูปย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองอยู่ในมือของเฉินตง ไท่ติ่งจึงมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาคตะวันตกมากที่สุด

คนทั้งเมืองต่างตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงเวลาฟ้าสาง เพื่อที่จะรีบมุ่งหน้าไปยังภาคตะวันตกของเมืองในทันที

ส่วนบรรดาผู้ซื้อที่เดิมทีกำลังมีความสุขอยู่กับการคืนบ้านได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงวันเดียว เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ ติดๆ กันถึงสองครั้ง ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมาจริงๆ

บางคนเพียงแค่รู้สึกเสียดายและโกรธตัวเอง รู้สึกเสียใจจนแทบอยากจะตบหน้าตัวเอง และตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า

ส่วนอีกเกือบ 10 % ที่เหลือที่ยังไม่ได้ขายบ้านคืน ตอนนี้กลับหัวเราะร่าออกมา และกำลังเปิดแชมเปญฉลอง

ค่ำคืนนี้ มีทั้งคนที่มีความสุขและคนที่มีความทุกข์

หากมีเสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าดังออกมา

เพื่อนบ้านก็พอจะรู้ได้ทันทีเลยว่า นั่นเป็นเสียงของคนที่ขายบ้านคืน

ที่บ้านตระกูลหวาง

บรรยากาศกลับดูเยือกเย็น

โทรทัศน์เปิดอยู่

หวางเต๋อกำลังก้มหน้าสูบบุหรี่ ที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ตรงหน้าเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ ยังมีหลายมวนที่ยังหลงเหลือควันอยู่

จางซิ่วจือนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ ปากเอาแต่บ่นพึมพำไม่หยุด

“เพราะอะไร ? เพราะอะไร ? เฉินตงควรจะล้มละลายและฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ ? แล้วทำไมเขาถึงพลิกฟื้นกลับมาได้อีก ? ควรตาย……ควรจะตายไปซะถึงจะถูก……”

หลังจากทั้งสองดูข่าวจบ ในใจก็ไม่อาจสงบลงได้อยู่เป็นเวลานาน

ในความเป็นจริงแล้ว ที่ตระกูลหวางเกิดเรื่องขึ้นในช่วงนี้ ภายในครอบครัวเองก็ได้รับความกดดันไม่น้อย

และความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้จางซิ่วจือโยนความผิดไปให้กับเฉินตง

นอกเหนือจากการสาปแช่งแล้ว แม้กระทั่งประตูใหญ่ของคฤหาสน์เฉินตง พวกเขาเองก็ไม่สามารถเข้าไปได้

ตอนที่รู้ว่าทั้งเมืองกำลังเทขายบ้านคืน จางซิ่งจือรู้สึกว่าการแก้แค้นสำเร็จแล้ว ตื่นเต้นถึงขนาดเปิดเหล้าฉลองกันภายในบ้าน

เธอถึงขนาดจินตนาการว่าเฉินตงจะต้องล้มละลายและฆ่าตัวตายในที่สุด สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

แต่ชั่วพริบตาเดียว เฉินตงกลับพลิกฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง !

ไม่เพียงแต่พลิกฟื้นกลับมาได้เท่านั้น แต่กลับมั่งคั่งกว่าแต่ก่อนเสียด้วย

สิ่งนี้ทำให้จางซิ่วจือรู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดที่หัวใจ โกรธจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้

แอ๊ด……

ประตูเปิดออก หวางเห้ากลับมาแล้ว

เมื่อเห็นพ่อแม่อยู่ในอาการโศกเศร้า หวางเห้าจึงไม่กล้าถามอะไรมาก ทำเพียงแค่เหลือบมองเข้าไปในห้องแล้วพูดว่า : “พ่อ แม่ แล้วพี่ล่ะ ?”

“เด็กนั่นอาบน้ำอยู่อีกแล้ว !”

จางซิ่วจือโกรธจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

ภาพที่เกิดขึ้นทำให้หวางเต๋อและหวางเห้าตกใจเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับไม่สามารถขวางได้

ปัง !

จางซิ่งจือใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำจนเปิดออก จากนั้นจึงตรงเข้าไปกระชากผมของหวางหนันหนันออกมาแล้วตบเข้าไปที่ใบหน้าของหวางหนันหนันอย่างแรง

“ผู้หญิงไร้ราคาอย่างแก จะอาบอะไรกันนักกันหนา ? ค่าน้ำไม่ต้องเสียหรือยังไง ? ดูเรื่องงามหน้าที่แกทำเอาไว้สิ เฉินตงทั้งมีความสามารถทั้งรวยขนาดนั้น ทำไมตอนนั้นแกถึงต้องหย่ากับเขาด้วย ? หา ?”

ขณะที่เสียงกรีดร้องดังขึ้น ภายในห้องน้ำยังคงมีเสียงร้องของหวางหนันหนันดังก้องอยู่

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset