Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 143 เหมือนหัวใจพังทลายลงเลย!

บทที่ 143 เหมือนหัวใจพังทลายลงเลย!

ในงานเลี้ยง ผลักกันดื่ม พูดคุยและหัวเราะอย่างมีความสุข

บรรยากาศอบอุ่นมีความสุข

เผชิญหน้ากับกู้โก้ฮั้ว ท่านเมิ่งและเจิ้งโก๋โส่ว เฉินตงก็ไม่ได้มีความประหม่าหรือกลัวใดๆ

พูดคุยอย่างมีไหวพริบ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม

เมื่อมองดูภาพนี้ทำให้กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยากับเจิ้งโก๋โส่วพยักหน้ากันซ้ำ ชื่นชมอยู่ในใจ

ต้องรู้ว่า ทั้งสามคนล้วนมีตำแหน่งที่อยู่ในระดับสูง

ปกติพวกเขาร่วมโต๊ะกับคนร่ำรวยที่อำนาจ คนรอบกายยังเอาใจประจบสอพลอ

และเช่นเดียวกับเฉินตง ที่เป็นคนรุ่นใหม่ สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสมไม่ถ่อมตนแต่ก็ไม่โอ้อวด ไม่ลนลานและใจเย็น อายุแค่นี้สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจ

ดื่มกินกันพอสมควรกับเวลาแล้ว

เจิ้งโก๋โส่วลุกขึ้นด้วยความมึนเมา “หลานชาย อาดื่มให้นายหนึ่งแก้ว ครั้งที่แล้วที่อาดูภาพไม่ละเอียดเข้าใจนายผิด ขอใช้เหล้าแก้วนี้ ขอโทษนาย!”

เขาไม่โง่ แต่กลับฉลาดมาก

ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรม มีชื่อเสียงระดับสากล การสื่อสารกับกลุ่มคนจำนวนมาก ได้ฝึกฝนจนความคิดความอ่านจนชำนาญแล้ว

ก่อนหน้านั้นเพราะนิสัยกับฐานะ ทำให้เขาปล่อยวางไม่ได้ที่จะขอโทษเฉินตง

แต่เพราะ《ผิงอันเถี่ย》แผ่นเดียวก็ทำให้เขายอมจำนวนทั้งกายทั้งใจ

《ผิงอันเถี่ย》ที่มีมูลค่าสามร้อยล้าน ไม่ใช่ภาพ《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ของถังป่อหู่จะสามารถเทียบได้ คนที่สามารถประมูลสมบัติล้ำค่าแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่จะมีฐานะหรืออำนาจบารมี แต่ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลที่ทรงอำนวจอย่างแน่นอน

เฉินตงสามารถหา《ผิงอันเถี่ย》ที่ผ่านการประมูลมาได้ มอบให้กับกู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยา มันก็เป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้ว

อย่างน้อย เขาที่เป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรม ไม่มีทางที่จะประมูลมันมาได้!

สมบัติล้ำค่าระดับนี้ การประมูลในบางครั้ง ไม่ใช่จะอาศัยเงินอย่างเดียว!

เฉินตงยกแก้วเหล้าขึ้น ยิ้มพร้อมกับพูด คุณอาเจิ้งเป็นผู้อาวุโส จะมาดื่มให้ผมได้อย่างไร เรื่องครั้งก่อน เฉินตงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คุณอาเจิ้งดื่มตามสบาย ผมจะดื่มให้คุณอาสามแก้ว

เพียงคำพูดเดียว มันไม่เพียงแต่ได้แสดงความในใจ แต่ยังทำให้เจิ้งโก๋โส่วได้หน้า แสดงความเคารพอย่างชัดเจน

“ดี!”

เจิ้งโก๋โส่วตาสว่างขึ้นมาทันที หัวเราะเสียงดัง ตบบ่าของกู้โก๋ฮั้วด้วยความเมา “ไอ้กู้ ว่าที่ลูกเขยของนาย ฉันว่าโอเคเลยละ!”

ขณะที่พูด เขาก็ดื่มเหล้าหมดในอึกเดียว

เฉินตงก็ดื่มกลับสามแก้ว

ในห้องอาหาร บรรยากาศอบอุ่น เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะที่มีความสุข

เจิ้งโก๋โส่วเพราะคำพูดของเฉินตง ดีใจอย่างมาก ดื่มเหล้าไปไม่น้อย ไม่นานนัก ก็ฟุบอยู่บนโต๊ะ ถูกท่านเมิ่งเรียกคนมาหามออกไป

ในห้องโถง เหลือเพียงแต่เฉินตงกับครอบครัวของกู้ชิงหยิ่ง

“ฮู้………”

เฉินตงถอนหายใจมีกลิ่นเหล้าลอยออกมา ดื่มไปไม่น้อย เวลานี้ก็เมาเหมือนกัน

“หวั่นชิง พาเสี่ยวหยิ่งไปทางโน้น ผมมีเรื่องจะคุยกับตงเอ๋อ”

กู้โก๋ฮั้วลูบหน้าตัวเอง เพราะว่าเมา ทำให้ลิ้นแข็งเล็กน้อย

“พ่อ……”

กู้ชิงหยิ่งตกตะลึง

หลี่หวั่นชิงกลับยิ้มๆ “เอาล่ะ เสี่ยวหยิ่ง ไปรอทางโน้นกับแม่สักครู่”

กู้ชิงหยิ่งแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ก้มหน้าเดินตามหลี่หวั่นชิงไปด้านข้าง

พลางเดิน พลางหันหน้ากลับไปกำชับกับเฉินตง “ไม่ต้องดื่มแล้ว มันไม่ดีต่อสุขภาพ”

เฉินตงยิ้มให้เป็นคำตอบ ยกชาร้อนขึ้น จิบชาขึ้นมา

ห้องอาหารเงียบจนแม้แต่เข็มหล่นลงพื้นยังได้ยิน

กู้โก๋ฮั้วใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สายตากะพริบๆ กำลังครุ่นคิด

เฉินตงที่ถือแก้วชาไว้ในมือ รออยู่เงียบๆ

“ตงเอ๋อ ของขวัญวันนี้มันใหญ่เกินไปนะ!”

ในที่สุด กู้โก๋ฮั้วก็ทำลายบรรยากาศที่เงียบงัน

“คุณอา นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของผม สำหรับบุญคุณที่คุณอาช่วยชีวิตในครั้งนี้ เฉินตงยังรู้สึกไม่พอเลย”

เฉินตงกล่าวด้วยความจริงใจ จริงใจอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเพราะกู้ชิงหยิ่ง หรือจะเป็นเพราะบุญคุณที่ช่วยชีวิตในครั้งนี้ คำพูดประโยคนี้ของเขาไม่มีความเท็จเลยแม้แต่นิดเดียว

“เฮ้ย……..”

กู้โก๋ฮั้วชำเลืองมองเฉินตง ถอนหายใจ “มีเรื่องอะไร พูดมาเถอะ อาก็เป็นคนที่มีเหตุผล ไม่ทำให้นายลำบากใจหรอก”

เฉินตงอึ้งไปทันที

เห็นเฉินตงเงียบไป กู้โก้ฮั้วก็ยิ้มๆ ราวกับว่าได้มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งนานแล้ว สายตาที่ล้ำลึกกำลังยิ้มอยู่

“ใครไม่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนล่ะ? พูดออกมาอย่างกล้าหาญเลย ให้อาฟังหน่อย!”

เฉินตงยิ่งอึ้งกันไปใหญ่

จู่ๆเขาก็ว้าวุ่นเล็กน้อย

ฉันควรจะพูดอะไรนะ?

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เฉินตงก็พูดขึ้น คุณอา คุณอาดื่มเยอะไปแล้ว ผมพยุงคุณอาไปพักผ่อน”

“ฉันไม่ได้ดื่มเยอะ ยังดื่มเหล้าเหมาไถได้อีกสองขวดเลย เอ่อ……..”

กู้โก๋ฮั้วยกมือที่ใหญ่ขึ้นมา ที่แฝงด้วยความโกรธเล็กน้อย “นายมาเพราะมีเรื่อง เรื่องแบบนี้นายไม่เอ่ยปาก หรือจะให้ฉันเป็นคนพูดเหรอ?”

เฉินตง “ห๊า?”

เมื่อเห็นเฉินตงตกตะลึง กู้โก๋ฮั้วส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย ยังคงยิ้มเหมือนกับว่าได้อ่านทุกอย่างจนทะลุปรุโปร่งนานแล้ว

“วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ ขี้อาย ตอนที่ฉันอายุเท่านาย หนังหน้านี้สามารถเอามากันกระสุนได้แล้ว!”

ขณะที่พูด เขาก็ทุบไปที่โต๊ะหนึ่งที

แรงจมลงอย่างหนัก จนทำให้จานบนโต๊ะเกิดเสียง

“หนุ่มน้อยเอ๊ยหนุ่มน้อย นายก็พูดออกมาสิ? ส่งของขวัญเยอะแยะแบบนี้ ความคิดของนาย อามองออกนานแล้ว!”

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหัน

ทำให้เฉินตงตกใจจนม่านตาหด

กู้ชิงหยิ่งกับหลี่หวั่นชิงที่อยู่ด้านนอกห้องอาหารก็สะดุ้งตกใจ รีบวิ่งเข้าไปในห้องอาหาร

“พ่อ………..พ่อทำอะไร?” กู้ชิงหยิ่งมองกู้โก๋ฮั้วด้วยความโกรธ อุทานออกมา

กู้โก๋ฮั้วโกรธจนหน้าแดง กัดฟันไปมา ชี้ไปที่เฉินตง “ไอ้หมอนี่วันนี้นำของขวัญมาเยอะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่ามาคุยเรื่องสู่ขอ แต่เจ้าหมอนี่กลับไม่พูดออกมา ทำไม หรือจะให้คนเป็นพ่อเป็นคนเอ่ยเหรอ?”

สู่ขอ?!

โครม!

หัวของเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเกิดเสียงที่ดังสนั่นพร้อมกัน

ทั้งสองมองสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนอึ้งกันไปเลย

พริบตาเดียว ใบหน้าที่แดงระรื่นของกู้ชิงหยิ่ง เหมือนเลือกจะซึมออกมาแล้ว

เธออายจนก้มหน้าลง กระทืบเท้าเบาๆ กล่าวอย่างต่อว่า “พ่อคะ พ่อกำลังพูดอะไร?”

เฉินตงก็รีบยกมือขึ้น อธิบาย “คุณอา ผม ผมมานำของขวัญมาเพื่อขอบคุณจริงๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสู่ขอเลย”

ร่างที่บอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย เงยหน้ามองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ

สีหน้าของกู้โก๋ฮั้วเคร่งขรึมทันที “ไม่ได้คิดถึงเรื่องสู่ขอ? ไอ้หมอนี่หมายความว่าไง? ให้ของขวัญราคาหลักร้อยล้าน ยังไม่อยากสู่ขอลูกสาวฉัน? หรือว่ารู้ว่าลูกสาวฉันไม่คู่ควรกับนาย? ห๊า………..”

คำถามมาเป็นชุด ทำให้เฉินตงตื่นตระหนก

ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริง!

แค่หลักร้อยล้านเอง ทำไมต้องดึงมาเกี่ยวกับเรื่องสู่ขอด้วย?

ยังไม่ทันที่เขาจะอธิบาย

สายตาของกู้โก๋ฮั้วเหมือนไฟ ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ยอมรับมาเถอะ อารับรู้ความรู้สึกของนายมานานแล้ว ฐานะนายก็แค่นั้น หากบอกว่าเป็นของขวัญการพบหน้าหรือขอบคุณที่ช่วยชีวิต ทำไมถึงได้มอบของขวัญหลักร้อยล้านล่ะ?”

“นายยอมรับอย่างตรงไปตรงมา วันนี้ฉันก็จะเห็นด้วยกับคุณอย่างใจกว้าง!”

เมื่อคำพูดประโยคนี้ได้ถูกพูดออกมา สายตาของกู้ชิงหยิ่งก็ได้มองไปทางเฉินตง สองมือกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าเหมือนกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่

หลี่หวั่นชิงกะพริบตาที่สวยงาม ลูบหลังของลูกสาวโดยสัญชาตญาณ

เฉินตงไม่รู้จะทำยังไง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อธิบายกล่าว “คุณอา หลักร้อยล้านมันไม่มากจริงๆ ผมนั้นเพื่อขอบคุณจริงๆ แสดงความจริงใจของผม”

ตูบ!

กู้โก๋ฮั้วโกรธจนตบโต๊ะไปหนึ่งที ฟาดขวดเหล้าไปหนึ่งขวด จากนั้นหน้าแดง พูดกับกู้ชิงหยิ่งด้วยสายตาที่มึนเมา “เสี่ยวหยิ่ง ลูกดูไอ้หมอนี่ มันรู้สึกว่าลูกไม่คู่ควรกับมัน ฮึ่ม………”ในตอนท้าย มีอาการสะอึกแอลกอฮอล์ที่รุนแรงมากอีกครั้ง

ร่างที่บอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามก็แดงขึ้นมา มองเฉินตงอย่างลึกๆแวบหนึ่ง หันกายเดินออกไปจากห้องอาหาร

“เมื่อดื่มเหล้า แม้แต่ตัวเองเป็นใครก็ไม่รู้แล้วเหรอ?”

หลี่หวั่นชิงถอนหายใจ จ้องมองกู้โก๋ฮั้วอย่างโกรธเคือง แล้ววิ่งตามออกไป

เฉินตงจ้องมองกู้ชิงหยิ่งที่วิ่งออกไปอย่างสิ้นหวัง

เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้

ทำไม………เหมือนหัวใจพังทลายลงเลย!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset