Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 148 อดีตของฟ่านลู่

บทที่ 148 อดีตของฟ่านลู่

รถโรลส์รอยซ์กำลังเล่นอยู่บนท้องถนน

เฉินตงขับรถอย่างเงียบๆ ท่านหลงนั่งอยู่ด้านข้างคนขับ

คุนหลุนที่กอดฟ่านลู่ไว้แน่นๆนั่งอยู่ข้างหลัง ปลอบโยนด้วยเสียงที่อ่อนโยน

น้ำเสียงที่อ่อนโยน ทำให้คนนั้นจินตนาการได้ยากมาก ท่าทางกระหายเลือดที่คุนหลุนแสดงออกมาเมื่อกี้

ฟ่านลู่ขดตัวอยู่ในอ้อมอกของคุนหลุน น้ำตานองหน้า

บางทีอาจจะเพราะร้องไห้จนเหนื่อย ไม่มีเสียงแล้ว มีเพียงน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด

และสองมือของเธอ กลับจับแขนเสื้อของคุนหลุนไว้อย่างแน่นๆ

ท่านหลงเห็นภาพจากหน้าจากกระจกหลัง มุมปากก็มีรอยยิ้ม

“แก่แล้วไม่รู้จักอาย”

เฉินตงหัวเราะ ก็ได้ปรับกระจกหลัง

จากนั้นเขาก็กดแผ่นกั้นด้านหน้าและด้านหลังลง โดยแบ่งแยกให้เป็นโลกส่วนตัวของเขาสองคน

ท่านหลงเลิกคิ้ว “ดูหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”

“คุณกำลังสอดแนมความเป็นส่วนตัวของคนอื่น” เฉินตงกลอกตาใส่เขา “คุณไปหาผู้หญิงอายุเจ็ดถึงแปดสิบปีมาหนึ่งคน แล้วผมก็เฝ้ามองอยู่ข้างๆ คุณจะขยะแขยงมั้ย?”

ท่านหลงยิ้มอย่างเหยียบหยาม “กระผมนั้นชอบอายุสิบแปด”

ความตลกนี้ ทำให้ความโกรธที่กดทับไว้ในใจของเขาทั้งสองคนผ่อนคลายลง

ท่านหลงยิ้มๆ กลับหันหน้าไปทางเฉินตง ตบที่บ่าของเฉินตงเบาๆ ชี้ไปที่ด้านหลัง

เห็นได้ชัด เพื่อจะถามว่าจะจัดการกับเรื่องของฟ่านลู่ยังไง?

เฉินตง ยิ้มๆ “เธอนั้นเป็นลูกสาวบุญธรรมของแม่ผม”

ท่านหลงพยักหน้า ไม่ถามต่อ

กลับมาถึงในเมือง

เป็นเวลาตีสามแล้ว

เฉินตงนั้นไม่ได้กลับไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานทันที

แต่ได้หาร้านกาแฟที่ใกล้ๆ

เขาไม่มีทางที่จะทิ้งฟ่านลู่ แต่เรื่องบางเรื่อง ตอนนี้ควรที่ถามให้ละเอียดชัดเจน

เพียงแต่ เขาก็ได้โทรแม่ก่อน เพื่อรายงานความปลอดภัยแล้ว

ในสาย ได้ยินว่าหาตัวฟ่านลู่เจอแล้วนั้น น้ำเสียงของหลี่หลานฟังออกว่าโล่งใจแล้ว กำชับให้รีบกลับบ้าน

ในร้านกาแฟ เงียบสงบมาก

ดวงไฟไม่กี่ดวง ทำให้ร้านดูสลัวๆ

เวลานี้เป็นเวลาใกล้รุ่งแล้ว แต่ยังคงมีคนสองสามคนนั่งมุมต่างๆของร้าน เสพสุขกับบรรยากาศที่เงียบสงบยามกลางคืน ใส่หูฟังไว้ทำงานอย่างเงียบๆ อารมณ์ของฟ่านลู่ได้สงบลงมาบ้างแล้ว

ถือถ้วยกาแฟที่ร้องๆ พิงอยู่ในมุมกำแพง

เธอในเวลานี้ ตานั้นบวมมาก หน้าก็ซีดเล็กน้อย

ภาพนี้ ทำให้เฉินตงสามคนมองแล้วรู้สึกสงสารจับใจ

พูดตามจริง หน้าตาของฟ่านลู่นั้นไม่ได้แย่ แม้ว่าจะเทียบรูปลักษณ์ที่งดงามอย่างกู้ชิงหยิ่งไม่ได้ แต่ก็ถือว่าสวยสดใส

ปกติที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ฟ่านลู่ก็สดใสร่างเริงเป็นประจำ

แต่ตอนนี้ กลับเหมือนมะเขือที่ถูกลูกเห็บตกใส่ แววตามืดมน

“ฮู้……..ขอบคุณคุณเฉิน ท่านหลงและพี่คุนหลุน”

ในที่สุด ฟ่านลู่ก็เป็นคนคลายความเงียบที่อยู่บนโต๊ะ เธอยิ้มเล็กน้อย “หากไม่มีพวกคุณ วันนี้ฉันคงตายไปแล้ว”

การตายนี้ มันไม่ใช่การตายแบบนั้น

กลับน่ากลัวยิ่งกว่าความตาย

“เธอเป็นคนของเรา ทำไมต้องขอบคุณ?” เฉินตงยิ้มๆ

ฟ่านลู่ก้มหน้าลง จากนั้นก็ค่อยๆเล่าเรื่องของตัวเองขึ้นมา

เฉินตงทั้งสามคนนั่งฟังอย่างเงียบๆ

ที่แท้ ชีวิตวัยเด็กของฟ่านลู่ เพราะว่าพ่อเป็นผีพนันและขี้เมา เมื่อแพ้พนันเมื่อดื่มเหล้า ก็จะทำร้ายแม่ของเธอ แม่ของเธอทนไม่ไหว จนทิ้งฟ่านลู่เอาไว้ แล้วหนีไป

หลังจากที่แม่ไปแล้ว พ่อก็เอาความผิดทั้งหมด มาลงที่ตัวของฟ่านลู่

ตั้งแต่เล็กจนโต ฟ่านลู่นั้นมีชีวิตอยู่ในเงามือของพ่อ แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ต่อความหวังในอนาคต เธอมีความเชื่อว่าขอเพียงพยายาม สุดท้ายก็จะสามารถเห็นแสงสว่าง

ความจริงก็ไม่ได้ผิดต่อความพยายามของเธอ พ่อที่เอาแต่เล่นพนันดื่มเหล้า แต่คนในหมู่บ้านก็ช่วยกันส่งเสียเธอเรียน ตอนอายุสิบขวบ ในโรงเรียนคัดเลือกนักกีฬาเพื่อไปฝึก

ฟ่านลู่โชคดีมากที่ถูกเลือกเป็นนักกีฬาชกมวยสากล เธอพยายามทีละขั้น เหมือนกับหอยทาก ถึงแม้จะช้าแต่ยังคงพยายามคลานไปด้านหน้า

เมื่อเธอเป็นนักกีฬาตัวแทนของเขต แข่งขันหลายครั้ง ก็ได้แชมป์มาทุกครั้ง

เธอเชื่อว่า ความพยายาม จะทำให้มีพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

ตอนที่เธอกลายเป็นนักกีฬาแล้ว พ่อของเธอยิ่งเล่นยิ่งหนัก มีครั้งหนึ่งที่ติดหนี้แล้วไม่ชดใช้ ถูกเจ้าหนี้มาทวง เธอได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำลายอาชีพนักกีฬาของเธอโดยตรง จึงต้องออกอย่างจำยอม

ฟ่านลู่ยังคงไม่ยอมแพ้ ไม่มีความชำนาญอะไรเลย แต่เธอรู้ว่าเธอมีแรง ดังนั้นจึงเข้าไปทำงานในไซต์งานก่อสร้าง ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงิน มาใช้หนี้แทนพ่อ

เธอกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนงานมาโดยตลอด ดังนั้นจึงได้มีใบสมัครที่สมัครเป็นพี่เลี้ยงในบริษัทจัดหางาน

โชคดี เธอนั้นถูกเฉินตงเลือก ในที่สุดก็ได้ออกจากไซต์งานก่อสร้าง

แต่เพิ่งจะชีวิตที่มีความสุขได้ไม่กี่วัน ฝั่งพ่อของเธอก็ติดหนี้พนันก้อนใหญ่อีกครั้ง ก็เลยมีภาพที่เกิดขึ้นในคืนนี้

หลังจากพูดจบ หน้าของฟ่านลู่ยิ่งก้มต่ำกว่าเดิมมาก ร่างกายสั่นเทา หยดน้ำตาร่วงลงสู่พื้น

เฉินตงกับคุนหลุน ท่านหลง ล้วนอึ้งกันไปหมด

ฟ่านลู่พูดได้สั้นมาก เพราะจงใจต้องการปกปิดความเจ็บปวด แต่พวกเขายังสัมผัสความรู้สึกนั้นจากคำพูดสั้นๆนี้ได้

ไม่มีที่พึ่ง เจ็บปวด สิ้นหวัง แม้ว่าเขาจะมีชีวิตขึ้นมาจากความสิ้นหวัง แต่พ่อของเขา กลับทำให้เขาเข้าสู่ความมืดในชีวิตอีกครั้ง

เฉินตงที่สายตาลอยไปลอยมา ในเวลานี้ เขาก็คิดถึงภาพที่เห็นฟ่านลู่ครั้งแรก มือของฟ่านเต็มไปด้วยแผลที่หยาบกระด้าง

ฟ่านลู่กับเขาอายุไล่เลี่ยกัน ผู้หญิงคนหนึ่ง กลับต้องบีบตัวเองให้เหมือนผู้ชาย!

นี่…….มันต้องมีความอดทนที่มากแค่ไหน?

“คุณเฉิน………” ฟ่านลู่จู่ๆก็เงยหน้าขึ้น มองเฉินตงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ในแววตาเต็มไปด้วยความกลัว

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไปเถอะ กลับบ้านแล้ว แม่เราตุ๋นซูปรอเรากลับบ้านแล้ว”

ฟ่านลู่ตัวแข็งทันที ในหัวดังขึ้นด้วยเสียงโครม รีบลุกขึ้นมา โค้งคำนับ “ขอบคุณคุณเฉิน ขอบคุณคุณเฉิน……….”

เฉินตงไม่ได้สนใจ เขาได้ส่งสัญญาณให้คุนหลุนพยุงฟ่านลู่ แล้วเขากับท่านหลงก็เดินออกไปจากร้านกาแฟก่อน

ลมกลางคืนที่เย็นเล็กน้อย

ถนนที่ว่างเปล่า

เฉินตงสูดลมหายใจเข้า แล้วหายใจออกมาจนสุด หัวเราะอย่างขมขื่น

“ต่างเป็นคนมืดมนทั้งนั้น ผมเพิ่งจะพบว่า ผมนั้นโชคดีกว่าฟ่านลู่มาก อย่างน้อยผมยังมีแม่ที่ร่วมฝ่าฟันด้วยกัน วิ่งไปหาแสงสว่างโดยไม่ลังเล แต่ฟ่านลู่กลับถูกพ่อเธอถ่วง ทุกครั้งที่จะเห็นแสงสว่าง ก็จะถูกกระชากกลับไปในมุมมืด”

“ชีวิตคนมีหลายร้อยรูปแบบจริงๆ” ท่านหลงก็ถอนหายใจยาวๆ

หลังจากกลับถึงบ้าน

เป็นเวลาตีสี่แล้ว

สิ่งที่ทำให้เฉินตงคิดไม่ถึงก็คือ แม่เขายังไม่ได้นอน

แต่กลับนั่งอยู่ในห้องรับแขก รออย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นเฉินตงและคนอื่นกลับมา หลี่หลานที่ตาแดง ลุกขึ้นเดินผ่านเฉินตง วิ่งไปตรงหน้าของฟ่านลู่ พูดอย่างห่วงใย “ไอ้หยา ลูกเอ๊ย วันนี้ทำให้น้าใจหายจริงๆ ไม่เป็นไรใช่มั้ย บาดเจ็บตรงไหนมั้ย?”

เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของฟ่านลู่และเบ้าตาที่บวมแดง หลี่หลานก็มองสำรวจอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะคุณน้า พวกคุณเฉินมาได้ทันเวลา ก็เลยช่วยหนูเอาไว้ได้” แม้ว่าฟ่านลู่จะยิ้ม แต่น้ำตาก็อดไมได้ที่จะไหลลงมา

ไม่ร้องนะ เด็กน้อยไม่ร้องนะ

หลี่หลานได้ช่วยฟ่านลู่เช็ดน้ำตา กอดฟ่านลู่ จากนั้นก็จูงมือไปฟ่านลู่ไปที่ห้องอาหาร “น้าตุ๋นซุปเอาไว้ ยังอุ่นๆอยู่เลย ดื่มให้มันรู้สึกดีขึ้นหน่อยนะ ลูกเอ๊ย วันนี้น้าตกใจจริงๆ หากหนูเกิดเรื่อง น้าจะอยู่ยังไง”

เฉินตงยื่นอึ้งอยู่ที่เดิม บ่นพึมพำ “ท่านหลง คุนหลุน ผมทำไมรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกไปแล้วล่ะ?”

คุนหลุนกับท่านหลงมองสบตากันแล้วยิ้ม

ไม่รอคำตอบ

“ไม่สนแล้ว ไปดื่มน้ำแกงก่อนค่อยว่ากัน ผมจะบอกพวกคุณนะ น้ำแกงที่แม่ผมตุ๋นนั้นอร่อยที่สุด”

เฉินตงบิดขี้เกียจ ยิ้มแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร “แม่ ตักให้ผมด้วย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset