Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 157 นี่คือค่าชดเชยในการหย่าร้างที่แม่ให้กับลูก !

บทที่ 157 นี่คือค่าชดเชยในการหย่าร้างที่แม่ให้กับลูก !

เช้าตรู่

เฉินตงมาถึงท่าเทียบเรือตามที่นัดหมายกันไว้

ครอบครัวของหวางหนันหนันตั้งใจที่จะเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่

หลังจากผ่านสองวันแห่งความทรมานมา ทำให้ร่างกายของเฉินตงรู้สึกเหนื่อยล้า และอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลจนถึงขีดสุด

ความโลภของตระกูลหวาง ทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้

เฉินตงกุมบัตรธนาคารที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาเอาไว้ ด้วยท่าทีเย็นชา

ขอเพียงแค่เงินหนึ่งร้อยล้านนี่ สามารถจบปัญหาทุกอย่างได้ เขาก็ยินดีที่จะจ่าย

ปลายเดือนเป็นเวลาที่เขาจะขอกู้ชิงหยิ่งแต่งงาน ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นในช่วงเวลานี้เป็นอันขาด

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

หวางหนันหนันโทรเข้ามา

เฉินตงรับโทรศัพท์ด้วยท่าทีเย็นชา : “อยู่ที่ไหน ?”

“ท่าเทียบเรือหมายเลข 1”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เฉินตงก็เดินตรงไปยังท่าเทียบเรือหมายเลข 1

เขามองเห็นหวางหนันหนันซึ่งสวมใส่ชุดกระโปรงสีดำ ยืนอยู่ในที่ไกลๆ ด้านข้างหวางหนันหนันยังมีกระเป๋าเดินทางอีกหลายใบ

มีลมโชยอ่อนพัดมา ทำให้เส้มผมและกระโปรงของหวางหนันหนันพลิ้วไหว

รอยยิ้มจางๆ และใบหน้าที่งดงาม ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้รู้สึกถึงสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

ถึงแม้จะยืนอยู่ที่นั่นเฉยๆ ก็สามารถดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ไม่น้อย

แต่ในสายตาของเฉินตงแล้ว กลับเป็นภาพที่ดูสงบนิ่งจนถึงขั้นที่ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ

“เฉินตง ทางนี้ค่ะ !” เมื่อหวางหนันหนันเห็นเฉินตง ก็ยิ้มและกวักมือ

หลังจากที่เฉินตงเดินเข้ามาใกล้ เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “ขอบคุณมากที่มาส่งฉัน”

เฉินตงมีท่าทีเย็นชา แววตาของเขาดูไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย

เขาถามด้วยท่าทีเฉยเมยว่า : “ของล่ะ ?”

เขาทักทายอย่างตรงไปตรงมา ไม่คิดที่จะเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย

ตระกูลหวางโลภจนน่าเกลียดเช่นนี้ ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องไว้หน้าอีกต่อไป

“ของอะไร ?” หวางหนันหนันผงะไป

“เชอะ !”

เฉินตงหัวเราะออกมาทันที และแววตาของเขาเป็นประกาย : “หวางหนันหนัน คุณแกล้งโง่กับผมเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร ? คุณไม่คิดว่าทำแบบนี้มันน่ารังเกียจไปหน่อยหรือ ?”

หวางหนันหนันตัวสั่น ใบหน้าขาวผ่องของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง

ริมฝีปากสีแดงระเรื่องของเธอเริ่มขยับ และพูดออกมาด้วยความงุนงง : “ฉัน ฉันแกล้งโง่อะไรกัน ? เฉินตง คุณหมายความว่าอย่างไร ?”

เผียะ !

เฉินตงฟาดบัตรธนาคารลงบนมือของหวางหนันหนัน : “นี่คือเงินร้อยล้านที่คุณต้องการ ส่วนรหัสคือเลข 0 หกตัว

เปรี้ยง !

หวางหนันหนันรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ตัวเธอเอง……ต้องการเงินร้อยล้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?

ไม่ช้า หวางหนันหนันก็เรียกสติกลับคืนมาได้ ระหว่างเขาและเธอจะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ดวงตาของเธอแดงก่ำ : “คุณเห็นฉันเป็นอะไร ? ฉันแค่อยากจะให้คุณมาส่งฉัน ให้ฉันได้มีโอกาสบอกลาอดีต”

น้ำเสียงของเธอสะอึกสะอื้นและแผ่วเบา

หลังจากที่หย่าร้างกับเฉินตงแล้ว การเผชิญหน้ากันหลายครั้ง ทำให้เธอตระหนักได้ในทันทีว่า จริงๆ แล้วระยะเวลาสามปีที่ใช้ชีวิตร่วมกับเฉินตง ถึงจะเป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด

แต่เธอรู้ดีว่า ทุกอย่างไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้แล้ว

ในที่สุดเธอก็สามารถผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ เธอเตรียมตัวที่จะบอกลากับอดีต และต้อนรับอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ

แต่ทว่าตอนนี้ เฉินตงกลับทำให้เธอรู้สึกสูญสิ้นทุกสิ่ง !

“แค่มาส่งอย่างนั้นหรือ ?”

เฉินตงหัวเราะด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็หยิบรูปที่อยู่ในซองจดหมายออกมา : “นี่คือสิ่งที่คุณพูดว่าแค่มาส่งอย่างนั้นหรือ ? หรือจะบอกว่า ที่คุณได้ไปร้อยล้านมันยังน้อยไป อยากจะโก่งราคาอีกหรืออย่างไร ?”

หวางหนันหนันอึ้งไปทันที ดวงตาของเธอเบิกโพลง สมองเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

เธอไม่ได้โง่ เมื่อเห็นรูปถ่าย เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพราะเหตุใดเฉินตงถึงได้โมโหขนาดนี้ และเงินร้อยล้านที่อยู่ในมือหมายความว่าอะไร !

ทันใดนั้น หวางหนันหนันก็ส่ายหัวด้วยความงุนงงในทันที เธอพึมพำออกมาด้วยความร้อนรน : “ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ……”

“เหอะๆ น่าขำ !”

ในดวงตาของเฉินตงฉาบไปด้วยประกายของความโกรธแค้น

หวางหนันหนันรีบดึงแขนของเฉินตงเอาไว้ : “เฉินตง คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉัน ฉันไม่ได้ทำจริงๆ ที่นัดเจอกับคุณครั้งนั้น เพราะต้องการที่จะบอกลาจริงๆ ส่วนรูปถ่ายนี่ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยเลย !”

“ไม่รู้เรื่อง !”

เฉินตงหยิบกระดาษโน๊ตออกมา จากนั้นจึงยื่นให้หวางหนันหนันอย่างเย็นชา : “ถ้าอย่างนั้นกระดาษโน๊ตนี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอย่างนั้นหรือ ?”

เขาไม่ได้ทำตามความต้องการบนกระดาษโน๊ต ที่ระบุให้โอนเงินจำนวนหนึ่งร้อยล้านเข้าบัญชีของหวางหนันหนัน แต่กลับทำบัตรธนาคารขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งใบ

หวางหนันหนันรับกระดาษโน๊ตมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นเนื้อหาที่เขียนอยู่ด้านบน ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดและพูดไม่ออกในทันที

เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างไม่แยแส : “คุณบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณไม่ใช่หรือ ? หวางหนันหนัน ชาตินี้ผมผิดเองที่หลงเชื่อตระกูลหวางของพวกคุณ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคำมั่นสัญญาที่คุณมีให้กับผมล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น คุณอาจทำให้คนอื่นต้องรู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ แต่ไม่เคยทำให้ผมต้องผิดหวัง”

คำพูดของเขาดังก้อง เสียดแทงเข้าไปในหัวใจ

ดวงตาอันงดงามของหวางหนันหนันแดงก่ำ และเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

คำพูดของเฉินตง เหมือนกับมีดอันแหลมคมที่ถูกเผาจนร้อน ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของเธอ

หวางหนันหนันกัดริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอเอาไว้แน่น เธอหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ และยังคงส่ายหัวไม่หยุด

“หวังว่าคุณจะไม่มารบกวนชีวิตของผมอีก”

เฉินตงรู้สึกผิดหวังและหันหลังกลับ : “คุณเองก็ควรที่จะขอบคุณ ปลายเดือนนี้ผมจะขอเสี่ยวหยิ่งแต่งงาน หวังว่าในช่วงนี้จะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น มิเช่นนั้นเพียงแค่เรื่องที่ครอบครัวของคุณขู่กรรโชกทรัพย์จากผม ก็คงไม่สามารถรองรับความโกรธของผมได้แล้ว !”

มองเฉินตงเดินจากไป

ดวงตาของหวางหนันหนันเริ่มมืดลง รู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม

ทันใดนั้น เธอรู้สึกเหมือนกับโลกหมุน

เดิมทีเธอสามารถดึงความกล้าหาญออกมาเพื่อที่จะใช้ปล่อยวางอดีตได้แล้ว และกำลังจะกลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง

แต่ทว่าตอนนี้ แค่คำว่าขู่กรรโชกทรัพย์ กลับทำให้เธอรู้สึกอับอายเหมือนถูกจับเปลื้องผ้า

“ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องพวกนี้……”

หวางหนันหนันร้องไห้พลางพูดพึมพำ จนในที่สุดเธอก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมา : “เฉินตง ฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ !”

แต่เฉินตงที่อยู่ในที่ไกลๆ กลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เฉินตงเดินหายไปท่ามกลางฝูงชน

หวางหนันหนันก็ร้องไห้และคุกเข่าลงกับพื้น มือข้างหนึ่งกำกระดาษโน๊ตเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ถือบัตรธนาคารเอาไว้แน่น

ทันใดนั้น ก็มีคนสามคนรีบวิ่งเข้ามาจากที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

เมื่อจางซิ่วจือเห้นบัตรธนาคารที่อยู่ในมือของหวางหนันหนัน ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นในทันที

จางซิ่วจือยื่นมือออกไปแย่งยัตรธนาคารที่อยู่ในมือของหวางหนันหนันมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความละโมบ แล้วพูดว่า : “ร้อยล้าน นี่มันเงินร้อยล้านจริงๆ ! ชาตินี้ฉันยังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย ต่อไปครอบครัวของเราก็จะสบายกันแล้ว !”

“แม่ ในที่สุดครอบครัวของเราก็มีเงินแล้ว รอให้ถึงบ้านหลังใหม่ก่อน ผมอยากจะซื้อรถหรูสักคัน ต่อไปสู่ขอภรรยาก็ไม่ต้องอายใครแล้ว” หวางเห้าเองก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับจางซิ่วจือ

ส่วนหวางเต๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่ตกใจจนอ้าปากค้าง

ส่วนหวางหนันหนันที่นั่งอยู่บนพื้น ก็เหมือนมีเสียงดังสนั่นก้องอยู่ในหัวของเธอ

ในที่สุดเธอก็เรียกสติกลับมาได้

แม่เป็นคนทำนี่เอง !

น้องชายเป็นคนทำนี่เอง !

ว่าแล้วเชียว !

ว่าแล้วเชียวว่าทำไมตอนที่เธอบอกว่าจะไปพบกับเฉินตง แม่กับน้องชายถึงได้รั้งพ่อเอาไว้ไม่ให้ตามมาด้วย !

“จางซิ่วจือ !”

หวางหนันหนันลุกขึ้นด้วยความโกรธ แล้วตะคอกใส่จางซิ่วจือ : “แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกสาวอีกไหม ? ทำไมแม่ถึงได้ทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้ ? ทำไมแม่ถึงต้องใช้ชื่อของหนูไปขู่กรรโชกทรัพย์จากเฉินตงด้วย ? แม้กระทั่งศักดิ์ศรีครั้งสุดท้ายที่แม่จะหลงเหลือไว้ให้กับหนูก็ไม่มีเลยอย่างนั้นหรือ ?”

คำถามถูกโพล่งออกมาเป็นชุดอย่างบ้าคลั่ง

หวางเต๋อตกใจ เกรงว่าลูกสาวจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน

เขารีบเข้าไปปลอบ แต่หวางหนันหนันกลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เธอจ้องหมองจางซิ่วจือด้วยสายตาของคนที่กำลังบ้าคลั่งที่พร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

จางซิ่วจือกับหวางเห้าต่างก็อึ่งไป

ทั้งสองหน้าถอดสี

จู่ๆ จางซิ่วจือก็รู้สึกหายใจไม่ออก ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดว่า : “ฉันเป็นแม่ของแกนะ ! หวางหนันหนัน ผู้หญิงที่มีตำหนิอย่างแก นี่คือวิธีที่ฉันพยายามคิดออกมาอย่างยากลำบาก เพื่อที่จะให้เฉินตงชดใช้เงินในการหย่าร้างให้กับแก ! หรือว่าแกแต่งงานกับเขาตั้งสามปี ได้แค่สองแสนก็ยอมหย่ากับเขา ถ้าอย่างนั้นไม่เท่ากับว่าปล่อยให้เขานอนกับแกฟรีๆ หรอกหรือ ?”

หลังจากตะคอกจบ จางซิ่วจือก็ก้มลงมองบัตรธนาคารที่ถืออยู่ในมือ แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองว่า : “สมัยนี้ ต่อให้เป็นโสเภณี เวลาสามปีก็ยังทำเงินได้มากกว่าสามแสนเลย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset