Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 164 ไม่ทอดทิ้งกัน อยู่ด้วยกันตราบจนชั่วชีวิต

บทที่ 164 ไม่ทอดทิ้งกัน อยู่ด้วยกันตราบจนชั่วชีวิต

“เสี่ยวหยิ่ง ขอบคุณที่คุณไม่ไปจากผม”

จนกระทั่งน้ำเสียที่อ่อนโยนของเฉินตงดังขึ้น

ร่างที่บอบบางของจึงสั่น แล้วได้สติกลับมา

บนท้องฟ้าท่ามกลางดอกไม้ไฟและสายฝนดอกไม้ เธอค่อยๆก้มหน้าลง มองเฉินตงที่กำลังคุกเข่าด้วยขาหนึ่งข้าง

เวลานี้ กู้ชิงรู้สึกว่าบนโลกนี้มีเพียงเธอกับเฉินตง

แม้แต่เสียงคำรามของเฮลิคอปเตอร์ทั้งห้าลำที่อยู่เหนือศีรษะ ก็หายโดยปริยาย

“การที่คุณรอผมสามปี ผมจะไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง”

เฉินตงจริงจังมาก น้ำเสียงก็อ่อนโยนมาก

น้ำเสียงไพเราะ เต็มไปด้วยแรงดึงดูด แต่มันโดนใจของกู้ชิงหยิ่งโดยตรง

“ผมเคยพูดแล้ว คุณใช้ทั้งชีวิตมาเป็นเดิมพัน ผมจะยอมให้คุณแพ้ได้อย่างไร?”

“ต่อไปนี้ ผมหวังว่าข้างกายผมจะมีคุณอยู่ด้วยตลอดเวลา!”

เมื่อคำพูดสุดท้ายได้พูดออกมาแล้ว เฉินตงก็ได้หยิบแหวนเพชรที่ได้เตรียมไว้นานแล้วออกมา

ภายใต้แสงที่สาดส่อง เขาค่อยๆเปิดกล่องแหวนออก

ทันใดนั้น แสงสีแดงสดใส ก็สะท้อนออกมา

กู้ชิงหยิ่งตกตะลึงไปแล้ว ถูกแหวนที่อยู่ในมือของเฉินตงนั้นดึงดูดไปโดยสิ้นเชิง

แสงสีแดงแพรวพราวที่แทงตา ดูเหมือนจะมีอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายเท่านั้น

และในไม่ไกล

สีหน้าท่าทีของกู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงก็เปลี่ยนไปอย่างมากในเวลาเดียวกัน

กู้โก๋ฮั้วถึงกับโพล่งออกมา: “เพชรสีเลือด? โอ้พระเจ้า เพชรสีเลือดที่เม็ดใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยหลายร้อยล้าน ไอ้เด็กเฉินตงคนนี้ บ้าไปแล้วหรือ?”

“บ้าเหรอ?เห่อ!”

ท่านเมิ่งยิ้มๆ “เงินแค่ไม่กี่ร้อยล้านจะแค่ไหนเชียว ต่อไปพันล้าน ก็ไม่มีอะไรน่าตกใจเลย”

สีหน้าของกู้โก๋อั้วแดงก่ำ ไม่ว่าจะคิดยังไม่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้

และในเวลานี้

บนเวที เฉินตงที่ถูกแสงสาดส่อง ในที่สุดก็ค่อยพูดคำพูดประโยคนั้นออกมา

“กู้ชิงหยิ่ง ได้โปรดแต่งงานกับผมด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะจับมือกันไปจนแก่เฒ่า จนแก่ก็ไม่เสียใจ คุณสัญญากับผมว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน ผมสัญญากับคุณเราจะอยู่ด้วยกันตราบจนชั่วชีวิต!”

โครม!

กู้ชิงหยิ่งรู้เพียงแต่ว่าในหัวสมองนั้นดังด้วยเสียงที่สนั่นหวั่นไหว

ทันใดนั้น ดวงตาที่สวยงามก็ขุ่นมัว

รอคอย

สามปีที่รอคอย

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอนั้นฝันถึงช่วงเวลานี้มาโดยตลอด

ตอนนี้จินตนาการได้กลายเป็นความจริงแล้ว ในที่สุดอารมณ์ทั้งหมดก็ปะทุออกมาในขณะนี้

ไม่มีความลังเลเลย

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ยื่นมือขวาออกไป

เฉินตงยิ้มจางๆ หยิบแหวนเพชรที่อยู่ในกล่องออกมา กำลังจะสวมให้กับกู้ชิงหยิ่ง

ทันใดนั้น

ท้องฟ้ายามค่ำคืนในระยะไกล

ดังขึ้นด้วยเสียงที่เกือบจะทำให้คนหูหนวก

เสียงนั้นดังมาก ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน

ราวกับว่ากองกำลังนับพัน ถูกกวาดไปในอากาศ

เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว ไม่เพียงแต่สะท้อนทั่วภูเขาเทียนซาน แต่เสียงนี้ยังส่งผลกระทบไปทั่วเมือง

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทันใดนั้น บนยอดเขาเทียนซาน ทุกคนล้วนตกตะลึงกันไปหมด

แม้แต่เฉินตงก็ยังมึนงง

พอดีในเวลานี้ ท่านหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ตะโกนผ่านโทรโข่ง

“คุณชาย………นี่คือของขวัญเล็กน้อยที่นายท่านเตรียมให้คุณ”

คุณพ่อ?!

เฉินตงตกใจอย่างมาก มือที่กำลังจะสวมแหวนเพชรให้กับกู้ชิงหยิ่งนั้น อดไม่ได้ที่จะหยุดชะงักไปทันที

ก็ในเวลานี้ ท่านเมิ่งที่อยู่ไม่ไกลสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

พร้อมกับอุทาน “เครื่องบินรบ! นี่มันเป็นเสียงของเครื่องบินรบ!”

อะไรนะ?!

เมื่อได้ยินเสียงอุทานนี้

ทุกคนเหมือนถูกฟ้าผ่า ต่างตกตะลึงกันอยู่ในนี้

ขอแต่งงาน………ทำไมถึงมีเครื่องบินรบมาร่วมด้วยละ?

ด้วยเสียงคำรามของเครื่องบินรบ แทบจะไม่กะพริบตากันเลย มันได้บินมาถึงบนท้องฟ้าของเขาเทียนซานแล้ว ซึ่งอยู่สูงกว่าเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่ก่อนหน้านี้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนก็อาศัยแสงนี้ มองดูเงาของเครื่องบินรบขนาดใหญ่

ทั้งหมด…….ยี่สิบลำ!

โครม!

วินาทีต่อมา เครื่องบินรบยี่สิบลำบินขึ้นในแนวดิ่ง เปลวไฟหางที่แทงตาสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า

และเมื่อเครื่องบินรบไต่ขึ้น หางของเครื่องบินรบทุกลำก็ได้ปล่อยแถบแสงที่แตกต่างกันออกมา เมื่อแสงรวมตัวกัน หากเทียบกับสายรุ้ง งดงามและชวนฝันยิ่งกว่า

แสงยี่สิบแถว ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า สว่างไสวไปทั่วฟ้าดิน

มันเป็นเหมือนม่านแสง แสงที่สดใสได้ปกคลุมภูเขาเทียนซานทั้งลูก

ว้าว……….

คนที่อยู่ในงานต่างก็อุทานด้วยความตะลึง

ภาพดังกล่าว เมื่อเทียบกับภาพก่อนหน้านี้ทั้งหมด มันเจ๋งกว่ามาก

แสงที่แพรวพราว เจิดจรัสไปทั่วฟ้าดิน

“คุณชาย…….ยังรออะไรอีกครับ?”

ภายใต้แสงที่เจิดจรัส ท่านหลงได้เตือนสติเฉินตงที่ตกอยู่ในภวังค์

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม รีบสวมแหวนเพชรไปที่นิ้วนางของกู้ชิงหยิ่ง

หลังจากลุกขึ้น เขาได้กอดกู้ชิงหยิ่งเข้ามาในอ้อมกอด ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็เป็นของผมแล้ว”

กู้ชิงหยิ่งที่เหมือนฝันมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า

ทุกสิ่งอย่างในค่ำคืนนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนฝัน

เสียงของเครื่องบินรถ แถบแสงที่วิเศษ

เมื่อรวมตัวกัน เหมือนเมฆสีรุ้ง

ภาพดังกล่าว เธอเคยจินตนาการในความฝัน

เธอจินตนาการว่าคนที่เธอรักจะสวมชุดเกราะสีทอง และเหยียบอยู่บนเมฆสีรุ้ง เพื่อมาขอเธอแต่งงาน

บัดนี้ กลับกลายเป็นความจริงแล้ว!

เฉินตงไม่ได้สวมชุดเกราะสีทอง แต่ก็สวมชุดสูทรองเท้าหนัง

แต่ว่าเมฆสีรุ้งที่อยู่ตรงหน้า กลับมีอยู่จริง

เมื่อจินตนาการกลายเป็นความจริง แม้ว่าจะเป็นจริงเพียงครึ่งหนึ่ง แต่มันก็มากพอที่จะทำให้กู้ชิงหยิ่งซึ้งจนน้ำตาไหล

เธออิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตง มองไปที่แถบไฟหลากสีบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น แล้วกล่าวพึมพำ “ขอบคุณค่ะ…….”

แถบสีรุ้ง อยู่อย่างนั้นไปเกือบสิบนาที

ในที่สุด เครื่องบินรบยี่สิบลำก็คำรามอยู่บนท้องฟ้าในเวลาเดียวกัน

แถบแสงหายไป เครื่องบินรบยี่สิบลำก็กลับลำในเวลาเดียวกัน ก็ได้หายไปจากท้องฟ้าในยามค่ำคืน

บนยอดเขาเทียนซาน กลับมาสลัวเหมือนเมื่อกี้อีกครั้ง

แต่การปรากฏตัวของเครื่องบินรบ ได้ทิ้งความประทับใจที่ลบไม่ออกในใจของทุกคน

ไม่เพียงแต่พนักงานของไท่ติ่งที่ตกตะลึง

แม้แต่ท่านเมิ่งที่เคยเห็นโลกกว้าง กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นๆ ก็ตะลึงกันทั้งนั้น อึ้งกันไปหมด

“เครื่องบินรบ เฉินตง……..ไปเชิญเครื่องบินรบมาจากไหน?”

กู้โก๋ฮั้วปากอ้าตาค้าง บ่นพึมพำ

เครื่องบินรบ นั้นเป็นอาวุธสงคราม!

มันใช่สิ่งที่การขอแต่งงานจะสามารถนำมาใช้ได้เหรอ?

และแล้ว

ท่านเมิ่งกลับยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากนายเคยเห็นครอบครัวของเฉินตงเดินทาง มีเครื่องบินรบคอยคุ้มกัน ก็จะไม่อุทานแบบนี้แล้ว”

เครื่องบินคุ้มกัน?!

กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยา ผู้อำนวยการหลิวกับเจิ้งโก๋โส่วล้วนมองท่านเมิ่งอย่างตกตะลึง

เวลานี้

ท่านหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวที

หลี่หลานที่อยู่ภายใต้การพยุงของฟ่านลู่ ก็ค่อยๆเดินตามไป

“แม่ครับ ท่านหลง”

เฉินตงพากู้ชิงหยิ่งเดินไปด้านหน้า

“ดีๆๆ ต่อไปนี้ก็เป็นคนบ้านเดียวกันแล้วนะ ตงเอ๋อหากลูกกล้าทำให้เสี่ยวหยิ่งเสียใจ อย่าหาว่าคนเป็นแม่ไม่ยุติธรรมละ!”

หลี่หลานยิ้มอย่างอ่อนโยน จับมือของกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ แววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู “เสี่ยวหยิ่งจ๋า ขอบคุณที่หนูไม่ทิ้งตงเอ๋อ ตงเอ๋อสามารถแต่งงานกับหนู ถือว่าโชคดีอย่างยิ่ง”

“ขอบคุณคุณน้า” กู้ชิงหยิ่งยิ้มกล่าวด้วยความเขินอาย

แม้ว่าจะเคยเจอหลี่หลานนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ ให้ความรู้สึกกับเธอไม่เหมือนก่อนเลย

“พ่อแม่หนูละ? ต่อไปก็เป็นญาติกันแล้ว ต้องเจอกันหน่อย” หลี่หลานยิ้มกล่าวอย่างอ่อนโยน

กู้ชิงหยิ่งเงยหน้ามองไปอีกฟากของเวที “พวกท่านอยู่ตรงนั้นค่ะ”

ขณะที่พูด เธอก็ได้กวักมือเรียกพ่อแม่

แต่ในเวลานี้กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยา ยังคงจมอยู่ในความตกตะลึงกับคำพูดของท่านเมิ่งในเมื่อกี้

ไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณที่กู้ชิงหยิ่งส่งมาเลย

แต่เป็นท่านเมิ่งที่ตบบ่าของกู้โก๋ฮั้ว “ไอ้กู้ ขึ้นไปเถอะ จำไว้เดี๋ยวอย่าตื่นเต้นให้มากละ”

“เห่อ ก็แค่เจอหน้าฝ่ายชายเอง มีอะไรน่าตื่นเต้นละ?” กู้โก๋ฮั้วเลิกคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

ท่านเมิ่งกลับยิ้มๆ “คืนนี้นายถึงจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด”

กู้โก๋ฮั้วไม่ได้สนใจเลย จับมือของหลี่หวั่นชิง ค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวที

เพียงแต่ เมื่อระยะเริ่มใกล้กันเข้ามา

สายตาที่มองเห็นชัดเจน

สายตาของกู้โก๋ฮั้วกลับไปหยุดอยู่บนร่างของท่านหลง โดยไม่อาจจะละสายตาออก

คิ้วได้ขมวดแน่นขึ้น

ความรู้สึกเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง………..

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset