Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 172 นอกจากฮ่องเต้ก็คือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหลวง!

บทที่ 172 นอกจากฮ่องเต้ก็คือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหลวง!

เสียงตบที่ดังสนั่นเข้าไปในหู เสียงสะท้อนดังไปทั่วลานบ้านที่เงียบสงบที่มีเพียงเสียงน้ำที่ไหล

เหมือนกับเสียงฟ้าคำรามไม่มีผิด

ทุกคนล้วนตะลึงกันไปหมดแล้ว

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะลงมือกะทันหันแบบนี้

และ……..ยังเป็นการตบหน้าคุณตาตัวเองได้เด็ดขาดแบบนี้

ฝ่ามือนี้ ตบจนชายชราผมขาวเลือดซึมออกมาจากมุมปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและมึนงง

“นายท่าน!”

บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้าง ก็กรูกันเข้ามาทันที

“ยืนอยู่ตรงนั้น!”

ชายชราผมขาวคำรามด้วยความโกรธ “พวกแกจะซ้อมหลานของฉันหรือไง?”

บอดี้การ์ดทั้งหลายก็หยุดกะทันหัน

“ตงเอ๋อ……..” หลี่หลานพูดอย่างตื่นตกใจ

เฉินตงยกมือขึ้นห้าม สายตามที่เยือกเย็นจ้องมองชายชราผมขาว “ฉันไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร ทำร้ายแม่ผม ผมก็จะทำร้ายคุณ!”

“เป็นความผิดของตาเอง”

ชายชราผมขาวพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างขอโทษ “ตงเอ๋อตอนนี้พอใจหรือยัง?”

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาเป็นคุณตาของผม?”

เฉินตงมีท่าทีที่เย็นชา คำพูดเชือดเฉือน “ยี่สิบกว่าปี ตอนที่ผมและแม่อาศัยอยู่ใต้หลังคาของคุณอื่น คุณตาอย่างคุณอยู่ไหน? ผมและแม่ยากจนจนไม่มีอาหารตกถึงท้องนั้น คุณตาอย่างคุณอยู่ไหน? ตอนที่แม่ผมป่วยหนักเกือบตาย คุณตาอย่างคุณ อยู่ไหน?”

“ฉัน………”

คำถามที่ยาวเป็นหางว่าว ทำให้ชายชราผมขาวพูดไม่ออก

“คุณตาที่ดี ตรงไหนร่มก็ไปอยู่ตรงนั้นเลย แม่ผมยอมคุณ แต่ผมนั้นแค่เห็นคุณก็ขัดหูขัดตามาก!”

เฉินตงหัวเราะ ดึงตัวหลี่หลาน หันกายก็เดินจากไป “คนที่แตะต้องแม่ผม ต่อให้ต้องตาย ต่อให้เป็นฮ่องเต้ผมก็จะจัดการมัน คุณมันก็แค่คุณตา จะแค่ไหนเชียว?”

หยาบคาย เผด็จการ

ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างคาดไม่ถึง

“ตงเอ๋อ หลานจะไม่ยอมฟังสาเหตุที่ตามาที่นี่หรือ?” เวลานี้ชายชราผมขาวร้อนใจจนหน้าซีดแล้ว

ก่อนหน้านั้นตอนที่อยู่ต่อหน้าหลี่หลานเขายังเชื่อว่าเฉินตงจะยอมก้มหัวให้กับเขา

กลับคิดไม่ถึง ต่อมาเฉินตงก็ตบหน้าเขาโดยตรง แม้แต่โอกาสที่จะเอ่ยปากพูดก็ยังไม่มีเลย

บทสรุปแบบนี้ ชายชราผมขาวไม่มีทางที่จะยอมรับมันได้!

“ไปให้พ้น!”

เฉินตงที่ดึงตัวมารดาเอาไว้ ก้าวเดินอย่างไม่หยุด กล้าวทิ้งท้ายอย่างเย็นชา

และบอดี้การ์ดเหล่านี้คิดที่อยากจะขวาง

คุนหลุนนั้นกลับก้าวขึ้นมาด้านหน้าก่อนหนึ่งก้าว แล้วทำเสียงฮึ่ม ร่างที่สูงตระหง่านทันใดนั้นก็กดดันจนบอดี้การ์ดต้องหยุดลง

ท่านหลงเดินผ่านคุนหลุน เดินไปตรงหน้าชายชราผมขาว

รอยยิ้มเต็มหน้ายกมือคารวะ “นายท่าน ไม่เจอกันหลายปี ดูท่าทางของท่าน สุขภาพร่างกายยังแข็งแรงอยู่นะ?”

ทั้งๆทักทายด้วยมารยาท แต่คำพูดกับเต็มไปด้วยความแดกดัน

“หากสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เกรงว่าคงไม่มาเชิญคุณชายถึงที่นี่หรอกมั้ง?”

ชายชราผมขาวสีหน้าบึ้งตึง กัดกรามจนแน่น “ท่านหลง นายมันก็แค่คนรับใช้ในบ้าน นี่คือน้ำเสียงที่นายใช้พูดกับฉันเหรอ?”

เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่เคยเห็นท่าทางของคุณ!”

“ตอนนั้น เมื่อเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้านายท่านของบ้านผม ก็เคยคุกเข่าพยักหน้าและโค้งคำนับ” ท่านหลงหัวเราะกล่าว

ชายชราผมขาวแววตาดุร้าย “อย่าคิดว่าตระกูลหลี่จะกลัวนายนะ?”

“ผู้มีเมตตาเห็นผู้มีเมตตา ผู้มีปัญญาเห็นผู้มีปัญญา”

ท่านหลงหันหลังกลับ พลางก้าวเดิน พลางยกมือหัวเราะกล่าว “นายท่านตายใจเถอะ คุณมาช้าไปแล้ว วันนี้คุณชายเป็นคนของตระกูลเฉิน สิ่งที่กองอยู่ตรงหน้าคุณชายล้วนเป็นของอร่อยที่มีราคาแพง คุณชายไม่มีทางไปแทะกระดูกหมาอย่างแน่นอน!”

“อีกอย่าง ขอเตือนนายท่านอีกหนึ่งคำ นายท่านของบ้านผมกลับมาแล้ว คุณชายกับคุณผู้หญิง ไม่ใช่คนที่จะรังแกได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในใจคุณควรที่จะมีขอบเขตบ้าง!”

ชายชราผมขาวโกรธอย่างมาก จ้องมองท่านหลงกับคุนหลุนจากได้สายตาที่ดุร้าย

ร่างกายของเขาสั่นเทา กัดฟันจนฟันเกิดเสียง

ความโกรธเป็นเหมือนภูเขาไฟที่สะสมอยู่ในอกของเขา และอายุของเขา แทบจะไม่สามารถควบคุมมันได้

เช็ดเลือดที่มุมปากอย่างแรง ชายชราผมขาวที่หน้าตาบึ้งตึง ยิ้มกล่าวอย่างดุร้าย “ดี ไม่เสียทีที่เป็นหลานของฉัน นายต้องก้มหัว นายต้องก้มหัวอย่างแน่นอน!”

……

เมื่อออกมาจากบ่อฉุยส่วย

ระหว่างทางที่กลับบ้าน ในรถนั้นเงียบผิดปกติ

ท่านหลงที่นั่งอยู่ข้างคนขับ มองออกไปนอกหน้าต่าง

เฉินตงกับหลี่หลานนั่งอยู่ข้างหลัง ต่างปิดปากเงียบ

เฉินตงขมวดคิ้วแน่น กะพริบตา กำลังครุ่นคิด

การปรากฏตัวของคุณตา ตกใจพอ ๆ กับการปรากฏตัวของท่านหลงกับพ่อในตอนนั้น

สิ่งที่เหมือนกัน ในใจเขานั้นมีความโกรธ

สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ ท่านหลงปรากฏตัวได้ช่วยแม่ของเขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งพ่อคนนั้น ขึ้นมาเล็กน้อย

แต่การปรากฏตัวของคุณตา กลับเป็นเรื่องตลก “กับคำพูดที่ว่าความรักที่ลึกซึ้งของพ่อแม่”

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็สงสัย ว่าความจริงของเรื่องในตอนนั้นคืออะไร?

หลี่หลานก้มหน้าเอาไว้ สองมือจับไว้ด้วยกัน

ภาพเมื่อกี้ การแสดงออกของเฉินตงเหมือนกับที่เขาพูดกับผู้เป็นพ่อเลย มันไม่ทำให้เธอผิดหวัง

แต่ความเด็ดขาดของเฉินตง ทำให้เธอตกอกตกใจ

เดิมทีเธอนั้นไม่อยากจะบอกเรื่องในอดีตให้เฉินตงรู้ แต่วันนี้หน้าต่างกระดาษฉีกขาดไปแล้ว ปิดบังไม่ได้อีกแล้ว….

รถโรลส์-รอยซ์ขับรถเข้ามาในบริเวณวิลล่า

หลังจากรถได้จอดในโรงจอดแล้ว

ท่านหลงได้บอกให้คุนหลุนลงรถไปก่อน

และเฉินตงกับหลี่หลาน ต่างก็ไม่ขยับตัวกันเลย

“แม่ ยังเจ็บอยู่มั้ย?” เฉินตงเป็นคนทำลายความเงียบ

“ไม่เจ็บแล้ว”

หลี่หลานลูบแก้มของตัวเอง ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว “ตงเอ๋อ ลูกโตแล้ว เรื่องเหล่านี้เป็นเพราะเมื่อก่อนแม่คิดผิดไปเอง รู้สึกว่าควรจะปิดลูก นึกว่าแม่สามารถที่จะจัดการมันได้ แต่ตอนนี้ แม่รู้สึกว่าควรที่จะบอกให้ลูกได้รับรู้”

เฉินตงยิ้มบางๆ รอฟังต่อไป

แววตาของหลี่หลานกะพริบ ราวกับว่ากำลังย้อนความทรงจำ และเหมือนกำลังเรียบเรียงความคิด

ในที่สุด เธอก็ค่อยๆเล่ามาออกมา

“ลูกรู้จักตระกูลหลี่ที่อยู่ในเมืองหลวงมั้ย?”

เฉินตงตะลึง: พักอาศัยอยู่ที่เทียนจื่อเจี่ยว นอกจากฮ่องเต้แล้วตระกูลหลี่ก็คือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง?

หลี่หลานพยักหน้า

สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เมืองแต่ละเมืองต่างมีมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอาศัยอยู่

แต่ละเขตแดนก็มีมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอาศัยอยู่

ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเขตแดนหรือเมือง ทั้งหมดเป็นเพียงพลังสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง

แต่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเทียนจื่อเจี่ยว แต่กลับไม่เหมือนธรรมดาทั่วไป

แม้ว่าจะเป็นเพียงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมือง แต่พลังอำนาจและความมั่งคั่งที่มี มันสามารถเทียบได้กับมหาเศรษฐีในเขตแดน

ในขณะที่เฉินตงรู้สึกตกใจและแปลกใจนั้น ในหัวของหลี่หลานก็มีภาพที่น่าตกใจกลัวแล้ว

“แม่เป็นคนของตระกูลหลี่ และยังเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรง เป็นสายเลือดของเจ้าบ้าน!”

โครม!

เฉินตงเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อย่าจะเชื่อ

จากนั้น ความสงสัยหลายอย่างก็เหมือนกับน้ำล้นเขื่อน ทะลักออกมาพร้อมกัน

มารดานั้นเป็นคนของตระกูลหลี่ที่อยู่ในเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดของสายเลือด

แล้วทำไม เขากับแม่จึงต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันถึงยี่สิบปี ใช้ชีวิตที่ยากจนข้นแค้น?

ก่อนอื่นเขารู้ฐานะของผู้เป็นพ่อแล้ว ยังสงสัยอยู่เลย ว่าพ่อกับแม่นั้นรู้จักกันได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่ใช่เจ้าโง่ที่มีชีวิตเหมือนในนิยายแล้ว

เหมือนกับในนิยาย ที่เจ้าชายรักกับซินเดอเรลล่าในความเป็นจริง มันเห็นได้น้อยมาก

แม้แต่เขากับกู้ชิงหยิ่ง ก็เพราะว่าตอนที่เข้าหาวิทยาลัยแล้วได้เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงค่อยๆรู้สึกดีต่อกัน และพ่อของกู้ชิงหยิ่ง ก็เป็นเศรษฐีใหม่

เศรษฐีใหม่เมื่อเทียบกับผู้ดีเก่า ธรรมเนียมนั้นต่างกันมาก มันถึงได้มีเขากับกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้

แต่หากแม่เป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงของตระกูลหลี่ กับพ่อก็มีฐานะที่สมกัน โอกาสที่จะร่วมชีวิตด้วยกันนั้นก็มีมากแล้ว!

หลี่หลานนั้นไม่ได้สนใจอาการตกใจของเฉินตง แต่น้ำเสียงเรียบเฉย ค่อยๆกล่าวขึ้น

“ตระกูลเฉินของพ่อนาย การเลือกเจ้าบ้านนั้นคือผู้มีสิทธิ์ที่ชนะจะได้เป็นเจ้าบ้าน แต่ว่าตระกูลหลี่นั้นสืบทอดตามบรรดาศักดิ์ ผู้สืบเชื้อสายโดยตรงมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุดในบ้าน และตอนนั้น………”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset