Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 175 ทำให้เขารู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ?

บทที่ 175 ทำให้เขารู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ?

เฉินตงสีหน้าเย็นชา

ขมวดคิ้วจ้องมองข้อความบนมือถือ สายตานั้นกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา

คนแก่ที่ดูดเลือดดูดเนื้อคน จะหน้าด้านหน้าทนไปถึงเมื่อไหร่กัน?

“คุณชาย……….”

คุนหลุนเห็นสีหน้าที่ไม่ดีของเฉินตง ก็ได้เอ่ยปากถาม

เฉินตงตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว

ข้อความสั้นๆ: ไปให้พ้น!

เก็บโทรศัพท์ เฉินตงก็กดความขยะแขยงลงไปในใจ แล้วยิ้ม “ไม่มีอะไร ไปทานอาหารเช้าเถอะ”

ตอนที่รับประทานอาหารเช้านั้น เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

เฉินตงไม่ได้ดู

เพราะเขาไม่แน่ใจว่าจะใช่ไอ้แก่ตระกูลหลี่ส่งมาหรือเปล่า

หากใช่ เขาไม่มั่งใจว่าจะสามารถทำสีหน้าให้ปกติได้

หากถูกแม่มองออก มันก็จะรบกวนสภาพจิตใจของแม่ได้

ในเมื่อตัดสินใจที่จะเพิกเฉยตระกูลหลี่ เขาก็ไม่อยากที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลหลี่

สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ นั้นก็คือยับยั้งมันไว้ให้ได้ ไม่แทงมีดนั้นออกไป

จนกระทั่งเฉินตงเข้าไปนั่งในรถ มุ่งหน้าเดินทางไปยังบริษัทนั้น

เขาจึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมาดูข้อความ

ไม่ผิดเลย เป็นไอ้แก่ตระกูลหลี่ส่งมาจริงๆ

เมื่อเปิดข้อความมาอ่าน แสงที่รุนแรงปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินตงทันที สิ่งเดียวที่จะยับยั้ง ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งได้แล้ว

เนื้อหาในข้อความคือ หากไม่มา ตาก็จะไปเรียนเชิญถึงที่บ้าน และจะไปถามลูกสาวอกตัญญูคนนั้น ว่าสอนหลานอย่างไร!

นี่คือการข่มขู่เหรอ?

มือขวาของเฉินตงอดไม่ได้ที่จะกำโทรศัพท์ให้แน่น จ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างดุดัน

ลูกสาวอกตัญญู?

แม่ของฉัน คนอย่างเขามีสิทธิ์มาตัดสินด้วยเหรอ?

พ่อที่ไม่มีความรัก แล้วจะพูดถึงเรื่องกตัญญูได้อย่างไร?

ชั่วพริบตาเดียว อุณหภูมิในรถราวกับว่าลดลงไปอย่างมาก

คุนหลุนที่ขับรถสังเกตเห็นความผิดปกติของเฉินตง “แล้วถาม คุณชาย มีอะไรต้องการให้ผมไปทำมั้ย?”

“นายสำเร็จแล้ว!”

เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา แรงอาฆาตในแววตาก็หายไป มองไปที่คุนหลุน “ไม่ไปบริษัทแล้ว พาฉันไปวนรอบเมืองหน่อย ใกล้ถึงเวลาเที่ยง ก็ส่งฉันไปที่คลับสี่ยิ่น”

“ไปเจอเสี่ยวหยิ่ง? คุนหลุนยิ้มพร้อมกับพยักหน้า คุณชายนั้นควรที่จะไปเจอเสี่ยวหยิ่งแล้วจริงๆ งานที่บริษัทยุ่งมาหลายวันแล้ว คิดว่าเสี่ยวหยิ่งก็น่าจะคิดถึงคุณแล้ว”

เฉินตงถูกจมูกเบาๆ แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย “มีหมาอยากกัดคน ฉันจะไปดูว่ามันคือหมาพันธุ์อะไร”

รอยยิ้มของคุนหลุนแข็งไปทันที ก็รู้ว่าที่เฉินตงไปคลับสี่ยิ่นนั้นไม่ใช่ไปเจอกู้ชิงหยิ่ง

ยิ้มเจื่อนๆ แล้วก้มหน้าขับรถ

เฉินตงมองวิวที่ถอยหลังอย่างรวดเร็วนอกหน้าต่าง ความหดหู่ในใจกลับค่อยๆเพิ่มขึ้น

นี่คือมาขอให้ฉันไปแทงเขาใช่มั้ย?

……

คลับสี่ยิ่น

ห้องรับแขกที่หรูหรา เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะ

“นายท่านหลี่สามารถมาเยือนสถานที่ที่ต่ำต้อยแบบนี้ เป็นบุญบารมีของคลับสี่ยิ่นจริงๆ” ท่านเมิ่งยิ้มหน้าบาน รอยยิ้มซ้อนรอยยิ้ม

บนเก้าอี้ประธาน ชายชราผมขาวอย่างนายท่านหลี่นั่งตัวตรงอยู่ หว่างคิ้วให้ความรู้สึกมีความสง่าผ่าเผย

แม้แต่พลังทรงอำนาจของท่านเมิ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านหลี่ ก็ต่างกันหนึ่งชั้น

นายท่านหลี่เหลือบมองท่านเมิ่งแวบหนึ่ง “เป็นฉันที่รบกวนแล้ว ขอบคุณเสี่ยวเมิ่งที่ต้อนรับ”

คำว่า “เสี่ยวเมิ่ง” เห็นได้ชัดว่าได้แยกสถานะของทั้งสองออกจากกัน

ท่านเมิ่งก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่ไม่พอใจอะไร

เขามีอำนาจมากมายในเมืองนี้จริง เป็นสวรรค์ของนักธุรกิจที่พอมีชื่ออย่างโจวเย่นชิว

แต่เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหลวง เขานั้นยังคงเทียบไม่ติด

ไม่ว่าจะเป็นอายุ ฐานะทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรและมรดกที่สามารถระดมได้

“นายท่านหลี่ล้อเล่นแล้ว ผมได้เตรียมที่ห้องสวีทให้กับนายท่านหลี่แล้ว” ท่านเมิ่งยิ้มในขณะที่พูด

นายท่านหลี่ยกมือขึ้น ยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องยุ่งยากแล้ว ใช่ลานป่าไผ่หรือเปล่า ฉันได้ยินมาว่าในคลับสี่ยิ่น ลานป่าไผ่เป็นที่ที่เงียบสงบที่สุด ฉันที่อายุมากแล้ว ไม่ชอบเสียงดัง”

ได้ยินแบบนี้

ท่านเมิ่งก็ตัวแข็งทันที ยิ้มอย่างอึดอัด “ขอโทษครับนายท่านหลี่ ลานป่าไผ่มีแขกพักอยู่แล้วครับ”

“ย้ายออกไปก็ได้แล้ว” นายท่านหลี่ยิ้มอย่างดูถูก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง

เจ้าบ้านตระกูลหลี่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาที่เมืองนี้ ไม่ต่างอะไรกับมังกรมาเยือนเลย

ด้วยสถานะของเขา ที่มีความเชื่อมั่นเต็มร้อย ในที่แคบๆตรงนี้ ไม่มีใครกล้าถกเถียงเขา หรือเทียบกับเขา

และแล้ว

“ย้ายไม่ได้ครับ!”

ท่านเมิ่งพูดตรงๆโดยไม่กลัว ถึงขนาดในแววตายังมีความเย็นชาแฝงอยู่

เขาเคารพตระกูลหลี่ และเคารพนายท่านหลี่

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่านายท่านหลี่จะทำอะไรตามอำเภอใจ หรือสั่งการตามความประสงค์

ตรงนี้เป็นที่ของเขา กู้โก๋ฮั้วที่พักอยู่ในลานป่าไผ่ยังเป็นเพื่อนรักของเขาอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลกู้กับตระกูลหลี่ก็ไม่………..?

“อะไรนะ?”

นายท่านหลี่ขมวดคิ้ว ท่าทีเย็นชาทันที เสี่ยวเมิ่ง “นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของที่นี่เหรอ?”

ท่านเมิ่งนั่งตัวตรง สายตาจ้องไปที่นายท่านหลี่โดยตรง “บริษัทชิงหยิ่นกู้โก๋ฮั้ว!”

โครม!

นายท่านหลี่เหมือนถูกฟ้าผ่า หางตากระตุกทันที

บริษัทชิงหยิ่นมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ มีความสามารถและแข็งแกร่ง

และตระกูลหลี่เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง

แต่นายท่านหลี่ก็เข้าใจดี วันนี้ตระกูลหลี่กับบริษัทชิงหยิ่นห่างกันอยู่หนึ่งชั้น

แม้ว่าตระกูลหลี่ภายใต้การนำของเขาในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ มากสุดก็พอๆกับบริษัทชิงหยิ่น

อีกอย่าง สิ่งที่กล่าวมาล้วนเป็นเงื่อนไขในประเทศ!

หลังจากประหลาดใจแล้ว นายท่านหลี่ก็กล่าวอย่างสงสัย “ประธานกู้ของบริษัทชิงหยิ่น ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

“มาเยี่ยมญาติ”

ท่านเมิ่งตอบไปอย่างนั้น กลับมาดูว่าที่ลูกเขยในอนาคต มันก็ไม่ต่างจากการมาเยี่ยมญาติ

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

นายท่านหลี่ก็ลุกขึ้น เดินออกไปข้างนอก “เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็จะไปพบเขาหน่อย คนอื่นจะว่าไม่ได้ว่าตระกูลหลี่ไม่รู้มารยาท”

ไอ้แก่หน้าไม่อาย

ท่านเมิ่งมองด้านหลังของนานท่านหลี่ แฝงด้วยความดูถูก

มองดูนายท่านหลี่เดินออกไปจากห้องรับแขก เขารีบเรียกนายท่านหลี่เอาไว้

“นายท่านหลี่ ไม่ต้องไปแล้ว ประธานกู้พักอยู่แต่ในลานป่าไผ่ แม้แต่คนที่เป็นเจ้าบ้านอย่างผมยังพบเจอได้ยาก ครั้งนี้ที่เขากลับมาก็เพราะเรื่องส่วนตัว ไม่อยากให้คนนอกรู้”

นายท่านหลี่หยุดชะงัก ลังเลไปครู่หนึ่ง ยิ้มอย่างจำยอม ได้ๆ ในเมื่อเป็นเรื่องส่วนตัว ฉันไม่ไปก็ได้ ในอนาคตมีเวลามากมายที่จะชื่นชมประธานกู้

ขณะที่พูด เขาก็ได้เดินกลับมา นั่งลงบนเก้าอี้

ท่านเมิ่งจึงได้ถามขึ้น “นายท่านหลี่มาเยือนเมืองนี้ในครั้งนี้ มีเรื่องอะไรเหรอครับ? มีอะไรที่ผมจะสามารถช่วยได้บ้าง”

นายท่าหลี่เลิกคิ้ว “เรื่องนี้ ต้องการความช่วยเหลือจากเสี่ยวเมิ่งจริงๆด้วย ตระกูลหลี่ของฉันมีทายาทหนึ่งคนที่อาศัยอยู่ในเขตของคุณ วันนี้ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ควรแก่เวลาที่จะกลับบ้านแล้ว”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ท่าทางนายท่านหลี่ดูเหมือนจะทุกข์ใจ “แต่ว่าทายาทคนนี้หยิ่งผยอง คิดว่าตัวเองเก่ง มั่งใจว่าตัวเองนั้นจะสามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองได้ ไม่ยอมกลับไปกับฉัน ครั้งนี้จึงนัดเขามาเจอในที่ของคุณ”

“ก็อยากจะให้เขาดูเอาไว้ สายสัมพันธ์ของตระกูลหลี่ ยิ่งใหญ่แค่ไหน เพื่อให้เขาเลิกล้มความคิดที่จะสร้างฝันของตัวเอง กลับบ้านไปพร้อมกับฉัน”

ท่านเมิ่งพยักหน้า เรื่องแบบนี้ เขาไม่ได้แปลกใจ

เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ทายาทของนายท่านหลี่นั้นเป็นเสือดาวในหมู่คน แต่ถ้าเขาสามารถกลับไปที่ตระกูลหลี่ ได้รับความช่วยเหลือของตระกูลหลี่ เขาจะสามารถเปิดโลกได้อย่างแน่นอน ยังจะต้องมาต่อสู้สร้างฝันอีกเหรอ? ผมจะทำให้ทายาทคนนั้นรู้ว่า อาณาจักรของตระกูลหลี่นั้นกว้างใหญ่แค่ไหน มีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อกันกว้างแค่ไหน “

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องขอบคุณเสี่ยวเมิ่ง นายท่านหลี่ยกมือคารวะ ทำให้เขารู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ก็จะได้กลับไปตระกูลหลี่อย่างโดยดี”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset