Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 188 ผมไม่ได้มาเพื่อเจรจากับคุณ ผมมาเพื่อเตือนคุณ !

“คุณชาย คนมากมายขนาดนี้……”

แววตาของคุนหลุนเป็นประกาย

เขาไม่กลัวที่จะต้องฆ่าคน ทหารรับจ้างเวลาอยู่ในสนามรบ ถ้าไม่ถูกเขาฆ่า ก็คือฆ่าเขา ไม่มีทางเลือก

แต่ทว่าตอนนี้ คนที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกลังเล

“ตอนที่พวกเขายิงปืน ยังไม่เป็นห่วงเลยว่าพวกเราจะตายหรือไม่”

คำพูดของเฉินตง ทำให้ความลังเลของคุนหลุนสูญสิ้นไป

รถฮัมเมอร์ที่ได้รับความเสียหายส่งเสียงดังกระหึ่มออกมา ความเร็วไม่ได้ลดลงแต่กลับเร่งเครื่องให้แรงขึ้น จากนั้นจึงมุ่งหน้าตรงไปยังห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ปราสาท

ภาพที่เห็นนี้ ทำให้คนที่อยู่ในห้องโรงใหญ่ของคฤหาสน์ปราสาท ต่างรู้สึกตกใจจนแทบสิ้นสติ

“สวรรค์ ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ? เขาอยากจะชนพวกเราทั้งหมดให้ตายไปเลยหรืออย่างไร ?”

“ท่านเจ้าบ้าน รีบหยุดเรื่องนี้เร็วเข้า ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฆ่าเขาเดี๋ยวนี้ ! คนบ้าเลือดแบบนี้จะปล่อยไว้ไม่ได้ !”

“สมควรตาย มันสมควรตายจริงๆ ! ตระกูลหลี่อันสูงส่งของฉัน เคยถูกคนดูถูกย่ำยีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”

……

คนในตระกูลหลี่ต่างรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับหวาดกลัว

ในฐานะที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ต่อให้เป็นแค่ญาติคนหนึ่งในตระกูล แต่ก็ยังคงมีความเย่อหยิ่งในแบบฉบับของเศรษฐีอันดับหนึ่งพึงมี

ความเย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำให้ปกติแล้วพวกเขามักจะเคยชินกับการทำตัวอยู่เหนือคนอื่น

แต่เฉินตง กลับทำลายความเย่อหยิ่งของพวกเขาจนหมดสิ้น และดึงพวกเขาจากท้องฟ้าลงมาเหยียบย่ำในบ่อโคลน

ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ หน้าตาและศักดิ์ศรีนั้นสำคัญกว่าชีวิตเสียอีก !

“ป้องกัน !”

ด้านนอกห้องโถงใหญ่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนยืนคุ้มกันห้องโถงใหญ่เอาไว้

ภายใต้แสงสว่าง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในนั้นสามคน ยกมือทั้งสองข้างขึ้น

ปากกระบอกปืนสีดำสามกระบอก เล็งผ่านกลุ่มคนตรงไปยังรถฮัมเมอร์ที่กำลังขับพุ่งเข้ามา และเตรียมพร้อมที่จะยิง !

ด้านหน้าห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ปราสาท บนทางที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงของรถฮัมเมอร์ดังคำรามมาจากระยะไกล

อีกทั้งรถฮัมเมอร์ ไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลงแม้แต่น้อย

แต่กลับคำรามเสียงดังขึ้น และเพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้น

บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนต่างขมวดคิ้วแน่น และมีสีหน้าที่เคร่งเครียด บางคนก็มีเหงื่อไหลอาบไปทั่วหน้าผาก

ที่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำหน้าที่ป้องกันตระกูลหลี่อย่างเต็มรูปแบบจริงๆ !

มีทั้งความตกใจ สงสัย และความตื่นตระหนกวนเวียนอยู่ภายในใจ

ส่วนคุณท่านใหญ่หลี่ยืนนิ่งราวกับเข็มหมุดที่ปักอยู่ตรงกลางฝูงชน

มองดูรถฮัมเมอร์ที่แล่นเข้ามาด้วยความรวดเร็ว คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น ดวงตาของเขาดุร้ายราวกับดวงตาของอสรพิษ มีเส้นเลือดปูดโปนออกมาบริเวณหางตาของเขา

คนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างก็สงบลง แต่ความตื่นเต้นหวาดกลัวก็ยังคงมีอยู่

ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างคุณท่านใหญ่ตระกูลหลี่ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า : “พ่อครับ ตนบ้าเลือดแบบนี้ ฆ่ามันให้ตายเถอะครับ !”

เขาคือลูกชายคนโตของคุณท่านใหญ่หลี่ นามว่าหลี่เต๋อซาน ในตระกูลหลี่เขามีศักดิ์เป็นรองเพียงแค่คุณท่านใหญ่หลี่เท่านั้น

“หึ !”

คุณท่านใหญ่หลี่แสดงความไม่พอใจออกมา จากนั้นจึงก้าวขึ้นไปข้างหน้า พร้อมด้วยแววตาที่แน่วแน่

หลี่เต๋อซานรู้สึกดีใจทันที เจตนาฆ่าพลุ่งพล่านขึ้นในดวงตาของเขา

เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลี่ ฐานะเป็นรองเพียงแค่ผู้เป็นพ่อซึ่งมีศักดิ์เป็นเจ้าบ้านเท่านั้น

ถ้าหากไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น เขาก็คือผู้ที่จะได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านคนต่อไป !

ในตระกูลหลี่ มีเพียงการได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านเท่านั้น ถึงจะสามารถเสพสุขอยู่กับทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดของตระกูลหลี่ได้ และนั่นก็ถือเป็นความรุ่งโรจน์ขั้นสูงสุด

แต่ทว่า จู่ๆ พ่อก็เปลี่ยนเจตนากะทันหัน ต้องการที่จะให้ลูกชายของน้องสาวที่สมควรตายคนนั้นมารับหน้าที่ผู้สืบทอดมรดกของตระกูลหลี่แทน

หลังจากที่เขาได้รับข่าวนี้ ก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

เขารอมาเป็นเวลาหลายสิบปี รอให้พ่อจากโลกนี้ไป เขาก็จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าบ้าน

แล้วจะให้หลานนอกคอกที่ไม่ได้ใช้แซ่หลี่ของเขาเสียด้วยซ้ำ ขึ้นมาเป็นเจ้าบ้านได้อย่างไร ?

หลี่เต๋อซานเคยคิดที่จะเกลี้ยกล่อมพ่อของเขา แต่ท่าทีของพ่อแน่วแน่กว่าที่เขาคาดเอาไว้

ขณะที่เขาอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง กลับคิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆ เฉินตงจะกล้าบุกรุงเข้าบ้านตระกูลหลี่เช่นนี้

“แกรนหาที่ตายเอง อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน !”

เขามองไปยังคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับหลี่หลานที่นั่งอยู่ในรถฮัมเมอร์ เจตนาฆ่าของหลี่เต๋อซานก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น

“ออกไปให้หมด !”

คุณท่านใหญ่หลี่ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ

เปรี้ยง !

ตัวของหลี่เต๋อซานสั่น ใบหน้าของเขาเดือดดาลจนถึงขีดสุด

คำพูดประโยคนี้ สำหรับทุกคนแล้วมีอานุภาพรุนแรงไม่น้อยไปกว่าฟ้าผ่าครั้งใหญ่ !

เจ้าบ้านเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร ?

เด็กนอกคอกคนนี้บุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ปราสาทขนาดนี้แล้ว ยังไม่คิดจะทำอะไรอีก หรือจะให้คนป่าเถื่อนนี้ขับพุ่งเข้ามาในคฤหาสน์ปราสาทหรืออย่างไรกัน ?

เรื่องนี้ถ้าแพร่งพรายออกไป ตระกูลหลี่จะต้องกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองอย่างแน่นอน !

“พ่อ……” หลี่เต๋อซานเป็นลูกชายคนโต จึงคิดที่จะกล่าวเตือนเขาทันที

“ทุกคนออกไปให้พ้น !”

คุณท่านใหญ่หลี่ตะโกนออกมาราวกับเสียงขู่คำรามของราชสีห์

และในตอนนี้เอง รถฮัมเมอร์ได้มุ่งตรงมาถึงด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบนายไม่ลังเลอีกต่อไป ต่างรีบวิ่งกระจัดกระจายออกไปทั้งสองด้าน

ขณะที่รถฮัมเมอร์ขับพุ่งขึ้นบันไดไป คนของตระกูลหลี่ก็ไม่อาจยืนนิ่งได้อีกต่อไป ต่างก็ค่อยๆ ถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัว

แต่ขณะที่ทุกคนต่างตื่นตกใจกลับพบว่า

มีเพียงคุณท่านใหญ่หลี่คนเดียวเท่านั้นที่ยังคนยืนหยัดอยู่ตรงข้างห้องโถงใหญ่โดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน !

“พ่อ……”

หลี่เต๋อซานตกใจสุดขีด

“ท่านเจ้าบ้าน”

“พ่อ”

“คุณปู่”

ทันใดนั้นเอง ทุกคนต่างตะโกนโห่ร้องด้วยความตื่นตกใจ

แต่กลับไปมีใครก้าวขึ้นไปแม้แต่คนเดียว

รถฮัมเมอร์ขับพุ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่ แสงไฟสาดส่องเข้าไปในห้องโถงใหญ่จนขาวโพลน และกลืนกินคุณท่านใหญ่หลี่จนหายไป

ทุกคนต่างหรี่ตาลงพร้อมกัน

บรื้น !

เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม

จากนั้นรถฮัมเมอร์ก็หยุดลง

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าคุณท่านใหญ่หลี่คงหนีไม่พ้น

ไฟหน้ารถก็ดับลง เผยให้เห็นคุณท่านใหญ่หลี่

เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จุดที่เขายืนอยู่ห่างจากรถฮัมเมอร์ไม่ถึงสิบเซนติเมตร !

ภายในห้องโถงใหญ่ ทุกอย่างเงียบสงัด

คุณท่านใหญ่หลี่ยังยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่รถฮัมเมอร์อย่างมืดมน

ส่วนเฉินตงเองก็จ้องมองคุณท่านใหญ่หลี่อยู่เช่นเดียวกัน

ทั้งสองสบตากัน ถึงแม้จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่รู้สึกได้ถึงความหดหู่อย่างรุนแรง

ในที่สุด

คุณท่านใหญ่หลี่ก็แสยะยิ้มออกมา : “แกไม่กล้าฆ่าฉันหรืออย่างไร ?”

“คุณมีค่าขนาดไหนที่จะให้ผมฆ่า ?”

เฉินตงยิ้มเยาะ

เขาเปิดประตูแล้วลงจากรถ

คุนหลุน ท่านหลง และฉินเย่ ค่อยๆ ทยอยตามลงมาจากรถทางด้านหลัง

คุณท่านใหญ่หลี่เหลือบไปมองทั้งสามคน : “ท่านหลง คนหนุ่มเลือดร้อนเป็นเรื่องธรรมดา แต่คนอายุอย่างนายยังจะเลือดร้อนตามด้วยหรือ ?”

“คุณไม่มีสิทธิ์จะกล่าวโทษผม !” ท่านหลงยิ้มอย่างดูถูก

ความมืดมนในดวงตาของคุณท่านใหญ่หลี่เพิ่มขึ้น จากนั้นเขาจึงมองไปที่ฉินเย่แล้วแสยะยิ้มออกมา

“ฉินเย่ คนที่ฆ่าพ่อของตัวเองก็มาประสมโรงกับเขาด้วยหรือ ?”

ฉินเย่เอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางขวางโลก แล้วทำสีหน้าเบื่อหน่าย : “แล้วมันเรื่องอะไรของคุณ !”

คุณท่านใหญ่หลี่ทำสีหน้าเคร่งขรึม

ในตอนนั้นเอง

พวกของหลี่เต๋อซานที่กำลังตกตะลึงอยู่ก็ตั้งสติกลับมาได้

“จัดการมัน !” หลี่เต๋อซานตะโกนเสียงดัง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนที่อยู่ด้านนอก วิ่งกรูกันเข้ามาในห้องโถงใหญ่

แต่คุณท่านใหญ่หลี่กลับตะคอกเสียงดังว่า : “ใครก็ห้ามเข้ามาทั้งนั้น !”

หลังจากสิ้นเสียง ทุกคนก็หยุดอย่างกะทันหัน

คุณท่านใหญ่หลี่พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “ถ้าใครกล้าทำร้ายหลานชายของฉันแล้วล่ะก็ ฉันจะให้มันตายโดยไร้ที่ฝังศพ !”

หลี่เต๋อซานโกรธจนรู้สึกราวกับว่าปีศาจที่อยู่ในตัวแทบจะกระโดดออกมา

คนตระกูลหลี่ที่เหลือต่างก็รู้สึกตื่นตกใจ งุนงง สงสัย และโกรธแค้นเช่นกัน

เฉินตงหัวเราะ

เขาเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณท่านใหญ่หลี่ : “คุณนี่มันหน้าด้านจริงๆ !”

“แกยังเด็ก ปู่ไม่โทษแกหรอก !” คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้มอย่างใจดี ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“ผมมารับแม่ของผมกลับบ้าน !”

เฉินตงมองคุณท่านใหญ่หลี่อย่างไม่แยแส

“ตอนนี้แม่ของแกอยู่ที่บ้านของตัวเอง” คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่

หลังจากพูดจบ

ขวับ !

เฉินตงใช้มือของเขาบีบคอของคุณท่านใหญ่หลี่ทันที

“ผมไม่ได้มาเพื่อเจรจากับคุณ ผมมาเพื่อเตือนคุณ ! ว่าผมสามารถทำให้คุณกลายเป็นบรรพบุรุษผู้ล่วงลับของตระกูลหลี่ได้ !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset