Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 12 นัดบอด

บทที่ 12 นัดบอด

การเจอหวางเห้าโดยบังเอิญเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไร เลยเฉินตงก็ไม่สนใจเลยสักนิด

ความสนใจของเขาทั้งหมดในตอนนี้ ล้วนอยู่ที่โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง

นี่เป็นกระดาษคำตอบที่เขาต้องส่งให้คุณพ่อที่ยังไม่เคยเจอหน้ากัน

และเป็นโอกาสที่เขาได้แสดงผลงานได้อย่างเต็มที่

สัญญาราคาสูงที่ขาดทุนไป 30 ล้าน สำหรับไท่ติ่งแล้ว มันเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่มาก

และความเสียหายแบบนี้ พนักงานในบริษัททุกคนล้วนทราบถึงผลกระทบที่ตามมาเป็นอย่างดี

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตอนที่เฉินตงมาบริษัทนี้ รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมเป็นพิเศษของบริษัทในทุกวัน

พนักงานทุกคนล้วนก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่กลับไม่มีบรรยากาศที่ดูสบายๆเหมือนที่ผ่านมา ทั้งบริษัทดูเงียบกริบอย่างน่ากลัวมาก

เฉินตงทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เดินตรงเข้าไปยังออฟฟิศ

เขารู้ดีว่า พนักงานรู้เรื่องสัญญาราคาสูงนั้น แต่ก็ยังอยู่ทำงานเหมือนเดิม แสดงว่ามีความเชื่อมั่นในตัวเขามาก

แต่ความเชื่อมั่นนี้ ก็ไม่สามารถระงับความรู้สึกตื่นตระหนกและร้อนใจของพวกเขาได้

จะขอให้พนักงานทุกคนทำตัวสบายๆเหมือนเขาก็คงไม่ได้

“มะรืนนี้ พวกคุณคงจะยิ้มได้อย่างสบายใจแล้วสินะ?”เฉินตงถูจมูก แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เพียงแค่ท่านหลงช่วยเขาจัดการเรื่องนั้นได้ เขาก็มั่นใจได้ว่าจะสามารถพลิกแพลงสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี ไม่เพียงแต่ทำให้โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองไม่ขาดทุน ยังทำให้ได้กำไรสูงมากอีกด้วย!

หยิบมือถือออกมา เฉินตงเปิดดูวีแชท

เมื่อคืนหลังจากที่ตอบข้อความของหลินเสว่เอ๋อแล้ว เขาก็ไม่ดูวีแชทอีกเลย

ปกติแล้วเขาจะสื่อสารกับลูกค้าในวีแชทตลอด

แต่เมื่อเขาเห็นข้อความของเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานส่งมา เขาก็หลุดสติอีกครั้ง

ข้อความส่งมาเมื่อคืนนี้ เป็นข้อความประโยคธรรมดา: คุณสบายดีไหม?

ประโยคธรรมดาธรรมดานี้ กลับทำให้เฉินตงเฉยชาไปเลย ในสมองมีภาพเธอผุดขึ้นมา

ผ่านไปสักพัก เขาถูจมูกด้วยความขมขื่น ตอบกลับไปว่า:“ยังดีครับ”

ฟังตอบข้อความกลับมาในไม่กี่วินาที:“ฉันจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว จัดการเรื่องทางนี้เสร็จ ก็จะกลับประเทศในเดือนหน้าแล้ว เราไม่เจอกัน 3 ปีแล้วสินะ”

สายตาของเฉินตงยิ่งดูใจลอย ราวกับว่าได้ไขเปิดประตูแห่งความทรงจำแล้ว พูดพึมพำเบาๆว่า:“กู้ชิงหยิ่ง……”

เมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ ในงานแต่งงานของเขากับหวางหนันหนัน หลังจากจบงานแต่งเธอก็บินไปประเทศอื่น 3 ปีมานี้ ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย

แค่ช่วง3ปีสั้นๆ ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว เพื่อนสมัยก่อนกลับมาติดต่อกันอีกครั้ง เธอจะกลับมาแล้ว แต่เขากับหวางหนันหนันกลับหย่าร้างกันแล้ว

ยิ้มขำตัวเองทีนึง เฉินตงตอบกลับไปว่า“อืม” ก็วางโทรศัพท์ลงเริ่มทำงาน

อีกฝั่งของมหาสมุทรอันไกลโพ้น

เวลานี้เป็นช่วงตอนกลางคืนพอดี

ภายในห้องที่กว้างใหญ่ มีเสียงเปียโนที่ผ่อนคลายดังอยู่

บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ

ด้านหน้าหน้าต่างยาวบานใหญ่ มีเงาคนกำลังนั่งอยู่ วางโทรศัพท์ลง ปริรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา มองไปทางไกล

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เสียงใหญ่ส่งมายังห้อง:“ชิงหยิ่ง ลูกตัดสินใจกลับประเทศเดือนหน้าจริงๆเหรอ?”

“ใช่ค่ะ”กู้ชิงหยิ่งพยักหน้ายิ้ม“คุณพ่อ ฉันไม่ได้กลับไปตั้ง3ปีแล้ว อยากกลับไปดู”

“แต่ว่าเดือนหน้ามีงานเลี้ยงอาหารค่ำ พ่ออยากให้ลูกไปร่วมงานด้วยกัน จะได้แนะนำหนุ่มๆให้ลูกได้รู้จักด้วยไง ลูกก็อายุไม่น้อยแล้วนะ ต้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ให้เยอะๆหน่อย”

คิ้วกู้ชิงหยิ่งขมวดขึ้น พูดอย่างไม่ค่อยพอใจน้อย:“ คุณพ่อ ครั้งนี้เป็นคนRothschild?หรือว่าเจ้าชายแห่งผู้ประกอบการน้ำมัน?”

“มีหมดเลย!”เสียงใหญ่กล่าวตอบ

“ไม่ชอบ”กู้ชิงหยิ่งปฏิเสธ

……

ในขณะเดียวกัน ภายในบ้าน กำลังมีปากเสียงกันอย่างดุเดือด

“แม่ ฉันไม่ไป ยังไงฉันก็ไม่มีทางไปหรอก!”หวางหนันหนันกล่าวพร้อมกับร้องไห้จนตาแดง

บนพื้น เต็มไปด้วยของที่ขว้างปาจนแตกกระจุยไปหมด

ปั้ง!

จางซิ่วจือปาแจกันดอกไม้ลงบนพื้น มือเท้าสะเอวด่าว่า:“คุณบ้าไปแล้วหรอ!เมื่อก่อนตอนที่ลูกแต่งงานกับไอ้คนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถอย่างเฉินตง ฉันก็ไม่ได้ห้ามลูกไว้ ตอนนี้ก็เลยมาวุ่นวายจนถึงขั้นหย่าร้างกัน ”

“ฉันผู้เป็นแม่ อุตส่าห์ทุ่มเทอย่างสุดจิตสุดใจเพื่อแนะนำหนุ่มให้ลูกไปดูตัว ลูกกลับไม่ไป?ลูกรู้ไหมว่าคำว่าเสียหน้าคืออะไร?”

ด้านข้าง หวางเต๋อนั่งอยู่บนโซฟา ว่าได้เห็นภาพเหล่านี้ ถึงกับถอนหายใจยังไม่หยุด

“คุณพ่อ!”

หวางหนันหนันมองหวางเต๋อด้วยแววตาที่สิ้นหวัง:“พ่อช่วยฉันขอร้องคุณแม่ด้วยสิคะ?”

“เขากล้าเหรอ!”

คิ้วจางซิ่วจือขมวดเข้าหากันกลายเป็นเส้นตรง ติเตียนด้วยเสียงแหลม

หวางเต๋อไม่อาจที่จะทนนิ่งเฉยได้ จึงเอ่ยปากพูดไปว่า:“ผมก็รู้สึกว่าคนที่คุณหามาให้พวกนั้นมันไม่เหมาะสม อายุก็ตั้ง 40 กว่าแล้ว อายุไล่เลี่ยกับเราสองคนด้วยซ้ำไป”

“40 กว่าแล้วไง?”

จางซิ่วจือสีหน้าดุร้าย:“ชายอายุ 40ก็เหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบานดูดีจะตายไป คนเขามีเงิน ถือได้ว่าเป็นเศรษฐีชายโสดมีหน้ามีตา หนันหนันเคยหย่ามาแล้วเป็นแค่ของมือสอง คุณยังจะอยากหาหนุ่มรูปร่างสูงหล่องานดีมีฐานะอีกหรอ? หนุ่มรูปร่างสูงหล่องานดีมีฐานะเขาจะมาเหลียวแลเธอเหรอ?”

หวางหนันหนันตะลึงจนพูดไม่ออก มองจางซิ่วจือด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

เธอนึกไม่ถึงเลยว่า แม่แท้ๆของตนจะใช้คำว่า”ของมือสอง”มาเปรียบเทียบตัวเธอ

“แม่……”หวางหนันหนันเรียกเสียงสะอื้นร้องไห้ น้ำตาคลอ

“หุบปาก!”

จางซิ่วจือด่าไปคำนึง:“ถ้าเมื่อก่อนแกไม่แต่งงานกับคนขี้ขลาดไร้ความสามารถอย่างเฉินตง น้องชายแกจะแต่งงานตอนนี้ แกจะถึงกับช่วยอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”

“มีแม่คนไหนบ้างที่ไม่รักลูกตัวเอง?ที่สำคัญคือเงินเดือนของฉันกับพ่อแกมันไม่พอจ่ายค่าสินสอดในงานแต่งของเสี่ยวเห้า คนเป็นพี่ยังแกยังไงก็ควรจะช่วยสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?แกจะบีบให้ฉันกับพ่อแกไปตาย ให้ตระกูลหวางไม่มีลูกหลานสำหรับสืบสกุลหรือไง?”

หวางหนันหนันมึนงงไปหมด ฟันกัดริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

หวางเต๋อที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำว่า”ไม่มีลูกหลานสืบสกุล ตัวอ่อนไปเลย พูดโน้มน้าวใจด้วยน้ำเสียงที่อัดแน่นเต็มไปด้วยน้ำใสใจจริง:“หนันหนัน ฟังแม่พูดเถอะ ลูกเป็นพี่สาว หลังจากแต่งงานกับเฉินตง ยังมีครอบครัวอยู่ในใจไหม?เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายแท้ๆของลูกนะ”

“คนคนนั้นเป็นถึงประธานบริษัทที่เฉินตงทำงานอยู่นะ เขาเป็นถึงหัวหน้างานของเฉินตงด้วย!”หวางหนันหนันพึ่งความหวังสุดท้ายนี้ดู

เธอเพิ่งจะ 20 กว่า จะยอมคบกับชายแก่อายุ40กว่าได้ยังไง?

อีกอย่าง ตอนนี้เธอเพิ่งจะหย่ามาเอง

“แล้วไง?”จางซิ่วจือมือข้างนึงเท้าเอว กล่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ยว่า :“ไอ้คนขี้ขลาดตาขาวที่ไร้ประโยชน์อย่างเขามาแต่งกับคนตระกูลหวางที่สูงเกินเอื้อม ยังกล้าหย่ากับแก งั้นก็ดี แกก็ไปเป็นภรรยาเจ้านายบริษัทที่เขาอยู่เลย ให้เขารู้ว่า เขาขี้ขลาดตาขาวและไร้ประโยชน์ขนาดไหน ”

คำพูดที่จะถึง รอยยิ้มเต็มไปด้วยความประชดประชัน

“แม่ แม่ทำเกินไปแล้วนะ!”หวางหนันหนันโมโหจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ทันใดนั้นเอง หวางเห้ากลับมาแล้ว

ถูกหลินเสว่เอ๋อตำหนิติเตียนเป็นชุดต่อหน้าเฉินตง ถึงขนาดโดนตบไปทีนึง หวางเห้ายังหงุดหงิดไม่หายเลย

เมื่อเห็นบรรยากาศภายในบ้าน เขาก็ตะลึง:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เสี่ยวเห้ากลับมาแล้วหรอ?”จางซิ่วจือเรื่องสีหน้าไปเลย ยิ้มต้อนรับหวางเห้า:“ไม่มีอะไร พวกเรากับพี่สาวลูกกำลังเจรจาเรื่องช่วยเตรียมเงินค่าสินสอดให้ลูก”

เมื่อได้ยินคำว่าสินสอด หวางเห้าก็เดินเข้าไปหาหวางหนันหนันอย่างรีบร้อน จับมือหวางหนันหนันแล้วพูดเหมือนดูน่าสงสารมาก :“พี่ พี่ช่วยผมด้วยนะ ผมไม่มีวิธีอะไรแล้ว นี่เป็นเรื่องในทั้งชีวิตของผมเลยนะ ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องเสว่เอ๋อกับผมคงต้องจบกันแน่ๆ”

ได้เห็นหวางเห้าที่ดูน่าสงสาร จู่ๆหวางหนันหนันก็ใจอ่อน

ลังเลอยู่สักพัก เขาพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง:“ฉันไปก็ได้”

“ดีมาก!เสี่ยวเห้า คืนนี้ลูกขับรถออดี้A4พาพี่สาวไป อีกฝ่ายเขาเป็นถึงคนมีฐานะร่ำรวย ขับรถของลูกจะได้ดูดีมีราคา ถ้าสำเร็จ เราจะได้ขอค่าสินสอดให้มันเยอะๆหน่อย”

จางซิ่วจือกล่าวอย่างปลาบปลื้มดีใจ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset