Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 196 จำคนผิด

ณ ห้องส่วนตัวชั้นสอง

แสงไฟละมุน

ขณะเฉินตงและฉินเย่เดินเข้าไปในห้อง มองบรรยากาศรอบๆแล้วสบตากัน

เมื่อพนักงานออกไป

เฉินตงขมวดคิ้วพูด:“ห้องประมูลส่วนตัวล้วนเป็นแบบนี้งั้นเหรอ?”

“ผมก็งงเหมือนกัน”ฉินเย่ทำหน้าแย่ๆ“จัดแต่งได้ร้อนแรงมาก”

เฉินตงยิ้มมุมปาก แล้วนั่งบนเก้าอี้เอนอย่างไม่มีความรู้สึก

ถ้าแค่แสงไฟละมุนก็แล้วไป

แต่ที่สำคัญคือกลิ่นหอมแรงๆที่ตลบอบอวลไปทั้งห้องนี่สิ บนผนังยังแขวนภาพศิลปะบนเรือนร่างกึ่งเปลือยด้วย

นี่……มีร่วมงานประมูลหรือมาชมนิทรรศการศิลปะกันแน่?

สองหนุ่มอยู่ในห้องส่วนตัวเช่นนี้ ทำให้รู้สึกแปลกๆ

แต่เฉินตงกลับพบว่าหน้าต่างยาวจากเพดานจรดพื้นของห้องส่วนตัวนี้ อยู่ตรงข้ามเวทีประมูลพอดี สามารถเห็นวิวด้านล่างทั้งหมด น่าจะเป็นห้องที่ตำแหน่งดีที่สุด

ตระกูลจางกำลังแสดงความจริงใจ ทว่า……

เฉินตงกวาดตามองรอบห้อง สุดท้ายก็มองไปยังฉินเย่

ความจริงใจนี้เกินไปหน่อยจริงๆ

เมื่อรู้สึกถึงสายตาของเฉินตง ฉินเย่ก็ทำหน้าขรึม:“อย่าคิดมาก!”

“ออกไป!”

เฉินตงด่าติดตลกไปทีหนึ่ง

ก็อกๆ!

เสียงเคาะประตู

ถัดไป เสียงอ่อนหวานดังมาจากด้านนอก

“ฉันคือจางหยู่หลันตระกูลจาง เข้าไปได้ไหมคะคุณเฉิน?”

เฉินตงพยักหน้า

ฉินเย่จึงพูดขึ้น:“เข้ามาสิ”

เมื่อจางหยู่หลันที่สวมชุดกระโปรงยาวสีขาว เดินเข้ามาให้ห้องอย่างสวยหยาดเยิ้ม

ใบหน้าอันสาวงามก็ปรากฏความประหลาดใจขึ้นทันที

เฉินตงและฉินเย่ก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน

เฉินตงรู้แค่ว่าคืนนี้ตระกูลจางแห่งเมืองหลวงเป็นคนเชิญมา แต่ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่มาจะเป็นผู้หญิง

และยังเป็นผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้ม!

ภายใต้แสงไฟอ่อนละมุน ชุดกระโปรงยาวสีขาวเติมแต่งให้จางหยู่หลันสมบูรณ์แบบ ทุกส่วนเว้าส่วนโค้งก็พอดิบพอดี

ใบหน้าสะสวย เมื่อรวมกับสัดส่วนที่แทบสมบูรณ์แบบ สีชมพูอ่อนๆ ดวงตาที่เหมือนดั่งดวงดาว เมื่อเทียบกับดาราใหญ่ในทีวี เธอสวยกว่ามาก

ขณะที่เฉินตงตกตะลึง สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในสมองคือกู้ชิงหยิ่ง

สวยเลิศล้ำทั้งคู่ แต่เมื่อเทียบกันกู้ชิงหยิ่งดูดีกว่า ส่วนจางหยู่หลันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนเจ้าเล่ห์

สวยเหมือนกัน แต่คนหนึ่งอยู่บนสวรรค์ คนหนึ่งอยู่บนโลก

“สวยมาก!”

เสียงตกใจของฉินเย่ ทำลายความเงียบในห้องไป

จางหยู่หลันได้สติจากความประหลาดใจ แล้วกวาดตามองเฉินตงอย่างเอือมระอาแวบหนึ่ง

เป็นแค่บอดี้การ์ด คิดไม่ถึงว่าจะเข้ามาในห้องนี้กับคุณเฉินด้วย?

ฉันอุตส่าวางแผนไว้อย่างดี แต่เสียบรรยากาศเพราะบอดี้การ์ดคนนี้

สายตาเอือมระอาของจางหยู่หลันหายวับไป แต่เฉินตงก็สังเกตเห็นได้อย่างง่ายได้

เฉินตงงุนงง เชิญฉันมาเพื่อแสดงสีหน้าใส่ฉันงั้นเหรอ?

“คุณเฉิน ฉันคือจางหยู่หลัน ลูกสาวจากภรรยาเอกตระกูลจาง”

จางหยู่หลันสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ให้ความรู้สึกเหมือนได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ขณะเดินเข้ามาสะโพกบิดไปมา ท่าทางสะกดใจมาก

จากนั้น ภายใต้สายตาตกตะลึงของเฉินตงและฉินเย่

จางหยู่หลันเอียงตัวเล็กน้อย เดินไปตรงหน้าฉินเย่ จากนั้นยื่นมือขวาออกไป:“เจอกันครั้งแรก คุณเฉินโปรดชี้แนะด้วย”

จำคนผิด?!

เฉินตงและฉินเย่สบตากัน งงกันทั้งคู่

จู่ๆเฉินตงก็รู้สึกตลกขึ้นมา

ภาพพจน์ของตนเมื่อเทียบกับฉินเย่ ไม่เหมือนลูกคนรวยขนาดนั้นเลย?

ตระกูลจางแห่งเมืองหลวงเชิญเขามา แต่ขนาดใครคือเฉินตงยังไม่รู้ ผิดพลาดตั้งแต่เริ่มเลย?

จางหยู่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเฉินตงอย่างโกรธๆ:“มีอะไรน่าตลกงั้นเหรอ?”

เธอรู้สึกไม่ดีกับบอดี้การ์ดตรงหน้าคนนี้มากๆ

ห้องส่วนตัวห้องนี่เธอกับปู่เป็นคนเตรียมไว้ เดิมทีเธอกับเฉินตงควรอยู่กันสองคนตามลำพัง

เธอเชื่อว่าจากความสวยและความเจนโลกของเธอ สามารถเพิ่มความรู้สึกดีๆกับเฉินตงเป็นเท่าตัวได้ในชั่วข้ามคืน

แต่บอดี้การ์ดคนนี้กลับกลายเป็นขวากหนามของแผนการในครั้งนี้

เฉินตงหุบยิ้ม และไม่ได้โกรธ กลับกันเขากลับรู้สึกว่าสถานการณ์นี้น่าสนใจมาก

ถ้าอีกเดี๋ยวจางหยู่หลันรู้ความจริง จะมีท่าทียังไง?

จางหยู่หลันมองฉินเย่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม:“คุณเฉินใจกว้างมากจริงๆ ที่ไม่ให้บอดี้การ์ดยืนรอหน้าประตู แต่ให้เข้ามาในห้องด้วยกัน นี่ต่างจากลูกคนรวยคนอื่นๆที่จางหยู่หลันเคยเจอมาเลย”

“ฮะฮ่า!”

ทันใดนั้นฉินเย่ก็หัวเราะออกมา หน้าแดงเล็กน้อย

ภาพนี้ทำให้จางหยู่หลันอึดอัด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

พูดอะไรผิดงั้นเหรอ?

ฉินเย่โบกมือไปมาทันที:“ไม่เป็นไรๆ เหมือนพี่น้องนั่นแหละ จะถือสาได้ยังไง?”

เฉินตงไม่โต้แย้ง ฉินเย่ก็ครุ่นคิด ไม่ได้อยากบอกความจริงกับจางหยู่หลัน

ขณะพูดฉินเย่ก็เดินเข้าไป ก้มหน้ามองจางหยู่หลันด้วยสายตาอ่อนโยน

ริมฝีปากเปิดออกเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ:“ที่ทำให้ผมคาดไม่ถึงคือคุณจางหยู่หลันจะสวยขนาดนี้ ทำให้ผมประหลาดใจมากจริงๆ”

รับรู้สายตาของฉินเย่ พลางฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

จางหยู่หลันแอบดีใจ

ความประทับใจแรกมีแล้ว ต่อไปก็จัดการง่ายแล้วล่ะ

เธอมีหลายวีธีที่จะรับมือกับคนไม่เอาถ่าน

เพิ่มความรู้สึกดีนั้นง่ายนิดเดียว

“คุณเฉินพูดเป็นเล่นไป ความสวยของจางหยู่หลัน เหมาะสมกับคำชมของคุณเฉินที่ไหนกัน?”

มือเรียวยาวขาวของจางหยู่หลันจับมือขวาฉินเย่ไว้ หลังจากสัมผัสมือ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าฉินเย่มือสั่น ความมั่นใจของเธอก็เพิ่มขึ้นทันที

ที่สุดแล้วก็เป็นการจับมือแบบมารยาท ทั้งสองปล่อยมือกันโดยเร็ว

แต่ฉินเย่และจางหยู่หลันยังคงสบตากัน ทั้งคู่แฝงไปด้วยรอยยิ้มบางๆ

บอกว่าเป็นการเล่นหูเล่นตาก็ไม่เกินไป

เฉินตงเห็นกับตา หน้าแดงเล็กน้อย

สายตาเขาเหลือบไปเห็นแสงไฟละมุนที่ถูกจัดเตรียมไว้ด้านล่างห้องส่วนตัว

เฉินตงรู้ถึงจุดประสงค์ของตระกูลจางแล้ว

ตระกูลจางดีสนิทเก่ง แต่กลับไม่รู้จักสืบเรื่องของฉันมาให้ดีหรือยังไง?

ไม่รู้จักฉันก็แล้วไป แต่สืบไม่รู้ว่าฉันมีคู่หมั้นแล้วงั้นเหรอ?

“นั่งสิ”

ครู่ใหญ่ ฉินเย่จูงมือจางหยู่หลัน และเชิญให้จางหยู่หลันนั่งอย่างสุภาพบุรุษสุดๆ

ส่วนจางหยู่หลันก็แสดงออกมาอย่างสำรวมมีมารยาท แต่หน้าตายังคงสง่า

เมื่อทั้งคู่นั่งลงก็พูดคุยกันอย่างเฮฮา

เฉินตงกลับเหงา นั่งเปล่าเปลี่ยวอีกด้านอยู่คนเดียว

แต่เขาก็ไม่แคร์ เขาไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้

จางหยู่หลันจำคนผิด พอดีเลย ให้ฉินเย่ที่มีลูกไม้แพรวพราวเป็นไม้กันหมาให้เขา

พวกเขาจะคุยกันยังไงก็ช่าง แค่ไม่ประทับใจเขาก็พอ

“จริงสิคุณเฉิน งานประมูลคืนนี้น่าสนใจดีนะคะ”

จู่ๆจางหยู่หลันก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนช้อย

เฉินตงเลิกคิ้ว หันไปมองโดยสัญชาตญาณ

จางหยู่หลันรู้สึกได้ถึงสายตาของเฉินตง ก็พลางขมวดคิ้ว จากนั้นหันไปพูดยิ้มๆกับฉินเย่:“ของประมูลชิ้นสุดท้ายในคืนนี้คือเครื่องประดับTears of the Blue Seaชุดหนึ่ง เป็นเพชรสีน้ำเงินทั้งเม็ด ออกแบบและผลิตโดยดีไซเนอร์ชั้นนำเลย ผู้หญิงทุกคนต้องชอบอย่างแน่นอน”

บอกเป็นนัยๆ!

ดูจากลำดับในวงค์ตระกูลของจางหยู่หลัน คงไม่ต้องให้คนประมูลTears of the Blue Seaให้เธอหรอก แต่นี่เป็นเหมือนการทดสอบได้

ถ้า“เฉินตง”ประมูลให้เธอ งั้นความสัมพันธ์ก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้น

เฉินตงลูบจมูกไปมา สายตาล้ำลึก ครุ่นคิด

“Tears of the Blue Sea?ดูเหมือนว่าหลังจากคบกับเสี่ยวหยิ่ง ยังไม่เคยให้ของขวัญอะไรเธอเลย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset