Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 197 Tears of the Blue Sea

เวลาค่อยๆผ่านไป

ในลานประมูลคนก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ชั้นสอง ไฟห้องส่วนตัวสว่างขึ้นทีละห้องๆ

แต่เนื่องจากการออกแบบพิเศษ ทำให้คนภายนอกมองเห็นได้ยากว่าใครนั่งอยู่ด้านใน

เฉินตงไม่สนใจฉินเย่กับจางหยู่หลันหยอกเย้ากันไปมา

เขาก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ส่งวีแชทให้กู้ชิงหยิ่ง:“ผมอยากให้ของขวัญคุณ”

“ของขวัญอะไรเหรอ?(ดีใจ)”กู้ชิงหยิ่งตอบทันที

เฉินตงตอบกลับไป:“ถึงตอนนั้นคุณก็จะรู้เอง”

ส่งข้อความเสร็จเขาก็กดโทรศัพท์เป็นโหมดเงียบ แล้วยัดใส่กระเป๋า

พิงบนเก้าอี้ พลางมองแสงไฟลานประมูลด้านล่างที่ค่อยๆสว่างขึ้น

การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

เครื่องประดับ“Tears of the Blue Sea”ชุดสุดท้ายเฉินตงต้องได้มัน

นี่เป็นของขวัญที่เขาจะให้กู้ชิงหยิ่ง

ส่วนราคาเขาไม่ได้คิด การประมูลในเมืองนี้คงไม่ได้ประมูลของล้ำค่าราคาแพงอะไร ยิ่งกว่านั้นตอนนี้เขามีเงิน

“คุณเฉิน ให้ห้องแอบร้อนนะคะ”

จู่ๆจางหยู่หลันก็พูดขึ้น:“คุณให้บอดี้การ์ดของคุณออกไปได้ไหมคะ?ฉันอยากจัดระเบียบชุดให้เย็นสบายขึ้นสักหน่อย”

ฉินเย่ตาเป็นประกาย แต่ก็แสดงความลำบากใจออกมาทันที

จางหยู่หลันจำคนผิด เขาไม่กล้าไล่เฉินตงออกไปหรอกนะ

เฉินตงยิ้มมุมปาก

ตระกูลจางแห่งเมืองหลวงไม่เสียแรงที่อยู่ในวงการบันเทิง คิดไม่ถึงว่าลูกสาวตระกูลร่ำรวยจะมีท่าทีเช่นนี้

“คือ จางหยู่หลัน คนกันเองไม่ต้องถือสาหรอกครับ”

ทันใดนั้นฉินเย่ก็พูดออกมา

จางหยู่หลันอึดอัด

นี่……ยังเป็นคนกันเอง ไม่ต้องถือสาอีกงั้นเหรอ?

เฉินตงไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าแดงก่ำ และไอออกมาอย่างรุนแรง

เขาจ้องฉินเย่เขม็ง เจ้าบ้านี่มีน้ำใจกับคนกันเองขนาดนี้เลยหรือไง?

ฉินเย่รู้ว่าตนพูดผิดไป จึงชี้ไปยังเวทีประมูลด้านล่างด้วยหน้าแดงก่ำ:“คือ ดูการประมูลสิ กำลังจะเริ่มแล้ว”

จางหยู่หลันเหลือบมองเฉินตงอย่างโกรธๆ

ท่ามกลางก้างนี้ เธอก็ไม่ได้แสดงความมีเสน่ห์ของตนออกมาต่อ

ในเมืองหลวงตระกูลจางไม่ถึงกับมีอำนาจมาก แม้ทุกวันนี้ตระกูลจางจะมีวงการบันเทิงอยู่ในมือจนแทบจะเป็นผู้มีอำนาจในวางการไปแล้วก็ตาม

แต่เมื่อเทียบกับคนใหญ่คนโตต่างๆในเมืองหลวง ตระกูลนี้ยังห่างอยู่มาก

ถ้าได้ความชื่นชมจากตระกูลเฉิน แม้เฉินตงจะเป็นเพียงผู้สืบทอดตระกูล ยังไม่มีไม่มีผู้นำตระกูลคนใหม่ที่แท้จริง แต่เพียงแค่ชื่อเสียงนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลจางร่วมงานกันได้

เพื่อตระกูล เธอไม่เสียดายเลย

ยิ่งไปกว่านั้น“เฉินตง”ที่อยู่ตรงหน้าก็ตรงสเปคเธอมาก

ทันใดนั้น

เวทีประมูลสว่างไสว

ขณะเดียวกันไฟที่ดวงเล็กในงานก็ดับลงเช่นกัน

แสงไฟทั้งหมดส่องไปบนเวทีประมู

ชายวัยกลางคนหุ่นดีสวมชุดสูทรองเท้าหนังคนหนึ่ง เดินขึ้นเวทีด้วยรอยยิ้มบางๆ

งานประมูล เริ่มอย่างเป็นทางการ!

เฉินตงร่วมงานประมูลเป็นครั้งแรก ชมการประมูลอย่างสนใจ

แต่ดูของประมูลไป2-3ชิ้นความสนใจก็ลดน้อยลง เพราะเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ของที่นำมาประมูลสำหรับคนทั่วไปนั้นมีค่ามีราคามาก แต่สำหรับเขาไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย

ห้องส่วนตัวทั้งชั้นสอง ก็ไม่มีคนยกป้ายประมูล

คนที่แข่งราคากันล้วนเป็นคนที่อยู่ชั้นหนึ่ง

เขาเหลือบมองฉินเย่กับจางหยู่หลัน

ทั้งคู่แทบจะกอดกันแล้ว เล่นหูเล่นตากันไปมา

จากที่เขารู้จักเฉินตงฉินเย่ หากตนไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ทั้งคู่คงร้อนแรงกันไปแล้ว

“คุณเฉิน……”

รู้สึกถึงสายตาของเฉินตง จางหยู่หลันจึงเอ่ยขึ้น

ฉินเย่อึดอัดเล็กน้อย:“คนกันเอง ไม่มีอะไร”

จางหยู่หลัน:“……”

เธอแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

ฉันทำกับคุณขนาดนี้แล้ว ยังแสดงความมีน้ำใจกับสหายอีก?

เห็นฉันเป็นอะไรกันแน่?

แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ จางหยู่หลันทำได้เพียงอดกลั้นความโมโหไว้ ออดอ้อนออเซาะในอ้อมแขนฉินเย่

เฉินตงเห็นแล้วก็กลั้นขำอย่างมาก

ไม่อยากทำลายเรื่องดีๆของฉินเย่ จึงฝืนเพ่งความสนใจไปที่การประมูลอันน่าเบื่อนั่น

ในลานประมูล บรรยากาศยิ่งคึกคักขึ้นตามการแข่งราคากัน

เมื่อบรรยากาศมาถึงจุดไคลแม็กซ์ ในที่สุดการประมูลสามรอบสุดท้ายก็เริ่มขึ้น

และขณะเดียวกัน ในที่สุดคนห้องส่วนตัวชั้นสองก็เริ่มมีคนยกป้ายแข่งราคากัน

เฉินตงดูอย่างเงียบๆ

เขารอเครื่องประดับ“Tears of the Blue Sea”ชุดนั้น

“คุณเฉิน จะถึงTears of the Blue Seaแล้วค่ะ”จางหยู่หลันถามลองเชิง

ฉินเย่ยิ้มอย่างชั่วร้าย:“ชอบงั้นเหรอ?งั้นผมจะซื้อให้คุณ”

จากนิสัยและกำลังทรัพย์ของเขา เสียเงินให้ผู้หญิงเป็นหมื่นเป็นแสนล้วนเป็นเรื่องปกติที่ทำ

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนเป็นถึงสาวสวยผู้ร่ำรวย เสียไปเป็นหมื่นเป็นแสนก็ไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย

“คุณเฉินให้ จางหยู่หลันชอบทั้งนั้นแหละค่ะ”

จางหยู่หลันตาเป็นประกาย ลูบไล้ตัวฉินเย่ทันที

เธอรอประโยคนี้อยู่

เพียงแค่“คุณเฉิน”ยืนกรานที่จะให้ ก็แสดงว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะได้พัฒนาความสัมพันธ์ต่อ

แต่จางหยู่หลันกลับไม่สังเกตเห็น เฉินตงที่ใช้สายตามองเตือนพลางส่ายหน้าให้ฉินเย่อยู่อีกด้านหนึ่ง

ฉินเย่ชะงักทันที

เฉินตงอยากได้งั้นเหรอ?

เขารู้ได้ทันทีว่าเฉินตงอยากได้Tears of the Blue Seaนี้ให้กู้ชิงหยิ่ง

ฉินเย่กลุ้มใจเล็กน้อย ก้มมองจางหยู่หลันสาวสวยนิ่มนวลที่อยู่ในอ้อมแขน เขาทำไม่ได้

“ทุกท่านครับ ลำดับต่อไปคือTears of the Blue Seaเครื่องประดับที่เป็นของประมูลครั้งนี้”

สาวสวยสองคนถือถาดรองเดินขึ้นเวที พร้อมเสียงของผู้จัดประมูล

ทุกคนให้ความสนใจถาดรองที่คลุมด้วยผ้าไหมนั่น

เมื่อผู้ประมูลเปิดผ้าคลุมออก

ทันใดนั้น

แสงสีน้ำเงินสว่างจ้าออกมาท่ามกลางแสงไฟ สวยงามตระการตา สีสันแวววาว

ว้าว!

เสียงฮือฮาดังไปทั่วทั้งลานประมูล

แม้แต่เฉินตงก็ยังตกตะลึง ถูกแสงของTears of the Blue Seaดึงดูด

ส่วนจางหยู่หลันก็ตกตะลึงเช่นกัน

ที่แห่งนี้ มีการประมูลอัญมณีล้ำค่าแบบนี้ด้วย?

“การประมูลนี้น่าสนใจนะครับ”ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดชมออกมา

เมื่อแสงค่อยๆลดลง

ทุกคนก็เห็นTears of the Blue Seaอย่างชัดเจน

เป็นเครื่องประดับที่มีศิลปะการแกะสลักขั้นสุดยอด ไม่สิ ควรเรียกว่างานศิลปะ

เพชรสีน้ำเงินยังคงเปล่งแสงระยิบระยับ ความแวววาวสีน้ำเงินทำเอาผู้คน

เนื่องจากมันเปล่งประกายเกินไป แม้แต่เพชรน้ำดีบนสร้อยคอก็กลายเป็นของประดับที่ขับให้มันเด่น

สร้อยคอทั้งเส้นเปล่งประกาย วิจิตรงดงาม สวยไม่มีที่

เสียงดังฮือฮาขึ้นอีกครั้งในลานประมูล

และมีคนมองผู้หญิงข้างๆที่สายตาเต็มไปด้วยความปรารถนา จับกระเป๋าพกแล้วถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ชุดนี้มีชื่อว่าTears of the Blue Sea เจ้าของงานประมูลนี้ได้เพชรชั้นยอดสีน้ำเงินนี้มาโดยบังเอิญ เชิญนักออกแบบชั้นนำระดับนานาชาติจากอิตาลีมาออกแบบและผลิตให้โดยเฉพาะ จะพูดว่ามันเป็นเครื่องประดับชุดหนึ่ง หรืองานศิลปะชิ้นหนึ่งก็ได้ แต่ผมว่า จะใช้ความใฝ่ฝันทั้งปวงของเหล่าสาวๆมาบรรยายถึงมันเลยก็ได้ ”

เมื่อแนะนำเสร็จ

ผู้จัดประมูลก็ประกาศเสียงดัง:“เปิดประมูลอยู่ที่ราคา50ล้าน แข่งราคาบิทละ10ล้าน เริ่งแข่งประมูลได้!”

ปัง!

“50ล้าน?ยังเป็นราคาเปิดประมูล?แม่เจ้าโว้ย ไม่มีปัญญาซื้อๆ!”

“โห เงินที่ฉันหามาทั้งชีวิตยังเทียบราคาTears of the Blue Seaชุดนี้ไม่ได้เลย?”

“งานศิลปะที่สวยงามขนาดนี้ ราคาคุ้มค่าจริงๆ ถ้ามีคนประมูลให้ฉัน ฉันตายก็คุ้มค่า”

……

เสียงฮือฮาดังก้องชั้นหนึ่งของลานประมูล

และขณะนั้นเอง

จู่ๆน้ำเสียงเรียบๆก็ดังมาจากห้องส่วนตัวชั้นสอง

“100ล้าน!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset