Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 199 ไม่เป็นธรรมจนต้องหลั่งน้ำตา

จางหยู่หลันอึ้ง สับสนไปหมด มองเฉินตงตาโต

เธอรู้สึกเหมือนฟ้าดินกำลังหมุน

ผู้ชายตรงหน้าต่างหากคือเฉินตง งั้นเมื่อครู่เธออยู่ในอ้อมกอดใครเนี่ย?

เฉินตงเหลือบมองฉินเย่อย่างจนปัญญา

ผู้ประมูลด้านล่างก็ตะโกนออกมา

เมื่อคำว่า“ครั้งที่สาม”ดังขึ้น

ปัง!

เมื่อค้อนประมูลเคาะลง

ก็ไม่มีใครแข่งราคาอีก

ในลานประมูล เมื่อค้อนเคาะราคา200ล้านลง ผู้คนก็ส่งเสียงฮือฮาดังลั่น

ไม่ว่าจะเป็นแขกในห้องชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง ล้วนจ้องมองมาที่ห้องตรงกลาง

ทุกคนล้วนสงสัย ว่าใครกันนะที่เสนอราคาสูงขนาดนี้!

Tears of the Blue Seaหายากมาก ไม่งั้นจางหยู่หลันคงไม่สนใจหรอก

จากมาตรฐานการประมูลของเมืองนี้ ไม่ว่าTears of the Blue Sea หรือราคามหาโหดถึง200ล้าน ก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงได้

ในห้องส่วนตัว

“ไปกันเถอะ”

เฉินตงยืนขึ้น เดินผ่านจางหยู่หลัน แล้วเดินออกไปด้านนอก

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มองจางหยู่หลันแม้แต่น้อย

เขาได้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว ส่วนจุดประสงค์ของตระกูลจางก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วด้วย

ถ้าเป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบชอบธรรม เฉินตงก็ไม่รังเกียจที่จะขยับความสัมพันธ์กับตระกูลจาง แต่แค่เริ่มก็ใช้แผนผู้หญิงสวยๆแล้ว เขารับไม่ได้จริงๆ

จางหยู่หลันสั่นไปทั้งตัว ในที่สุดก็ได้สติ

จางหยู่หลันมองร่างเฉินตง พลางพูดขึ้น:“คุณเฉิน……”

แต่พอจะพูดเธอก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

พอนึกถึงท่าทางที่เขาทำกับเฉินตงเมื่อครู่ แม้แต่จะขอโทษเธอก็รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก

“ที่รัก……”

ฉินเย่อาลัยอาวรณ์ ในบรรดาผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจ ความสวยของจางหยู่หลันติดอันดับ1ใน3แน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น จางหยู่หลันยังมีภูมิหลังของตระกูล ทำให้เธอเป็นที่หนึ่งในใจฉินเย่

“ออกไป!”

จางหยู่หลันเดือดจัด พูดกับฉินเย่ด้วยความโมโห

ฉินเย่ชะงัก แล้วยักไหล่ไปมา:“ที่จริงผมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า ร้ายดียังไงผมก็เป็นคนของตระกูลฉินแห่งซีสู่ แค่เคยฆ่าพ่อแล้วออกจากตระกูลเองก็เท่านั้นเอง”

บูม!

จางหยู่หลันเหมือนโดนฟ้าผ่า หน้าสวยๆซีดเผือด

ในฐานะที่เป็นลูกสาวจากภรรยาเอกตระกูลจาง เรื่องของตระกูลฉินแห่งซีสู่ในตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ทุกคนรู้กันหมด

เธอไม่รู้จักฉินเย่ แต่เคยได้ยินเรื่องนี้

พอนึกถึงตนที่อยู่ในอ้อมกอดคนที่ฆ่าพ่อตัวเองเมื่อครู่ จางหยู่หลันก็ใจเต้นรัว ทั้งขยะแขยงและกลัวสุดๆ

ขณะโกรธจางหยู่หลันก็คว้าแก้วแล้วปาไปที่ฉินเย่

“ไสหัวไป!”

“ไปก็ไป อ่ะ นี่เป็นช่องทางการติดต่อของผม”

ฉินเย่วางนามบัตรลงอย่างไม่แยแส แล้วเดินจากไป

ในห้องส่วนตัว จางหยู่หลันหน้าขาวซีด ใจเต้นอย่างรุนแรง

ภาพเมื่อครู่ ย้อนฉายกลับมาเหมือนในสมองเหมือนฝันร้าย

ความรู้สึกอับอาย โกรธแค้น โทษตัวเอง และตกใจกลัวต่างๆแล่นเต็มสมอง

ทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก

หลังออกจากห้องส่วนตัว เฉินตงและฉินเย่ก็ไม่ได้ออกจากงานทันที แต่เดินตามทีมงานไปหลังเวทีประมูลเพื่อทำขั้นตอนต่างๆ

ดำเนินการเสร็จอย่างรวดเร็ว ทีมงานก็ห่อเครื่องประดับ“Tears of the Blue Sea”มอบให้เฉินตง

“คุณเฉิน คุ้มค่าและยินดีด้วยครับ นี่เป็นของล้ำค่าที่เจ้านายเราเก็บสะสมไว้นานหลายปี เมื่อรู้ว่าแขกคนสำคัญติมาเยือน เขาจึงตั้งใจเอาเครื่องประดับชุดนี้ออกมาประมูล”

“เจ้านายคุณคือใคร?”เฉินตงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ในเมื่อเอาออกมาเพราะแขกคนสำคัญ งั้นเป็นไปได้สูงว่าเพื่อตระกูลของจางหยู่หลัน

ในเมืองหลวงที่ซ่อนผู้ยิ่งใหญ่ไว้ ตระกูลจางไม่ได้โดดเด่นที่สุด

แต่ในเมืองนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริงกำลังมา

“โจวเย่นชิว”พนักงานไม่ได้ปิดบัง สำหรับแขกแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดบัง

เฉินตงชะงัก มองเครื่องประดับในมือพลางยิ้มเบาๆ:“ขอบคุณมาก”

พูดจบก็ออกไปพร้อมฉินเย่

และในตอนที่ทั้งสองคนออกไป พนักงานที่มีหน้าที่ส่งมอบTears of the Blue Seaให้เฉินตงค่อยๆขมวดคิ้ว

เขารีบเดินไปมุมที่ปลอดคน

แล้วกดโทรออก

“เจ้านาย เรื่องเกิดการเปลี่ยนแปลง Tears of the Blue Seaไม่ได้ตกเป็นของคุณผู้หญิงคนโตของตระกูลจาง”

“อืม คนที่ชื่อเฉินตงประมูลไปใช่ไหม?”

ในสาย โจวเย่นชิวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำให้พนักงานขมวดคิ้วเป็นปม

แต่เขาก็ตอบกลับไป:“ใช้ครับ เขาชื่อเฉินตง”

“ดีมาก ได้ของแล้ว”

ปี๊บ!

ตัดสายไป

พนักงานเหม่อค้างด้วยความตกใจ

Tears of the Blue Sea เจ้านายเอาไว้เพื่อเอาใจคุณผู้หญิงคนโตของตระกูลจางไม่ใช่หรอกเหรอ?

แต่เจ้านายกลับตั้งใจเอาออกมาให้เฉินตง?

ก่อนหน้านี้ ที่ประมูลคาดเดาผิดไปงั้นเหรอ?

ในขณะเดียวกัน

จางหยู่หลันเดินออกจากงานประมูลอย่างขวัญหาย เดินไปยังรถบีเอ็มx7ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

พอนั่งลง เสียงแหบๆก็ดังขึ้น

“จางหยู่หลัน เป็นไงบ้าง?”

จางหยู่หลันตัวสั่น สายตาอันว่างเปล่าเพ่งมอง จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา

ความรู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่ว

เธอโผเข้าไปในอ้อมกอดของชายชรา พูดพลางร้องสะอื้น:“คุณปู่ ขอโทษนะคะ หนูจำคำผิด”

บูม!

ชายชราอึ้ง หน้าถอดสี

เขาพาจางหยู่หลันมาจากเมืองหลวง สิ่งที่เตรียมการไว้ทั้งหมด ก็เพื่อได้ตีสนิทกับเฉินตง หวังว่าจะได้คบค้าสมาคมกับตระกูลเฉิน

เพราะยังไงตระกูลเฉินก็เหนือกว่าตระกูลอื่นอยู่บนเมฆสูงได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง

แม้แต่ตระกูลจางก็เป็นหนึ่งในนั้น

อยากจะคบค้าสมาคมกับคนตระกูลเฉินนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

อย่าว่าแต่ผู้สืบทอดตระกูลเฉินเลย แม้แต่คนรุ่นเก่งๆก็ยังยากที่จะคบค้าสมาคมกัน

นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้สืบทอดเฉินตง“ป่าเถื่อน”เสเพลไม่เอาถ่านผู้นี้ สำคัญและหายากแค่ไหน

“ฉัน ฉันเคยกำชับแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าจำคนผิด?”ชายชราพูดเสียงสั่นๆ

เขารู้ถึงความพิเศษของเฉินตงในฐานะผู้สืบทอดเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังเดิมพัน เพื่ออนาคตของตระกูลจาง จึงได้รีบตามมาเช่นนี้

แต่ตอนนี้ เตรียมการไว้ตั้งมากมาย แม้กระทั่งเตรียมมอบหลานสาวแท้ๆของตัวเองให้เฉินตงแล้วด้วยซ้ำไป คาดไม่ถึง……ว่าจะจำคนผิด!

“คุณปู่ ปู่ก็เห็นมาสองคนเมื่อครู่นั้นใครเหมือนเฉินตงมากกว่ากัน มองแวบเดียวก็รู้”

จางหยู่หลันร้องไห้อย่างไม่เป็นธรรม:“ยังไงเฉินตงก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลเฉิน ใครจะไปคิดว่าเขาจะมีท่าทีระมัดระวังในงานแบบนี้?”

ชายชราอึ้ง หน้าแดงพลางกัดฟันกรอดๆ

เห็นจางหยู่หลันร้องไห้ ชายชราก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา:“เอาเถอะ ไม่โทษหลาน เมื่อครู่ปู่ก็จำผิดเหมือนกัน เรื่องนี้ต้องคุยกันยาว”

“ปู่คะ หนูทำเพื่อตระกูลจางได้จริงๆ ครั้งนี้ไม่โทษหนูจริงๆเหรอ”จางหยู่หลันร้องไห้อย่างไม่เป็นธรรม ตัวสั่นไปหมด

ชายชราเป็นห่วงขึ้นมาทันที ตบหลังปลอบใจพลางขมวดคิ้วถาม:“แล้วคนที่ไม่เอาถ่านนั่นเป็นใคร?ในเมื่อเดินไปไหนมาไหนกับเฉินตงได้ คงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป?”

ได้ยินเช่นนั้น

จางหยู่หลันก็มีท่าทีตื่นกลัวขึ้นมาทันที:“เป็นคนตระกูลฉินแห่งซีสู่ที่ฆ่าพ่อตัวเอง”

บูม!

ชายชราเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ตกตะลึง:“สัตว์ร้ายที่ฆ่าพ่อ มาอยู่กับเฉินตงได้ยังไงกัน?”

……

อีกด้านหนึ่ง

หลังโจวเย่นชิววางสาย ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“ของล้ำค่าได้ส่งถึงมือคุณ คงรู้สึกถึงเจตนาดีของฉันได้ใช่ไหม?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset