Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 13 แม่คุณเป็นคนบังคับ ผมไม่ได้เป็นคนบังคับ

บทที่ 13 แม่คุณเป็นคนบังคับ ผมไม่ได้เป็นคนบังคับ

หลังเลิกงานตอนค่ำ

เฉินตงก็รีบกลับบ้านอย่างรีบเร่ง หลังจากต้มน้ำซุปเสร็จ ก็รีบกลับไปยังโรงพยาบาลลี่จิง

พ่อเขาเดินไปถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วย ก็เจอกับคุณหมอจางกับหมอท่านอื่นออกมาจากห้องตรวจพอดี

เมื่อเห็นเฉินตง คุณหมอจางก็โบกมือให้เพื่อนว่างงานออกไปก่อน จากนั้นก็เดินก้าวใหญ่เข้ามา ยิ้มกล่าวว่า:“คุณเฉินช่างกตัญญูจริงๆ ทำกับข้าวมันต้มน้ำซุปให้แม่ของคุณทุกวันเลย”

เฉินตงยิ้ม กล่าว:“คุณหมอจาง อาการแม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?”

“ท่านฟื้นสภาพได้ดีมาก อีกไม่กี่วันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ว่าการปลูกถ่ายตับจะมีช่วงอันตรายที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ในระยะสั้นก็ครึ่งปี ถ้าระยะยาวก็เป็นปี ถ้าผ่านพ้นไปด้วยดีซึ่งนับได้ว่าหายดีแล้ว”

คำพูดของคุณหมอจาง ทำให้เฉินตงรู้สึกเจ็บที่หัวใจ ทันใดนั้นคุณหมอจางก็ยิ้มกล่าวอีกว่า:“แต่ว่าคุณเฉินสบายใจได้เลย ท่านหลงได้กำชับไว้แล้ว ทางโรงพยาบาลจะช่วยรักษาแม่ของคุณให้หายดีอย่างสุดความสามารถ”

“ขอบคุณคุณหมอจากมากเลยนะครับ”เฉินตงกล่าวขอบคุณ

ถึงแม้ถ้าไม่มีท่านหลง เขาก็นับถือในคุณธรรมจริยธรรมของคุณหมอเฉินมาก กับการรักษาคุณแม่เมื่อไหร่ปีมานี้

“คุณเฉินเกรงใจเกินไปแล้ว แต่ว่าอาการของท่านในตอนนี้ ต้องห้ามได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจแม้แต่น้อย อารมณ์ต้องอย่าโมโหมาก สิ่งนี้ก็เคยพูดกับคุณเฉินไว้แล้วเมื่อครั้งก่อน ขอให้คุณเฉินระวังเรื่องพวกนี้ให้มากๆนะครับ”

คุณหมอจางยิ้มโบกมือ มองไปที่ห้องผู้ป่วยถ้าที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดที่จะเอ่ยพูด สุดท้ายก็ยิ้มกับเฉินตงอย่างแปลกๆ:“งั้นผมขอตัวไปตรวจห้องก่อนนะครับ”

เฉินตงมองคุณหมอจางที่เดินออกไปทีนึงอย่างรู้สึกสงสัย

เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เฉินตงหยุดชะงัก

จู่ๆเขาก็เข้าใจว่าที่คุณหมอจางกำลังจะพูดอะไรแต่ก็หยุดลงไม่พูดนั่นเพราะอะไร

ในสายตาที่มองไป เห็นคุณแม่กำลังนอนบนเตียงผู้ป่วยใบหน้าที่พร้อมวางยังคงมีรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น

นั่นข้างเตียงผู้ป่วย มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่ง ก้มหน้าปอกเปลือกลูกแอปเปิล

“หลินเสว่เอ๋อ คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เฉินตงเลิกคิ้ว

“คุณเฉิน คุณมาแล้วเหรอ?”

หลินเสว่เอ๋อเงยหน้าขึ้นมองเฉินตง ยิ้มอย่างสวยงาม :“ฉันเห็นคุณบอกว่าคุณป้าป่วยไงล่ะ?ก็เลยมาเยี่ยมคุณป้าหลังเลิกงานสักหน่อย”

พูดจบ ยังหั่นแอปเปิลให้คุณแม่ของเฉินตงอย่างสนิทสนม

เฉินตงมองกระติกข้าวเก็บความร้อนที่วางด้านบนตู้ที่อยู่ด้านข้างทีนึง ก็มีความเย็นชาเล็กน้อย

เขาไม่คิดเลยว่าหลินเสว่เอ๋อจะเล่นแบบนี้

ด้านหนึ่งคอยวางแผนเรื่องหวางเห้า อีกด้านก็วิ่งมา เยี่ยมแม่ของเขาถึงที่นี่ นี่มันอยู่ในสถานการณ์อะไรกัน?

“เสี่ยวตง คุณหลินดีมากเลยนะ”คุณแม่หลี่หลานมองเฉินตง สายตามองไปด้านหลังแล้วกล่าว:“หนันหนันล่ะ?”

เนื่องจากเพิ่งจะตื่นจากการผ่าตัดเสร็จไม่นาน น้ำเสียงของคุณแม่ยังคงไม่มีแรงเหมือนเดิม และสีหน้าก็ดูซีดเซียวมากด้วย

ใจเฉินตงเจ็บปวดมาก อาการของคุณแม่ในตอนนี้ คงทนไม่ไหวกับการสะเทือนอารมณ์แบบนี้ไม่ได้แน่ๆ

เพราะฉะนั้นตั้งแต่ที่คุณแม่ฟื้นมา เขาก็ปิดบังเรื่องหย่าเอาไว้ คิดว่ารอให้อาการของคุณแม่ดีแล้วค่อยบอกเรื่องนี้

แต่ว่า เฉินตงไม่ได้ตอบกลับไปทันที แต่กลับมองหลินเสว่เอ๋อทีนึงอย่างเยือกเย็น

หลินเสว่เอ๋อเต้นถึงสะใภ้ที่กำลังจะแต่งงานกับคนในตระกูลหวาง เธอยังวิ่งมาเยี่ยมแม่ของเขาในโรงพยาบาลได้เลย แล้วยังจะพูดอะไรมากอีกล่ะ?

หลินเสว่เอ๋อเหมือนจะรู้ถึงความคิดของเฉินตง จึงยิ้มใส่หน้าเล็กน้อย

เฉินตงวางใจแล้ว ถึงยิ้มกล่าวอธิบาย

“แม่ครับ ช่วงนี้หนันหนันยุ่งมากหน่อย ก็เลยไม่มีเวลาว่างสักที รอให้อาการของคุณแม่ดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้แล้ว ก็จะได้เจอกันแล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ก็ได้”หลี่หลานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย กัดแอปเปิลกินเบาๆ

“ แม่ครับ แม่พักผ่อนก่อนนะครับ ผมมีอะไรจะคุยกับคุณหลิน”

เฉินตงเดินไปด้านหน้าหลินเสว่เอ๋ออย่างรวดเร็ว เรื่องคานของเธอกระชากให้ลุกขึ้น:“รบกวนคุณออกมากับผมหน่อย”

“โอ๊ย คุณทำฉันเจ็บแล้วนะ”หลินเสว่เอ๋อสำออยแกล้งทำเป็นเจ็บ

หลี่หลานขมวดคิ้ว:“เสี่ยวตง คุณหลินมาเยี่ยมแม่ เป็นแขกนะ ลูกทำแบบนี้มันไม่เหมาะ พี่ขอโทษซะ

“อิอิ ขอบคุณค่ะคุณป้า”หลินเสว่เอ๋อยิ้มพูดกับหลี่หลาน สีหน้าเอาใจมาก

พอหันหน้าไปอีกฝั่ง ในขณะที่เธอเห็นใบหน้าที่กำลังควบคุมความโมโหไว้ของเฉินตง เธอแลบลิ้นทีนึง:“เอาล่ะๆ ฉันเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ไม่ถือสาอะไรคุณก็ได้”

พูดจบ เธอหันหน้าไปกำชับหลี่หลาน:“คุณป้าคะ คุณป้าต้องพักผ่อนให้ดีๆ แล้วหนูจะมาเยี่ยมคุณป้าใหม่นะคะ”

จากนั้นจึงค่อยเดินตามเฉินตงออกจากห้องผู้ป่วย

“หมายความว่ายังไง?”

ยืนอยู่หน้าระเบียง เฉินตงกล่าวไถ่ถามไปตรงๆ

“ฉันก็แค่รู้ว่าคุณป้าไม่สบาย ก็เลยมาเยี่ยมคุณป้าไม่ได้หรือไง?”หลินเสว่เอ๋อที่ยิ้มเล่นเมื่อกี้นี้จู่ๆก็แสดงสีหน้าที่ดูน่าสงสาร ถึงขั้นดวงตาประกายไปด้วยน้ำตา:“ทำไม?ฉันทำดีคุณกลับไม่เห็นค่า?งั้นคุณมาแหย่ฉันทำไม?”

เฉินตงปวดหัวเลยทีนี้

เขาทำมือห้ามอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย:“เชิญคุณไปซะ ต่อไปไม่ต้องมาเยี่ยมแม่ผมอีก”

“ไม่!”หลินเสว่เอ๋อส่ายศีรษะ กล่าวด้วยรอยยิ้มแปลกๆ:“ถ้าคุณไม่ให้ฉันมาเยี่ยมคุณป้า ฉันจะนำเรื่องที่คุณหย่าแล้วไปบอกให้คุณป้าฟัง”

ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ เธอมีความสามารถในการใช้แผนของตน และรู้ถึงความคิดของผู้ชายดี ยิ่งรู้ว่าจะใช้วิธีอะไรเพื่อคุมผู้ชายคนนึงให้อยู่

ไม่งั้นก็คงจะไม่หันมาเยี่ยมแม่ของเฉินตงแทน หลังจากถูกเฉินตงเมินใส่

“นี่คุณกำลังคุกคามผมเหรอ?”เฉินตงสีหน้าบูดบึ้ง แววตาเต็มไปด้วยความดุ

“ใช่ ฉันกำลังคุกคามคุณ อยากแก้แค้นฉันมั้ยล่ะ?”หลินเสว่เอ๋อยิ้มอ่อย สายตาประกายความน่าค้นหาและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก ในขณะเดียวกันยังยกมือขวาขึ้น ใช้นิ้วชี้กดหน้าอกขอเฉินตงเบาๆ

เฉินตงเดินถอยหลังก้าวหนึ่ง:“ผม บอกว่าไปให้พ้นซะ!”

หลินเสว่เอ๋อหยุดยิ้ม ไม่นึกว่าเฉินตงจะปฏิเสธทันทีทันใดแบบนี้

นี่มันคนละคนกับเฉินตงในคืนนั้นชัดๆ ไม่เหมือนคนคนเดียวกันสักนิด!

เธอเป็นผู้หญิงฉลาด หรือว่าควรหยุดในระดับที่เหมาะสม

หายใจเข้าลึกๆทีนึง หลินเสว่เอ๋อดึงมือขวากลับมา ใบหน้าสวยไปที่ประกายความน่าค้นหาและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากกลับกลายเป็นยิ้มอย่างสุภาพ

“ก็ได้ ถ้าฉันกลับล่ะ คุณสบายใจได้เลย เรื่องที่คุณหย่าฉันไม่บอกให้คุณป้าหรอก ฉันไม่ได้โง่แบบนั้น ถึงได้พูดอะไรที่สะเทือนจิตใจเธอในตอนนี้”

แลดูหลินเสว่เอ๋อที่เดินจากไป เฉินตงสับสนวุ่นวายใจมาก

แม่คือทุกอย่างในชีวิตของเขา

เขาจะไม่ยอมให้หลินเสว่เอ๋อเข้าใกล้แม่เด็ดขาด

หลินเสว่เอ๋อไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาต้องการ และการที่หลินเสว่เอ๋ออยู่ข้างกายคุณแม่ มันเป็นระเบิดเวลาที่อาจจะระเบิดได้ตลอดเวลาอย่างไม่ต้องสงสัย!

ซึ่งตอนนี้เขายังไม่รู้จะจัดการยังไงดี นี่ทำให้เขาอารมณ์เสียมาก

ในเวลาเดียวกัน

หวางหนันหนันนั่งที่นั่งข้างคนขับบนรถออดี้ มองดูรถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างเหงาๆ ดวงตายังคงแดง และมีหยาดน้ำตาเป็นประกาย

หวางเห้าที่อยู่ด้านข้างกลับมีความสุขดีใจสุดๆ

ขอเพียงแค่พี่สาวนัดดูตัวเพื่อแต่งงานได้สำเร็จ ก็จะมีเงินค่าสินสอดที่เขาต้องให้หลินเสว่เอ๋อแล้ว

แลมองหวางหนันหนันทีนึง หวางเห้ายิ้มกล่าว:“พี่ พี่ดีกับผมที่สุดเลย ที่ผมได้แต่งงานกับเสว่เอ๋อ ก็เป็นเพราะพี่ที่ช่วยผม”

หวางหนันหนันไม่ได้ตอบอะไร รอยยิ้มของหวางเห้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดที่ใจ

แต่พ่อไม่ได้โต้เถียงกลับ และไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี

เพราะเธอเป็นพี่สาวของหวางเห้า การที่น้องชายจะแต่งงานเรื่องใหญ่ขณะนี้ เธอควรช่วยจริงๆ

เพียงแต่ว่า คนที่นับดูตัวเป็นชายอายุ 40 กว่า ยังเป็นหัวหน้าของเฉินตงด้วย เธอรับไม่ได้เลยจริงๆ

เห็นหวางหนันหนันท่าทีดูไม่ค่อยมีความสุข จู่ๆหวางเห้าก็แกล้งพูดล้อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลลี่จิง

“พี่ เช้าวันนี้ผมส่งเสว่เอ๋อไปทำงาน เจอเฉินตงในโรงพยาบาลลี่จิงด้วยนะ พี่รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?เสว่เอ๋อบอกว่าเฉินตงรวยมาก ฮ่าๆๆ……น่าขำจริงๆเลย”

แววตาหวางหนันหนันประกายความมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย กล่าวอย่างเศร้าๆ:“เขาจะรวยได้ยังไงกัน?”

“ผมก็ว่าอย่างนั้น แต่เสว่เอ๋อกลับไม่เชื่อ ที่ว่าเธอโง่ไหมล่ะ?”

หวางเห้ากล่าวอย่างดูถูก:“ถ้าเขามีเงินที่แอบซ่อนไว้ใช้หลายแสนผมยังเชื่อ แต่ถ้ารวยอย่างที่เสว่เอ๋อบอก แว่นตาท้องฟ้าจะตกลงมา”

คำพูดที่ดูประชดลอยๆนี้

กลับทำให้หวางหนันหนันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ราวกับคว้าความหวังสุดท้ายเพื่อช่วยชีวิตไว้ได้

ถ้าเกิดว่า เฉินตงรวยจริงๆล่ะ?

เมื่อคิดแบบนี้ หวางหนันหนันรีบส่งข้อความไปให้เฉินตงทันที

“เฉินตง แม่ฉันบีบบังคับให้ฉันไปนัดดูตัวกับชายแก่อายุ 40 กว่า พวกเขาทำเพื่อสินสอดสำหรับให้เสี่ยวเห้าหาภรรยา ถ้ารวบรวมค่าสินสอดได้เพียงพอ ฉันก็ไม่ต้องไปนัดดูตัวกับชายแก่แล้ว คุณช่วยฉันหน่อย ได้ไหม?”

ข้อความส่งไปตั้งนาน กำลังจะขับรถไปถึงสถานที่นัดเจอแล้ว ยังไม่มีข้อความตอบกลับเลย

หวางหนันหนันเริ่มหัวร้อน จึงรีบส่งข้อความไปข้อความหนึ่ง :“เฉินตง!ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันมา3ปี สามีภรรยากันแค่คืนเดียวก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันอย่างไม่เลือนหาย ทำได้นำร่างกายของฉัน และทุกอย่างของฉันมอบให้คุณหมดแล้ว มีคุณจะไม่ยอมช่วยจริงๆเหรอ?ถึงขนาด ไม่พูดอะไรกับฉันเลยสักคำหรือยังไง?”

รอมา10กว่านาทีแล้ว รถยนต์อาวดี้ได้จอดลงที่ลานจอดรถในร้านอาหาร

พอจอดรถเรียบร้อย หวางเห้ากล่าว:“พี่ ถึงแล้ว”

หวางหนันหนันมองโทรศัพท์ทีนึงยังคงไม่มีข้อความตอบกลับ ก็รู้สึกร้อนใจทันที กำลังคิดจะส่งข้อความไปอีกครั้ง

ติ้ง!

การแจ้งเตือนข้อความเข้าในวีแชทดังขึ้น

หวางหนันหนันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างตื่นเต้น พอเห็นเนื้อหาในข้อความแค่นั้นแหละ หดหู่ใจไปเลย

“แม่คุณเป็นฝ่ายบีบบังคับ ไม่ใช่ผมที่เป็นคนบีบบังคับคุณ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset