Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 200 มีคนมาเมืองหลวงอีกแล้ว

ในฐานะที่เป็นเจ้าประจำถิ่น โจวเย่นชิวรู้ข่าวการมาของตระกูลจางในทันที

จู่ๆตระกูลจางแห่งเมืองหลวงก็มาที่นี่ มันทำให้เขาสงสัย จึงรีบตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

ตระกูลจางมาเพราะเฉินตง

ดังนั้นตอนตระกูลจางตัดสินใจมาพบกับเฉินตงในงานประมูล เขาจึงรู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว

ย้ายข้างครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้โจวเย่นชิวตีไพ่ดีในมือเฉินตงแตกกระจาย และโดนคำพูดของเฉินตงทำลายความทะเยอทะยาน ไม่กล้าย้ายข้างอีก

การมาของตระกูลจาง เป็นโอกาสแสดงความดีของเขาต่อเฉินตงพอดิบพอดี

ดังนั้นโจวเย่นชิวจึงใจกว้างเอา“Tears of the Blue Sea”ออกมา

ดูเหมือนการพูดประจบเอาใจจางหยู่หลัน ที่จริงแล้วเพื่อเฉินตง

เครื่องประดับชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะ โจวเย่นชิวมั่นใจว่าเฉินตงต้องประมูลให้กู้ชิงหยิ่งแน่

การแสดงความรักและการขอแต่งงานล้วนเป็นสิ่งสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพี

เป็นการพิสูจน์ว่าเฉินตงไม่งกกับกู้ชิงหยิ่งแม้แต่น้อย

“การวางแผนที่ดีพังไป ถึงตอนนี้ฉันทำได้เพียงค่อยๆชดเชยความสัมพันธ์กับเฉินตง”

โจวเย่นชิวกลัดกลุ้ม ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา:“แต่ตระกูลจางน่าจะคบค้าสมาคมได้”

……

ทางกลับบ้าน ฉินเย่ขับรถโคนิกเซ็กก์ด้วยความเร็วสูง

เฉินตงมองฉินเย่อย่างจนปัญญา:“คุณเป็นคนเปิดเผยเอง เรื่องนี่อย่าพาลมาหาผม”

จางหยู่หลันสวยมากจริงๆ ฉินเย่คิดอะไรก็เป็นเรื่องปกติ

ยิ้งไปกว่านั้น เมื่อครู่ทั้งสองหยอกล้อกันไปมา ดูเข้าต่างคนต่างก็พร้อม

เพียงแต่เปลวไฟที่ฉินเย่อั้นเอาไว้ เฉินตงก็แอบสงสาร

“โทษผม?”

ฉินเย่เหลือบมองเฉินตง:“ถ้าผมไม่ตะโกนให้หยุด ไม่แน่Tears of the Blue Seaชิ้นนี้โดนแข่งราคากันสูงลิ่วไปแล้ว”

เฉินตงยักไหล่:“งั้นตอนนี้คุณก็อย่าใจร้อนนักสิ”

“สาวสวยระดับท็อปเลยนะครับพี่ชาย!ตอนแรกยังออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนผมเลย พอตอนหลังกลับไล่ผม เสียใจมากๆ”ฉินเย่พูด

เฉินตงเบ้ปาก ไม่สนใจเขาอีก

รถโคนิกเซ็กก์ขับเข้าเขตวิลล่าเขาเทียนซานด้วยความเร็ว พอลงจากรถ ฉินเย่ก็ดริฟต์รถขับออกไปนอกเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

เฉินตงสงงไปครู่หนึ่ง ไม่ได้สนใจอะไร แล้วเดินเข้าคฤหาสน์ไป

“คุณชาย กลับมาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง?”

ท่านหลงถามขึ้นทันที

“ตระกูลจางแห่งเมืองหลวงอยากตีสนิทผม แต่แผนที่ใช้ผมรับไม่ได้”เฉินตงแกว่งกล่องเครืองประดับในมือไปมา:“แต่ก็ประมูลเครื่องประดับมาให้เสี่ยวหยิ่งชิ้นหนึ่ง”

“แผนอะไรเหรอ?”ท่านหลงถาม

เฉินตงไม่ปิดบัง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

ฟังจบ ท่านหลง คุนหลุนล้วนตกตะลึง

“ฉินเย่หัวร้อนออกไปแล้ว น่าจะไปหาจางหยู่หลัน”เฉินตงพูดเสริม

ท่านหลงหัวเราะร่า:“เจ้าเด็กนั่นถูกปฏิเสธ คงไม่รีบไปเป็นหมาอีกรอบหรอก แต่ไม่แน่ว่าจะใช้เทคนิคสื่อสารยังไง”

เฉินตงมองท่านหลงแปลกๆ

ภาพพจน์ยิ่งแย่เข้าไปเรื่อยๆ

รับรู้ได้ถึงสายตาของเฉินตงและคุนหลุน ท่านหลงก็ยิ้มออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก ท่าที่เคร่งขรึม

“แต่ก็สมเหตุสมผลที่ฉินเย่ชอบจางหยู่หลัน ความสวยของจางหยู่เป็นที่รู้กันในวงการบันเทิง และวงการบันเทิงยักษ์ใหญ่มากมายล้วนอยากคบค้าสมาคมกับเธอ”

“งั้นก็ต้องมีอำนาจนะสิ ตำแหน่งผู้กุมอำนาจของตระกูลจางไม่ใช่เล่นๆ”เฉินตงตอบกลับ แล้วเดินขึ้นห้องไป

เฉินตงเอา“Tears of the Blue Sea”ออกมาดูอย่างละเอียดอีกรอบ

แม้ไฟในห้องจะไม่สว่างจ้าเหมือนในงานประมูล

แต่“Tears of the Blue Sea”ยังคงสะท้อนแสงสีน้ำเงินอันน่าทึ่ง เหมือนความฝัน

ไม่พูดไม่ได้เลยว่าของที่โจวเย่นชิวตั้งใจเอาออกมา เพื่อแสดงเจตนาดีนั้นมีราคามาก

เฉินตงใส่“Tears of the Blue Sea”ลงกล่องอีกครั้ง พลางอย่างไม่ใส่ใจ:“นี่เป็นการแสดงเจตนาดีแน่นอน แต่ไม่เพียงพอที่จะพาคุณย้อนกลับไปในอดีต”

ย้ายข้างครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นสถานการณ์แก้ปัญหาที่ต้นตอ เฉินตงคงยังนึกถึงบุญคุณที่ช่วยเหลือในอดีต ปล่อยโจวเย่นชิวไปสักครั้ง

ที่ทำลายความทะเยอทะยานของโจวเย่นชิว ก็เพื่อเป็นการป้องกันในอนาคต

ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาล้วนอยู่ที่เมืองนี้ โจวเย่นชิวยังเป็นงูเจ้าถิ่นของที่นี่ การไม่อนุญาตให้ผู้อื่นบุกรุกเขตอิทธิพลของตนทำให้คนอื่นๆหลับสนิท?

ถ้าอยากนอน ก็ต้องนอนใต้เท้าเขา!

เฉินตงหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วส่งวีแชทหากู้ชิงหยิ่ง

“ได้ของขวัญมาแล้ว”

กู้ชิงหยิ่งแทบจะตอบกลับมาทันที

“จริงเหรอ รีบเอามาให้ฉันดีเร็ว!”

เฉินตงยิ้มอย่าง:“เด็กโง่ เอาไปให้ดูก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”

“เชอะ……จะเซอร์ไพรส์หรือไม่ก็ต้องดูอีกที(อ้อน)”

“งั้นรอนะ รีบพักผ่อนได้แล้ว”

เฉินตงตอบข้อความเสร็จก็มองกล่องเครื่องประดับ“Tears of the Blue Sea”แวบหนึ่ง แล้วยิ้มอย่างมั่นใจ

ตระกูลกู้ชิงหยิ่งยิ่งใหญ่ แค่เครื่องประดับเพชรธรรมดา ไม่สามารถทำให้เธอประหลาดใจได้จริงๆ แต่ราคาตั้ง200ล้านเลยนะ?

……

สองวันต่อมา ทุกอย่างก็ปกติดี

แต่ที่ทำให้เฉินตงแปลกใจคือ ตระกูลจางไม่มีลูกไม้อื่นอีก

เห็นได้ชัดว่าแปลกๆ

เดินทางไกลมาถึงที่นี่ จุดประสงค์เพื่อตีสนิทเขา

ครั้งแรกล้มเหลวไป ก็ล้มเลิกเลยงั้นเหรอ?

ล้อเป็นเล่น

ความจริงเหมือนที่เฉินตงคาดเดาไว้

ตระกูลจางไม่ได้ล้มเลิก แต่ยังอยู่ในเมืองนี้มาโดยตลอด

แต่เพียงเพราะความผิดพลาด สองวันมานี้จึงไม่เห็นจางหยู่หลัน

แผนการจึงถูกปล่อยเอาไว้ก่อน

แม้แต่คุณท่านตระกูลจาง ก็คิดอะไรไม่ออก

สถานการณ์ที่เร็วกว่าคนอื่นไปหนึ่งก้าว วันนี้กลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างหยุดชะงักไป

การเร็วกว่าคนอื่นไปหนึ่งก้าว วันนี้กลับรั้งท้ายคนอื่น

แรกเริ่มความประทับใจแรกในใจของเฉินตงก็เลวร้ายไปแล้ว

อยากเปลี่ยนกลับไปคงยากแล้ว

เช้าตรู่ของวันนี้

ณ โรงแรมไท่ซาน

จางหยู่หลันยังนอนหลับอยู่ แต่ต้องตื่นเพราะเสียงโทรเข้า

ปู่โทรมา

“จางหยู่หลัน อย่างช้าที่สุดคืนนี้ต้องรีบไปเจอเฉินตงให้ได้ มีคนตามมาถึงเมืองหลวง”

ประโยคนี้ ทำให้จางหยู่หลันตื่นทันที

“ใครคะ?”

“ตระกูลฉู่!”

จางหยู่หลันขมวดคิ้วเป็นปม:“ผู้หญิงสำส่อนตระกูลฉู่คนนั้นนะเหรอ?”

“ใช่!หลานรู้จักลูกไม้ของเด็กนั่นดี ถ้าจัดการเฉินตงก่อนเธอไม่ได้ หลานลองคิดดู ตระกูลจางของเรายังเหลือเปอร์เซ็นความสำเร็จอีกกี่เปอร์เซ็น?”

คำพูดของปู่ ทำเอาจางหยู่หลันหน้าซีดเผือด

ผู้หญิงร่านที่เธอพูดถึงคือศัตรูคู่อาฆาตของเธอ

ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือความสามารถ ล้วนใช่ทั้งนั้น

นอกจากรูปร่างหน้าตาที่พอกดขี่เธอคนนั้นได้ ส่วนด้านความสามารถเธอสู้ไม่ได้เลยจริงๆ

ดวงตาเปล่งความชี้ขาดออกมา

จางหยู่หลันพูดเสียงขรึม:“ปู่ไม่ต้องห่วง คืนนี้สำเร็จแน่นอน!เฉินตงต้องเป็นของหนู ไม่ยอมให้นังสำส่อนนั่นทำแผนชั่วสำเร็จแน่นอน!”

“ปู่รีบเชิญเฉินตงเถอะค่ะ”

ในขณะเดียวกัน

ในห้องทำงานบริษัทไท่ติง

เฉินตงมองบัตรเชิญที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ พลางครุ่นคิด

“ฉันก่อเรื่องตระกูลหลี่ไปรอบหนึ่ง ส่งผลกระทบขนาดนี้เลยเหรอ?”

กูหลังเป็นคนส่งบัตรเชิญมา และหลังจากส่งมอบให้เฉินตงแล้ว กูหลังก็ไม่ได้ออกไปทันที

“คุณชาย ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่รวยที่สุดในเมืองหลวง คุณชายไปก่อเรื่องไว้ ส่งผลกระทบไม่น้อยเลย”แม้กูหลังไม่ได้ติดตามเฉินตงไปเมืองหลวงด้วย แต่เขาก็รู้มาบ้าง

เฉินตงยิ้มอย่างจนปัญญา

หยิบบัตรเชิญขึ้นแล้วเปิดอ่าน

เขาถึงกันอึ้ง

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset