Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 202 วางแผน ? ลอบฆ่า !

สองตระกูล ? !

เฉินตงรู้สึกตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึงมาก่อน

เขาเหลือบมองโจวเย่นชิวหนึ่งครั้ง

โจวเย่นชิวฉลาดหลักแหลม เขาเป็นฝ่ายรีบเดินออกมาเสียก่อน จากนั้นจึงยิ้มแหยพลางพูดว่า : “คุณเฉิน ผมเองก็ไม่มีทางเลือก”

“ออกไปก่อนเถอะ”

เฉินตงพยักหน้า

คำพูดเพียงประโยคเดียว เมื่อดังไปถึงหูของคุณท่านใหญ่ตระกูลจาง จางหยู่หลัน และฉู่เจียนเจีย ทั้งสามก็ผงะไปพร้อมกันโดยทันที

นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการออกคำสั่งของหัวหน้ากับลูกน้อง !

แววตาที่ทั้งสามคนมองเฉินตงจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หลังจากที่โจวเย่นชิวเดินออกไปแล้ว

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็รีบเดินตรงเข้าไปหาเฉินตงก่อน : “คุณเฉิน เชิญนั่งครับ”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว เชิญนั่งค่ะ คุณเฉิน”

จางหยู่หลันเดินเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และใช้สายตาหว่านเสน่ห์ ไม่หลงเหลือท่าทีของความดูถูกอีกต่อไป

เฉินตงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาเหลือบไปมองหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ฉู่เจียนเจียผู้นี้ เย็นชาขนาดนี้เชียวหรือ ?

เมื่อต้องเผชิญกับการจู่โจมของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันอย่างไม่ได้ตั้งตัว เฉินตงจึงหาข้ออ้างที่จะปฏิเสธไม่ได้อีก เขาจึงจำใจต้องนั่งลงตรงที่นั่งระหว่างทั้งสองคน

คุนหลุนและกูหลังยืนอยู่ทางด้านหลังของเฉินตง

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางรีบรินน้ำชาให้แก่เฉินตง

ส่วนจางหยู่หลันก็เหลือบมองไปยังฉู่เจียนเจียด้วยสายตาเยาะเย้ย

ฉู่เจียนเจียเองก็มองกลับอย่างดูถูก ในที่สุดเธอก็ลุกยืนขึ้น จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณเฉิน ขอบคุณที่คุณยอมสละเวลาพักผ่อน ทั้งๆ ที่มีงานมากมาย เพื่อมาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ แต่เป็นเพราะเจียนเจียเองที่จัดการทุกอย่างได้ไม่ดีนัก เป็นความผิดของเจียนเจีย”

หลังจากได้ยิน

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันก็สีหน้าหมองหม่นลงทันที

จางหยู่หลันพูดด้วยความโมโห : “ฉู่เจียนเจีย เธอหมายความว่าอย่างไร ?”

ปะทะกันเร็วขนาดนี้เลยหรือ ?

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ

ฉู่เจียนเจียเลิกคิ้วอย่างไม่แยแส แล้วจ้องมองไปที่จางหยู่หลัน : “จางหยู่หลัน ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะกับเธอหรอกนะ ฉันมาหาคุณเฉินก็เพื่อเจรจาธุรกิจ ช่วยระงับอารมณ์หึงหวงของเธอเอาไว้หน่อย”

เป็นคำพูดที่ตรงไปตรงมาและไร้ความปรานี

เฉินตงมองดูด้วยความตกตะลึง

นี่คงจะเป็นหญิงงามที่เย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็งของจริง !

ใบหน้าอันงดงามของจางหยู่หลันถอดสีทันที และถูกแทนที่ด้วยความโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ

เมื่อการโต้เถียงกำลังจะเกิดขึ้น คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน

“คุณหนูตระกูลฉู่ ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ จะปล่อยให้เธอมาตำหนิหลานสาวของฉันเช่นนี้ได้อย่างไร ?”

“ฉันมาเพื่อเจรจาธุรกิจ !” ฉู่เจียนเจียไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางขมวดคิ้ว และทำหน้าตาบูดบึ้ง : “ฉันไม่สนใจว่าเธอต้องการเจรจาธุรกิจอะไรกับคุณเฉิน แต่ในเมื่อคืนนี้ ทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว ก็ควรจะพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระเท่านั้น ส่วนเรื่องธุรกิจของเธอ เอาไว้ค่อยคุยวันหลัง”

คำพูดเพียงประโยคเดียว แต่กลับทำลายแผนการที่ฉู่เจียนเจียวางเอาไว้ทั้งหมด ทำให้เธอไม่อาจพูดอะไรต่อได้อีก

ฉู่เจียนเจียขมวดคิ้วแน่น แล้วหันมองจางหยู่หลันด้วยความโมโห

ถ้าต้องคุยเรื่องสัพเพเหระ เธอจะคุยได้เหนือกว่าจางหยู่หลันได้อย่างไร ?

ฉู่เจียนเจียใช้มือดันแว่นที่หล่นลงมาบนดั้งจมูก จากนั้นจึงหันไปมองเฉินตง แล้วนั่งลงอย่างจนใจ

เฉินตงแอบยิ้มอย่างหดหู่อยู่ในใจ

ใจจริงเขาอยากเจรจาธุรกิจกับฉู่เจียนเจีย ไม่ได้อยากจะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคนตระกูลจางเลยแม้แต่น้อย

เพราะเรื่องพูดคุยสัพเพเหระที่ดีที่สุด ล้วนแต่อยู่ที่กู้ชิงหยิ่งหมดแล้ว !

เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาจึงไม่อาจพูดอะไรได้อีก

เมื่อครู่ที่คุณท่านใหญ่ตระกูลจางและฉู่เจียนเจียโต่เถียงกันนั้น เขาเอาก็ไม่เขาไปมีส่วนร่วม

ไม่ช้า งานเลี้ยงก็เริ่มมีบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนานขึ้น

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางเป็นคนแก่ที่มีไหวพริบ เขาพูดคุยอย่างออกรสออกชาติ และเชิญชวนให้เฉินตงร่วมดื่มอย่างต่อเนื่อง

จางหยู่หลันเองก็คอยช่วยรินเหล้าอยู่ข้างๆ และคอยพูดเสริมอย่างยิ้มแย้ม

ส่วนฉู่เจียนเจีย ไม่ดื่มเหล้าเลยแม้แต่หยดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ทำเพียงแค่ยกแก้วขึ้นมาเมื่อคุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันตะโกนยินดีเท่านั้น จากนั้นก็วางแก้วลง

บรรยากาศไม่คึกคักเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป

ตอนนั้นเอง โจวเย่นชิวได้ถือเหล้าชั้นดีเดินเข้ามาภายในห้อง เพื่อต้องการร่วมสังสรรค์

แต่เฉินตงกลับส่งสัญญาณให้คุนหลุน เชิญเพื่อนสนิทคนนี้ออกจากเทียนเก๋อไป

ในเมื่อไม่ซื่อสัตย์หนึ่งครั้ง ก็ไม่อาจที่จะไว้ใจได้อีก

ที่เขาดัดหลังโจวเย่นชิว เพื่อต้องการให้โจวเย่นชิวคอยเป็นสุนัขรับใช้ ไม่ใช่เป็นเพื่อนร่วมสังสรรค์

หลังจากงานเลี้ยงดำเนินไปพักใหญ่

เฉินตงก็อยู่ในอาการเมาเล็กน้อย

ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเองก็แสดงออกถึงความเมาเช่นกัน ส่วนจางหยู่หลันเองก็ดวงตาพร่ามัวด้วยความมึนเมา

แม้กระทั่งฉู่เจียนเจียเองก็ดื่มเข้าไปไม่น้อย เพราะถูกคุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันเกลี้ยกล่อม จนใบหน้าของเธอเองก็แดงก่ำ

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางอาศัยจังหวะที่เฉินตงรับประทานอาหาร เหลือบมองไปที่ฉู่เจียนเจีย

จากนั้นเขาจึงหันไปส่งสายตาให้กับจางหยู่หลัน แววตาที่พร่ามัวด้วยความมึนเมา กลับเปลี่ยนเป็นแววตาที่แน่งแน่ขึ้นมาทันที

จากนั้น คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็ยิ้มออกมาพลางพูดขอตัวเพื่อไปห้องน้ำ และลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก

ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติ รวมไปถึงคนที่ระวังตัวอย่างคุนหลุนและกูหลังด้วย

หลังเดินออกจากเทียนเก๋อแล้ว คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็บิดขี้เกียจและปล่อยเรอกลิ่นของเหล้าออกมาอย่างแรง

เขาในตอนนี้ แววตาดูสดใส ท่าทีดูสงบเยือกเย็น ไม่มีลักษณะของคนเมาหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

เขาหันกลับไปมองเทียนเก๋อ แววตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางดูมั่นคงแน่วแน่ แล้วรีบเดินตรงออกไปด้านนอกทันที

“ตอนนี้ คงต้องใช้วิธีจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว ฉู่เจียนเจีย ต่อให้เธอสามารถเอาชนะจางหยู่หลันได้ แต่เธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี คืนนี้เธอจะต้องแพ้ !”

ไม่ช้า เขาก็ให้โจวเย่นชิวส่ง “โรมาเน กงติ” มาหนึ่งขวด

หลังจากที่โจวเย่นชิวเดินกลับไปแล้ว คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็หยิบซองยาขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ

หลังจากเปิดซองยาแล้ว เขาก็นำยาใส่ลงไปในขวดไวน์เล็กน้อย

หลังจากเขย่าให้เข้ากันแล้ว เขาก็ก้มหน้าลงไปดมกลิ่นของไวน์แดงที่ลอยออกมา คุณท่านใหญ่ตระกูลจางรู้สึกเสียดายเล็กน้อย : “เฮ้อ……ไวน์ชั้นยอดขนาดนี้ กลับต้องมาเสียรสชาติเสียนี่ แต่หากมียานี้ อย่างไรเสียคืนนี้เฉินตงก็จะต้องตกเป็นของหยู่หลัน”

แววตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเป็นประกาย เขาเดินเข้าไปในเทียนเก๋อด้วยแววตามุ่งมั่น

ในขณะเดียวกัน

บริเวณด้านนอกของหมู่ตึกยู่ฉวน

ภายใต้บรรยากาศอันมืดมิดยามค่ำคืน

มีเงาตะคุ่มๆ ของคนประมาณสิบกว่าคน กำลังมุ่งตรงมายังหมู่ตึกยู่ฉวนอย่างรวดเร็ว

รวดเร็วราวกับสายฟ้า แต่กลับเงียบจนน่าแปลกใจ

ทันใดนั้น คนจำนวนสิบกว่าคนนี้ก็วิ่งตรงไปยังกำแพงของหมู่ตึกยู่ฉวนอย่างรวดเร็ว

ปัง !

มีหนึ่งคนเตะก้อนหินกระเด็นไปโดนกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนกำแพงอย่างแม่นยำจนแตก

จากนั้น คนจำนวนสิบกว่าคนนี้ก็ร่วมมือกันปีนข้ามกำแพงไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงพื้นก็รีบวิ่งตรงไปยังเทียนเก๋อ

โจวเย่นชิวนั่งอยู่ในห้องทำงานอย่างหดหู่ เขากำลังสูบซิการ์อยู่ ด้วยแววตาที่เหม่อลอยที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นตาสีทองของเขา

เฉินตงให้คนมาเชิญเขาออกไปหลายครั้ง พอที่จะทำให้เห็นทัศนคติที่มีต่อเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว

ดูเหมือนว่า Tears of the Blue Sea เม็ดนั้นของเขา คงยังไม่เพียงพอ !

ไม่ใช่เพราะเฉินตงจอง Tears of the Blue Sea เอาไว้ด้วยเงินสองร้อยล้าน ต่อให้มอบแก่เฉินตงโดยตรง โจวเย่นชิวก็รู้ดีว่ามันยังไม่มากพออยู่ดี

“ประธานโจว !”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งของหมู่ตึกวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน : “เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ !”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?” โจวเย่นชิวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดว่า : “กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนกำแพงหมู่ตึกถูกคนทุบทำลายจนเสียหายไปหนึ่งตัวครับ”

โจวเย่นชิวตัวสั่นทันที ใบหน้าของเขาถอดสีอย่างเห็นได้ชัด : “แล้วกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่โดยรอบเห็นอะไรบ้างไหม ?”

“ไม่เห็นครับ !”

โจวเย่นชิวเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันที จากนั้นจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอก : “เรียกทุกคนไปที่เทียนเก๋อเดี๋ยวนี้ คนอื่นตายในหมู่ตึกฉันไม่สน แต่คนที่อยู่ในเทียนเก๋อจะต้องปลอดภัย !”

น้ำเสียงเฉียบขาด เต็มไปด้วยความแน่วแน่

ส่วนด้านในเทียนเก๋อ

เฉินตงยังคงไม่รู้อีโหน่อีเหน่

เมื่อคุณท่านใหญ่ตระกูลจางถือโฮรมาเน กงติเดินเข้า ก็นำไปรินให้เฉินตงหนึ่งแก้ว

เฉินตงไม่อาจปฏิเสธได้ จึงจำใจต้องดื่มจนหมดแก้ว

หลังจากดื่มเข้าไปแล้ว เขาก็รู้สึกมึนเมายิ่งขึ้นในทันที

ดวงตาเริ่มพร่ามัว มองสิ่งของต่างๆ ก็เริ่มกลายเป็นภาพซ้อนทับกันไปหมด

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางหันไปส่งสายตากับจางหยู่หลันอย่างแนบเนียน

ใบหน้าอันงดงามของจางหยู่หลันเต็มไปด้วยความแน่วแน่

“หยู่หลัน……”

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางยิ้มแล้วเปิดปากพูด

แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ

จู่ๆ คุนหลุนที่คอยยืนคุ้มกันอยู่ทางด้านหลังมาโดยตลอด ก็ส่งเสียงแสดงความประหลาดใจออกมา

สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่ด้านนอกของเทียนเก๋อ

“พี่คุนหลุน เกิดอะไรขึ้น ?”

กูหลังถามด้วยความตื่นตกใจ

นี่ทำให้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางต้องกลืนคำพูดของตัวเองกลับลงไป

คุนหลุนขมวดคิ้ว แล้วใช้สายตาจับจ้องอย่างระมัดระวัง : “กลิ่นเลือด !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset