Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 230 ต่อให้ต้องเป็นหมาป่า ก็ต้องมีชีวิตรอดให้ได้ !

เสียงด่าที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ทำให้บรรยากาศเงียบสงัด

เธอเกือบจะกรีดร้องออกมา จึงยกมืออันเรียวงามขึ้นมาป้องปากเอาไว้

นี่……คือเฉินตงจริงๆ หรือ ?

ตั้งแต่ที่เธอได้กลับไปอยู่ข้างกายของเฉินตง และได้รู้จักกับคุนหลุนแล้ว

ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วเฉินตงกับคุนหลุนจะมีศักดิ์เป็นนายจ้างกับคนรับใช้ แต่ทั้งสองคนกลับมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ราวกับเป็นพี่น้องมากกว่าเป็นนายจ้างกับคนรับใช้

อีกทั้ง เฉินตงเองก็เห็นคุนหลุนเป็นเหมือนพี่ชาย !

คำพูดและท่าทางของเขา ไม่เคยแสดงออกถึงความหยิ่งยโสในตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกต่อหน้าคนรับใช้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น คุนหลุนเองก็ไม่ได้เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉิน

ภายในบ้าน แต่ไหนแต่ไรมาทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาค !

แม้แต่ท่านหลงเองที่เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉินอย่างแท้จริง เฉินตงก็ยังคงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพในฐานะที่อาวุโสกว่า

แต่ทว่าตอนนี้ เฉินตงกลับ……ตบหน้าคุนหลุน ? !

“คุณชาย คุณเมามากแล้ว”

เสียงของคุนหลุนดังขึ้นที่ด้านนอก

“ไม่ ฉันไม่เมา แก แกหลีกไป !”

น้ำเสียงของเฉินตงสั่นเครือและสับสน : “แก ไอ้คนรับใช้ เปิดประตูให้ฉัน คืนนี้ฉันจะนอนกับกู้ชิงหยิ่ง !”

กู้ชิงหยิ่งตกตะลึง เธอแทบไม่อยากเชื่อหูของตนเอง

“คุณชาย คุณผู้หญิงสอนให้คุณให้เกียรติคุณหนูกู้ คุณลืมไปแล้วหรืออย่างไรครับ ?”

จู่ๆ เสียงของคุนหลุนก็ดังขึ้นมา : “ถ้าหากคืนนี้คุณชายอาละวาดเพราะฤทธิ์สุรา กระผมจะโทรหาคุณผู้หญิงและท่านหลงเดี๋ยวนี้ !”

คำขู่ที่รุนแรง

ทำให้การเคลื่อนไหวด้านนอกสงบลง

“เหอะ !”

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที เฉินตงก็หัวเราะขึ้นมา : “ประคองฉันกลับห้อง !”

น้ำเสียงของเขา ฟังดูไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย เป็นน้ำเสียงที่นายจ้างใช้พูดกับคนรับใช้อย่างแท้จริง

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันอีกต่อไป

เสียงฝีเท้าดังขึ้น ไม่ช้าโถงทางเดินด้านนอกก็เงียบสงบ

กู้ชิงหยิ่งยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มือของเธอยังคงป้องปากอยู่

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกสับสนจริงๆ

เธอรู้สึกราวกับตกอยู่ในภวังค์

เฉินตง……เปลี่ยนไปแล้วจริงๆหรือ ?

สมองของเธอว่างเปล่า ความสงสัยที่จางหายไป กลับทวีความรุนแรงขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง

พักใหญ่

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น ยังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร

จากนั้น เสียงเคร่งขรึมของคุนหลุนก็เข้ามาจากด้านนอก

“เสี่ยวหยิ่ง รีบนอนเถอะ คุณชายหลับไปแล้ว เขาคงจะดื่มมากเกินไป คงจะไม่เป็นไรหรอก คุณก็อย่าได้ถือสาเลยนะ”

แม้จะเป็นแค่คำปลอบใจ แค่คำว่า “คง” สองคำที่เขาใช้กันต่อเนื่องก็ทำให้กู้ชิงหยิ่งเริ่มสงสัยแล้วเหมือนกัน

“ค่ะ พี่คุนหลุน”

กู้ชิงหยิ่งตอบกลับเบาๆ : “พี่คุนหลุนอย่าโกรธเลยนะ”

“คุณชายของตัวเอง ผมจะไปโกรธได้อย่างไร ? ชีวิตของผมล้วนแล้วแต่เป็นของเจ้าบ้าน”

คุนหลุนหัวเราะออกมา จากนั้นจึงเดินจากไป

บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ

แต่กู้ชิงหยิ่งกลับรู้สึกลังเล และรู้สึกสับสน

เธอค่อยๆย่องไปที่ประตู แล้วล็อกประตูห้อง

คิดไปคิดมาคงยังไม่พอ

เธอลากเก้าอี้มาพิงเอาไว้ที่ประตู จากนั้นจึงเดินกลับมาที่เตียง แต่เธอก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้อีกต่อไป

ความคิดของเธอพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็ว ภายใต้แสงไฟส่องสว่าง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

……

เฉินตงขดตัวอยู่ในกล่องไม้

เขามองแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาในกล่อง ใบหน้าของเขาก็หม่นหมองและเหม่อลอย

ถูกขังอยู่เช่นนี้ ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกงุนงง จำไม่ได้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่

มีช่องเล็กๆ อยู่รอบตัวเขาและเหนือศีรษะของเขาเต็มไปหมด มีลมเย็นลอดผ่านเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

ทำให้เขารู้สึกหนาวจนตัวสั่นและร่างกายแข็งทื่อ

อ้อ เขาจำได้แล้ว ช่องเล็กๆ ที่อยู่เหนือศีรษะของเขา ถูกเจาะโดยคนที่อยู่ด้านนอกเมื่อไม่นานมานี้

เพื่อใช้สำหรับส่งน้ำให้เวลาที่เขารู้สึกว่ากำลังจะกระหายน้ำตายและหิวตาย และให้เขาได้มีอากาศหายใจ

นี่ทำให้ลมหนาวลอดผ่านเข้ามาในกล่องไม้มากยิ่งขึ้น ทำให้กล่องไม้เป็นราวกับห้องเย็น

แต่ทว่าเขาเองไม่ได้สนใจ

เขาต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้

ถึงจะหนาวก็คงไม่ทำให้ตายโดยทันที

แต่ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำและไม่ได้กินอาหาร ไม่มีใครสามารถทนได้แน่นอน

“ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ต่อให้ต้องเป็นหมาป่า ก็ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ !”

นี่คือความคิดเพียงอย่างเดียว ที่ยังคงปรากฏอยู่ในความคิดที่กำลังเลือนรางของเฉินตง

ถึงขั้นว่า เขาไม่ได้สนใจน้ำแข็งที่เกาะอยู่ระหว่างขาของเขาเลยแม้แต่น้อย

ศักดิ์ศรี

เป็นสิ่งที่ไร้ค่าหากไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ !

มีเพียงการเอาตัวรอดที่ปราศจากความอายเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เขาพลิกสถานการณ์ได้

หากตายไป ถึงแม้ว่าเขาจะตายอย่างสมเกียรติ แต่เขาก็ยังไม่ยอมละทิ้งคนในครอบครัวของตัวเองอยู่ดี

“เสี่ยวหยิ่ง แม่……ผม ผมจะกลับไปให้ได้ จะต้องกลับไปให้ได้……”

เฉินตงค่อยๆ ขยับริมฝีปากสีม่วงของเขา แล้วพึมพำออกมาราวกับกำลังพูดพล่ามอยู่ในความฝัน

เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ !

หวูด……

เสียงหวูดของเรือดังขึ้น

เป็นเสียงที่อึกทึกราวกับเสียงฟ้าร้อง

เสียงที่ดังติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้เฉินตงที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ ตั้งสติขึ้นมาได้

เปลือกตาของเขากระตุกเล็กน้อย เขาขยับตัวเพื่อให้น้ำแข็งที่เกาะอยู่บนตัวของเขาร่วงลง

เขามองเห็นทะเลและท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ภายนอกผ่านทางช่องเล็กๆ

นี่……ใกล้จะถึงฝั่งแล้วหรือ ?

ในที่สุด ก็ถึงแล้วหรือ ?

ไม่ช้า ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

เป็นเสียงฝีเท้าที่หนักและรวดเร็ว

“เร็วเข้า เร็วเข้า ทุกคนกระฉับกระเฉงกันหน่อย พวกแกอย่ามัวแต่ทำตัวเฉื่อยชาเหมือนผู้หญิง”

เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น

ตอนนี้ เสียงที่ดังขึ้นนี้ ตะโกนสั่งเฉินตงจากด้านนอกหลายครั้ง

จากนั้น

“แก แก ยังมีแกสองคนด้วย พวกแกสี่คน ยกล่องไปไว้ข้างล่าง เร็วหน่อย ต้องทำให้ทันเวลานะ เส้นทางลับเส้นทางนี้ ถ้าหากไปช้าแล้วละก็ คิดอยากจะออกไปอีกที คงจะยากแล้ว !”

เสียงสั่งการดังกระหึ่ม

จากนั้น เฉินตงก็รู้สึกว่า กล่องไม้ที่บรรจุตนเองอยู่ภายใน ถูกยกให้ลอยขึ้น

จากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆอยู่สักพัก

ดวงตาที่มืดมัวของเฉินตงเริ่มเป็นประกาย

เป็นเพราะเขามองลอดช่องเล็กๆ ของกล่องไม้ออกไป และมองเห็นพื้นดิน

เป็นพื้นดินที่……ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

ทันใดนั้น เขาก็กระแทกลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

ตุ๊บ !

กล่องไม้กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง

จากนั้นก็เกิดเสียงแตกของกล่องไม้ดังขึ้น

แรงกระแทกทำให้เฉินตงรู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดออกมา

ยังดีที่พื้นน้ำแข็งด้านล่างยังไม่แข็งมากนัก ทันทีที่กล่องไม้กระแทก น้ำแข็งก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะแรงกระแทก

ฟิ่ว……

ลมหนาวพัดเข้ามากัดกินเฉินตงในทันที

ร่างกายของเขาที่ขดตัวอยู่เป็นเวลานาน ภายใต้ความหนาวเย็น จู่ๆ เฉินตงก็ออกแรงอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่แขนขาของเขาเหยียดตรง

เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก โดยไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ทั่วทั้งแขนและขาของเขา

“โอ๊ย !”

เฉินตงส่งเสียงร้องออกมา สติสัมปชัญญะที่เลือนรางของเขา กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วในทันที

หวูด……

เสียงหวูดของรถไฟดังก้อง

เฉินตงกัดฟัน เขาออกแรงหันหน้ากลับไป แล้วจึงพบเข้ากับเรือลำใหญ่ที่สูงตระหง่านราวกับภูเขา ค่อยๆ เคลื่อนที่ และลอยออกสู่ทะเลไป

ส่วนเขา เป็นเหมือนกับขยะ ที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้บนพื้นน้ำแข็ง

แต่เขาก็เหลือบไปเห็นถุงเสบียงอาหารและน้ำหนึ่งกา ทิ้งเอาไว้ในกล่องไม้ที่แตกออก

นี่……คือความเมตตาที่มอบให้สุนัขจนตรอกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างนั้นหรือ ?

หรือจะพูดว่า……ฉันสามารถอาศัยถุงยังชีพถุงนี้และน้ำที่มี เพื่อเอาชีวิตรอดต่อไปได้

มีชีวิตอยู่เพื่อจะพบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ?

เฉินตงไม่ได้โง่

ในเมื่อตระกูลฉินกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินพาเขามาทิ้งเอาไว้ในสถานที่เช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะต้องการให้เขาตายอย่างแน่นอน

หากต้องการให้เขาตายนั้นง่ายมาก

หลังจากที่เขาถูกตีจนสลบแล้ว มีวิธีที่จะสามารถฆ่าเขาได้เป็นร้อยๆ วิธี

หลังจากนี้ จะต้องมีอะไรบางอย่างรอเขาอยู่อย่างแน่นอน !

เขาพยายามออกแรงขยับร่างกาย เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีหยิบอาหารและน้ำเข้าปาก

จากนั้น เฉินตงก็ทำตัวราวกับนักโทษที่กำลังกินอาหารมื้อสุดท้าย

เขากลืนน้ำและอาหารลงท้องไปอย่างรวดเร็ว

……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset