Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 234 เฉินตงผู้อวดดี

“FUCK!”

แนชวิลล์สบถคำด่าออกมาทันที

ในห้องขังนี้ เขาถึงจะเป็นลูกพี่

คำพูดแบบนี้ เป็นคำพูดที่เขาใช้พูดกับคนอื่น

มาวันนี้ ลูกแกะที่เข้ามาใหม่ กล้าที่จะท้าทายอำนาจของเขา!

ในชั่วพริบตา

แนชวิลล์เหมือนเสือบ้าคลั่งที่ออกมาจากกรง พุ่งตรงเข้าไปที่เฉินตงอย่างกราดเกรี้ยว

ปัง!

จู่โจมเข้าทันที พละกำลังที่รุนแรงกระโจนเข้าใส่

จังหวะนั้นทำเฉินตงกระเด็นออกไปทันที แล้วกระแทกเข้ากับผนังห้องขังอย่างแรง

โครม!

ในห้องขัง มีเสียงโห่ร้องอย่ารื่นเริง

“แนชวิลล์ นายเป็นผู้หญิงหรือไง? แค่นี้ยังเอาชีวิตมันไม่ได้ ?”

“โอ้พระเจ้า แนชวิลล์เจอลูกระเบิดเข้าให้แล้ว แนชวิลล์ระวังตัวด้วยนะ อย่าให้เสียชื่อหมาป่าโลหิตเชียว”

“เอาให้ตาย แนชวิลล์เอามันให้ตาย!”

เสียงโห่ร้อง เสียงเชียร์ เสียงหยอกล้อ ดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย

ทั่วทั้งบริเวณห้องขัง เหมือนมีงานรื่นเริง เสียงผู้คนดังวุ่นวายไปหมด

การโจมตีเพียงครั้งเดียว ทำให้แนชวิลล์รู้สึกภูมิใจในการต่อสู้ครั้งนี้ ดีใจจนยกกำปั้นชูขึ้นทั้งสองข้าง เคลื่อนที่ไปมาหน้าห้องขัง แล้วคำรามเสียงราวกับสัตว์ป่า

เฉินตงท่าทางเคร่งขรึม ดวงตาเปล่งประกายไฟแห่งสงคราม

ยกมือขึ้น เช็ดเลือดที่มุมปาก

มุมปากเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย และเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้รอด มนุษย์กินคน ?

เขาจำที่ป๋ากำชับกับเขาได้ ในเมื่อกฎการเอาตัวรอดมันเป็นแบบนี้ งั้นก็ต้องจัดการคนในห้องขังนี้ ให้เรียบร้อยเสียก่อน !

การฝึกแบบปีศาจที่คุนหลุนฝึกเขามา ทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแรงและทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่าคนทั่วไปมากมายหลายเท่า

หากต้องปฏิบัติตามกฎการเอาชีวิตรอดแบบนี้ เฉินตงไม่กลัวอยู่แล้ว

หายใจเข้าลึกๆ

เฉินตงค่อยๆโค้งตัว ยกมือทั้งสองข้างขึ้น มือซ้ายกางฝ่ามือไว้ข้างหน้า และมือขวากำหมัดไว้ข้างหลัง

แต่เท้าขวาของเขาถอยหลัง แล้วยันไปกับกำแพง

แนชวิลล์ที่คำรามอย่างมีชัยก็หยุดลงทันที

หันกลับมา แล้วจ้องไปที่เฉินตง

คิ้วของเขา ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกันนี้

ที่บริเวณประตูของเรือนจำ.

ป๋าและหน่วยลาดตระเวนของเขายังไม่ได้ไปไหนไกล

มองไปยังบริเวณที่มีเสียงรื่นเริงของห้องขัง

คิ้วของป๋าขมวดแน่น รู้สึกเอือมไม่น้อย :“ฉันคิดว่านายจะเป็นคนที่อดทนได้ ไม่คิดว่านายจะหุนหันพลันแล่นและโมโหง่ายอย่างนี้ คนที่ลงมือก่อนมักจะได้เปรียบก็จริง แต่หากเราไม่รู้จักคู่ต่อสู้แล้วชิงลงมือก่อนนั้น มันจะทำให้เราตายเอาง่ายๆได้เหมือนกัน”

“ป๋า ปีนั้นแนชวิลล์เป็นถึงเทพแห่งสงคราม คนที่มาใหม่นั่นมีหวังตายแน่ๆ” สมาชิกในหน่วยพูดติดตลกออกมา

ในคุกมืดนี้ ไม่มีใครสนใจความเป็นความตายของนักโทษ

ชีวิตไร้ค่ายิ่งกว่าต้นหญ้า

เขาเป็นนักโทษในเรือนจำที่ถูกลืม วินาทีที่เขาก้าวเข้ามา ชีวิตของเขาก็ถูกลืมไปแล้วด้วยเช่นกัน

“เฮ้อ……”

ป๋าถอนหายใจออกมา พละกำลังของเทพแห่งสงคราม เข้ารู้จักมันเป็นอย่างดี

เขามองเห็นความตายที่น่าสลดของเฉินตง

ในขณะที่ถอนใจด้วยความเสียดายนั้น ป๋ามองไปยังห้องขังที่เฉินตงอยู่

จากมุมของเขา มองเห็นเฉินตงที่อยู่ในห้องขังได้อย่างพอดี

“เอ๊ะ!นี่มัน……”

รูม่านตาของป๋าหดลง รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

ภายในห้องขังนั้น

จู่ๆแนชวิลล์ก็คำรามออกมา ราวกับหมีที่กำลังคลุ้มคลั่ง เหี้ยมหาญพุ่งไปทางเฉินตง

กำปั้นที่ใหญ่อย่างกระสอบทราย ดั่งลมพายุที่น่าสยดสยอง พุ่งตรงไปที่เฉินตง

แวบขึ้นมาแล้วก็หายไป เฉินตงยันกำแพงด้วยเท้าขวา แล้วหลบหนีได้ทัน

โครม!

หมัดของแนชวิลล์ทิ้งรอยบุบไว้ที่กำแพง และเศษอิฐก็หลุดร่วงออกมา

แต่ความเร็วของเขาเร็วมาก และในขณะที่เฉินตงหลบไปนั้น หมัดขวาของเขาก็พุ่งออกไปด้วยเช่นกัน

คนหนึ่งกำลังหลบ อีกคนก็กำลังโจมตี

เฉินตงก็เร็วพอกัน โยกหลบไปอย่างคล่องแคล่ว ขาลอยอยู่เหนือพื้น เขาหลบการจู่โจมของแนชวิลล์ที่อันตรายไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

และแนชวิลล์เองก็เหมือนหมีที่บ้าคลั่ง มือเท้าโบกสะพัดไปมา เหมือนการจู่โจมของสายฟ้า

การต่อสู้แบบนี้ ยั่วโทสะของนักโทษทุกคนในเรือนจำ

“สู้สิโว๊ย! ไอลูกแกะ เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า?”

“โอ้พระเจ้า ! มีการต่อสู้แบบนี้ได้ยังไงกัน ? ไอลูกแกะนั่นมันหลบเป็นอย่างเดียวหรือไง ? ”

“แนชวิลล์สู้ๆ! เอามันให้ตาย การสู้แบบนี้ ปล่อยให้มันยืดเยื้ออยู่ทำไม ?”

……

เสียงโห่ร้องของเหล่านักโทษ

ทำให้แนชวิลล์รู้สึกโกรธ

เขาในอดีต เป็นเทพแห่งสงคราม คร่ำหวอดในสนามรบ มีพละกำลังแข็งแกร่งยากจะต้านทาน มือเปื้อนเลือดมานับไม่ถ้วน

ในตอนนี้ ในห้องขังเล็กๆนี้ แต่กลับฆ่านักโทษใหม่คนนี้ไม่ได้?

“ให้ตายเถอะ!”

ฉับพลันแนชวิลล์ก็ร้องคำรามออกมา ร่างสูงใหญ่ของเขาก็กระโจมไปข้างหน้า กล้ามเนื้อแขนขวากำหมัดแน่น แล้วปล่อยหมัดออกไปเต็มแรง

ในขณะที่พุ่งเข้าหาเฉินตงนั้น ก็ส่งเสียงคำรามสะเทือนไปถึงแก้วหู

หมัดนี้ เพียงพอที่จะฆ่าเฉินตงให้ตายได้ !

ทันใดนั้น

ทั่วทั้งเรือนจำก็เงียบลง

ทุกคนต่างก็มีดวงตาที่ร้อนผ่าว เงยหน้าอย่างตั้งตารอ

แต่เฉินตง รูม่านตากลับหดตัวลง

เหมือนนกเหยี่ยว จับตามองกำปั้นที่กำลังพุ่งมา

ในขณะที่ใกล้เข้ามานั้น

ร่างกายของเขาเหมือนคันธนูที่แข็งแรง โค้งตัวลง แล้วหลบหมัดของแนชวิลล์ไปได้

หลังจากนั้น

ปัง!

หมัดหนึ่งชกเข้าไปที่ช่วงล่างของแนชวิลล์

อย่างหนักหน่วง

หมัดเดียว

“อ๊าก!”

กล้ามเนื้อของแนชวิลล์สั่นตึงจากการถูกกระแทก ขณะที่กรีดร้องอย่างทรมานนั้น มือก็กุมไปยังส่วนล่าง ใบหน้าซีดเผือดล้มลงไปนอนบนพื้น

เสียงเงียบกริบไปทั่วบริเวณ

ทั่วทั้งเรือนจำ เงียบสนิท

เสียงกรีดร้องของแนชวิลล์ น่าอนาถเหมือนเสียงหมูถูกเชือด ทำให้ทุกคนขนลุกไปตามๆกัน

นักโทษทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่า การต่อสู้จะรู้ผลแพ้ชนะในชั่วพริบตา

และผู้ชนะ กลับเป็นนักโทษใหม่ที่เพิ่งเข้ามา !

เฉินตงค่อยๆลุกขึ้น แล้วเหยียบไปที่หน้าอกของแนชวิลล์

ลมหายใจเยือกเย็น :“ยอมแพ้ หรือยอมตาย?”

“ยอม ยอมแพ้……”

แนชวิลล์มีใบหน้าที่ซีดเซียวมาก ร้องออกมาด้วยความกลัว แล้วรีบตอบรับไปทันที

เขารู้ว่า ในคุกมืดนี้ การจะฆ่าใครสักคนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

อย่างน้อย คนที่เขาเคยฆ่ามาก่อนหน้านั้น เขาก็ไม่เคยได้รับโทษอะไร

เฉินตงหัวเราะ

เงยหน้าขึ้น แล้วจ้องมองไปยังนักโทษอีกสี่คนที่เหลือ

ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ถามอย่างจองหองไปว่า :“ยอมแพ้ หรือยอมตาย?”

ตุ้มๆต่อมๆ!

นักโทษสี่คนพร้อมใจกันคุกเข่าลง

พวกเขาต่างก็เคารพนับถือแนชวิลล์

แนชวิลล์เองยังเลือกที่จะยอมแพ้ และพวกเขาเองก็คงไม่มีทางเลือกใด

ทันใดนั้น เฉินตงก็เดินไปที่ประตูห้องขัง

หลังยืดอกตรง ท่าทียโสโอหัง

สายตากวาดมองไปยังนักโทษที่อยู่ภายในห้องขัง

กล่าวอย่างจองหองอวดดีไปว่า :“ยินดีรับคำท้า ฉันไม่ถือ ที่จะเอาชีวิตทุกคน!”

เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้นักโทษที่นิ่งอึ้งอยู่ต่างก็ลุกลี้ลุกลนกันขึ้นมา

ทันใดนั้น เสียงคำรามอย่างโกรธเคืองก็ดังขึ้น ก้องกังวานไปทั่วทั้งเรือนจำ

ทั่วทั้งบริเวณเรือนจำ ก็กลายเป็นเหมือนที่ที่เหล่าสัตว์ป่ามาชุมนุมกัน

“ฟู่……” ป๋าถอนหายใจแรง “ถือว่ามีความสามารถดีพอตัว”

……

ในเวลาเดียวกันนั้น

สองวันที่กลับมานี้ กู้ชิงหยิ่งยังคงมึนงง ความคิดสับสนวุ่นวายไปหมด

คืนสุดท้ายที่ไห่ย่า ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธออยู่ตลอด

มันทำให้เธอว้าวุ่น ยากที่จะสงบลงได้

เฉินตง……เปลี่ยนไปจริงๆ ?

ในช่วงใกล้เที่ยงนั้น

กู้ชิงหยิ่งได้รับข้อความจากเฉินตง

“ชิงหยิ่ง ตอนเที่ยงว่างหรือเปล่า? เราไปเยี่ยมฉินเย่ด้วยกันไหม ?”

กู้ชิงหยิ่งลังเลอยู่ชั่วครู่ และจึงตอบกลับไปว่า

“ได้ค่ะ ตอนเที่ยงฉันไปรับคุณ”

“ไม่ต้อง ผมซื้อรถแล้ว เดี๋ยวผมไปรับคุณที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เอง”

เมื่อดูข้อความที่ตอบกลับมา แววตาของกู้ชิงหยิ่งก็กะพริบวูบวาบ

เจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวยขี้เหนียวคนนี้ ในที่สุดก็ยอมซื้อรถสักที ?

ตอนที่เธอกลับมา เพื่อที่จะหลบฝน ก็เป็นเธอที่ไปซื้อรถพอร์เชอ 911 และเฉินตงในตอนนั้น ก็รวยแล้ว

แม้หลายครั้งเฉินตงจะพูดว่าต้องการที่จะซื้อรถ

แต่ทุกครั้งก็อาศัยรถโรลส์-รอยซ์ของท่านหลง หรือไม่ก็รถของบริษัท ?

ถึงจะเอ่ยพูดอย่างจริงจัง แต่ทุกครั้งก็ยังสบายกว่าใคร

เมื่อคิดขึ้นมาได้กู้ชิงหยิ่งก็เอ่ยถามอย่างประหลาดใจไปว่า:“คุณซื้อรถอะไร?”

“บูกัตติเวย์รอน ราคาไม่เท่าไรหรอก”

ข้อความเดียว ทำให้รูม่านตาของกู้ชิงหยิ่งเบิกกว้าง คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset