Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 236 เขาไม่ใช่เฉินตง!เชื่อฉัน!

ภายในห้องผู้ป่วย

ทันใดนั้น บรรยากาศก็เย็นเยือกลง

ฉินเย่มองไปที่เฉินตงอย่างสงสัย

การฆ่าพ่อแม้จะเป็นเรื่องที่ผิด?

ประโยคนี้ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ามันจะหลุดออกมาจากปากของเฉินตง

ตั้งแต่ที่รู้จักกับเฉินตงมา การฆ่าพ่อของเขาสำหรับเฉินตงแล้ว เฉินตงเองไม่เคยที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นใดๆมาก่อน และปฏิกิริยาท่าทางของเขา กลับแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจในการกระทำนั้นๆ

แต่ตอนนี้ เขากลับแสดงความคิดเห็น ?

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งก็เป็นประกาย ด้วยรู้สึกแปลกใจด้วยเหมือนกัน

เธอรู้ว่าฉินเย่ฆ่าพ่อตัวเอง และก็รู้ว่ามันมีเงื่อนงำบางอย่างที่ซ่อนอยู่

แต่เธอเองก็รู้สึกแปลกจากการที่เธอสัมผัสกับเฉินตงเอง

หากเฉินตงคิดว่าที่ฉินเย่ฆ่าพ่อตัวเองนั้นผิด ด้วยนิสัยของเฉินตงแล้ว เขาคงไม่จ้างวานให้มาร่วมงานกัน

และคงไม่สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยฉินเย่ จากตระกูลฉิน!

เฉินตงพึมพำ แล้วก็หัวเราะออกมา

“อย่าสนใจเลย ฉันก็แค่พูดไปเรื่อย สิ่งที่ควรเคารพนับถือรายล้อมอยู่รอบตัวเรา ความกตัญญูถูกสั่งสอนกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ”

คำอธิบายเพียงคำเดียว

แต่ทำให้ฉินเย่ต้องก้มหน้าลง สีหน้าของเขาหม่นหมองชัดเจน

กู้ชิงหยิ่งรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

“ฉินเย่ แผลนายเป็นยังไงบ้างแล้ว ?”

“ออ ดีขึ้นมากแล้ว” ฉินเย่ตอบกลับไปอย่างสงบนิ่ง

โกรธเหรอ ?

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย ยิ้มและถามไปว่า:“ดีแล้ว หากนายออกจากโรงพยาบาล ก็ไปร่วมงานแต่งงานของฉันกับเฉินตงนะ”

ได้ยินดังนั้น

ฉินเย่เงยหน้าขึ้นแล้วเหลือบมองไปที่กู้ชิงหยิ่ง

ดวงตาเขาแปลกไปอย่างน่าประหลาด

แต่กลับยิ้มและพยักหน้ารับ :“ก็พอดีเลยนะสิ ในที่สุดก็ได้ดื่มเหล้ามงคลของเธอสองคนสักที”

ท่าทีของกู้ชิงหยิ่งก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

จากนั้นก็ถามต่อไปว่า:“เมื่อกี้นายทำอะไรจางหยู่หลัน? เธอร้องไห้เสียใจมาก”

ฉินเย่ท่าทีนิ่งเงียบไป

ยิ้มอย่างขมขื่น:“ชิงหยิ่ง ฉันคิดว่าครั้งนี้คงจะเล่นแรงไป เดิมทีแค่อยากจะแกล้งเธอเท่านั้น แต่เล่นสนุกเกินไปหน่อย”

กู้ชิงหยิ่ง:“……”

เฉินตงที่อยู่ข้างๆเห็นฉินเย่กับกู้ชิงหยิ่งกำลังคุยกัน ท่าทีก็สลับซับซ้อนขึ้น

“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”

ทันใดนั้นเฉินตงก็ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำ

เมื่อมาถึงที่ประตู

ด้านหลังก็มีเสียงของฉินเย่ดังขึ้น

“พี่ตง ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่าพ่อตัวเอง แต่ฉันกับพี่ก็เหมือนกัน เหมือนตอนนั้นที่ฉันเลือกจะติดตามพี่”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ เหมือนกำลังอธิบาย แต่ก็มีความหนักแน่นอยู่ลึกๆ

“ห๊า?”

และในจังหวะเดียวกัน เฉินตงก็ส่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ

หลังจากนั้น เขาก็รีบตอบกลับทันทีว่า :“อืม”

หลังจากนั้น เขาก็เข้าห้องน้ำไป

คิ้วของฉินเย่ผูกกันจนเป็นปม

ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่

ท่าทีเย็นชา ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

กู้ชิงหยิ่งสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉินเย่

หัวใจของเธอกระตุกอย่างแรง หรือว่า…… ฉินเย่ก็รู้สึกเหมือนกัน ?

เวลา ผ่านไปอย่างช้าๆ

ฉินเย่ยังคงรักษาท่าทีไม่เปลี่ยนแปลง

แต่กู้ชิงหยิ่งเอง กลับไม่สงบแล้วยังกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

“ชิงหยิ่ง ช่วยหยิบทิชชูมาให้ผมหน่อยได้ไหม?”

ทันใดนั้นเสียงของเฉินตงก็ดังมาจากในห้องน้ำ

“ออ ได้ค่ะ!”

กู้ชิงหยิ่งลุกขึ้นแล้วหยิบทิชชู เดินไปที่ประตูหน้าห้องน้ำ แล้ววางมันลง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับมาที่เตียงของฉินเย่

“ชิงหยิ่ง”

ฉินเย่เอ่ยเรียก ยิ้มเล็กน้อย:“ยื่นมือมา”

กู้ชิงหยิ่งตกใจ

ในตอนนี้ เสียงชักโครกในห้องน้ำก็ดังขึ้น

โดยไม่รอให้กู้ชิงหยิ่งได้สติ ฉินเย่ก็ยืนขึ้น ไม่สนใจบาดแผลบนร่างกาย อดทนกับความเจ็บปวด แล้วคว้าไปที่มือของกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งมีท่าทีตกใจจนหน้าซีดเซียว

ในตอนที่เธอกำลังจะกรีดร้องขึ้นมานั้น

กลับรู้สึกมีอะไรบางอย่างอยู่ในฝ่ามือของเธอ

แก็รก!

ประตูห้องน้ำเปิดออก

เฉินตงเดินออกมา

และฉินเย่ก็นอนลงบนเตียงเหมือนเดิม

มีเพียงกู้ชิงหยิ่ง ที่มีท่าทีที่มึนงงสับสน ยืนอึ้งอยู่กับที่

“ฉินเย่ นายพักผ่อนเถอะ เรายังต้องเตรียมเรื่องงานแต่งงาน เราขอตัวก่อนแล้วกันนะ”

เฉินตงเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

“ครับ พวกคุณไปทำธุระเถอะ ไม่ต้องมาเยี่ยมผมหรอก ถึงวันแต่งงานพวกคุณเมื่อไร ผมจะต้องไปปรากฏตัวที่งานแต่งของพวกคุณแน่นอน”

ฉินเย่โบกมือให้ แล้วพูดไปด้วยรอยยิ้ม

“งั้นนายก็พักผ่อนแล้วกัน”

ในที่สุดกู้ชิงหยิ่งก็ได้สติ พูดกำชับไปคำหนึ่ง แล้วจากไปพร้อมกับเฉินตง

หลังจากที่ประตูห้องปิดไปแล้ว

ใบหน้าของฉินเย่ก็เหยเก เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ

ผ้าพันแผลตรงหน้าอก บัดนี้มีเลือดสีแดงไหลซึมออกมา

เป็นเพราะเมื่อกี้ที่เขารีบลุกขึ้นอย่างกะทันหัน เลยทำให้แผลฉีก

จับไปที่บาดแผลตรงหน้าอก เขาก็หัวเราะอย่างหดหู่:“หวังว่าที่ฉันเดามันจะถูก ไม่งั้นเลือดนี้คงไหลอย่างเปล่าประโยชน์”

ถึงแม้จะยังยิ้มอยู่ แต่ในตาของฉินเย่ กลับเต็มไปด้วยความเย็นชา

เวลานี้ ฤดูหนาวที่หนาวที่สุดก็ได้เข้ามาเยือนอย่างแท้จริง

ด้านนอกของโรงพยาบาล

กู้ชิงหยิ่งยังคงมึนงงสับสน ในฝ่ามือยังคงกำแน่นกับของที่ฉินเย่ยัดไว้ให้เธอ

เมื่อกี้ฉินเย่ไม่ได้เสียมารยาทและละลาบละล้วง แต่แค่ต้องการที่จะให้สิ่งนี้กับเธอ

“ชิงหยิ่ง คุณเป็นอะไรไป?”

เฉินตงขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึม

“ไม่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว “เราไปกันเถอะค่ะ”

เฉินตงพยักหน้า แล้วเปิดประตูรถให้กู้ชิงหยิ่ง รอให้กู้ชิงหยิ่งขึ้นรถไปแล้ว จึงได้ปิดประตู

จากนั้นเขาก็อ้อมไปประจำที่ตำแหน่งคนขับ

และจังหวะนี้ กู้ชิงหยิ่งก็คลายกำปั้นที่กำอยู่ มันเป็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง

เธอรีบคลี่โน้ตนี้ออกทันที

ทันทีที่เห็นข้อความ

ปัง!

เกิดเสียงดังขึ้นในหัวสมองของกู้ชิงหยิ่ง และทันใดนั้นมันก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ข้อความนั้น ถูกเขียนขึ้นอย่างบิดเบี้ยว ราวกับมีฟ้าร้องในวันที่แดดจ้า

ข้อความที่เรียบง่าย:เขาไม่ใช่เฉินตง !เชื่อฉัน!

นี่ใช่ที่ฉินเย่เขียนเหรอ ?

ทันใดนั้น กู้ชิงหยิ่งก็เกิดความไม่แน่ใจ

ความสงสัยในใจเธอ เป็นไปอย่างที่ฉินเย่ได้เขียนยืนยันเอาไว้ หัวใจเธอก็พองโตจนขีดสุด

ความรู้สึกเดียวกันนั้น ที่แท้แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่รู้สึก !

ไม่เพียงแค่ เธอที่ไม่มั่นใจกับความสงสัยนี้

แต่ความรู้สึกของฉินเย่นั้นชัดเจนยิ่งกว่า มันเลยทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีก !

แกร็ก!

เสียงประตูดังแผ่วเบา

กู้ชิงหยิ่งสงบสติอารมณ์ วางมือขวาไปที่ขอบหน้าต่างรถ แล้วโยนโน้ตนั้นออกไปนอกรถ

และทั้งหมดนี้ ภายใต้ท่าทีที่สงบนิ่งของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงเองก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น

“ชิงหยิ่ง หลังอาหารกลางวัน ผมค่อยไปส่งคุณไปที่บริษัทนะ”

เฉินตงเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้ารับ แล้วจ้องมองไปที่เฉินตงอย่างลึกซึ้ง

เห็นได้ชัดว่าเป็นเฉินตง แล้วทำไมถึงไม่ใช่เฉินตง ?

เสียงรถบูกัตติเวย์รอนดังขึ้น ขับเคลื่อนเร็วปานลมกรดอย่างสายฟ้าแลบ

ตลอดทาง ภายในรถเงียบสงบ

กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าลง ความคิดเธอวุ่นวายสับสน

และเฉินตงเองก็จดจ่ออยู่กับการขับรถ ด้วยท่าทีที่เงียบสงบ

เพียงแต่ กู้ชิงหยิ่งเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น มุมปากของเฉินตงมีรอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้น

และในจังหวะนี้เอง

รถยนต์ BMW สองคัน ก็ขับไล่ตามรถบูกัตติเวย์รอน แล้วขับมาเทียบอยู่ข้างกัน

เพราะเป็นถนนในเมือง เฉินตงจึงไม่ได้ขับเร็วนัก

และในช่วงที่รถ BMW สองคันขับเคียงข้างกันมานั้น

ทันใดนั้นรถBMW ก็ขับเบียดเข้าหารถบูกัตติเวย์รอนที่อยู่ในเลนกลางพร้อมกัน

โครม!

การเบียดอย่างกะทันหัน ในขณะที่รถยังเคลื่อนตัวไปนั้น ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง

เสียงดังกึกก้อง ทำให้กู้ชิงหยิ่งตกใจจนหน้าซีดเซียว และหวีดร้องออกมา

ทันใดนั้น รถทั้งสามคันก็พุ่งไปยังแปลงดอกไม้ที่อยู่ริมถนนพร้อมกัน

“ชิงหยิ่ง ระวัง!”

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก เฉินตงกระโจนไปด้านหน้าของกู้ชิงหยิ่ง

คว้าไปที่ตัวกู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในอาการตกใจกลัวเข้ามาไว้อ้อมแขน แล้วกอดเธอไว้แน่น

โครม!

รถสามคันชนกันแล้วก็หยุดลง

ชิ้นส่วนและกระจกที่แตก กระจายไปทั่วพื้น

ในที่เกิดเหตุ ก็มีควันตลบอบอวลพวยพุ่งออกมา!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset