Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 240 วิธีออกไปจากคุกมืด

คุนหลุน?!

เฉินตงตกใจมากขึ้นไปอีก

ในตอนนี้ ทั้งเรือนจำดูราวกับเงียบไปหมด

เสียงตะโกน เสียงโห่ร้องทั้งหมด หายไปในทันที

เฉินตงตะลึงอ้าปากค้าง มองป๋าที่ลงจากเวทีไปแล้วอย่างตกใจ

จากทักษะการต่อสู้ของป๋า เขาเองก็พอจะเดาได้

แต่เมื่อได้รับการยืนยันจากป๋า เขารู้สึกตัวเองเหมือนอยู่ในความฝัน

สิบปีที่แล้ว คนที่เดินออกไปจากคุกมืด คือคุนหลุน?

แล้วป๋ากับคุนหลุน มีความสัมพันธ์ยังไงกัน ?

แล้วทำไมกระบวนท่าการต่อสู้ของป๋าถึงได้เป็นแบบเดียวกันกับคุนหลุน ?

แม้กระทั่ง ทักษะการต่อสู้ที่เขาเรียนรู้จากคุนหลุน ก็เชี่ยวชาญและแข็งแกร่งมากกว่า ?

ความสงสัยที่มากขึ้น ราวกับด้ายที่พันอยู่ในความคิดของเฉินตง

จนกระทั่ง เสียงของป๋าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ออ ลืมไป วันนี้วันที่หนึ่งแล้ว!”

โครม!

ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน เฉินตงตกใจตื่นขึ้นในทันทีจากความสงสัยที่มีมาก่อนหน้า

วันที่หนึ่ง?!

อีกสิบสี่วันก็จะเป็นวันที่สิบห้า ?

ในขณะนั้นเอง จู่ๆเขาก็รู้สึกหัวเสียจนหายใจไม่ออก

อีกสิบสี่วัน ก็จะเป็นวันที่เขากับกู้ชิงหยิ่งแต่งงานกัน!

และตอนนี้ เขายังอยู่ในคุกมืด คนที่อยู่กับกู้ชิงหยิ่งในเวลานี้เป็นคนตระกูลโจว!

ถ้าเขาไม่สามารถกลับไปได้ก่อนวันที่ 15 คนที่เข้าประตูวิวาห์กับกู้ชิงหยิ่ง ก็คือคนคนนั้น

และนับแต่นั้น คนคนนั้นก็จะเข้ามาแทนที่เขาอย่างถาวร !

หัวใจของเฉินตงบีบเขาหากันแน่นเป็นลูกบอล ลมหายใจก็รุนแรงมากขึ้นไปอีก

ไม่ ต้องกลับไป!

ต้องกลับไปให้ได้!

แต่เวลาสั้นๆเพียงแค่14วัน……

ยิ่งคิด เฉินตงก็ยิ่งสิ้นหวัง

ในขณะนี้เอง เขารู้สึกโลกกำลังหมุน เสียงรอบตัวกลายเป็นเสียงยุงกระพือปีก เสียงดังมากขึ้นอย่างรุนแรง

สมองมีแต่ภาพของกู้ชิงหยิ่งปรากฏ แม่ คุนหลุนและภาพของคนอื่นๆ

“ไม่ ฉันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ ฉันจะต้องเข้าประตูวิวาห์กับผู้หญิงของฉัน ฉันต้องดูแลแม่ในยามแก่เฒ่า ฉันเฉินตง จะไม่ยอมให้ใครมาเป็นตัวแทนเด็ดขาด !”

“อ๊าก!”

จู่ๆ เฉินตงก็เงยหน้าขึ้นแล้วคำรามออกมา

เสียงเหมือนสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง

ดังกึกก้องกลบเสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นในลานกิจกรรม

นักโทษทุกคนต่างมองไปที่เฉินตงด้วยความหวาดกลัว

ขณะนั้นเอง นักโทษทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงไอสังหารอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเฉินตง

และพวกเขา ต่างก็รู้สึกหนาวเย็นไปทั่วสันหลัง

ป๋าค่อยๆหันกลับมา จ้องมองไปที่เฉินตงด้วยดวงตาที่ล้ำลึก

มุมปาก ค่อยๆยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย

“บอกผม คุนหลุนออกไปจากที่นี่ ใช้เวลานานแค่ไหน?”

เสียงของเฉินตงแทบจะแหบแห้ง ประหนึ่งเสียงคำรามของสัตว์ป่า

“หนึ่งปี!”

ป๋าพูดออกไปอย่างเงียบๆ แต่เหมือนมือใหญ่ ที่ผลักเฉินตงลงไปในหุบเหวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

คุนหลุนใช้เวลาหนึ่งปี

และเวลาของเขา มีเพียง 14 วัน!

ไม่ ไม่รวมวันเดินทาง ก็ยิ่งสั้นลงไปอีก

10วัน?

แต่เมื่อ คิดว่ากู้ชิงหยิ่งต้องเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น

เฉินตงมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากกว่าที่เคย ดวงตาราวกับใบมีด ทั้งเย่อหยิ่งและก้าวร้าว

“ดี! ฉันต้องทำให้ดีกว่าคุนหลุน ออกไป จากสถานที่บ้าบอนี่ !”

“เฮอะ!”

ป๋าหัวเราะเยาะเย้ย หันหลังแล้วเดินจากไป

ในขณะที่เดินไป ก็ยกมือโบกไปมา :“อยากจะออกไปจากคุกมืดนี้ มีเพียงวิธีเดียว เขาใช้เวลาตั้งเป็นปี และนายก็มีแต่จะต้องใช้เวลามากกว่านั้น!”

เฉินตงนิ่งอึ้ง

แล้วเขาก็ลิงโลดขึ้นมาทันที

คำพูดของป๋า แม้จะทำให้คนสิ้นหวัง

แต่เขากลับได้ยินประเด็นสำคัญจากคำพูดนี้

มีวิธีที่ออกไปจากคุกมืด !

สถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่ที่ที่ไปแล้วไม่มีทางกลับ!

แม้จะพูดแบบนั้น แต่วิธีคงเป็นเรื่องยากมากแน่นอน

แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีความหวัง

“เวลาอิสระ” ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

นักโทษทุกคนกลับเข้าไปยังห้องขังของตัวเอง

เฉินตงท่าทีเย็นชา หลังจากที่เดินเข้าห้องขัง เขาก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงของตัวเอง

แท่นหินเย็นๆ กับผ้าปูที่นอนบางๆ

ในที่ที่ถูกลืมกับอากาศที่หนาวเหน็บ มีเพียงความอบอุ่นอันน้อยนิด

แนชวิลล์กับอีกสี่คนที่เหลือได้แต่หลบอยู่ใกล้กับประตูห้องขัง ไม่กล้าเข้าใกล้เฉินตง

การต่อสู้ระหว่างเฉินตงกับป๋า คนที่มีสายตาที่เฉียบแหลมก็มองออกถึงความสามารถนี้

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การต่อสู้ของเฉินตงนั้นกล้าหาญจริงๆ

อย่างน้อยก็ไม่ได้เทียบกับคนในห้องขังนี้เท่านั้น

ภายใต้ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด หากมีความแข็งแกร่งเพียงพอ คนก็กลายเป็นสัตว์ได้เช่นกัน ทำได้แค่ก้มหัวลงเท่านั้น

“แนชวิลล์”

เฉินตงที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นทันที

สายตาที่ดุดัน ทำให้ร่างกายของแนชวิลล์สั่นสะท้าน และหวาดกลัว

เขามองไปที่เฉินตงด้วยความกลัว:“คุณเฉิน มี มีธุระอะไรเหรอครับ ?”

คุณเฉิน ย่อมาจากคุณเฉิน ก็เป็นคำที่นับถือเช่นกัน

“มานี่สิ” เฉินตงพูด

ดวงตาของแนชวิลล์มีความหวาดกลัว แต่ก็เดินไปหาเฉินตงอย่างประจบสอพลอ

เพราะมือเท้าที่ หนักของเฉินตง อาการบาดเจ็บของเขาก็ยังไม่หายดี แต่ละก้าวจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีละก้าวๆ สะเทือนไปถึงมุมปากด้วยความเจ็บปวด

“คุณเฉิน”

แนชวิลล์ยืนอยู่ตรงหน้าของเฉินตงอย่างเคารพนบน้อม

เฉินตงเอ่ยถามว่า:“วิธีออกจากคุกมืดนี้ ต้องทำยังไง ?”

โครม!

แนชวิลล์เหมือนถูกฟ้าผ่า

นักโทษอีกสี่คนที่อยู่หน้าห้องขังก็หน้าถอดสีไปพร้อมๆกัน

“คุณเฉิน วิธีที่จะออกไปจากคุกมืด มีเพียงความตายเท่านั้น ไม่มีใครทำได้หรอกครับ!”

แนชวิลล์รีบเอ่ยเตือน:“ผมขอให้คุณเฉินเลิกล้มความคิดนี้เถอะครับ อยู่ในคุกมืดยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”

“ฉันกำลังถามนาย ถึงวิธีที่จะออกไปจากคุกมืดนี้ !”

น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเฉินตง วิตกกังวลเป็นอย่างมาก

ในเมื่อมีหนทาง เขาก็ต้องลองดูมันสักตั้ง

คุนหลุนสามารถออกไปจากคุกมืดนี้ได้ เขาก็ต้องทำได้!

เพื่อกู้ชิงหยิ่ง และเพื่อแม่ของเขา ต่อให้มีโอกาสรอดชีวิตเพียงน้อยนิด เขาก็ต้องลองเสี่ยงดู!

สีหน้าของแนชวิลล์ ซีดเซียวลงทันที

ขณะที่ลังเลไม่แน่ใจ ถูกเฉินตงมองจ้องมา ในที่สุด เขาก็ถอนหายใจ

“คุณเฉิน คุกมืดนี้มีทั้งหมด 10 ห้องขัง”

แนชวิลล์สายตาล้ำลึก ค่อยๆพูดอย่างช้าๆว่า :“ทุกห้องขังมีหมาป่าจ่าฝูง พวกมันเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในห้องขังนั้นๆ และมีอำนาจสูงสุด เป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุน”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ แนชวิลล์ก็หยุดลง

“พูดต่อ” เฉินตงพูดอย่างเย็นชา

“หากต้องการจะออกไปจากคุกมืดนี้ ก็ต้องสู้กับหมาป่าจ่าฝูงในแต่ละห้องขังนั้นๆ ห้องขังสิบห้อง ก็เท่ากับสังเวียนสิบเวที หากชนะทุกสังเวียน ได้รับการสนับสนุนของหมาป่าจ่าฝูงทั้งสิบห้อง ก็สามารถออกจากคุกมืดนี้ไปได้!”

ภายในห้องขัง เงียบลงทันที

หลังจากที่แนชวิลล์พูดจบ เขาจ้องมองไปที่เฉินตง สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเฉินตง

ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเฉินตงก็ทวีความเคร่งเครียดมากขึ้นไปมา ก้มหน้าแล้วครุ่นคิดขึ้นมาทันที

สิบคนที่แข็งแกร่งที่สุดในห้องขัง สิบสังเวียนการต่อสู้กับความเป็นความตาย

และสิบสังเวียนก็ต้องชนะเท่านั้น !

ไม่แปลกใจเลยที่ป๋าจะพูดว่าเขามีแต่จะใช้เวลานานมากกว่าคุนหลุน

ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ สิบเจ็ดสังเวียนที่เจอ เฉินตงก็พอจะสัมผัสได้ถึงพละกำลังฝีมือการต่อสู้ ของนักโทษที่อยู่ในเรือนจำนี้

หากต้องการที่จะเอาชนะหมาป่าจ่าฝูง ก็คงเหมือนกับการเต้นระบำบนมีดดาบ อันตรายยิ่งนัก

การต่อสู้แต่ละครั้ง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ!

คุนหลุนใช้เวลาไปหนึ่งปี อย่างน้อยก็ยังพอมีเวลาได้พักฟื้นที่เพียงพอ

แล้วเขาละ มีเพียง 14 วัน ไม่ใช่สิ แค่ 10 วันเท่านั้น!

หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ การต่อสู้ทุกครั้งของเขา ดำเนินไปโดยไม่มีช่วงพัก และเมื่อถึงตอนท้าย อาการบาดเจ็บที่สะสม ก็มีแต่จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายแล้ว แม้จะต่อสู้เพียงวันละหนึ่งสังเวียน ช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้ ก็ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูสภาพอาการบาดเจ็บ!

เห็นเฉินตงนิ่งไม่ไหวติง

แนชวิลล์พูดอย่างใจจริงและแฝงความหมาย :“คุณเฉิน นี่มันไม่ใช่วิธีที่จะออกจากคุกมืด แต่เป็นหนทางแห่งความตาย ทุกปีจะมีทหารราชาหรือเทพสงครามมาขอท้าประลองกับหมาป่าจ่าฝูงทั้งสิบห้องขัง แต่ที่สุดแล้ว ล้วนกลายเป็นศพ ดังนั้น……”

“ได้ ฉันจะลอง!”

จู่ๆเฉินตงก็พูดขึ้นมา

แนชวิลล์ตกใจกลัว คิดว่าตัวเองฟังผิดไป:“คุณเฉิน คุณ คุณพูดว่าไงนะ?”

เฉินตงลุกขึ้นยืน แล้วหัวเราะ:“ฉันพูดว่า สังเวียนชีวิตนี้ ฉันจะสู้!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset