Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 244 สาบานจะติดตามจนวันตาย

หมียักษ์!

เฉินตงท่าทีตกใจ เขาตื่นตัวและลุกขึ้นยืนทันที

ผู้คุมคุกปล่อยเขาเข้ามาเหรอ?

แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ เขาก็เข้าใจทันที

รั้วเหล็กในห้องขังบิดเบี้ยวจนไม่เป็นทรง

เห็นได้ชัดว่ามันถูกบีบด้วยกำลังของหมียักษ์ แล้วบุกเข้ามาอย่างรุนแรง

“หมียักษ์ แกจะทำอะไร?”

แนชวิลล์อุทานด้วยความตกใจ และท่าทีที่หวาดกลัว

นักโทษอีกสี่คนที่เหลือ ก็หลบอยู่ในมุมของห้องขัง

ในฐานะอดีตจ่าฝูงของคุก นักโทษทุกคนในคุกก็ยังคงมีร่องรอยในใจที่มิอาจลบเลือนออกไปได้

พูม!

ทันใดนั้น หมียักษ์ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง

และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักทุ้ม “ขอบคุณ ขอบพระคุณที่ไม่ฆ่า”

เฉินตงท่าทีตกใจ

“แกไม่ได้มาเพื่อจะแก้แค้นเหรอ? ”

แนชวิลล์และคนอื่นๆก็ต่างงงงวย

หมียักษ์ส่ายหัว “หมียักษ์มาเพื่อขอบคุณ การประลองเป็นตายในวันนี้ แม้ว่านายจะฆ่าฉันให้ตาย ก็ไม่มีใครมาตำหนินายแน่นอน แต่นายไว้ชีวิตฉัน”

ในคุกมืดมนไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆอยู่แล้ว กฎข้อเดียวก็คือปลาใหญ่กินปลาเล็ก

สิ่งที่เรียกว่าการประลองเป็นตาย ถึงจะมีกฎเกณฑ์ที่ว่า หากตกจากลานประลองก็คือพ่ายแพ้ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่เหลวไหล

หากจะใช้ได้จริง ก็ใช้แค่กับพวกที่ท้าประลองเท่านั้น เพื่อตัดสิทธิ์การท้าประลองในครั้งต่อไป

แต่เรื่องของชีวิต มันไม่ได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้

หมียักษ์รู้ดีว่าถ้าหากในตอนนั้นเฉินตงจะถือโอกาสฆ่าเขาตอนที่เจ็บป่วยอยู่ ทุกคนในคุกมืดนี้ก็จะไม่รู้สึกมีอะไรผิดแปลก

และยิ่งกว่านั้นคือ เรื่องแบบนี้เขาก็เคยทำมาแล้วไม่น้อย ในระยะเวลาสองปีที่เขาครองตำแหน่งจ่าฝูง

แต่เฉินตงกลับปล่อยชีวิตเขาไป!

หลังจากหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง หมียักษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากดวงตาที่แดงก่ำของเขาก็กลายเป็นแน่วแน่

“นับจากนี้ไป ชีวิตของหมียักษ์ ก็ถือว่าเป็นของคุณแล้ว!”

สาบานจะติดตามจนวันตาย?

แนชวิลล์และทุกคนต่างตกตะลึงขึ้นมาในทันที

เฉินตงมองหมียักษ์อย่างเคร่งขรึม

เพราะเขาไม่ได้ต้องการฆ่าใคร จุดประสงค์เดียวในการท้าประลองเป็นตายของเขาก็คือชัยชนะสิบเกมและออกจากคุกมืด

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องฆ่าหมียักษ์

อีกทั้ง คำสาบานว่าจะติดตามจนวันตายของหมียักษ์จะมีประโยชน์อะไร?

ในการต่อสู้ครั้งนี้ หากไม่ได้ออกจากคุกมืดก็คือตาย

ส่วนหมียักษ์ ยังไงแล้วก็ต้องถูกคุมขังอยู่ในคุกมืดนี้อยู่ดี

หากเขาตายไป แล้วหมียักษ์จะติดตามใคร?

หากแม้เขาจะโชคดีออกจากคุกมืดไปได้ แล้วหมียักษ์ที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในคุกมืดนี้ จะมีประโยชน์อะไร?

“ไม่ต้องละ”

เฉินตงส่ายหน้า ผมไม่ต้องการให้คุณติดตาม ที่ผมไม่ฆ่าคุณก็แค่มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่าคุณ สิ่งที่ผมต้องการมีเพียงชัยชนะของการประลองเป็นตาย และออกจากคุกมืดนี้ พูดง่ายๆก็คือ คุณเป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งของผมก็เท่านั้นเอง

ดวงตาของหมียักษ์กะพริบวูบวาบ

และมองเฉินตงด้วยความซับซ้อน

การเป็นจ่าฝูงในคุก มาเป็นเดือนเป็นปี ก็ต้องมีความเย่อหยิ่งในใจอยู่แล้ว

และอีกทั้ง ก่อนที่จะเข้ามาในคุกมืดตำแหน่งของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา

แต่เพียงคำพูดเดียวของเฉินตง กลับทำให้ความเย่อหยิ่งของเขาสลายหายไปในชั่วพริบตา

เป็นเพียง …….บันไดขั้นเดียว?

“คุณกลับไปเถอะ พรุ่งนี้ผมมีการประลองเป็นตายยกที่สองอีก ไม่อยากเสียเวลา” เฉินตงโบกมืออย่างเด็ดขาดโดยไม่มีความลังเลเลย

หมียักษ์อึ้งทึ่งพูดอะไรไม่ออก

แนชวิลล์และนักโทษอีกหลายคนที่อยู่ข้างๆต่างก็ทำหน้าสงสัย และมองเฉินตงอย่างไม่กล้าเชื่อ

เฉินตง ลูกน้องที่มีกำลังอย่างหมียักษ์ ไม่ใช่จะหามาได้ง่ายๆนะ แนชวิลล์พูดเตือน

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่นและหลับตาลง “ในการประลองเป็นตายสิบยก ไม่ก็ตาย ไม่ก็ผมออกจากคุกมืด ไม่มีความจำเป็นหรอก”

แนชวิลล์รูม่านตาหดเกรง และถอนหายใจด้วยความเร่าร้อน

มีผู้ติดตามอย่างอดีตจ่าฝูงของคุก หากทั้งสองร่วมมือรวมกำลัง อย่าว่าแต่แค่คุกแห่งเดียว ต่อให้เป็นสิบคุกที่เสียงดัง ก็ยังสามารถเดินออกไปได้อย่างง่ายดาย

เวลานี้

หมียักษ์ลุกขึ้นยืน

เขามองเฉินตงด้วยสายตาที่ล้ำลึก

ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “เฉินตง ฉันสามารถช่วยให้นายชนะการประลองเป็นตายได้”

พูดไม่ทันขาดคำ

เฉินตงก็ลืมตาขึ้นทันที ดวงตาที่แหลมคมราวกับมีด

“จะช่วยยังไง?”

ในการประลองเป็นตายสิบยก เฉินตงเองก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะได้จริงๆ

ถ้าหากหมียักษ์มีวิธี เขาก็ไม่รังเกียจที่จะรับหมียักษ์ไว้

หมียักษ์ยิ้มพูดด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย “อย่างน้อยฉันก็เป็นจ่าฝูงของคุกNO.9มาตั้งสองปี กับจ่าฝูงอีกเก้าคุกที่เหลือฉันก็ถือว่ารู้ไส้รู้พุงแล้ว สำหรับจุดอ่อนบางอย่างของพวกเขา ฉันก็พอรู้ดี”

ถึงแม้นี่จะไม่ได้ทําให้เฉินตงชนะโดยตรง แต่ก็สามารถช่วยให้เฉินตงมีโอกาสที่จะชนะได้มากขึ้น อีกทั้งจ่าฝูงตะกละแห่งคุกNO.10และจ่าฝูงเทวทูตดําแห่งคุกNO.5 ยังพอมีมิตรภาพกับฉัน…..

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หมีดำก็หยุดและจ้องมองเฉินตงด้วยแววตาที่เปล่งประกาย

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเป็นผู้ติดตามของผม”

เฉินตงหัวเราะขึ้นมา ด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย

การรู้ถึงจุดอ่อนของจ่าฝูงในแต่ละคุก มันสามารถเพิ่มโอกาสชัยชนะให้เขาได้จริงๆ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องเป็นเหมือนการประลองเป็นตายกับหมียักษ์ในวันนี้ ที่จะต้องคอยสำรวจเสาะหาก่อนในตอนเริ่มต้น

ความหมายที่แฝงไว้ในคำพูดสุดท้ายของหมียักษ์ เฉินตงก็รับรู้และเข้าใจอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่า การประลองเป็นตายกับจ่าฝูงแห่งคุกNO.10และคุกNO.5นั้น ยังพอมีช่องว่างอยู่บ้าง หรือยังมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินด้วยวิธีลับๆ

หมียักษ์คุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง ร่างกายที่ส่งตระหง่านราวกับภูเขา ทุกการเคลื่อนไหวนั้นก็ไม่เบาเลย

เพียงแค่คุกเข่าลงบนพื้นก็ส่งเสียงดังออกมาราวกับตีกลอง

“นับจากนี้ไป หมียักษ์ขอสาบานว่าจะติดตามเฉินตงไปจนวันตาย ชีวิตนี้ขอมอบให้เฉินตง”

ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือน้ำเสียงของเขา ก็เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่อาจมีผู้ใดเทียบได้

ในคุกมืดนี้ ชีวิตมนุษย์ก็เป็นดั่งหญ้า และผู้ที่ถูกคุมขังเข้ามาในคุกมืด ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้ออกไปอีกเลย

แต่แม้ว่าจะต้องอยู่อย่างหลบซ่อนเหมือนมดปลวกเพื่อความอยู่รอดในคุกมืดนี้ มันก็ยังดีกว่าการตายไปแบบง่ายดาย

และก่อนหน้านี้หมียักษ์ก็ยังไม่เคยพบเห็นผู้ใด ที่จะเมตตาชีวิตเหมือนเฉินตง

ชีวิตที่เหลือนี้ มันคุ้มค่าที่หมียักษ์จะมอบให้แก่เฉินตง

“ทีนี้มาพูดถึงจุดอ่อนของจ่าฝูงในแต่ละคุกได้ละ คู่ประลองเป็นตายของผมในวันพรุ่งนี้น่าจะเป็นจ่าฝูงคุกNO.8”

เฉินตงได้ถามถึงเรื่องที่เขากังวลที่สุดในตอนนี้

หมียักษ์เดินไปนั่งข้างๆเฉินตง

แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า คุกทั้งเก้านั้นไม่ได้แบ่งแยกตามระดับความสามารถของจ่าฝูง ดังนั้นความสามารถของจ่าฝูงในแต่ละคุกนั้นก็ไม่อาจเรียบเรียงตามลำดับของคุกได้ แต่จ่าฝูงของแต่ละคุกก็เคยมีการต่อสู้กันมาก่อนแล้ว ความจริงแล้วพลังฝีมือของแต่ละคนก็ไม่ได้ต่างกันมาก

หมียักษ์ไม่ได้พูดถึงประเด็นสำคัญ แต่เฉินตงก็ไม่ได้หยุดเขา

เวลาที่เขาเข้ามาอยู่ในคุกมืดมนสั้นเกินไป เลยมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขายังไม่เข้าใจ

และอีกอย่าง คุกมืดสิบคุกที่เสียงดังนั้น หมียักษ์พูดถึงเพียงสถานการณ์ของคุกNO.9

หลังจากนิ่งไปพักหนึ่ง สีหน้าของหมียักษ์ดูเคร่งเครียดขึ้นมา

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “มีเพียงจ่าฝูงคุกNO.1 เท่านั้น ที่คุณจะต้องระวังให้มาก”

“คุกNO.1?” เฉินตงขมวดคิ้ว

หมียักษ์พยักหน้า ในสิบคุกที่เสียงดัง จ่าฝูงอีกเก้าคุกนั้นฝีมือไม่ต่างกันมาก มีเพียงฝีมือพลังของจ่าฝูงคุกNO.1 เท่านั้น ที่เอาชนะจ่าฝูงอีกเก้าคุกได้อย่างถล่มทลาย และครองตำแหน่งจ่าฝูงคุกNO.1ได้อย่างมั่นคง

“เขาไม่ได้อยู่ในคุกNO.1ตั้งแต่แรก แต่เพราะเขาต้องการเป็นอันดับหนึ่งในทุกเรื่อง ดังนั้นเขาจึงท้าประลองจ่าฝูงคุกNO.8 จนได้สิทธิ์ในการเปลี่ยนคุก จากนั้นก็ต่อด้วยชัยชนะในการประลองกับจ่าฝูงคุกNO.1และได้กลายเป็นจ่าฝูงคนใหม่”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของหมียักษ์ก็เต็มไปด้วยความเกรงกลัว เขาถอนหายใจอย่างหนัก“ และในการประลองเปลี่ยนคุก เขาใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงในการเอาชนะจ่าฝูงทั้งสองได้อย่างต่อเนื่อง”

หางตาเฉินตงเขม่นอย่างรัว

สีหน้าเคร่งขรึม ฟ

เปลี่ยนคุกภายในสองชั่วโมงและชนะจ่าฝูงทั้งสองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเลย

เขาต่อสู้กับสองจ่าฝูงอย่างติดต่อกัน

เฉินตงเคยสัมผัสกับกำลังของหมียักษ์มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ซึ้งถึงความหมายในนั้น

“ล่มทลาย” ที่หมียักษ์พูดถึง มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริงๆ

แต่ดูเหมือนหมียักษ์คิดว่าแค่นี้มันยังไม่เพียงพอ

แล้วเขาก็พูดขึ้นอีกประโยคหนึ่ง

ทันใดนั้นรูม่านตาของเฉินตงก็หดเกรงถึงสุดขีด เขากำหมัดทั้งสองข้างอย่างแน่น จนเส้นเลือดบริเวณหลังมือปูดออกมาอย่างชัดเจน

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset