Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 245 คนเดียว คุมทั้งคุก

จ่าฝูงแห่งคุกNO.1 หรืออาจถือได้ว่าเป็นบุคคลพิเศษในคุกมืด

เสียงของหมียักษ์ยิ่งทุ้มต่ำลง แววตามืดครึ้มจนสุดขีด เขาหัวเราะเยาะตัวเอง “เฉินตง นักโทษในคุกมืดที่สามารถพลิกสถานะนำแขกมาเป็นเจ้าบ้าน ได้รับสวัสดิการเท่าผู้คุมคุก คุณนึกภาพออกไหม? ”

บูม!

เฉินตงรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า

ในวินาทีนี้ เฉินตงเกิดมรสุมในใจ

แม้ว่าเขาจะพยายามยับยั้ง แต่หมัดทั้งสองที่กำแน่นก็ยังคงเห็นเส้นเลือดที่ปูดออกมาได้อย่างชัดเจน

นักโทษที่ได้รับสวัสดิการอย่างผู้คุม แล้วยังเรียกว่านักโทษเหรอ?

จ่าฝูงแห่งคุกNO.1 เขาอาศัยความสามารถที่แข็งแกร่ง จึงครองตำแหน่งจ่าฝูงคุกNO.1มาแล้วยี่สิบกว่าปีอย่างมันคง และได้รับอำนาจไม่ด้อยไปกว่าผู้จัดการชั้นสูงในคุกมืด ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเขาไม่สามารถเข้าออกคุกมืดได้อย่างอิสระ

รอยยิ้มของหมียักษ์ที่หัวเราะเยาะตัวบนใบหน้าของหมียักษ์ ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นเพียงคนที่ที่สามารถทำได้ถึงเช่นนี้ และเป็นเพราะการดำรงอยู่ของเขา อีกเก้าคุกที่เหลือนั้นจึงอยู่ใต้ความควบคุมมาตลอด จึงทำให้คุกมืดนี้ดูสงบมาโดยตลอด

ขณะที่ฟังหมียักษ์พูด

เฉินตงรู้สึกแทบจะหายใจไม่ออก

ตำแหน่งจ่าฝูงยี่สิบกว่าปี และอำนาจที่เทียบเท่าผู้คุมชั้นสูงในคุกมืด

นี่มันสูงกว่าตำแหน่งอำนาจของป๋าเสียอีก!

และนอกจากนี้ ความสงบของคุกมืด ก็ยังต้องพึ่งพาเขาคนนั้นด้วย

คนเดียว คุมคุกไว้ทั้งแห่ง !

นี่มันต้องความสามารถระดับไหน?

ต้องรู้ว่า นักโทษทุกคนในคุกมืดนี้ มันไม่มีสักคนที่จัดการได้ง่ายเลย

อีกทั้งทหาร และเทพสงครามก็มีไม่น้อย

ในบรรดาเทพสงครามเหล่านี้ ใครบ้างที่ไม่ใช่ลูกเทวดา?

หากไม่ใช่เพราะมีเขาคนนั้นอยู่ บางทีสิบคุกที่เสียงดังคงจะวุ่นวายจนกลายเป็นโจ๊กหม้อหนึ่งไปแล้วมั้ง

วินาทีนี้ เฉินตงก็ยังสงสัยเลยว่าในตอนนั้นคุนหลุนเขาออกจากคุกมืดนี้ไปได้อย่างไร

การดำรงอยู่อันน่าสยองของคนเดียวที่คุมทั้งคุก จะสามารถเอาชนะเทพสงครามได้อย่างง่ายดายจริงหรือ?

ความรู้สึกที่หดหู่อย่างรุนแรง ลอยขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ

แววตาของเฉินตงก็เริ่มดูไม่นิ่ง

สิบวัน………จะทำได้จริงหรือ?

“เฉินตง ดังนั้นการตัดสินใจของคุณมันไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด”

หมียักษ์พูดอย่างจริงจัง“ แม้ว่าคุณจะสามารถเอาชนะจ่าฝูงทั้งเก้าคุกได้ แต่จ่าฝูง NO.1นั้น มันยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์อีก!”

ภายในห้องขังเงียบสงัด

แนชวิลล์และคนอื่นๆ ได้เงียบไปตั้งนานแล้ว

พวกเขาเป็นนักโทษเก่าของคุกมืด แน่นอนว่าต้องคุ้นเคยกับตำนานจ่าฝูงแห่งคุก NO.1 เป็นธรรมดา

แต่สภาพของเฉินตงในตอนนี้ ทําให้พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

ผ่านไปครู่ใหญ่

“เหอะ!”

มุมปากเฉินตงยกขึ้นทันที เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูเหยียดหยาม

เดิมทีผมก็อยู่ในความมืด ที่ต้องการเดินไปสู่แสงสว่าง และมันเป็นการสู้กับฟ้าสวรรค์อยู่แล้ว ก็แค่ขึ้นสวรรค์ มันไม่มีทางทำให้ผมท้อถอยอยู่แล้ว

ทั้งวาจาและรอยยิ้ม

ทำให้หมียักษ์ซบเซาลง และทําอะไรไม่ถูก

แต่เฉินตงกลับยืดเอวบิดขี้เกียจ แล้วนอนลงบนเตียงหินที่แข็งอีกครั้ง

มาพูดถึงจุดอ่อนของจ่าฝูงในคุก NO.8 กันเถอะ

ถ้าเฉินตงมีทางเลือก แน่นอนเขาก็ต้องเลือกที่จะถอยอยู่แล้ว

แต่ในตอนนี้ เขาไม่มีทางเลือก!

กู้ชิงหยิ่งกำลังรอเขาก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ คุณแม่กำลังรอเขากลับบ้าน พี่น้องยังรอเขากลับไปรวมตัวกันอีกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและตระกูลฉินถึงปล่อยให้เขารอก และโยนเขาเข้าคุกมืด

หรือบางทีอาจเป็นเพราะต้องการขับไล่เขาให้จากไปตลอดกาล

เพราะการฆ่าใครสักคนคน มันง่ายกว่าการทรมานใครสักคนตั้งเยอะ

ทั้งๆที่รู้ว่าจะมีคนมาแทนที่ทุกอย่างของเขา และใช้ชีวิตแทนเขา แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ หากปล่อยให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและตระกูลฉินประสบความสําเร็จจริงๆ เขาจะมีชีวิตอยู่ในเงามืดและทรมานไปตลอดชีวิตแน่นอน

ในเมื่อผมเดิมพันไว้ด้วยทั้งหมดของชีวิตแล้ว

ก็แค่ชีวิต ทำไมจะไม่กล้าเสี่ยง

หมียักษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และไม่พยายามเกลี้ยกล่อมอีกต่อไป เขาเริ่มเล่ามันอย่างช้าๆ

……………

โรงพยาบาลลี่จิง

ห้องผู้ป่วยVIP

กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื่อที่ฉุน

ใบหน้าของเฉินตงยังคงซีดเผือด แต่โชคดีที่รักษาได้ทันเวลา ไม่มีปัญหาร้ายแรง

กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าซีดเซียวและอ่อนล้า

หลี่หลาน ท่านหลง คุนหลุน และฟ่านลู่ ก็อยู่ด้านข้าง

ทุกคนมองดูเฉินตงด้วยความกังวลใจ

“ทำไมทุกคนถึงมองผมแบบนี้? คุณหมอก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ? ”

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนแรง เผยให้เห็นร่องรอยของความลำบากใจและละอายใจเล็กน้อย

“จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร? คุณรู้หรือไหมว่าคุณเสียเลือดไปมากแค่ไหน?”

กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้ว่า “หลายวันมันนี้ฉันเป็นห่วงจนแทบตาย”

ขณะที่พูดเขาก็เอื้อมเข้าไปในอ้อมกอดเฉินตง และร้องไห้สะอื้น

ความสงสัยทั้งหมดได้หายไปพร้อมกับตอนที่เฉินตงถูกมีดแทงเพราะช่วยเขา

ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเหลือเพียงความรู้ผิดที่มีต่อเฉินตง และได้แต่โทษตัวเอง

“ยัยเด็กไง่ ผมต้องปกป้องคุณอยู่แล้ว ”

เฉินตงลูบหัวกู้ชิงหยิ่งเบาๆ และยิ้มอย่างอ่อนโยน ผมโดนมีดแทงเลือดออกเล็กน้อยก็ไม่เป็นไรละ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ถูกแทงผมต้องเจ็บปวดใจแค่ไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นสู้ให้ผมตายไปเลยยังจะดีกว่า

“ไอ้เด็กโง่ พูดอะไรเหลวไหล?”

หลี่หลานพูดตำหนิด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

ท่านหลงพูดขึ้นช้าๆ “คุณชาย ตอนนี้ได้ตรวจพบคนที่ทำร้ายคุณกับเสี่ยวหยิ่งแล้วนะครับ เป็นคนที่ตระกูลฉินส่งมาจริงๆ แต่นายท่านยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในตอนนี้ อยากรอให้งานแต่งของคุณกับเสี่ยวหยิ่งจบลงก่อน แล้วค่อยคิดบัญชีกับตระกูลฉิน ”

“อืม ผมก็ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นในงานวิวาห์ มันไม่เป็นมงคล” เฉินตงพยักหน้าอย่างจริงจัง ขมวดคิ้วแน่นและแฝงด้วยจิตสังหารที่พลุ่งพล่าน “รอให้งานแต่งของผมกับเสี่ยวหยิ่งจบลงก่อน ผมต้องเอาคืนตระกูลฉินให้สาสมแน่นอน”

ช่วงนี้คุณพักฟื้นให้ดีก่อน เรื่องอื่นคุณไม่ต้องห่วง แม่กับท่านหลงจะช่วยจัดการเอง

หลี่หลานพูดด้วยความห่วงใย สองสามมานี้เสี่ยวหยิ่งคอยดูแลลูกอย่างไม่ได้หลับไม่ได้นอนทุกวัน ต่อไปถ้าลูกกล้าทำให้เสี่ยวหยิ่งเสียใจแม้แต่นิดละก็ แม่จะไม่ปล่อยไว้แน่

“วางใจเถอะครับแม่”

เฉินตงหัวเราะและจากนั้นก็หันมามองกู้ชิงหยิ่งในอ้อมกอดแล้วพูดว่า “กลับไปพักผ่านพร้อมคุณแม่และคนอื่นๆเถอะ ทางนี้ผมไหวครับ”

จะได้ยังไง?

กู้ชิงหยิ่งและหลี่หลานพูดขึ้นพร้อมกัน

เฉินตงยักไหล่และยิ้มพูดอย่างผ่อนคลาย ไม่เป็นไรจริงๆ แค่โดนแทงที่หลัง มือเท้าก็ปกติดี ผมดูแลตัวเองได้ คืนนี้ให้คุนหลุนมาอยู่เป็นเพื่อนผมสักพักก็พอ เพราะเรื่องนี้ หลายวันมานี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมาก ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนให้ดีเถอะ

หลี่หลานและกู้ชิงหยิ่งยังคงไม่ยอม

ท่านหลงพูดขึ้นช้าๆ “ฮูหยิน เสี่ยวหยิ่ง คุณชายพูดถูก ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ หลายวันมานี้เหนื่อยเกินไปแล้ว คืนนี้ให้คุนหลุนมาก็แล้วกัน อีกแค่สักพักเอง ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ”

ท่านหลงพูดถูก กลับไปกันเถอะ

เฉินตงก็พูดอย่างเห็นด้วย แผนการของตระกูลฉินล้มเหลวแล้ว ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้เขายังไม่กล้าทำอะไรหรอก เรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นครั้งแรกและครั้งที่สองได้ แต่ไม่อาจเกิดซ้ำครั้งที่สามได้อีกแน่นอน พวกเขายังไม่โง่ถึงขั้นที่จะท้าความอดทนของคุณพ่อหรอก

เมื่อได้ยินเช่นนี้

ในที่สุดหลี่หลานและกู้ชิงหยิ่งก็พยักหน้า

สักพักหลังจากที่ทุกคนออกไป

รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเฉินตงก็หายไปในทันที เหลือเพียงสีหน้าที่มืดครึ้มและแววตาที่เย็นชา

เขาค่อยๆหยิบมือถือออก แล้วกดโทรออก

ยิ้มอย่างเย็นชา

กล่าวว่า บาดแผลนี้ไม่ได้ถูกแทงไปฟรีๆ ความสงสัยที่กู้ชิงหยิ่งมีต่อผมมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยละ ตอนนี้ก็รอแค่งานแต่งในวันที่15เท่านั้น ผมตั้งตารออยู่นะ ท้ายสุดแล้วเฉินตงก็ไม่มีบุญวาสนาที่จะได้ครอบครองสาวสวยเช่นนี้ ทั้งหมดนี้ยังต้องเป็นผมที่มารับพรแทนเขา

หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที

จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นว่า เพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันที่15ละ คุณแน่ใจนะว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset