Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 247 สังเวียนที่สี่!

ภายในห้องควบคุม

บรรยากาศเย็นเยือก

ทุกคนมีท่าทีเคร่งขรึม รวมถึงป๋าด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้มาเยือน ทุกคนต่างก็เฝ้าระวัง

ตรงหน้าป๋า มีชายสวมชุดดำยืนอยู่

หมวกใบใหญ่ปิดบังใบหน้าของเขา มีเพียงคางที่มีหนวดเคราโผล่ออกมา

“หืม?”

เสียงหืมเบาๆ ออกจากปากของชายคนนั้น ที่ซึ่งกำลังตั้งคำถามอยู่

ป๋ารีบตอบไปว่า :“เกรงว่า จะเป็นเรื่องยาก”

ในตอนที่ตอบคำถามนี้ออกไป ป๋าก้มหน้า แสดงความเคารพ

คำพูดไร้น้ำหนัก

จากการต่อสู้เมื่อกี้ ป๋าก็มองเห็น ว่าเฉินตงรู้จุดอ่อนของจ่าฝูงคุกNO.8 ดังนั้นจึงเลือกที่จะโจมตีไปที่จุดอ่อนนั่น

แต่สิบคุกที่เสียงดัง ยกเว้นคนตรงหน้านี้

เก้าคนที่เหลือ เฉินตงก็เพิ่งจะเอาชนะไปได้เพียงสองคน อีกเจ็ดคน ลำพังรู้เพียงจุดอ่อนคงยังไม่พอ

การต่อสู้สองครั้งที่ผ่านมา อาจเพราะรู้จุดอ่อนของจ่าฝูง ทำให้เฉินตงใช้กำลังไปน้อยแต่ได้ผลงานดี

แต่หลังจากนั้น เมื่อทุกคนต่างรู้แจ้ง บนสังเวียนชีวิตจ่าฝูงที่เหลือก็จะพยายามปกป้องจุดอ่อนของตัวเอง

ยิ่งนานวันเข้า ความยากในการเอาชนะบนสังเวียนชีวิตของเฉินตงก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก

ในสถานการณ์ที่ร่างกายไร้กำลังในการต่อสู้ เหตุการณ์แบบนี้ มันอันตรายมาก

“แต่ฉันคิดว่าเขาสามารถมาอยู่ตรงหน้าฉันได้”

ชายในเสื้อคลุมยกยิ้มเล็กน้อย มุมปากที่ยกขึ้นเผยให้เห็นถึงความชั่วร้าย:“เขาแซ่เฉินใช่ไหม?”

ป๋ารู้สึกประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้ารับ

ชายในชุดคลุมพ่นลมหายใจเย็นๆออกมา ยืนบิดขี้เกียจ แล้วพูดว่า :“สิบปีที่แล้วปล่อยให้ชายร่างใหญ่นั้นออกไป คราวนี้ก็มาอีกคน ไม่รู้ว่าควรปล่อยหรือไม่ควรปล่อยไปดี ?”

พูดจบ เขาหันหลังแล้วเดินจากไป

เสียงก้องไปทั่วทั้งห้องควบคุม

ทำให้ป๋าและคนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจ

คำว่า“ปล่อยเขาไป”ราวกับฟ้าผ่าในตอนกลางวัน

นี่หมายความว่า……คนตรงหน้านี้ ตั้งใจที่จะปล่อยคุนหลุนไปในตอนนั้นเหรอ ?

ป๋ารู้สึกสับสน แววตาวูบวาบ

ในสมอง นึกไปถึงภาพของคุนหลุนกับการต่อสู้ของชายคนนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว

การต่อสู้ที่น่าเวทนาในตอนนั้น เป็นเขาที่ยอมอ่อนข้อให้จริงๆ เหรอ?

สักพักใหญ่ๆ

ป๋าก็หัวเราะออกมา :“ถ้าเป็นแบบนั้น คุนหลุนในตอนนั้นก็นับว่าโชคดีมาก”

เขาหันหลังกลับ มองไปยังภาพในจอ

คุก NO.8 ในเวลานี้ไม่มีแม้ร่องรอยของเฉินตง

เฉินตงกลับไปยังห้องขังในคุก NO.9

จากการมองจากกล้องวงจรปิด ป๋าเห็นเฉินตงนั่งเคียงข้างกันกับหมียักษ์ กำลังกระซิบกระซาบกัน

ดวงตาป๋าฉายแววล้ำลึก:“สิบวันกับสิบชัยชนะ ความกล้าหาญของนาย ยิ่งใหญ่กว่าของคุนหลุนในตอนนั้น แต่ก็ขอให้นายสมหวัง และมิตรภาพของฉันกับคุนหลุนก็จะไม่ไร้ค่า”

……

“คุณเฉิน สังเวียนชีวิตในวันพรุ่งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างคุณกับหมาป่าละโมบ ทางนั้น ผมได้วางแผนเตรียมการเอาไว้ให้แล้ว”

ใบหน้าของหมียักษ์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มนั้นก็แฝงไปด้วยความน่ากลัว

แต่ทว่า

เฉินตงยิ้มแล้วพยักหน้ารับ:“การต่อสู้ทั้งสองรอบ หากพรุ่งนี้สามารถควบคุมได้ ฉันก็จะมีเวลาพักฟื้นเพิ่มอีกวัน”

นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า

ในคุกมืดนี้ เมื่อสังเวียนชีวิตเริ่มต้นขึ้น

ผู้ท้าชิงจะมีสิทธิ์เลือกคู่ต่อสู้

สิบวันกับสิบสังเวียน มันคือสิ่งที่บีบคั้นที่สุดในชีวิต

เฉินตงทำได้เพียงใช้วิธีที่ “ฉาบฉวย”แบบนี้ เพื่อให้ตัวเองมีเวลาได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ได้มากที่สุด

กับสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรนกับความเป็นความตายแบบนี้ ต่อให้มีเวลาพักฟื้นเพิ่มอีกหนึ่งวัน ก็สามารถฟื้นตัวให้กับสภาพร่างกายของเขา

“คุณเฉิน คุณวางแผนได้ดีแล้ว แต่คุณต้องคิดให้รอบคอบ หมาป่าละโมบกับทูตสวรรค์ดำสามารถช่วยให้คุณชนะได้สองเวที และช่วยให้คุณมีเวลาพักฟื้นสองวัน”

น้ำเสียงของหมียักษ์ทุ้มต่ำ ในเมื่อเลือกที่จะติดตามแล้ว เขาก็ทุ่มเทใจอย่างเต็มความสามารถช่วยเฉินตงคิด :“ถึงจะเป็นไปตามนี้ แต่สังเวียนชีวิตหลังจากนี้ คุณก็จะต้องเจอกับเรื่องยากขึ้นไปเรื่อยๆ !”

“สงคราม!”

แววตาของเฉินตงเต็มไปด้วยวิญญาณของการต่อสู้ คำที่พูดออกมา ก้องกังวานและมีพลัง

หมียักษ์ได้แต่ถอนหายใจอย่างจนใจ

แนชวิลล์และคนอื่นที่เหลือ มองไปที่เฉินตงด้วยความเกรงกลัว

ในคุกมืดนี้ ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด ทุกคนต่างดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด

แต่กับเฉินตงที่ไม่กลัวตายแบบนี้ นักโทษที่คุ้นชินกับความเลือดร้อน ต่างก็มีความเกรงกลัวอยู่ลึกๆในใจ

เอาตัวรอดจนชิน พอมีคนที่ไม่กลัวตายมาปรากฏ ในสายตาของพวกเขา ร่างนั้นก็เหมือนมีแสงประกาย

……

สถานที่ในคุกมืดนี้ ดวงอาทิตย์เที่ยงคืนหรือคืนขั้วโลก

บวกกับกำแพงที่สูงล้อมรอบ ทำให้คนในคุกมืดนี้ไม่รู้วันคืนและเวลา

แต่สำหรับเฉินตงแล้ว ตั้งแต่ที่รู้คืนวันเวลาจากป๋า เขาก็จดจำแต่ละนาทีไว้อย่างชัดเจน

เพราะเขาไม่มีเวลาพอที่จะปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไร้ค่าได้

สิบวันกับสิบสังเวียน มันเป็นแผนการที่เขาเห็นว่ามันเหมาะสมกับการสู้ศึกที่สุดแล้ว

หากล่าช้าไปมากกว่านี้ ทุกอย่างของเขา ก็จะถูกยึดและถูกแทนที่

แม่ ภรรยา พี่น้อง ทุกสิ่งทุกอย่าง มันทำให้เขาต้องจดจำเวลาของตัวเองเอาไว้ให้ได้อยู่ตลอด

เวทีการต่อสู้ที่สามนี้ เป็นไปตามที่เฉินตงกับหมียักษ์ได้คาดการณ์ไว้ จ่าฝูงของคุกNO.10หมาป่าละโมบดูราวกับต่อสู้อย่างดุเดือด แต่เขาก็ออมมือให้อยู่มาก

และมันก็ทำให้เฉินตงมีชัยชนะกับการต่อสู้ครั้งนี้ไปได้อย่างง่ายดาย

เหมือนกับการต่อสู้ของเมื่อวานนี้ และมันก็ทำให้นักโทษทั้งหมดของคุกNO.10ถึงกับงงไปตามๆกัน

บางคนถึงกับสงสัย การต่อสู้กับจ่าฝูง มันง่ายดายแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน ?

คนที่ขึ้นต่อสู้ในสังเวียนชีวิตนี้ เป็นจ่าฝูงของเรือนจำนี้จริงๆเหรอ ?

แต่ไม่ว่ายังไง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เฉินตงให้ความสำคัญ

เป้าหมายของเขาคือ การเอาชนะ !

เป็นการเอาชนะสิบสังเวียนติดต่อกัน!

แล้วออกจากไปจากคุกมืดนี้!

ไม่ใช่การให้ความสนใจในวิธีการ และยิ่งไม่ใช่การให้ความสนใจกับคำถามต่างๆของนักโทษ

ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร

บางครั้งเพื่อชัยชนะ การไม่เลือกวิธีการ มันจะผิดอะไร ?

ในการต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ ทุกวินาทีสำหรับเฉินตงแล้ว มันมีค่ามากนัก

ได้พักผ่อนอีกคืน สภาพร่างกายของเฉินตงก็ฟื้นตัวมากขึ้น

แม้ว่าบาดแผลบนร่างกายของเขาจะไม่หายเป็นปรกติ แต่เมื่อปรับสภาพร่างกายได้ ก็พอช่วยให้เขามีร่างกายที่พร้อมกับการต่อสู้“ฟู่……”

เฉินตงลืมตาขึ้น แล้วมองดูท้องฟ้าที่มืดสลัวของเรือนจำ :“เวทีที่สี่แล้ว วันนี้เล่นตุกติกไม่ได้อีกแล้ว”

เขาบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“คุณเฉิน……งูเหลือมในคุกNO.7 คุณต้องจำเอาไว้ จุดอ่อนของเขาอยู่ที่ตา”

หมียักษ์ก็ลืมตาขึ้น จ้องมองไปที่เฉินตงด้วยสายตาที่มุ่งมั่น:“จุดอ่อนของเขา มันไม่ใช่ความลับอะไร หากคุณสามารถจัดการกับจุดอ่อนนี้ของเขาได้ การเอาชนะก็จะใช้เพียงไม่กี่นาที”

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น

เรื่องพวกนี้ เมื่อวานหมียักษ์ได้บอกเขาแล้ว

แต่ว่า จุดอ่อนที่คนทั้งคุกมืดนี้ก็รู้ งูเหลือมยังสามารถอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของคุกNO.7ได้ นี่ยังอธิบายอะไรไม่ได้อีกเหรอ ?

หรือบางที……จุดอ่อน คงไม่ใช่จุดอ่อนอีกต่อไปแล้ว ?

สังเวียนชีวิตที่สี่นี้ กำหนดความเป็นความตาย !

“ฉันรู้แล้ว”

เฉินตงตอบกลับพอเป็นพิธีให้กับหมียักษ์

และเมื่อผู้คุมเปิดประตูห้องขัง เฉินตงก็เดินออกจากห้องขังไป เขาตกตะลึง

ป๋ายืนอยู่ไม่ไกลมากนัก ใบหน้าที่มีหนวดเคราเผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

หลังจากนั้น

ป๋ายกมือขวาขึ้น ทักทายกับเฉินตง แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

เฉินตงผงะ แล้วเดินเข้าไปหาป๋า

ป๋าเองก็ได้นำสิ่งของบางอย่างยัดใส่มือของเขาอย่างเงียบ ๆ

แล้วกระซิบว่า :“นี่เป็นสิ่งที่ฉันพอจะช่วยนายได้ ของล้ำค่านี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับนาย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset