Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 18 ความมีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล

บทที่ 18 ความมีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล

ตามข่าวที่ยี่เคอกรุ๊ปจะเข้ามาตั้งหลักปักฐาน ทำให้ดังสนั่นกันทั่วทั้งเมือง

มีกี่บ้านที่มีความสุขและมีกี่บ้านที่ไม่มีความสุข

แค่สองวัน ราคาบ้านที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง พุ่งสูงขึ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์

นี่เกือบจะใกล้เคียงกับที่เฉินตงคาดไว้เลย

ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเป็นเพราะตำแหน่งและสภาพแวดล้อม ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นในเมืองนี้

ข่าวการเข้ามาตั้งหลักปักฐานของยี่เคอกรุ๊ป เป็นอะไรที่ทรงอิทธิพลมากอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ราคาบ้านของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองจะเพิ่มขึ้นถึงตำแหน่งของราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์

ตามที่ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองสูงขึ้น ทำให้พนักงานไท่ติ่งที่ตื่นตระหนกในตอนแรก พ้นจากความตระหนกนั้น กระตือรือร้นขึ้น และกำลังใจสูงขึ้น บรรยากาศภายในออฟฟิศกลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง

เฉินตงมีความสุขที่ได้เห็นฉากดังกล่าว การได้รับชัยชนะในครั้งนี้ อย่างน้อยก็ทำให้พนักงานทุกคนเห็นความสามารถของเขา ในอนาคตไท่ติ่งจะมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน

พนักงานบางคนยังสงสัยว่าทำไมเฉินตงถึงเชื่อว่าสัญญาราคาสูงเสียดฟ้าจะพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี เฉินตงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และไม่พูดถึงประเด็นนี้เลย

วันที่สาม จากการที่คนทั้งหมดในไท่ติ่งเร่งทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

สองทุ่ม เฉินตงพาพนักงานไปที่ร้านอาหาร “ท่าเรือบี้ปอ” งานเลี้ยงฉลองได้เริ่มขึ้น เฉินตงได้ดื่มเหล้าไม่น้อย ชนแก้วกับพนักงาน ไม่ปฏิเสธพนักงานที่มาชนแก้วสักคนเลย

ตลอดสามปีที่อยู่ไท่ติ่งมา ไม่ว่าจะด้วยความสามารถของเขา หรือการเข้ากับเพื่อนร่วมงาน ล้วนได้รับการยอมรับจากพนักงานทุกคน

พนักงาน บริษัท ก็รู้ดี เหตุผลที่ไท่ติ่งสามารถรักษาสถานการณ์ที่สามารถทำกำไรได้มาโดยตลอด ฮีโร่คนที่ใหญ่ที่สุดคือรองประธานมืออาชีพในการรับมือกับข้อผิดพลาดแทน

นี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนที่ไท่ติ่งเปลี่ยนเจ้าของกิจการ ทุกคนถึงอยากจะทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองไปเดิมพันสักครั้ง และเหตุที่ไม่อยากจากไปพร้อมเจ้าหลี่

ความไร้ประโยชน์ของเจ้าหลี่กับสิ่งที่เขาทำ พนักงานของบริษัทล้วนทราบดี คนโง่เท่านั้นที่เต็มใจที่จะออกไปพร้อมกับเขา

และโครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ทำให้ความเชื่อมั่นในใจของพนักงานทุกคนที่มีต่อเฉินตงเพิ่มมากขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

ยังไงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินตงก็ไม่สะทกสะท้าน และไม่เคยแสดงความตื่นตระหนกมากเกินไปเกี่ยวกับสัญญาราคาสูงของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเลย

กินและดื่มกันจนได้ที่แล้ว

เฉินตงเมาหนักมากแล้ว ต่อหน้าพนักงานที่กระตือรือร้น เขาใจกว้างควักเงินหนึ่งแสนหยวนให้กับพนักงานในบริษัทเพื่อเปลี่ยนสถานที่ในการไปสนุกต่อ จากนั้นเขาก็ออกจากร้านอาหาร”ท่าเรือบี้ปอ”

ความมึนเมาของเฉินตงลดน้อยลง เพราะลมของแม่น้ำที่พัดผ่านมา

มองไปที่แม่น้ำระยิบระยับ เขาก็ถอนหายใจออกมาเป็นกลิ่นของแอลกอฮอล์

แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับจางหายไป เปลี่ยนเป็นความเศร้าโศก ดวงตาก็เริ่มแดงแล้ว

แค่ครึ่งเดือน เขาประสบกับปัญหาแม่ป่วยหนักจนอาจตายได้ หย่ากับภรรยา เพราะปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว)อย่างหวางหนันหนันได้เอาเงิน2แสนหยวนเป็นเงินจำนวนสุดท้ายสำหรับช่วยชีวิตแม่ไป เพียงเพื่อนำไปดาวน์บ้านงวดแรกสำหรับงานแต่งของน้องชายเธอ

ช่างตลกจริงๆ!

เขารักภรรยาอย่างจริงจัง แต่สุดท้ายเพื่อรวบรวมเงินดาวน์บ้านแต่งงานให้น้องชายแล้ว กลับไม่สนใจชีวิตแม่ของเขาเลย

นี่ทำให้เขารู้สึกใจแทบสลาย เลยเลือกที่จะหย่ากัน

ถ้าเป็นคนอื่น ภายใต้การโจมตีไม่หยุดแบบนี้ บางทีอาจจะใจพังทลายลงตั้งนานแล้ว

แต่เขาโชคดี พ่อที่เนรคุณก็ปรากฏขึ้น ไม่เพียงแค่ช่วยแม่ ยังทำให้เขามีเงินอีก เหมือนมือใหญ่ที่ทรงพลัง สามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตที่ทุกข์ยากของเขาได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าการกลับมาช่วยของพ่อเขาอย่างกะทันหัน ซึ่งไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิดแน่นอน แต่เขาไม่สนหรอก

เพราะผ่านประสบการณ์มากมาย ทำให้เฉินตงรู้ดีแล้ว

เงินช่างเป็นอะไรที่เหี้ยจริงๆ แต่ถ้าไม่มีเงิน ตัวเองก็ไม่ใช่อะไรเลยทั้งนั้น

ตอนนี้ดีแล้ว ชัยชนะครั้งแรกของไท่ติ่ง มอบคำตอบที่สมบูรณ์แบบให้พ่อเขา แม่ได้รับชีวิตใหม่ที่ร่างกายกำลังฟื้นตัว ในที่สุดเขาก็ได้ยกก้อนหินออกจากอก โล่งอกสักที

ขณะที่เดินไปเรื่อยๆ ก็นึกถึงช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา แววตาที่กำลังเมาหนักขอเฉินตง กลายเป็นดุและคม ยิ้มอย่างขมขื่น “หวางหนันหนัน ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ ผมคนที่เคยถูกครอบครัวของคุณดูถูก หลังจากหย่ากับคุณแล้วก็มีความสามารถในการแก้ปัญหาทั้งหมดในครอบคุณได้อย่างง่ายดาย คุณจะเสียใจไหมกับเรื่องที่วันนั้นไม่สนชีวิตแม่ของผมแล้วเอาเงิน2แสนหยวนไป?”

พอเงยหน้าขึ้น เฉินตงตะลึงทันที

นี่มันตึกที่ผมกับหวางหนันหนันเช่ามาก่อนไม่ใช่เหรอ?

เดินมาที่นี่ได้ยังไง?

ขำตลกตัวเอง เฉินตงนึกขึ้นได้

ท่าเรือบี้ปอห่างจากที่นี่ไม่ไกล ถึงขนาดแต่ก่อนหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเขากับหวางหนันหนันยังไปเดินเล่นที่ท่าเรือบี้ปอและยังตากลมที่นี่อยู่เลย

ในสภาพที่มึนเมา ทำให้เขาเดินไปที่บ้านเก่าโดยอัตโนมัติ

“กลับไปไม่ได้อีกแล้ว ”เฉินตงส่ายหัว กำลังจะหันหลังแล้วเดินจากไป

“คุณเฉิน!”

เสียงที่ประหลาดใจทำให้เฉินตงหยุดเดิน “คุณอาศัยอยู่ที่นี่จริงเหรอ?”

เฉินตงขมวดคิ้ว บนใบหน้าความเย็นชา

น้องสะใภ้คนนี้ ความเจ็บครั้งนั้นยังไม่ลึกซึ้งพอเหรอ?

เขาหันไป ก็เห็นหลินเสว่เอ๋อยืนอยู่ใต้โคมไฟถนนในที่ไม่ไกล มองเขาอย่างมีความสุขแบบประหลาดใจ

หลินเสว่เอ๋อสวมชุดเดรสสีขาว เผยให้เห็นผิวที่ขาวดุจหิมะ กลับถูกลมกลางคืนพัดมาจนหนาวสั่น ร่างกายที่บอบบางก็ขดตัว

“คุณหมายความว่าอะไร?” เฉินตงตอบกลับ

หลินเสว่เอ๋อมาหาอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ขดเพราะความหนาวเย็นก็ถูกคลี่ออก ราวกับพยายามแสดงด้านที่ดีที่สุดให้เฉินตงเห็น

“หยุด!”

เฉินตงดุอย่างเย็นชา

“ทำไม?”หลินเสว่เอ๋อผงะ

“นำสัตว์ตัวน้อยของคุณเก็บไว้ ”เฉินตงหันไปด้านข้าง ไม่มองหลินเสว่เอ๋ออีก

หลินเสว่เอ๋อมองไปที่เท้าของเธอ พูดอย่างสงสัยว่า “ฉัน ฉันไม่ได้นำสัตว์ตัวน้อยมานิ”

เฉินตงถูขมับตาของเขาที่มีความเมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ กระต่าย ”

หลินเสว่เอ๋อตัวสั่น หน้าก็แดงทันที มองไปที่เฉินตงด้วยความเขินอาย “คุณเฉิน คุณนี่ร้ายมากเลยนะ”

แววตาเป็นประกายมีเสน่ห์อย่างน่าดึงดูด แล้วบิดเอวพริ้ว

เฉินตงเริ่มอารมณ์หงุดหงิด หันหลังแล้วเดินจากไป

หลินเสว่เอ๋อก็ก้าวไปข้างหน้า ดึงแขนของเขาไว้ พูดเสียงหวาน “เค้าก็แค่……อยากให้คุณได้ชม”

“ผมไม่สนใจในตัวคุณ”เฉินตงพยายามสะบัดมือของหลินเสว่เอ๋อออก

แต่หลินเสว่เอ๋อก็คว้ามือของเขาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มีน้ำตาในดวงตา ร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร “ขอร้องคุณอย่าไปเลยนะ คืน คืนนี้ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาเจอคุณ”

ทันใดนั้นเฉินตงก็ขำอย่างเย็นชา “หวางเห้าก็โง่จริงๆเลย บอกที่อยู่ของผมให้กับคุณโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง คงจะเบื่อชีวิตที่มันสงบสุขเกินไป เลยอยากโดนสวมเขาหรือไงเนี่ย?”

ที่อยู่ของบ้านเช่าที่เขาและหวางหนันหนันเช่าอยู่นั้น มีน้อยคนที่รู้ ซึ่งรวมถึงคนในตระกูลหวางด้วย

ความซื่อบื้อและไร้ประโยชน์ของหวางเห้า เพียงแค่หลินเสว่เอ๋อพูดคําสองคําออกมาก็ล้วงความลับได้อย่างง่ายดาย

หลินเสว่เอ๋อในสายตาของตระกูลหวางอาจเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาที่รักนวลสงวนตัว แต่เขารู้ดีว่าที่จริงแล้วหลินเสว่เอ๋อเป็นนังชาเขียว(ผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย ใสซื่อแอ๊บแบ๊ว อ่อนต่อโลก แต่ทำตัวร่าน)ต่างหาก

เขาไม่ใช่คนที่เวลาหิวแล้วจะไม่เลือก ยิ่งไม่ใช่คนโง่ด้วย

หลินเสว่เอ๋อสีหน้าตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินตงจะพูดอะไรออกมาตรงๆเช่นนี้ พูดไม่ไว้หน้าเธอเลย

แต่เมื่อนึกถึงฐานะทางบ้านของเฉินตง แม้ว่าเฉินตงจะเช่าบ้านหลังที่ดูเก่าและเล็ก แต่บัตรพันล้านใบนั้นไม่ผิดแน่นอน

ที่เธอหาหวางเห้า ก็เพื่อให้หวางเห้าเป็นตัวรับของที่ไม่ดีต่อจากคนอื่นเมื่อคนอื่นไม่ต้องการแล้ว

แต่เฉินตงนั้นดีกว่าหวางเห้าหลายสิบล้านเท่า!

เพราะคืนนั้นเธอยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อขอโทษเฉินตง นั่นเป็นเหตุผลที่เธอรวบรวมความกล้าที่จะมาหาเฉินตงในคืนนี้ คิดว่าจะลองพยายามเป็นครั้งสุดท้าย

แม้ว่า เธอจะรู้ว่าเฉินตงเป็นอดีตพี่เขยของหวางเห้า

ริมฝีปากแดงขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ดวงตามีน้ำตาคลอด้วย หลินเสว่เอ๋อแสดงความน่าสงสารออกมาได้อย่างเต็มที่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ฉัน ฉันอาจจะหมั้นกับหวางเห้าเร็วๆนี้แล้ว ก็เลยอยากมาเจอคุณในคืนนี้ อยากเจอมากๆเลยนะคะ ”

เฉินตงสะบัดมือหลินเสว่เอ๋อออก หันหลังและเดินจากไป

“โอเค ผมรู้แล้ว งั้นผมจะนำเงินห่อซองอั่งเปาให้พวกคุณก็ได้ ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset