Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 253 ความน่ากลัว

ภายในห้องควบคุม เกิดความโกลาหลขึ้น

ทุกคนต่างก็จ้องมองดูภาพจากกล้องวงจรปิดนั่นด้วยความหวาดผวา

เฉินตง……มีความสามารถมากพอที่จะให้เต้าจูนถอดเสื้อคลุมออก ?

ภายใต้ความตื่นตระหนกตกใจ

ไม่มีใครสังเกตเห็น ท่าทีของชายชราผมหงอกกับป๋า จากที่หวาดผวา ก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที

เสียงร้องด้วยความกลัว ก็กึกก้องอยู่ในอีกเรือนจำทั้งเก้าด้วยเช่นกัน

นักโทษทุกคนต่างก็กำลังจดจ้องอยู่กับศึกใหญ่ในครั้งนี้ และต่างก็รู้ ว่าเสื้อคลุมของคนคนแรกนั้นหมายถึงอะไร

มีเพียงคุกNO.1เท่านั้น ที่ยังคงเงียบงัน

แต่ ใบหน้าของนักโทษทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยอาการที่ตื่นตระหนกตกใจและประหลาดใจ

บนเวที

เฉินตงขมวดคิ้วแล้วมองไปยังชายหนุ่มที่ถอดเสื้อคลุมออกและเผยให้เห็นใบหน้าของเขา

มันเป็นใบหน้าที่ผอมบางเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวหนักแน่น

คำเดียวสง่างามและกล้าหาญก็เพียงพอกับคำอธิบายแล้ว

แต่ความเด็ดเดี่ยวหนักแน่นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา ทำให้เฉินตงอกสั่นขวัญแขวน

มันเหมือนกับคมดาบที่ถูกซ่อนใต้ฝักดาบ ปลายดาบไม่ชัดเจน แต่ส่วนที่ซ่อนอยู่ก็เพียงพอที่จะทำให้ หวั่นเกรงไปทั่วทั้งฟ้า

“ผม เคยเห็นคุณที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?”

เฉินตงเอ่ยถามออกไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและประหลาดใจ

เมื่อเผชิญหน้ากับชายคนนี้ เขามีความรู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้าชายหนุ่มมาก่อน

แต่ทันทีที่พูดออกไป เฉินตงก็รู้สึกขำตัวเอง

คนที่ถูกคุมขังในคุกมืดมานานกว่ายี่สิบปีนี้ เขาจะไปรู้จักได้ยังไง ?

คำนวณแล้ว ชายตรงหน้าถูกจองจำอยู่ในคุกมืด เขาเองก็น่าจะเพิ่งเกิดด้วยซ้ำ !

“พร้อมรึยัง?”

เต้าจูนค่อยๆขยับไหล่ทั้งสองข้าง กล้ามเนื้อไหล่ของเขาก็นูนปูดขึ้น :“จำชื่อของฉันไว้ เต้าจูน!”

เฉินตงตะลึงเล็กน้อย ชื่อนี้…… แปลกจัง

ซวบ!

ในตอนที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้นข้างใบหูก็มีลมพัดเข้ามาวูบหนึ่ง

เฉินตงรู้สึกราวกับดวงตามืดบอด ใบหน้าที่มุ่งมั่นของเต้าจูนอยู่ใกล้แค่เอื้อม

มันเร็วมาก!

ภาพๆนั้น ทำให้เฉินตงรู้สึกตกใจ

ไม่มีการตอบสนองอะไรกลับไปทั้งนั้น

ปัง!

จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

เต้าจูนปล่อยหมัดไปที่ท้องของเฉินตง

ทันใดนั้น เฉินตงก็กรีดร้อง ใบหน้าบิดเบี้ยว ราวกับตับไตไส้พุงกลับหัวกลับหาง และร่างของเขาโค้งงอลง

หลังจากชกไปหนึ่งหมัด เต้าจูนใช้มือซ้ายกดไปที่ไหล่ของเฉินตงแล้วออกแรงกด

จากนั้น ก็ตามมาด้วยการกระทุ้งเข่าอัดเข้าอย่างรุนแรง !

ตายซะเถอะ!

ทำไมมันเร็วอย่างนี้ ?

เฉินตงตื่นตกใจ เมื่อเห็นเต้าจูนแทงเข่าเข้ามา สองแขนของเขาก็ยกขึ้นขวางบังเอาไว้

ด้วยลูกเสียบเข่าที่รุนแรง โดนกระแทกเข้าติดต่อกัน เขาก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะยังคงลุกขึ้นยืนได้อีก

ถึงกระนั้น เฉินตงก็ยังรู้สึกว่าแขนของเขากำลังจะหัก

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย

ภายใต้ความแข็งแกร่งของเต้าจูน นอกจากตั้งรับอย่างเต็มที่ แม้แต่โอกาสที่จะหลบหนีก็ยังไม่มี

การต่อสู้ ได้เริ่มต้นขึ้น และถูกโจมตีทันที

สถานการณ์แบบนี้ เฉินตงเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ช่องว่างระหว่างทั้งสองคน ช่างห่างไกลกันนัก ทำให้เฉินตงรู้สึกสิ้นหวังกับโอกาส

จากการถูกแทงเข้าใส่ เฉินตงสัมผัสได้ว่าซี่โครงที่หักตรงบริเวณหน้าอกของเขากำลังเปลี่ยนรูป ความเจ็บปวดที่มี ต่อให้เขาจะกินยาแก้ปวดล่วงหน้าไปสองเม็ด ก็ยังไม่สามารถบรรเทามันได้

“พรืด!”

จู่ๆเฉินตงก็กระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ใบหน้าของเขาซีดเซียวอย่างหนัก

หรือว่า……มันจะจบลงไปแบบนี้ ?

ในตอนนี้ สติของเขาเริ่มที่จะเลือนราง

ในความคิดมีแต่ภาพของกู้ชิงหยิ่ง แม่และคนอื่นๆ ปรากฏขึ้นมา

ไม่!

ต้องมีชีวิตรอด!

พวกเขา……ยังรอให้ฉันกลับไป!

“อ๊าก!”

เฉินตงร้องคำรามราวกับสัตว์ป่า ประสานมือเข้าด้วยกัน และพยายามสกัดกั้นหัวเข่าที่พุ่งเข้ามา

เสียงปังดังขึ้น!

การโจมตีของเต้าจูนหยุดลงอย่างกะทันหัน

เฉินตงฉวยโอกาสนี้สาวหมัดเข้าที่ท้องของเต้าจูนอย่างจัง ทั้งสองต่างก็แยกออกจากกัน เฉินตงเซถอยไป

“หืม?!”

นัยน์ตาเต้าจูนมีประกายความตกใจ

มองไปยังเฉินตงที่ซวนเซถอยไปอย่างจนมุม ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขายิ้มอย่างภูมิใจ:“ไม่เลว รับการแทงเข่าจากฉันไปได้ถึง23 ครั้ง ”

ใบหน้าของเฉินตงซีดเผือด หางตากระตุกอย่างรุนแรง

แทงเข่า 23 ครั้ง !

หากไม่ใช่เพราะเขาขยันหมั่นเพียร ฝึกฝนหลักสูตรปีศาจตามที่คุนหลุนได้สั่งสอนอยู่ทุกวันจนทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง

เพียงกระบวนท่าเดียว ก็เพียงพอที่จะหักกระดูกแขนของเขาได้ !

เมื่อเป็นเช่นนั้น แขนของเขาก็แทบจะไร้เรี่ยวแรง ความเจ็บปวดรุนแรงราวกับกระดูกแขนแตกออก

อาการบาดเจ็บก่อนหน้า กับการถูกโจมตีเมื่อครู่ ทำให้ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น

ยาแก้ปวด ไม่ได้มีผลอะไรเลย

ความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้เฉินตงหอบหายใจหนัก

มองดวงตาของเต้าจูน ก็เต็มไปด้วยความกลัว

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเต้าจูน เขาแทบไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้

มันเป็นความกลัวที่ราวกับหลอดเลือดถูกบีบอัดจนคับแน่น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ภายในคุกNO.1 เงียบสนิท

นักโทษทุกคนต่างอยู่ในความเงียบสงบ กับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เลือดลมสูบฉีด

แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่า เวลาที่เต้าจูนขึ้นสังเวียน จะเกลียดเสียงดังโห่ร้องที่สุด

และอีกเก้าเรือนจำอื่นที่เหลือ ในตอนนี้มีเพียงเสียงลมหายใจที่เยือกเย็น

จากกล้องวงจรปิดที่ฉายภาพในคุกมืด แม้จะดูผ่านจอภาพ ก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเต้าจูน

ภายในห้องควบคุม

ทุกคนต่างมองหน้ากัน

“ทำไมเต้าจูนถึงได้ออมมือ ? ”

“จากการรุกที่ทรงพลัง กับความแข็งแกร่งของเต้าจูน เป็นไปไม่ได้ที่จะโดนเพียงหมัดเดียวของเจ้าเด็กนั้นแล้วจะกระเด็นออก และหลุดพ้นจากการโจมตีได้ ”

“แทงเข่าไป 23 ครั้ง!เข่าของเต้าจูนสามารถทุบแผ่นหินให้แตกได้ เด็กคนนี้สามารถต้านรับไปได้ถึง23ครั้ง ก็ถือว่าเก่งมากๆ !”

……

การวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นมากมาย และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ชายชราผมหงอกสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองดูภาพในกล้องวงจรปิดนั้น

มีป๋ายืนอยู่ด้านข้าง กำหมัดแน่น เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก และในใจก็แอบเชียร์เฉินตงไปด้วย

บนสังเวียนเวที

เฉินตงเหงื่อไหลปานสายฝน หอบหายใจหนักปานวัวกระทิง

ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองไปยังเต้าจูน

และเต้าจูนเอง ก็ไม่ได้รีบเร่งที่จะจู่โจมเช่นกัน มองไปยังดวงตาของเฉินตง ที่เต็มไปด้วยการดูหมิ่น

จู่ๆเต้าจูนก็ยิ้มออกมา :“สภาพอย่างนาย ยังคิดที่จะออกไปจากคุกมืด ? ยอมแพ้เถอะ ฉันไม่ฆ่านายก็ได้ ด้วยความสามารถที่นายมี ก็สมควรแล้วที่จะถูกแย่งผู้หญิงไป แล้วมีคนมาทำหน้าที่แทนนาย !”

ในช่วงหลายวันมานี้ ชื่อเสียงของเฉินตงก็กระฉ่อนไปทั่วทั้งคุกมืด

เหตุผลที่เขาต้องการจะออกจากไปจากคุกมืดนี้ ก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วคุกมืดเช่นกัน

ร่างกายของเฉินตงสั่นสะท้าน มีเสียง“โครม”ดังขึ้นในหัว

เต้าจูนยิ้มเย้ย ราวกับคมมีดที่ถูกเผาไหม้เป็นสีแดง และเสียบเข้าไปในหัวใจของเขา

ความรู้สึกนี้ เจ็บปวดยิ่งกว่าบาดแผลที่มีบนร่างกายเสียอีก !

“ฉัน……จะออกไป!”

เฉินตงเปล่งเสียงออกมาตามไรฟัน

แล้วหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาที่หวาดกลัวค่อยๆสงบลง และจิตใจภายในก็สงบนิ่งตาม ลุ่มลึกราวกับหลุมดำสองหลุม

รอยยิ้มบนใบหน้าของเต้าจูนนิ่งไป ดวงตาฉายแววของความประหลาดใจ

“ผู้หญิงของฉัน พ่อแม่ของฉัน พี่น้องของฉัน ล้วนเป็นของฉัน ไม่มีใครแทนที่ได้ !”

เฉินตงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น แล้วตั้งท่ารับเตรียมต่อสู้

“เหอะ!”

เต้าจูนยิ้มอย่างดูถูก แต่ก็ราวกับลูกศรจากคันธนู พุ่งตรงไปที่เฉินตง :“คนอ่อนแอ มีแต่จะถูกแทนที่เท่านั้น!”

“งั้นฉัน ก็จะแข็งแกร่ง !”

เฉินตงไม่หลบหลีก และก็ไม่คิดที่จะป้องกันเช่นกัน แต่กลับพุ่งเข้าใส่เต้าจูน

ปัง!

ไม่ได้ลีลาอะไร

ทั้งสองออกหมัดไปพร้อมกัน ประจันกันซึ่งๆหน้า

ในชั่วพริบตา เฉินตงก็ขมวดคิ้ว และหางตาก็กระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง

ราวกับต่อยเข้าใส่ไปที่แผ่นเหล็ก กระดูกนิ้วมือปวดร้าว

และในจังหวะเดียวกัน เขาก็คำรามออกมาด้วยความโมโห แล้วต่อยเข้าไปอีกครั้ง และโต้กลับเต้าจูนทันที

“เหอะ!”

เต้าจูนยิ้มเย้ย แต่ก็เหวี่ยงหมัดเพื่อตั้งรับเช่นกัน

ภาพนี้ ทำให้ทุกคนในคุกมืดต่างก็ตกตะลึง

เต้าจูน……กำลังทำอะไร ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset