Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 258 ผม กลับมาแล้ว !

ภายใต้ความมืด

ฉินเย่อาศัยความมืด หนีออกจากเขตวิลล่าเขาเทียนซาน และเฝ้ารออยู่ที่ถนนปันซาน

มีไฟหน้ารถส่องมา จากที่ไกลๆ

เขาเดินไปที่กลางถนน

แกร๊ก!

เมอร์เซเดส-เบนซ์จี หยุดลงกะทันหัน

ประตูรถเปิดออก

กู้ชิงหยิ่งเดินลงมาอย่างสงสัย:“ฉินเย่ นายมีอะไรหรือเปล่า ?”

สีหน้าของฉินเย่หมองหม่น ดวงตาจ้องมองไปที่กู้ชิงหยิ่ง

ทำให้กู้ชิงหยิ่งประหม่าเล็กน้อย

และสองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วที่อยู่บนรถ ก็ขมวดคิ้ว อย่างไม่พอใจเล็กน้อย

“ เสี่ยวหยิ่ง เธอมานี่ ฉันถามอะไรเธอหน่อย ”

ฉินเย่เหลือบมองไปที่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์จีแวบหนึ่ง และกลับมามองที่กู้ชิงหยิ่งอีกครั้ง

กู้ชิงหยิ่งเดินไปหาฉินเย่

ฉินเย่ลดเสียงลง แล้วถามว่า :“เธอ แน่ใจจริงๆเหรอว่าเฉินตงคนนี้ เป็นเฉินตงตัวจริง ? ”

ร่างกายของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหว ดวงตาเกิดความลังเลขึ้นวูบหนึ่ง

เธอพูดน้ำเสียงทุ้มต่ำไปว่า :“ฉินเย่ นายกับเฉินตงเป็นพี่น้องกัน ทำไมถึงยังถามคำถามแบบนี้อีก?”

“ตอบฉัน!”

ฉินเย่ขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา

“นายคิดว่าเฉินตงตัวปลอม จะสละชีวิตเพื่อช่วยฉันงั้นเหรอ ?”

ใบหน้าที่สวยงามของกู้ชิงหยิ่งขุ่นเคือง :“พรุ่งนี้ก็เป็นวันมงคลของฉันกับเฉินตง สิ่งที่ฉันหวังคือคำอวยพรจากนาย ไม่ใช่ความสงสัยของนาย!”

พูดจบ เธอก็หันหลังแล้วกลับไปที่รถ

ฉินเย่ยิ้มเยาะออกมา แล้วเดินหลีกไปยังข้างถนน ไม่แม้แต่จะมองไปที่รถ แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ

รอจนกระทั่งรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ขับลงเขาไป

เขาพ่นควันออกมา แล้วทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น ใช้เท้าเหยียบขยี้เพื่อดับไฟ

“พี่ชาย? เพราะพี่เป็นพี่ ผมเลยต้องปกป้องผู้หญิงโง่ๆของพี่!ผมได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกทรพีฆ่าพ่อตัวเอง จะมีชื่อเสียงอื้อฉาวว่าฆ่าพี่ฆ่าน้องเพิ่มอีกชื่อจะเป็นไร เฉินตงนะเฉินตง พี่อยู่ที่ไหนกัน ? หรือ พี่ตายไปแล้ว ? หากเป็นอย่างนั้น เดินช้าๆในถนนยมโลกแล้วกัน เดี๋ยวผมจะตามไป !”

เสียงทอดถอนใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเด็ดเดี่ยว

ฉินเย่เงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ท้องฟ้าที่มืดมิด มองไม่เห็นดวงดาวและดวงจันทร์

เขาเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง ด้วยความรู้สึกแบบนี้ เขาถึงได้ติดตามเฉินตงอย่างไม่ลังเลในตอนแรก

ช่วงนี้ เขายุ่งอยู่กับตระกูลเฉิน

ทุกอย่างที่เป็นเฉินตงคนตรงหน้านี้ เขาจับตามองมันอยู่ตลอด และความรู้สึกนั้นก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้น

ฉินเย่กำลังจะมุ่งไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซาน

บนท้องถนน ก็มีเงาดำรูปร่างสูงใหญ่โผล่มา

ม่านตาของฉินเย่หดลง ไอสังหารที่รุนแรงก็ปะทุขึ้น

เขาหันหลังกลับทันที

ชายสามคนสวมหน้ากากก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

มีสองคนก้าวเข้ามา แล้วจับตัวของฉินเย่กดลง

หวืด!

แสงเย็นวูบ

คนสุดท้ายดึงเอามืดสั้นออกมา

วืด!

แทงเข้าท้องของฉินเย่อย่างหนักหน่วง

เสียงหงุดหงิดฟึดฟัด ดวงตาของฉินเย่พร่ามัวไปชั่วขณะ ด้วยความตกใจ มือเขาจับแน่นไปที่ข้อมือที่ถือมีดสั้นนั้น

ชายชุดดำที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างเย็นชาว่า

“นาย จะยุ่งมากเกินไปแล้ว ตายซะเถอะ !”

หลังจากนั้น มือสั้นก็ถูกดึงออกจากร่างของฉินเย่

ชายสามคนที่ปิดบังใบหน้าก็หันหลังแล้วจากไป อย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตา ถนนบนภูเขาก็เหลือเพียงฉินเย่คนเดียว

ฉินเย่ยืนอยู่ที่เดิม ความเจ็บปวดในช่องท้องแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

เขารู้สึกได้ว่า เลือดในกายไหลออกมาจากบาดแผลอย่างหนักหน่วง

บนพื้น ก็มีกองเลือดไหลนองเต็มไปหมด

ตึกตัก!

ฉินเย่ตัวสั่น แล้วคุกเข่าลงตรงกองเลือดนั่น

สีหน้าซีดเซียว ความกลัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความตายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“เฉิน……เฉินตง……”

พึมพำอย่างไม่ท้อ มือขวาฉินเย่ที่เปื้อนเลือดหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า แล้วกดไปยังเบอร์ผู้ติดต่อล่าสุด—จางหยู่หลัน

นั่นคือบันทึกการโทรในบ่ายวันนี้ที่เขาตำหนิจางหยู่หลันที่มาช่วยจัดห้องหอให้กับกู้ชิงหยิ่ง

เมื่อการต่อสายสำเร็จ

“ฮัลโหล ฉินเย่ คุณอยู่ไหน ? ”

ฉินเย่ยิ้มอย่างเศร้าหมอง :“เด็กน้อย ผมขอโทษนะ ”

ปัง!

ร่างกายฝืนทนไม่ไหวอีกต่อไป ล้มลงไปในกองเลือด

และในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ก็หล่นลงไปในกองเลือดเช่นกัน

“ฉินเย่……คุณอยู่ไหน ? เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ?”

ในสาย มีเสียงเป็นกังวลของจางหยู่หลันดังอยู่

ฉินเย่ที่นอนจมกองเลือดมองดูโทรศัพท์มือถือ ฝืนทนต่อไปไม่ไหว ราวกับมีเหล็กมาทับบนเปลือกตา แล้วค่อยๆหลับตาลง……

……

ภายในวิลล่า

จางหยู่หลันตะโกนร้องใส่โทรศัพท์ด้วยความตกใจ

เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เธอก็ตื่นตระหนกตกใจขึ้นมาทันที

ดวงตาแดงก่ำ คลอไปด้วยน้ำตา

ภาพนี้ ถูกพบเห็นโดยหลี่หลานและคนอื่นๆที่กลับมาในวิลล่า

หลี่หลานเป็นกังวลขึ้นมาทันที:“เด็กน้อย เกิดอะไรขึ้น?”

“คุณน้า ฉินเย่เกิดเรื่องแล้ว ”

จางหยู่หลันร้องไห้โฮ

“เมื่อกี้เขาก็ยังอยู่นี่ ? แล้วตอนนี้เขาไปไหน ? ”สีหน้าของหลี่หลานเปลี่ยนไปทันที

ทุกคนในบ้านต่างก็ตื่นตกใจเช่นกัน

พรุ่งนี้ก็เป็นวันมงคลแล้ว

ทำไมฉินเย่มาเกิดเรื่องในตอนนี้ได้ ?

“เขามีธุระออกไปข้างนอก คุณน้า หนูควรทำยังไงดีคะ ? ”จางหยู่หลันจับมือหลี่หลานแน่น ทำอะไรไม่ถูก

“เพิ่งออกไป งั้นก็น่าจะไปได้ไม่ไกล ”

ท่านหลงพูดอย่างเคร่งขรึม:“คุนหลุน กูหลัง ออกไปหาฉินเย่กับหยู่หลันเดี๋ยวนี้”

ทั้งสามคนรีบออกไปจากวิลล่าอย่างทันทีทันใด

หลี่หลานก็ร้อนรนกระวนกระวาย เดินวนไปมา

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ? ทำไมเจ้าฉินเย่ถึงได้มาเกิดเรื่องได้ในตอนนี้ ? จะต้องไม่เป็นอะไร ต้องไม่เป็นอะไร”

“แม่ครับ คงไม่เป็นอะไรมากหรอก พรุ่งนี้เป็นวันมงคลของผมกับเสี่ยวหยิ่ง ไปพักผ่อนเถอะครับ มีคุนหลุนเขาอยู่ทั้งคน ”

เฉินตงที่นิ่งเงียบมาตลอด ก็เดินมาตรงหน้าของหลี่หลาน เอ่ยปลอบเสียงเบา

“เจ้าฉินเย่เกิดเรื่องขึ้น ลูกจะให้แม่นอนหลับได้ยังไง ?”หลี่หลานน้ำตาคลอเบ้า พูดอย่างเป็นกังวล

เฉินตงที่กำลังจะพูด

ท่านหลงก็พูดขัดขึ้นว่า :“คุณชาย พรุ่งนี้คุณเป็นตัวหลักในงาน ยังไงก็ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ เรื่องของฉินเย่กระผมจะจัดการเองครับ คุณนายมีฟ่านลู่และเจียนเจียดูแล ไม่เป็นอะไรแน่นอนครับ ”

“ก็ได้ งั้นรบกวนท่านหลงแล้ว ”

เฉินตงพยักหน้ารับ และหันหลังกลับขึ้นไปยังชั้นบน

มองดูแผ่นหลังของเฉินตง ท่านหลงก็ค่อยๆหรี่ตาลง

ด้านข้าง มีฟ่านลู่ที่คอยปลอบหลี่หลาน แล้วพาหลี่หลานเดินไปนั่งลงยังห้องนั่งเล่น

มีเพียงฉู่เจียนเจีย ที่ยังยืนอยู่กับท่านหลง

“ท่านหลง เหมือนมีบางอย่างผิดปกติไปหรือเปล่า ?”ฉู่เจียนเจียเอ่ยถาม

“เย็นชาเกินไป”ท่านหลงพึมพำ “ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านกับฉินเย่ ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ”

ฉู่เจียนเจียพยักหน้า:“อันที่จริงแล้ว ในช่วงนี้งานในโครงการที่ฉันรับผิดชอบร่วมกับเฉินตง ลูกค้าก็ไม่พอใจเท่าไรนัก ฉันรู้สึกว่าเฉินตงเปลี่ยนไป”

หากไม่ใช่เพราะท่านหลงเป็นคนพูดขึ้นมาเสียก่อน

ฉู่เจียนเจียก็คงไม่พูดคำพูดเหล่านี้ออกมา

ภูมิหลังและสถานะทางครอบครัวระหว่างเธอกับเฉินตง มันต่างกันราวฟ้ากับเหว

ตระกูลฉู่กับเฉินตงร่วมงานกัน พูดกันตามตรงก็คือพวกเขาอาศัยเฉินตงพึ่งพาตระกูลเฉิน

คำพูดที่ไม่เคารพแบบนี้ เธอไม่กล้าพูดมันไปตรงๆแน่

ท่านหลงพยักหน้า แล้วหันไปมองหลี่หลานในห้องนั่งเล่น

พึมพำเบาๆว่า:“อันที่จริงแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น รูปลักษณ์ของนายท่านก็ยังเป็นเหมือนเดิม แล้วใครจะกล้าพูดว่านายท่านไม่ใช่นายท่านล่ะ ? ”

ดวงตาของฉู่เจียนเจียกะพริบ อึกอักไม่กล้าพูดอะไรออกมา

และในเวลาเดียวกันนี้

บนท้องฟ้า

เครื่องบินรบราวกับนกอินทรี เสียงดังสนั่นบินผ่านท้องฟ้าในยามค่ำคืนด้วยความเร็วสูง

เฉินตงเอนหลังพิงเก้าอี้ งีบหลับเอาแรง

การเปลี่ยนเครื่องครั้งแล้วครั้งเล่านี้ ได้ยืนยันการคาดการณ์เบื้องต้นของเขา ว่าคุกมืดนี้เลวร้ายมากจริงๆ

การนั่งเครื่องบินรบเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วของเขา เกินที่จะรับได้

ในใจคำนวณเวลา เฉินตงเอ่ยถามเสียงเบา :“อีกนานแค่ไหนจะถึง?”

“ตามคาดการณ์ พรุ่งนี้ก็น่าจะถึง”

นักบินตอบกลับ

“วันที่15 พอดี!”

รอยยิ้มที่ผ่อนคลายปรากฏบนใบหน้าของเฉินตง ก้อนหินในใจที่หนักอึ้งก็ได้วางลง พึมพำเสียงทุ้มว่า :“ฉัน กลับมาแล้ว!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset