Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 269 ยืมมือทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ตระเตรียมของขวัญเล็กน้อยเอาไว้ให้

เฉินเต้าหลินเดินทางกลับอย่างเร่งรีบ

แม้กระทั่งเวลาที่จะพูดกับเฉินตงสักสองสามประโยคก็ไม่มี หลังจากกินเข้าเสร็จเขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปทันที

เฉินตงรู้ดีว่า หากเขาต้องการโค่นล้มตระกูลฉิน คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินคงเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่อย่างแน่นอน

งูกับหนูต้องมาอาศัยอยู่ในรังเดียวกัน

เพียงแค่การสมรู้ร่วมคิดเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องถูกผูกเอาไว้ในเรือลำเดียวกันแล้ว

หากเขาลงมือกับตระกูลฉินจริง ตระกูลฉินจะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอย่างแน่นอน อีกทั้งคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ต้องยอมยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างแน่นอนเช่นกัน

เหตุผลง่ายๆ แค่นี้ เขาต้องดูออกอย่างแน่นอน ตระกูลฉินและคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ไม่มีทางตัดขาดกันได้อย่างแน่นอน

การที่พ่อควบคุมคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเอาไว้ ก็เพื่อเปิดทางให้เขาและฉินเย่แก้แค้นตระกูลฉิน !

หลังจากเฉินเต้าหลินกลับไปได้ไม่นาน

เฉินตงก็พาฉินเย่และคุนหลุน ออกจากเขตวิลล่าเขาเทียนซาน แล้วมุ่งหน้าไปยังสนามบินในเขตชานเมือง

ท่านหลงอยู่ต่อที่เมืองนี้เพื่อคอยดูแลรับผิดชอบงานภายในบริษัท

ระยะเวลาที่เขาถูกจองจำอยู่ในคุกมืดหนึ่งเดือน มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ลำพังเรื่องที่ไท่ติ่งตกอยู่ในความดูแลของโจวสวน และควบคุมโจวจุนหลงและโจวเย่นชิว ก็สร้างความวุ่นวายมากพอสมควรแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในงานแต่งงาน ทำให้เกิดอันตรายแอบแฝงขึ้นมากมาย

เรื่องเหล่านี้ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด

ถึงขั้นที่เฉินตงเองไม่สนใจว่าท่านหลงจะใช้วิธีที่รุนแรงขนาดไหนในการจัดการ

เพื่อจบเรื่องวุ่นวายทุกอย่างลงทันที

เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มีเพียงท่านหลงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถจัดการได้

ต่อให้เฉินตงลงมือจัดการด้วยตนเอง ก็อาจจะยืดเยื้อ

เมื่อทั้งสามคนเดินทางไปถึงสนามบิน พวกเขาก็เดินผ่านช่องทางสีเขียวโดยไม่มีเครื่องกีดขวางใดๆ ท่านหลงตระเตรียมเครื่องบินส่วนตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาขึ้นนั่งบนเครื่องได้ไม่นาน เครื่องบินก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

“คุณชาย ท่านหลงได้ตระเตรียมคนในสำนักงานที่ซีสู่เอาไว้เพื่อดูแลต้อนรับเรียบร้อยแล้วครับ”

คุนหลุนพูดออกมาอย่างสงบ : “นี่เป็นความประสงค์ของคุณท่าน หากเขาติดต่อสำนักงานที่ซีสู่ด้วยตัวเอง ก็จะเป็นที่จับตามองของคนในตระกูล หากให้ท่านหลงจัดการก็จะเป็นความลับมากกว่า อีกทั้งการเดินทางครั้งนี้ จะต้องพึ่งพาสำนักงานของตระกูลเฉิน”

เฉินตงไม่ได้โต้แย้งอะไร เขาพยักหน้าตอบรับ

พวกเขาไม่ได้ไปพูดคุยหรือกินเลี้ยงสังสรรค์กับตระกูลฉิน แต่การไปในครั้งนี้ ต้องเกิดการนองเลือดขึ้น !

ในเมื่ออาศัยชื่อของตระกูลเฉินแล้ว หากแม้แต่สำนักงานของตระกูลเฉินในซีสู่ยังไม่รู้สึกตื่นตระหนกอีกล่ะก็ ชื่อนี้ก็คงใช้การไม่ได้เสียแล้ว

เฉินตงเหลือบมองฉินเย่โดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้ฉินเย่ยังคงอยู่ในท่าทีที่ปกติ

เมื่อเขารู้สึกได้ถึงสายตาของเฉินตง ฉินเย่ก็ส่งเสียงกระแอม : “นายไม่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของฉันหรอก ฉันกับตระกูลฉินไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว ตอนที่พวกเขาส่งคนมาฆ่าฉัน ก็ไม่เห็นคำนึงถึงความรู้สึกฉันเลย”

“ฉันรู้ดี”

เฉินตงยิ้มออกมา : “ฉันแค่อยากถามนายว่า จะจัดการกับตระกูลฉินอย่างไร”

“นายวางแผนเอาไว้หมดแล้ว พ่อนายก็กำลังช่วยนายอยู่ แล้วนายยังจะถามฉันอีกทำไม ?”

ฉินเย่ยักไหล่ แล้วพูดเป็นนัยว่า : “ยืมมือทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเอง ถึงจะเป็นแผนการที่เหนือชั้น ใช้เลือดล้างตระกูลฉิน ก็เหมือนกับต่อสู้กับปลาที่ตายกับตาข่ายที่ขาด ไม่คุ้มค่า”

เฉินตงหัวเราะออกมา เขามองก้อนเมฆที่ลอยอยู่นอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เยือกเย็น : “ใช่แล้ว มงกุฎราชาหนักเกินไป ถ้าหากไม่ยืมมือทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเอง ฉันคงไม่สามารถสวมมงกุฎไว้ได้อย่างมั่นคง”

ทันทีที่ได้ยิน

ฉินเย่และคุนหลุนก็หันไปมองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ

เฉินตงลูบจมูก : “ทำไม ?”

“พี่ชาย นายเปลี่ยนไปแล้ว” ฉินเย่ประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่ท้ายทอย “พี่คุนหลุน พี่ว่ายังไง ?”

“พี่ชาย ไม่สิ คุณชายเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”

แววตาของท่านหลงดูตื่นตระหนก เขารีบกลับคำในทันที : “คุณชายคนก่อน จะไม่แยกแยะข้อดีและข้อเสียออกอย่างชัดเจนอย่างนี้”

“ตอนนี้นายเริ่มเหมือนผู้สืบทอดมรดกจริงๆ แล้ว” ฉินเย่หัวเราะเสียดสี “ไม่สนใจวิธีการ ถึงจะกลายเป็นคนตระกูลเฉินแบบพวกนั้นได้”

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มก็เต็มไปด้วยความขมขื่น

เวลาสิบโมงครึ่ง เครื่องบินลงจอดยังสนามบินซีสู่

ขณะที่เพิ่งเดินออกมาจากสนามบิน ก็มีชายวัยกลางคนรีบเข้าไปต้อนรับ

“กระผมเป็นหัวหน้าสำนักงานของตระกูลเฉินในซีสู่ เฉินไคขอต้อนรับคุณชายเฉินตง”

“ไปกันเถอะ”

เฉินตงพยักหน้า จากนั้นจึงเดินตามเฉินไคไปยังรถโรลส์-รอยซ์ที่จอดอยู่ริมถนน

หลังจากขึ้นรถ เฉินไคก็พูดขึ้นว่า : “คุณชาย วันนี้เป็นวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าบ้านตระกูลฉิน กำลังมีการจัดงานฉลองวันเกิดขึ้นที่ตระกูล”

“งานฉลองวันเกิด ?”

เฉินตงหางตากระตุก เขาเอามือลูบคาง แล้วแสยะยิ้มออกมา : “พวกเรามาถูกเวลาจริงๆ ในเมื่อจัดงานฉลองวันเกิด ก็ควรต้องมีของขวัญสักหน่อย เพราะตอนที่ฉันแต่งงาน ตระกูลฉินก็ส่งของขวัญไปให้ถึงที่เช่นกัน”

“ฉันลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท” ฉินเย่ก้มหน้าครุ่นคิด

ทันใดนั้น ทั้งสองก็หันมองหน้ากัน จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

ภายในรถ ดูเหมือนบรรยากาศจะหนาวเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด

ตระกูลฉิน

ในฐานะที่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในซีสู่ เป็นตระกูลที่สูงส่งและไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา

ในซีสู่ อยู่ในฐานะที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้

งานฉลองวันเกิดของเจ้าบ้านตระกูลฉิน คงจะเป็นงานที่ดึงดูดตระกูลที่มั่งคั่งจากทั่วทุกสารทิศให้มาร่วมแสดงความยินดี

เพียงแค่โต๊ะจัดเลี้ยงงานวันเกิด ก็ถูกจัดวางไว้โดยรอบบริเวณของบ้านตระกูลฉินกว่าร้อยตัว

สิ่งที่เจ้าบ้านตระกูลฉินคำนึงถึงไม่ใช่การเฉลิมฉลองวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ต้องไม่ฟุ่มเฟือย และไม่เอิกเกริก

เวลาใกล้เที่ยง

บริเวณโดยรอบตระกูลฉินเต็มไปด้วยรถหรูจอดกันอยู่แน่นขนัด

ผู้คนพลุกพล่านและส่งเสียงจอแจเต็มไปหมด

ทุกครั้งที่มีแจกเดินเข้ามาจะมีการยิงพลุทักทาย

เจ้าบ้านตระกูลฉินอยู่ในวัยชรา เขาสวมใส่เสื้อคอจีนสีแดงสด เขายืนอยู่กับเหล่าทายาทตระกูลฉินที่บริเวณประตูด้วยใบหน้าที่สดใส เพื่อต้อนรับบรรดาแขกที่มาในงานเลี้ยง

“คุณปู่ แขกมากันเกือบครบแล้ว ส่วนที่เหลือที่ยังมาไม่ถึง ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่พวกหางแถว คงไม่ต้องให้คุณปู่คอยต้อนรับด้วยตัวเองแล้ว”

เด็กหนุ่มที่สวมใส่ชุดสูทคนหนึ่งยิ้มแล้วพูดขึ้น : “คุณปู่ยืนมาตลอดทั้งเช้าแล้ว รีบกลับไปนั่งเถอะครับ พักผ่อนสักเดี๋ยว ตรงนี้พวกเราอยู่ต้อนรับกันเองได้ครับ”

ทันทีที่ได้ยิน เหล่าบรรดาคนรุ่นใหม่ที่ยืนอยู่โดยรอบต่างก็พูดสนับสนุนขึ้นมา

พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นทายาทสายตรงของตระกูลฉิน อยู่ในฐานะที่ไม่อาจมีใครเทียบได้ในตระกูลฉิน

ในตระกูลฉิน มีการแบ่งฐานะของทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่นอกกฎหมายอย่างชัดเจน และแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

“ฉินซวน ห้ามพูดจาเย่อหยิ่งอย่างนี้”

สีหน้าและน้ำเสียงของคุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินเคร่งขรึมทันที

บรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวต่างรู้สึกตกใจ และก้มหน้าก้มตาขอโทษในทันที : “คุณปู่ ซวนเอ๋อผิดไปแล้วครับ”

“ช่างเถอะ คงแก่อย่างฉันเองก็ยืนไม่ไหวแล้วจริงๆ ตรงนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอก็แล้วกัน จำไว้นะ การต้อนรับแขก ห้ามใช้ท่าทางที่ดูถูกและเย่อหยิ่ง คนจะได้ไม่เอาไปนินทาได้ว่า ตระกูลเฉินของเรานั้นไร้มารยาท”

ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินดูอบอุ่นลง เขายิ้มออกมาอีกครั้ง แววตาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย : “จริงสิ ถ้าเสี่ยวเซียนกลับมาเมื่อไหร่ อย่าลืมมาบอกฉันนะ ฉันอยากเจอเธอสักครั้ง”

“ครับ คุณปู่”

ฉินซวนยิ้มและพยักหน้า : “ถ้าพี่เสี่ยวเชียนกลับมาเมื่อไหร่ ผมจะรีบไปบอกปู่ทันทีเลยครับ”

หลังจากที่คุณท่านใหญ่ตระกูลฉิน หันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว ใบหน้าของฉินซวนก็หมองหม่นลงทันที เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นด้วยความโมโห : “ไม่รู้ว่าคุณปู่จะมัวคิดถึงพี่เสี่ยวเชียนอยู่ทำไม ก็แค่มีความสามารถเล็กน้อยเท่านั้น เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ไร้ค่าคนหนึ่ง หาผู้ชายที่ไร้ประโยชน์มา ให้แต่งงานเข้าบ้าน สุดท้ายก็หย่ากันแล้วหนีหายไป ?”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ก็มีทายาทอีกหลายคนค่อยๆ กล่าวสนับสนุนขึ้น

ตอนนี้เอง

จู่ๆ มีชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วหันไปพูดกับฉินซวนว่า : “คุณชายซวน ฉิน ฉินเย่ มาอวยพรวันเกิดให้คุณท่านครับ”

เปรี้ยง !

เสียงที่พยายามกระซิบให้เบาที่สุด แต่สำหรับพวกของฉินซวนแล้ว ก็ยังเหมือนเสียงฟ้าผ่าอยู่ดี

“ไอ้เดรัจฉานนั่นมาได้ยังไง ?” ฉินซวนกัดฟันกรอด “ไล่มันออกไป !”

“ไม่ต้องไล่แล้ว ฉันมาแล้ว !”

มือทั้งสองข้างของฉินเย่ล้วงกระเป๋าอยู่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่แยแส เขาหันไปยั่วยุฉินซวน: “อีกอย่าง น้องซวน นายคงไม่กล้าไล่ฉันไปหรอกนะ เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันคือคุณชายของตระกูลเฉิน”

“แก……” ฉินซวนหน้าถอดสี เขารู้จักเฉินตงดี ตอนที่เฉินตงแต่งงาน เขาก็ไปร่วมงานแต่งงานกับคุณท่านใหญ่ตระกูลฉินด้วยและเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างในงานแต่งงาน

เพียงแต่ เขารู้เพียงผิวเผินแค่นี้เท่านั้น ส่วนเรื่องที่สึกกว่านั้น เขาเองก็ไม่รู้

แต่ทว่า เป็นอย่างที่ฉินเย่กว่ามาจริงๆ อย่างไรเสียตระกูลฉินก็ไม่กล้าไล่คนของตระกูลเฉิน !

เพียงชั่วพริบตา

เฉินตงและฉินเย่ คุนหลุน เฉินไค ก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฉินซวน

ฉินเย่รับกล่องของขวัญมาจากมือของเฉินตง จากนั้นจึงยื่นให้ฉินซวน

“เอา ของขวัญวันเกิดให้คุณท่าน ถือเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ”

“ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอบคุณมาก”

ฉินซวน แสยะยิ้ม แล้วยื่นมือออกไปรับกล่องมา แล้วเปิดออกต่อหน้าทุกคนอย่างเสียมารยาทในทันที

เมื่อเขาได้เห็นของขวัญวันเกิดที่อยู่ในกล่อง

ความเกลียดชังก็ประเดประดังเข้ามาจนตัวของฉินซวนแทบจะระเบิดในทันที

เพราะของที่อยู่ในกล่องเป็น……พวงหรีดที่สวยหรู !

ซึ่งเป็นของที่ใช้สำหรับไว้ทุกข์ให้กับคนตาย !

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset