Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 284 ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง

คุนหลุนตกตะลึง

ริมฝีปากของเขาขยับไปมา คล้ายพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

เฉินตงพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงกดต่ำเคร่งเครียด: “ฉันบอกให้พาตัวเธอไปไงเล่า!”

“พี่ตงจะพาฉันไปไหนงั้นเหรอ?” เฉินหยู่เฟยลุกขึ้นยืน เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย

เฉินตงไม่พูดอะไร หันหลังเดินออกไปทันที

ที่ด้านหลัง เฉินหยู่เฟยรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

กูหลังที่ถูกทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย เกิดอาการงุนงงเล็กน้อย: “พี่คุนหลุน ท่านเฉินโกรธจริง ๆ แล้วนะ แม่เฉินหยู่เฟยนั่นไม่ได้สังเกตเห็นสักนิดเลยเหรอ?”

“อ๋อ เธอสังเกตเห็นแล้วล่ะ”

คุนหลุนยกยิ้มเย็นชา: “แต่เธอถูกตามใจจนเคยตัวแล้ว เพราะที่แล้วมาได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากคุณหญิงใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่ท่านใหญ่ก็ยังแตะต้องเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น เธอก็คงจะมองว่า คุณชายเป็นเหมือนกับคนในตระกูลเฉินพวกนั้นนั่นแหละ”

“นี่……”

กูหลังขมวดคิ้วมุ่น เกิดอาการพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

“ไปกันเถอะ.”

คุนหลุนถอนหายใจ แล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้ดีว่า เมื่อนิสัยของใครสักคน ที่เคยตัวจนถูกบิดเบือนจากสามัญสำนึกปกติไปในระดับหนึ่ง จะเย่อหยิ่งจองหองไม่เห็นหัวใครในสายตา นิสัยของเฉินหยู่เฟยก็เป็นเช่นนั้น

แต่เฉินหยู่เฟยมองข้ามจุดหนึ่งไป นั่นคือเฉินตงไม่เคยอาศัยอยู่ในตระกูลเฉิน อีกทั้งเฉินตงก็เป็นคนที่ มักเก็บซ่อนจุดอ่อนของตัวเองต่อหน้าคนอื่นมาก ๆ อีกด้วย

คำพูดที่ว่า “ไม่มีใครกล้าแตะต้อง” ของเธอ ไม่สามารถใช้ได้กับเฉินตง

เมื่อออกจากร้านอาหาร

เฉินตงไม่ได้ขึ้นรถ แต่กลับเดินเลี้ยวที่หัวมุมถนน เข้าไปในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง

หลังจากเปิดห้องชุดห้องหนึ่ง เขาก็พูดกับเฉินหยู่เฟยอย่างเย็นชาว่า: “เธออยากตามก็ต้องตาม ไม่อยากตามก็ต้องตาม”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พี่ตง”

เฉินหยู่เฟยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ มองไปที่เงาด้านหลังของเฉินตง รอยยิ้มเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์น้อย ๆ กระซิบพูดเสียงเบาว่า: “ฉันเป็นหลานสาวที่คุณย่ารักที่สุด ก็แค่ตีคนใช้ในบ้านเองไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะกล้าทำร้ายฉัน”

เธอยึดเอาความคิดนี้ไว้มั่น

เฉินหยู่เฟยเดินตามเฉินตงเข้าไปในห้องพัก

เธอเดินไปที่หน้าต่างด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย แล้วเปิดม่านเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา

จากนั้นจึงหันกลับมา แล้วเดินไปหาเฉินตงอย่างรังเกียจ: “พี่ตง ต่อให้อยากเปลี่ยนที่มาเฆี่ยนมาตีฉันจริง ๆ ก็น่าจะหาโรงแรมที่มันระดับสูงกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง?”

จู่ ๆ เฉินตงก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง”

เฉินหยู่เฟยเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางยกยิ้ม: “แล้วพี่ตงพาฉันมาที่ห้องนี้ทำไมล่ะ?”

เพี๊ยะ!

พูดไม่ทันจบ เงาที่รวดเร็วเกินสายตาจะจับภาพได้ทันสายหนึ่ง ก็ผุดวาบขึ้นกลางอากาศ

แล้วฟาดลงบนใบหน้าของเฉินหยู่เฟยอย่างรุนแรง

เฉินหยู่เฟยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับโซเซ แล้วทรุดล้มลงไปกับพื้น

เธอตกตะลึงจนชะงักไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดบนใบหน้า ทำให้เธอถึงกับนึกว่าตัวเองฝันร้ายเลยทีเดียว

เสียงเยือกเย็นดังก้องอยู่ในห้อง: “แต่กับพวกอสรพิษถือเป็นข้อยกเว้น!”

ชั่วขณะนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคุนหลุนกับกูหลัง เดินตามเข้ามาในห้อง

เมื่อเห็นเฉินหยู่เฟยที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้น บนใบหน้าขาวนวลปรากฏรอยนิ้วมือเป็นริ้วอย่างชัดเจน

คุนหลุนก็ถึงกับตกใจจนตาค้าง “คุณชาย…..”

แล้วก็พูดอะไรไม่ออกอีก

สิ่งที่ได้รับมาแทน กลับกลายเป็นดวงตาที่เย็นชาสุดขีดของเฉินตง

“ท่านหลงเป็นคนของฉัน ฉันที่มอบความเคารพให้เขาเอาเวลานี้ ยังนับว่าช้าเกินไปด้วยซ้ำ ฉันไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องเขา ต่อให้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ได้!”

คำพูดที่ดังสนั่น ทำเอาแผ่นหลังของคุนหลุนถึงกับขนลุกเกรียว คำพูดที่กำลังมาถึงที่ปาก จึงมีอันต้องถูกกลืนกลับลงท้องไปอย่างรวดเร็ว

“แก… นี่แกกล้าตบฉันเหรอ? นี่แกถึงกับกล้าตบฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”

ในที่สุด เฉินหยู่เฟยที่มึนงงไปครู่หนึ่งก็ฟื้นคืนสติ ยกมือที่เรียวยาว ขาวละเอียดดังหยกขึ้นมาลูบแก้ม ความรู้สึกเจ็บปวดทะลุไปจนถึงหัวใจ ทำให้ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะความที่คุณหญิงใหญ่เฉินรักใคร่เอ็นดู เธอจึงเป็นดั่งอัญมณีอันแสนมีค่า ที่อยู่ในฝ่ามือของคนทั้งตระกูล

ทั้งตระกูลเฉิน มีใครบ้างที่จะไม่โอบอุ้มเธอไว้ในอุ้งมือราวอัญมณี?

เธออยากเข้าสู่วงการบันเทิง อยากกลายเป็นดาราดังที่ได้รับความนิยมชมชอบ คุณหญิงใหญ่เฉินก็ออกคำสั่ง ให้ตระกูลเฉินใช้พลังอำนาจอันมหาศาล ช่วยให้เธอได้เป็นดาราชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงภายในระยะเวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น

เป็นเพราะความรักของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ในตอนที่เธอได้รู้ถึงความโกรธของคุณย่า

เฉินหยู่เฟยถึงได้มาที่นี่ เพราะอยากจะถามคุณหญิงใหญ่เรื่องนี้เพื่อช่วยแก้แค้นแทนให้

แต่ทว่า!

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนอย่างเธอ เฉินหยู่เฟย แค่เฆี่ยนตีคนใช้ในบ้าน กลับต้องได้รับการปฏิบัติแบบนี้กลับมา?

“ไม่เชื่องั้นเหรอ?”

คิ้วของเฉินตงยกสูงชี้ชัน ใบหน้าเย็นชา เต็มไปด้วยแววเกลียดชังรังเกียจ

เขานั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเฉินหยู่เฟยอย่างเย็นชา คว้าคอเสื้อของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วลากตัวเธอไปด้านหน้าด้วยท่าทางพาลพาโลสุดขีด

ทันใดนั้น

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือหนัก ๆ อีกหนึ่งถูกตบลงไปอย่างแรง

สิ้นเสียงตบหน้าที่ดังแจ่มชัด ก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาของเฉินหยู่เฟย

คุนหลุนกับกูหลังถึงกับอดเปลี่ยนสีหน้าไม่ได้

เฉินตงพูดขึ้นช้า ๆ ราวกับลมหนาวที่พัดมาจากส่วนลึกของนรกก็ไม่ปาน

“มีปัญหาอะไร ให้มาลงที่ฉัน! แต่ถ้าเธอยังกล้ามาแตะต้องคนรอบตัวฉันอีกล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ ต่อให้เป็นคุณหญิงใหญ่เฉิน คนอย่างฉันเฉินตงก็จะสั่งสอนให้รู้เองว่า พวกไม่มีปัญญา แต่อยากวัดรอยเท้าฉัน จุดจบมันจะเป็นยังไง!”

พลั๊ก!

เฉินตงปล่อยมือจากคอเสื้อเฉินหยู่เฟย ปล่อยให้เจ้าหล่อนร่วงลงไปกองกับพื้น ไม่มีความคิดที่จะรักหยกถนอมบุปผาเลยแม้แต่น้อย

ถ้าคนนอกได้มาเห็นฉากนี้ จะต้องตกตะลึงจนคางร่วง กรามหลุดกันอย่างแน่นอน

ซูเปอร์สตาร์สุดฮอตแห่งวงการบันเทิง ถึงกับถูกคนตบตีจนมีสภาพน่าอนาถถึงขนาดนี้เลย?

“เฉินตง แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? แกมันก็แค่ลูกสวะของตระกูลเฉิน นายท่านใหญ่อาจจะปกป้องแก แต่ตระกูลเฉินไม่มีวันปล่อยให้แกลอยนวลแน่!”

เฉินหยู่เฟยกัดฟัน แผดเสียงตะโกนอย่างโกรธเคือง: “แกทำให้คุณย่าโกรธ ฉันในฐานะที่เป็นหลานสาว จะล้างแค้นแทนคุณย่ามันก็ถูกต้องแล้วนี่!”

จู่ๆ เฉินตงก็รู้สึกว่า เรื่องนี้ช่างน่าขำสิ้นดีขึ้นมาซะเฉย ๆ

ล้างแค้น?

ใครกันแน่ที่ควรเป็นฝ่ายล้างแค้น?

ในสายตาของเขา เรื่องที่เฉินหยู่เฟยเฆี่ยนตีท่านหลงในครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรกับพฤติกรรมของเด็กเลวจอมอาละวาดคนหนึ่งเลยสักนิด

เป็นเรื่องยากมากที่จะจินตนาการว่า คนที่มีวุฒิภาวะจนถึงวัยยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่ง จะใช้วิธีการสิ้นคิดอย่างนี้ มาเป็นการแก้แค้นใครสักคนได้จริง ๆ

เขาลูบๆจมูก ยกยิ้มเหยียดหยาม: “คำพูดก็อปกันมาเป๊ะเลยนะ ตอนแรกสองพี่น้องเฉินเทียนเซิงกับเฉินเทียนหย่างก็พูดแบบนี้นี่แหละ มาตอนนี้บาดแผลของพวกนั้นหายดีรึยังล่ะ?”

เฉินหยู่เฟยตกใจจนผงะ

ในดวงตาคู่สวย มีหยาดน้ำตารินไหล

เธอกัดฟันอย่างโกรธแค้น : “อย่าลำพองใจไปหน่อยเลย ฉันจะต้องให้แกชดใช้อย่างสาสมแน่!”

“ฉันชดใช้มามากพอแล้วล่ะ”

เฉินตงยิ้มอย่างฝืดฝืน จู่ ๆ ท่าทางก็เปลี่ยนเป็นอ้างว้างโดดเดี่ยวขึ้นมาอย่างน่าใจหาย: “นับจากวันนี้ไป ฝ่ายที่มันยั่วโทสะฉัน ถึงเวลาที่จะต้องชดใช้คืนให้ฉันบ้างได้แล้ว”

เขาไม่คิดจะเสียเวลากับเฉินหยู่เฟยอีกต่อไป แค่หันหลังกลับ แล้วเดินออกไปทันที

ขณะที่เขาเดินไปพลาง ก็พูดไปพลางว่า: “ครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่คำเตือนนะ ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก ก็อย่ามาโทษที่ฉันตัดบัวไม่ไว้ไยล่ะ!”

“แกกล้าเหรอ!”

เฉินหยู่เฟย ผงกหัวขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งดื้อรั้น: “ฉันคือผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน ถ้าแกกล้าแหกกฎของตระกูล ก็เท่ากับว่าแกอยากลงนรกล่ะสินะ!”

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจไปครู่หนึ่งทีเดียว

ต้องยอมรับว่าคุณหญิงใหญ่เฉิน โอ๋เฉินหยู่เฟยราวกับอัญมณีในฝ่ามือจริง ๆ นั่นแหละ

ตระกูลเฉินอันสูงส่ง แม้จะแตกต่างจากตระกูลใหญ่อื่น ๆ แต่ก็ยึดถือศาสตร์ในการเอาตัวรอดการต่อสู้แย่งชิงของบรรดาผู้ที่เหมาะสมที่สุด สุดท้ายผู้ชนะ จึงจะได้เป็นราชามาโดยตลอด

แต่ถ้าผู้หญิงคนหนึ่ง คิดอยากได้สิทธิ์ในการขึ้นเป็นผู้สืบทอดตระกูล นับว่าต้องเป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้เฉินตงจะไม่สืบสาวลงไปให้ลึก ก็รู้ได้ว่ามันต้องยากเย็นราวกับพลิกแผ่นฟ้าเลยทีเดียว

แต่ทั้ง ๆ ที่เป็นอย่างนั้น เฉินหยู่เฟยกลับมีอภิสิทธิ์ที่ว่านี้!

“คุนหลุน นี่คือสิ่งที่นายคิดจะพูดเมื่อกี๊สินะ?”

ขณะที่เดินไปพลาง เฉินตงก็ถามไปพลาง

คุนหลุนมีท่าทางสับสน พยักหน้ารับอย่างจนใจ: “เธอเป็นหนึ่งในสองคน ที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้เป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปของตระกูลเฉิน ด้วยสถานะของเธอ การเฆี่ยนตีท่านหลงครั้งนี้ ในสายตาของเธอแล้ว ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย”

“ยังมีอีกคนงั้นเหรอ?” เฉินตงถึงกับตกใจไปชั่วขณะ

มองดูทั้งสามคนที่จากไป

ในห้อง เฉินหยู่เฟยกัดริมฝีปากสีแดงสดของเธอแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและน้ำตาคลอหน่วย

บนใบหน้าอันงดงาม ยังมีรอยนิ้วสีแดงทั้งห้านิ้วเด่นหราชัดเจน

แต่เมื่อพวกเฉินตงทั้งสาม เดินหายไปหลังทางเดินในโรงแรมแล้วนั่นเอง

มุมปากของเฉินหยู่เฟยก็พลันยกโค้งขึ้นโดยพลัน เผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจอย่างยิ่ง

เธอค่อย ๆ ลุกขึ้น หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วปิดประตู

ชั่วเวลานั้น ทั่วทั้งร่างของเธอ คล้ายมีบรรยากาศแห่งความเย็นเยียบจนหนาวเยือกแผ่ไปจนทั่ว

ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกโกรธแค้น ความชิงชังเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

เฉินหยู่เฟยเดินไปที่หน้าต่าง แล้วมองไปยังอาคารสูงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม

มีคนรับสายแล้ว

“ถ่ายไว้ได้ทั้งหมดแล้วใช่มั้ย?” เฉินหยู่เฟย ถามคนที่อยู่ปลายสายด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แล้วหยุดฟังไปราว ๆ สามสี่วินาที

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ยิ่งแสดงความลำพองใจในชัยชนะมากขึ้นเรื่อย ๆ นิ้วเรียวยาวเคลื่อนผ่านแก้มที่มีรอยนิ้วประทับไปอย่างช้า ๆ

“ถ้าอย่างนั้น เราก็เริ่มแผนขั้นต่อไปกันได้แล้วล่ะ.…”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset