Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 287 หลังจากคืนหนึ่ง

แชะ!

ไฟแช็กถูกจุดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ปรากฏแสงไฟที่บุหรี่สว่างวาบ

การต้องรออยู่หน้าประตู ก็ทำได้เพียงสูบบุหรี่เพื่อคลายความเบื่อหน่ายเท่านั้น

กูหลังเหลือบมองที่เขี่ยบุหรี่ข้าง ๆ เขา ซึ่งเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ บุหรี่หนึ่งซองถูกสูบไปจนหมดซองแล้ว และม้วนที่ถูกคาบอยู่ในปากของเขา ก็คือม้วนสุดท้ายแล้วเช่นกัน

สองชั่วโมงผ่านไป ถึงจะเป็นอาหารฝรั่งเศส ก็ควรจะกินเสร็จได้แล้วไหมนะ?

เขาหันไปมองเข้าไปในร้านอาหาร แสงไฟสวยงามส่องประกายสีเหลืองนวลจับตา ใน ร้านอาหารค่อนข้างสลัว ทั้งมองไม่เห็นบริเวณตรงกลาง

กูหลังหาวหวอด พลางเหยียดตัวบิดขี้เกียจ

ในเวลานั้นเอง จู่ ๆ เสียงเพลงในร้านอาหารก็หยุดลงแบบกะทันหัน

พนักงานต้อนรับที่นำทางเฉินตงตอนแรก เดินออกมาที่ประตู จับตัวล็อกโซ่และเตรียมล็อกประตู

กูหลังชะงักไปชั่วขณะ “พี่ชาย เจ้านายของฉันยังกินข้าวอยู่ข้างในอยู่เลยนะ ทำไมถึงจะล็อกประตูซะแล้วล่ะ?”

“เจ้านาย?”

พนักงานต้อนรับยิ้มแล้วพูดว่า “อ้อ! คุณเฉินกับคุณหนูท่านนั้น ออกไปตั้งแต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วล่ะครับ”

บึ้ม!

กูหลังตกใจสุดขีด ราวกับมีเสียงอะไรบางอย่างในหัวระเบิดขึ้นมา: “เป็นไปไม่ได้ ฉันนั่งรออยู่ที่หน้าประตูนี้ตลอด ไม่ไปขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว ทำไมฉันไม่เห็นพวกเขาสองคนออกมาล่ะ?”

“ต้องขออภัยด้วยครับคุณผู้ชาย พวกเขาออกทางลิฟต์ขนส่งสินค้าภายในร้านของเราไปน่ะครับ”

พนักงานตอบด้วยรอยยิ้ม ก้มหน้าแล้วล็อกประตูร้าน

ลิฟต์ขนส่งสินค้า?

มีทางออกอื่นงั้นเหรอ? !

กูหลังหยุดนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง ในสมองเกิดเสียงดังกึกก้องอื้ออึงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

จะเป็นไปได้ไหมว่า…..มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นซะแล้ว? !

รูม่านตาของเขาค่อย ๆ หดเล็กลงจนถึงขีดสุด ความหนาวเย็นอย่างรุนแรงพลันพุ่งทะยานจากฝ่าเท้า ขึ้นไปกลางกะโหลกศีรษะอย่างน่ากลัว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาพิศวงงงงันคือ เฉินตงไม่ใช่ว่าคอยตื่นตัว ระแวดระวังเฉินหยู่เฟยอยู่เสมอหรอกเหรอ? ทำไมไม่มาบอกกล่าวเขาสักคำ ก็จากไปตามลำพังกับเฉินหยู่เฟยซะแล้ว?

แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่คำถามที่เขาควรพิจารณาในเวลานี้

กูหลังรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดหมายเลขของเฉินตงทันที

ไม่กี่วินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก สายนั้นไม่สามารถติดต่อได้โดยสิ้นเชิง

หรือว่า… จะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ!

จากประสบการณ์และสติของกูหลัง เขาก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว

เขารีบโทรหาคุนหลุนอีกครั้ง

“พี่คุนหลุน ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น คุณเฉินถูกเฉินหยู่เฟยพาตัวไปแล้ว!”

กูหลังพูดว่าถูกพาตัวไปแทนคำว่าไปด้วยกัน เพราะเขารู้ดีว่าเฉินตงมีความระแวดระวังต่อเฉินหยู่เฟยมากขนาดไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่จู่ ๆ เขาจะไปกับเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการไปด้วยกันเงียบ ๆ โดยไม่บอกไม่กล่าวเขาอย่างนี้ด้วย

“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้นะ?”

ที่ปลายสาย คุนหลุนสบถด่าออกมาว่า ” บ้าเอ๊ย ! แล้วแกมัวทำอะไรอยู่หา?”

“ผม….” กูหลังหน้าแดงเห่อด้วยความละอาย

ไม่รอให้เขาได้อธิบายอะไร คุนหลุนก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า: “รีบรายงานเรื่องนี้ให้ท่านหลงรู้ด่วนเลย ต่อให้ต้องพลิกทั้งเมือง ก็ต้องตามหาคุณชายให้พบให้ได้”

วิลล่าเขาเทียนซาน

หลังจากวางสาย คุนหลุนก็รีบไปพบท่านหลงทันที

แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดให้ฟังอีกครั้ง

ท่านหลงขมวดคิ้วมุ่น พูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งเคร่งเครียด : “รีบออกตามหาทันที! คุณชายไปกับเฉินหยู่เฟย จะต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรอย่างแน่นอน พวกเขาต่างก็เป็นทายาทที่มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่ง ต่างฝ่ายต่างก็อยู่ในสถานะที่ต้องแข่งขันห้ำหั่นกันทุกด้านทำไมครั้งนี้คุณชายถึงได้ประมาทขนาดนี้?”

ในเวลานี้ทั้งคู่ไม่ได้ไปสืบหาสาเหตุ ว่าทำไมเฉินตงถึงได้อยู่ตามลำพังกับเฉินหยู่เฟย

เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่า ทั้งสองเป็นทายาทของตระกูลเฉิน การแข่งขันระหว่างพวกเขาก็เหมือนน้ำกับไฟ

ตอนนี้ที่เฉินตงหายตัวไปภายใต้เปลือกตาของกูหลัง นั่นแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน!

“อย่าบอกเรื่องนี้ให้คุณผู้หญิงรู้นะ” ท่านหลงลุกขึ้นยืน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ตามฉันไปพบท่านเมิ่งด่วน”

ทุกคนต่างทำตามลำดับคำสั่งการของท่านหลงไปทีละข้อ

ในยามค่ำ ทั่วทั้งเมืองดูเหมือนจะพลุกพล่านอลหม่านขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา

แต่สิ่งที่ทำให้ท่านหลงกับคุนหลุนต้องผิดหวังก็คือ หลังจากรวบรวมข่าวที่ได้มาชิ้นแล้วชิ้นเล่า ก็ยังไม่มีร่องรอยว่าจะหาตัวเฉินตงพบ!

มันเหมือนกับว่าทั้งเฉินตงและเฉินหยู่เฟย ได้จมหายลงไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ สูญสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

แม้จะอยู่ภายใต้การดำเนินการของท่านเมิ่ง การค้นหาชนิดแทบจะพลิกทั้งเมืองหา ก็ยังไม่สามารถตรวจพบเบาะแสใดๆได้เลย!

หลังจากที่กูหลังสำรวจจนรอบร้านอาหาร เขาก็พบว่ากล้องวงจรปิดทั้งหมดในร้าน ถูกทำลายจนเสียหาย หรือไม่ก็ถูกบิดเปลี่ยนเส้นทางไปจนหมด

ผลลัพธ์เช่นนี้ ทำให้ท่านหลงกับคุนหลุนแทบจะคลั่งตายให้ได้แล้ว

นี่เห็นได้ชัดว่า เป็นแผนการที่ถูกคิดไตร่ตรองเอาไว้ล่วงหน้าอย่างดี

และเพราะมันเป็นแผนการที่คิดไตร่ตรองล่วงหน้ามาอย่างดีนี่แหละ ถึงทำให้ทั้งสองคนตื่นตระหนกมากขึ้นทุกขณะแบบนี้

ราวกับว่าเพียงพริบตา เบาะแสทั้งหมดก็ถูกตัดขาดไปทันที ต่อให้ท่านหลงจะแข็งแกร่งมากกว่านี้สักเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีทางใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิ์ภาพอยู่ดี

รวมถึงความปลอดภัยของเฉินตง ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อีกด้วย

ชั่วระยะเวลาหนึ่งคืน

เมืองทั้งเมืองปั่นป่วน ภายใต้การยืนกรานของท่านหลง แม้ว่าจะไม่มีผลลัพธ์ใด ๆ ก็ตาม กำลังคนทั้งหมดก็ยังคงสืบเสาะค้นหากันอย่างไม่ลดละ

ถึงขั้นที่ว่า มีการย้ายคนจากสำนักงานซึ่งทำงานอยู่ที่เมืองข้างเคียงกลางดึก เพื่อมาช่วยกันทำการค้นหาในครั้งนี้เลยทีเดียว

บนขอบฟ้า เริ่มปรากฏริ้วแสงสีขาวราวท้องปลาขึ้นทีละน้อย ๆ

ในที่สุดก็รุ่งเช้าแล้ว

ท่านหลงนั่งอยู่หน้าระเบียงอย่างอ่อนล้าอิดโรย มีโทรศัพท์มือถือหลายสิบเครื่องอยู่ตรงหน้าเขา

คุนหลุนกับกูหลังก็อยู่อีกด้านหนึ่งเช่นกัน ใบหน้าของแต่ละคนไม่อาจซ่อนความเหนื่อยล้าได้

การที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน บวกกับการออกค้นหาเฉินตงกันอย่างหนัก ทำให้ทั้งสามคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทั้งยังตื่นตระหนกจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ

จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีเบาะแสเงื่อนงำใด ๆ เลย

“ท่านหลง หรือว่าคุณชายจะถูก….”

คุนหลุนพึมพำอย่างสิ้นหวัง พูดได้เพียงครึ่งประโยค แต่ความหมายกลับชัดเจนในตัวของมัน

บุญคุณความแค้นของพวกตระกูลเศรษฐี ผู้มั่งคั่งร่ำรวยทั้งหลาย จุดจบของการแข่งขันแย่งชิงกันระหว่างผู้สืบทอด ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบไหน ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่นเฉินเทียนหย่าง กับเฉินเทียนเซิงนั่นประไร เดิมทีทั้งคู่ต่างก็ใช้วิธีการที่เรียกได้ว่าโหดร้ายชนิดไร้ขีดจำกัดมาโจมตีเฉินตงไม่ใช่หรอกรึ!

ท่านหลงฝืนยิ้มอย่างขมขื่น

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พวกเราสามคนก็เตรียมฝังศพคุณชายให้พร้อมเถอะนะ”

เพียงประโยคเดียว ระเบียงที่ปกคลุมไปด้วยแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องมา ก็ไม่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นนุ่มนวลอีกต่อไป

……………

ห้องพักในโรงแรม

ม่านหนาที่หน้าต่าง บดบังแสงแดดยามเช้า จนไม่อาจเล็ตรอดเข้ามาได้แม้เพียงเศษเสี้ยว

กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยกรุ่นกระจายไปทั่วห้อง

เตียงนอนเละเทะยับย่น ทั้งยังมีเสื้อผ้าผู้หญิงกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

เฉินตงลืมตาขึ้น หัวของเขาปวดบวม เหมือนผ่านการเมาค้างมาตลอดทั้งคืนอย่างไรอย่างนั้น

สายตาของเขากวาดมองทุกสิ่งในห้องอย่างมึนงง ความทรงจำค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาช้า ๆ

เขาสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง แตกตื่นตกใจสุดขีด

“เมื่อคืนนี้… เฉินหยู่เฟย…”

มองดูห้องว่าง ๆ ที่มีแค่เขาคนเดียว เตียงที่เละเทะยับยู่ยี่ ดูเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง

ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นกางเกงรัดรูปของผู้หญิงตกอยู่บนพื้น รูม่านตาพลันหดเล็กลงทันที

หรือจะเป็น…..

จู่ ๆ ความคิดที่น่ากลัวความคิดหนึ่ง ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา

เฉินตงส่ายหัวอย่างไม่กล้าเชื่อตัวเอง: “ไม่หรอกน่า ต้องไม่ใช่แน่ ๆ…”

เขายืนขึ้นในสภาพโซซัดโซเซ รีบร้อนแต่งตัวด้วยความตื่นตระหนก

แต่หลังจากปลายหางตาเหลือบมองไปเห็นของที่ใช้แล้วในถังขยะ ในสมองเขาก็คล้ายมีระเบิดลูกใหญ่ระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน ราวกับว่าสมองเขามันว่างเปล่าไปชั่วขณะ ไม่เหลือขวัญเหลือวิญญาณอีกต่อไป ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง

ความแน่วแน่เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ ถูกทำลายจนป่นปี้ด้วยสิ่งของที่แสนจะสะดุดตา ซึ่งเวลานี้มันเด่นหราอยู่ในถังขยะ

เมื่อคืนนี้..……

เฉินตงหวาดวิตกอย่างมาก เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปรากฏตัวในสภาพเช่นนี้

แต่ด้วยทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาถึงกับสามารถสร้างภาพต่อในสมอง เรื่องที่เฉินหยู่เฟยทำกับเขาหลังเกิดความมึนงงสับสนเมื่อคืนนี้ได้

แต่นี่ เขาจะอธิบายให้กู้ชิงหยิ่งฟังได้ยังไงกันล่ะ?

กว่าที่เขากับกู้ชิงหยิ่งจะฟันฝ่าความยากลำบากกันมา จนสุดท้ายถึงได้มาพบเจอความสุขอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้นะ?

ในขณะที่นึกโทษตัวเองอยู่นั้น เฉินตงก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน

“เฉินหยู่เฟย….”

เขากัดฟันเค้นเสียงคำรามลอดไรฟันออกมาประโยคหนึ่ง

เฉินตงควานหาโทรศัพท์มือถือของเขา ซึ่งมันถูกปิดเครื่องอยู่

ขาดการติดต่อไปทั้งคืน พวกท่านหลงคงจะตามหากันจนแทบบ้าแล้วแน่ๆ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องรีบรายงานความปลอดภัยของตัวเองก่อน จากนั้นถึงค่อยหาเวลาคิดจัดการเรื่องราวต่อ ๆ ไป

แต่เมื่อเปิดโทรศัพท์ ก็มีข่าวด่วนข่าวหนึ่ง เด้งขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของเฉินตง

ทันใดนั้นเฉินตงก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางแดดจัด ๆ มันช็อตจนสมองของเขาด้านชา ไม่รับคำสั่งอะไรทั้งสิ้น

【สุดช็อก! ซูเปอร์สตาร์เฉินหยู่เฟย ถูกลักพาตัวไปข่มขืนกลางดึก! 】

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset