Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 23 ฉันอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก

บทที่ 23 ฉันอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก

ออกไปจากบริษัทไท่ติ่ง

เฉินตงนั่งรถไปบริษัทแม่บ้านใกล้ๆ

“สวัสดี มีอะไรให้ช่วยไหม?” มีชายอายุราวๆ สี่สิบกว่าปี ออกมาทักทาย

เฉินตงพูด: “ฉันอยากจะหาพี่เลี้ยงสักคน”

เพราะว่าคำพูดเสียดแทงใจของหวางหนันหนัน อาการป่วยของแม่ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำพูดของหมอก็เหมือนเป็นการบอกให้เขานับเวลาถอยหลังแล้ว

ตอนนี้เขากำลังวุ่นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เลยไม่ได้ดูแลแม่ยี่สิบสี่ชั่วโมง

หาพี่เลี้ยงดูแลแม่ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลย

“คุณมาหาถูกคนแล้ว บริษัทของพวกเราเป็นบริษัทเฉพาะเลย คุณนั่งก่อนเถอะ”

ชายวัยกลางคนยิ้มพลางเชิญเฉินตงนั่งลง หลังจากเทน้ำชาแล้ว เขาถึงได้ถาม: “พี่เลี้ยงสำหรับคุณ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?”

เฉินตงจิบน้ำชา ก่อนจะพูด: “ต่อสู้ได้!”

“ต่อสู้ได้งั้นเหรอ?”

ชายวัยกลางคนที่กำลังดื่มชานั้น เมื่อได้ยินคุณสมบัตินี้ ก็สำลักน้ำชาออกมา ก่อนจะมองเฉินตงด้วยสายตาแปลกๆ : “แค่กๆ ……คุณสมบัตินี้คุณจะ……”

มาหาพี่เลี้ยง หรือมาหานักเลงชวนตีกันแน่เนี่ย?

“อยากได้ที่ต่อสู้เป็นน่ะ” เฉินตงพูด

แต่งงานกับหวางหนันหนันมาสามปี สำหรับท่าทีการกระทำของคนในตระกูลหวางนั้น เขารู้เป็นอย่างดี

เป้าหมายของการหาพี่เลี้ยงก็เพื่อไม่ให้แม่ถูกกระทำอะไรได้อีก

ถ้าจะหาคนที่อ่อนแอ มันคงจะไม่ได้

“โอเค ฉันจะช่วยคุณหาเอง” ชายวัยกลางคนเก็ความสงสัยเอาไว้ในใจ ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูรายชื่อของพี่เลี้ยง ในขณะเดียวกันก็ถามว่า: “ยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ไหม?เงินเดือนที่จะให้พี่เลี้ยงเท่าไหร่ดี?”

“เท่าไหร่ก็ได้ ขอเพียงแค่ต่อสู้เป็น และช่วยฉันดูแลแม่ของฉัน” เฉินตงพูดอย่างสบายอารมณ์

แม่เป็นทุกอย่างของเขา ขอเพียงแค่ปกป้องแม่เอาไว้ให้ จะให้จ่ายเท่าไหร่เขาก็ยอม

ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเองก็ไม่ได้ขัดสนอะไร

ชายวัยกลางคนงงเป็นไก่ตาแตก

เขาทำงานหาแม่บ้านมาเกือบยี่สิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขอคุณสมบัติที่แปลกขนาดนี้

หลังจากที่หาราวๆ ครึ่งชั่วโมง จู่ๆ ดวงตาของชายวัยกลางคนก็เปล่งประกาย

“คุณ คุณมาดูสิว่าคนนี้พอได้ไหม?”

พูดไป เขาพลางหันจอคอมไปทางเฉินตง

เฉินตงดูอย่างละเอียด

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์มีข้อมูลโดยละเอียดเขียนอยู่

แถมยังมีรูปภาพอยู่ด้วย

อายุของผู้หญิงไม่มาก เพียงแค่ยี่สิบแปดปี เมื่อดูรูป ก็เห็นว่าดูสวยบริสุทธิ์ดี แถมยังยิ้มสวยอีกด้วย

แต่ทว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้สำคัญมาก

ที่สำคัญคือผู้หญิงคนนี้สูง170cm ก่อนหน้านี้ยังเป็นนักมวยมาก่อนด้วย

“เธอนี่แหละ!”

เฉินตงตกลง

ชายวัยกลางคนพูด: “คุณตาถึงจริงๆ แต่ทว่าเงินเดือนของคนนี้ต้องการแปดพันนะ”

สำหรับการทำงานและดูแลที่นี่นั้น แปดพันมันถือว่าสูงมาก

อีกอย่าง ผู้หญิงคนนี้อายุยังน้อย เมื่อเทียบการทำความสะอาดดูแลกับพวกป้าแล้ว มันเทียบไม่ติด แถมประวัติของผู้หญิงคนนี้อยู่ท้ายๆ ในบริษัทตลอดเลย

เขาเองก็พยายามให้ผู้หญิงคนนี้ลดค่าแรงลงหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ผู้หญิงคนนี้ถึงปฏิเสธไป

“หมื่นหนึ่ง!” เฉินตงชี้นิ้วขึ้นมา “แต่ฉันต้องการให้เธอดูแลแม่ของฉันยี่สิบสี่ชั่วโมงนะ”

“ได้!ฉันจะติดต่อเธอให้เดี๋ยวนี้เลย”

ชายวัยกลางคนดีใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเอาข้อมูลจากใต้กล่องเก็บเอกสารขึ้นมา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ขายของจนหมดโกดังอย่างโล่งใจ

เมื่อจัดการข้อมูลการรับเข้าทำงานแล้ว หลังจากที่ได้เบอร์ติดต่อมา เฉินตงก็กลับไปที่บริษัทไท่ติ่ง

“พี่ตง ไม่ได้การแล้ว ทางฝั่งภาคตะวันตกของเมืองเกิดเรื่องแล้ว” เพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน เสี่ยวหม่าของบริษัทก็รีบวิ่งเข้ามา ด้วยท่าทีรีบร้อน

“เกิดเรื่องอะไร?”

เฉินตงขมวดคิ้ว เขาเข้ามาในบริษัทก่อนเสี่ยวหม่าหนึ่งเดือน ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้มีความสามารถเหมือนกัน ความก้าวหน้าก็ไม่เหมือนกัน

แต่การทำงานอย่างตั้งใจและจริงจังของเสี่ยวหม่านั้น เฉินตงรู้ ดังนั้นหลังจากที่เขาเป็นรองผู้บริหาร เลยให้เสี่ยวหม่าจัดการให้เขา

โปรเจคการเปลี่ยนแปลงของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เขาปล่อยวางอำนาจที่มี เสี่ยวหม่ากลับเป็นคนรับผิดชอบเขตนี้แทน

เสี่ยวหม่าเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก: “ฉันเพิ่งกลับมาจากภาคตะวันตกของเมือง ไม่รู้ว่าทำไมคนที่จะเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยนั้น จู่ๆ ก็มีเรื่องขึ้นมา บอกว่าเราให้เงินน้อยเกินไป เลยจะเป็นตัวขวางนี้”

ใบหน้าของเฉินตงจริงจังขึ้น: “การเปลี่ยนแปลงย่านสลัมเป็นโปรเจคของเมือง การชดเชยค่าใช้จ่ายใดๆ ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ยิ่งไปกว่านั้นเพราะว่าในตอนแรกหลี่ต้าเป่ามากถึงสาวสิบล้าน ค่าชดเชยนั้นเกินมาตรฐานเกินไปแล้ว อีกอย่างคนที่จะทำการโยกย้ายที่อยู่นั้นได้จัดการไปหมดแล้ว เซ็นต์สัญญาไปหมดแล้วด้วย ทำไมไม่พูดออกมาตั้งแต่แรก ตอนนี้กลับมามีเรื่องขึ้นมา?”

“ฉันเองก็ไม่รู้”

เสี่ยวหม่าไร้ทางเลือก: “หลังจากที่ข่าวของยี่เคอกรุ๊ปตั้งรกรากในที่นี่ได้แพร่ออกไป ราคาบ้านของภาคตะวันตกของเมืองก็พุ่งสูงขึ้น ฉันกังวลว่าคนที่ต้องย้ายออกจะไม่พอใจกับเงินชดเชยของพวกเรา แถมเรายังเคยสอบถามความต้องการของคนที่จะต้องโยกย้ายออกจากภาคตะวันตกของเมืองนั้น ก็เพราะว่าพวกเราจะชดเชยให้มากกว่ามาตรฐาน พวกเขาเลยไม่ได้บ่นอะไร”

“ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนฉันยังพูดคุยสนุกสนานกับตาแก่ในเขตนั้นอยู่เลย”

ยิ่งเสี่ยวหม่าพูด ก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ: “แต่เมื่อครู่เมื่อฉันไป ตาแก่คนนั้นก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน แถมยังจะเตะก้นฉันอีกด้วย”

“หึๆ ชักสนุกแล้วสิ”

เฉินตงยิ้ม: “เปลี่ยนไปมากภายในชั่วโมงเดียว เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่ผีเข้า ก็คงจะแปลก”

ทำงานมาสามปี เขาสามารถกลายเป็นรองผู้บริหารของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว เลยถือเป็นการยืนยันในความสามารถของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ในสามปีนี้ถึงแม้ว่าเขาจะช่วยหลี่ต้าเป่าแบกรับคำก่นด่าและภาระมากมาย แต่ก็เพราะว่าภาระและเสียงก่นด่านี้ ความสนิทกับหลี่ต้าเป่า เลยทำให้เขาได้รับรู้อะไรหลายๆ อย่างที่ปกติคงจะไม่มีทางได้เข้าถึงมันเลย

เรื่องราวๆ นี้ เขาเองก็เคยเจอมาก่อน

“พี่ตง มีคนมาใส่ร้ายพวกเรางั้นเหรอ?” เสี่ยวหม่าพูดด้วยความสงสัย

“ไม่อย่างนั้นก้นของคุณจะถูกเตะออกมาได้อย่างไร?” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะยิ้มด้วยความสนุกสนานยิ้มเยาะ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง: “ไปทำงานก่อนเถอะ ยังไม่ต้องสนใจเขตนั้นของคุณ เดี๋ยวฉันจะไปตรวจสอบให้ดี”

“พี่ตง ฉัน เขตของฉันนั้นเป็นที่ที่อยู่ใจกลางมากที่สุด ไม่ต้องสนใจก่อนจริงเหรอ?” เสี่ยวหม่าร้อนใจ เขาได้มารับผิดชอบทั้งเขต ก็เพราะเฉินตงเป็นคนดูแลพามา ดังนั้นเลยตั้งใจรับผิดชอบมาก

เขารู้ถึงความสำคัญของเขตนี้เป็นอย่างดี ถ้าเกิดว่าไม่สามารถโยกย้ายออกไปได้อย่างราบรื่น มีแผนอีกมากมายที่จะต้องเลื่อนออกไป

สำหรับอสังหานั้น เลื่อนออกไปเพียงนาทีเดียว ก็เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น!

“มากสุดให้เวลาหนึ่งวัน” เฉินตงโบกมือ ก่อนจะพูดอย่างเรียบเฉย

ตามความสามารถของท่านหลงนั้น ถ้าเกิดว่าไม่สามารถหาได้ว่าใครทำไท่ติ่งภายในหนึ่งวัน ยี่เคอกรุ๊ปก็จะสามารถเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่ง นั่นก็คงแปลกแล้ว

เฉินตงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรไปหาท่านหลง จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์หนึ่งโทรขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของหลี่ต้าเป่า จู่ๆ เฉินตงก็รู้อะไรบางอย่างขึ้นมา

เขารับโทรศัพท์ ก่อนจะมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของหลี่ต้าเป่าดังขึ้น: “โอ้ย ขอบคุณผู้บริหารเฉินมากที่เจียดเวลามารับโทรศัพท์ของฉันได้”

“คุณทำเหรอ?” เฉินตงถาม

“ฉันทำอะไรเหรอ?” หลี่ต้าเป่าตกใจ จากนั้นก็ถอนหายใจ: “เฉินตง ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทอสังหาของพี่เขยของฉันอีกที่หนึ่ง ได้ยินมาว่าภาคตะวันตกของเมืองของพวกคุณเกิดเรื่องขึ้น คุณเคยเป็นคนทำงานด้วยกันกับฉัน จะไม่ให้ฉันเป็นห่วงคุณหน่อยเหรอ?”

เฉินตงหัวเราะเสียงเย็นชา ทำมาเป็นหน้าเนื้อใจเสือ ปลอมกว่านี้ได้ไหมนะ?

แต่ทว่า จู่ๆ ก็มีสายเข้ามาหาหลี่ต้าเป่า มันทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลาไปสอบถามจากท่านหลงแล้ว

เฉินตงพูดเสียงเย็นชา: “เวลาหนึ่งวัน ถ้าคุณไม่ทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ฉันจะทำให้คุณร้องไห้เลยคอยดู!”

“คุณมาขู่ฉันเหรอ?จะให้ฉัน หลี่ต้าเป่าตกใจกลัวเหรอ?” หลี่ต้าเป่าขึ้นเสียง

เฉินตงยิ้มเยาะ ก่อนจะวางสายไป

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset