Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 307 ก็กูเป็นพ่อแก!

ณ ห้องโถงรอขึ้นเครื่องของสนามบินชานเมือง

กู้ชิงหยิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยดวงตาที่ง่วงงุน คิ้วขมวดมุ่นเป็นปม คล้ายมีเรื่องให้ครุ่นคิด

ฟ่านลู่ที่อยู่อีกด้านก็เอาแต่อ้าปากหาวหวอด ๆ ไม่หยุด ท่าทางดูหดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวา

นี่มันเป็นอะไรที่เช้าเกิน แถมยังกะทันหันเกินไปด้วย กำลังหลับฝันหวานอยู่ดี ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่น จากนั้นก็ถูกสั่งให้ไปต่างประเทศทันทีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอีก

เธอหันไปมองกู้ชิงหยิง แล้วถามว่า “เสี่ยวหยิ่ง ทำไมพี่ถึงรู้สึกว่า เธอมีเรื่องหนักใจให้คิดเลยล่ะ?”

กู้ชิงหยิ่งกลับมารู้สึกตัว พูดว่า “พี่เสี่ยวลู่ พี่รู้สึกมั้ยว่าเฉินตงเขาดูมีอะไรสักอย่างที่ผิดปกติไปน่ะ?”

“ก็ไม่นะ”

ฟ่านลู่ส่ายหน้า: “ถ้าจะบอกว่าใครที่ดูผิดปกติ พี่คิดว่าเป็นพี่คุนหลุนต่างหากที่ผิดปกติ เมื่อเช้าตอนที่เขาไปเรียกให้พี่ตื่น สีหน้าของเขาดูอย่างกับแทบจะระเบิดตัวเองได้อยู่แล้ว พี่ยังไม่ได้แกล้งหยอกแกล้งเย้าอะไรเขาเลยสักนิด”

“ฉันรู้สึกว่า เฉินตงมีเรื่องบางอย่างที่ปิดบังฉันอยู่”

แม้ว่ากู้ชิงหยิ่งจะคิดอย่างนั้น ตัวเธอก็เชื่อในคำสาบานของเฉินตงอยู่ดี

แต่เวลาสี่ปีในมหาวิทยาลัย ที่เธอได้คบหาดูใจกับเฉินตงมา บวกกับการรอคอยอีกสามปีกว่าที่เขาได้กลับมาอีกครั้ง เรียกว่าความใส่ใจที่เธอมีต่อเฉินตง มันมากเสียกว่าความใส่ใจที่เธอมีให้กับตัวเองเสียอีก

เพราะให้ความสำคัญและใส่ใจ จึงได้เข้าใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

และเพราะเข้าใจ ดังนั้นจึงรู้สึกได้ว่าเฉินตงจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่แล้ว

“เสี่ยวหยิ่ง อย่าคิดมากอีกเลยนะ ไม่ใช่ว่าคุณเฉินก็สบายดีอยู่หรอกเหรอ” ฟ่านลู่พยายามปลอบใจ “เขารักเธอมากนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาจะปิดบังเธอไปทำไมล่ะ? ”

คิ้วของกู้ชิงหยิ่งขมวดมุ่น พึมพำขึ้นว่า : “ฉันเองก็บอกไม่ถูก แต่ฉันเป็นภรรยาของเขา บางทีนี่อาจเป็นสัมผัสที่หกของผู้หญิงล่ะมั้ง”

ฟ่านลู่พูดอย่างจนใจว่า “เธอนี่นะ คงเพราะจู่ ๆ คุณเฉินก็บอกให้เธอกลับบ้าน เลยรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า? ที่จริงแล้วที่คุณเฉินคิดก็ถูกอยู่นะ หลังจากที่พวกเธอแต่งงานกันมา ก็มีเรื่องราวมากมายหลายอย่างเกิดขึ้นไม่หยุดไม่หย่อน เธอเลยไม่มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมบ้านสักครั้งเลยไม่ใช่เหรอ ? บ่าวสาวหลังแต่งงาน ก็ถือเป็นมารยาทตามประเพณี ที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านแม่หลังแต่งงานไม่ใช่รึไง?”

“แต่มันมีที่ไหนที่ให้เจ้าสาวกลับไปเยี่ยมบ้านแค่คนเดียวบ้างล่ะ?”

กู้ชิงหยิ่งถามไปประโยคหนึ่ง ทำให้ฟ่านลู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง

ในเวลานั้นเอง ก็มีเสียงแจ้งเตือนการขึ้นเครื่องดังขึ้นในโถงรอของสนามบิน

“ไปกันเถอะ ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว”

ฟ่านลู่ไปหยิบกระเป๋าสัมภาระ แล้วพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “อย่าคิดมากเลยนะ”

คิ้วของกู้ชิงหยิ่งขมวดมุ่นจนย่นยู่ เธอไม่รู้ว่าทำไมความรู้สึกนั้น มันถึงได้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้

เธอหันกลับไปมองด้านนอกสนามบิน ได้ยินเสียงเตือนให้ขึ้นเครื่องดังขึ้นในโถงรออีกครั้ง สุดท้ายก็ถอนหายใจเฮือก หันหลังแล้วเดินตามฟ่านลู่ไป

ที่ด้านนอกสนามบิน

เฉินตงนั่งอยู่บนรถพอร์เชอ 911 เพียงลำพัง ในใจหนักอึ้งกลัดกลุ้ม

แกร๊ก!

ประตูรถเปิดออก คุนหลุนที่เหงื่อไหลท่วมแทรกตัวเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว

“ไปกันแล้วใช่มั้ย? ” เฉินตงถาม

“ผมเห็นคุณนายกับเสี่ยวลู่ เดินเข้าไปในทางเดินขึ้นเครื่องด้วยตาตัวเองเลยครับ” คุนหลุนตอบกลับ

เฉินตงยิ้มอย่างผ่อนคลาย คล้ายได้ยกภูเขาหนัก ๆ ออกจากอก จากนั้นจึงสตาร์ทรถ

กู้ชิงหยิ่งออกเดินทางแล้ว ก้อนหินก้อนใหญ่ในใจเขาก็หลุดร่วงออกไปได้เสียที

คำสั่งลอบฆ่าในดาร์กเว็บ ทำให้นับจากวินาทีนี้ ชีวิตของเขาจะต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤตจากการถูกซุ่มโจมตีได้จากทุกด้าน

เขาไม่อาจยอมให้กู้ชิงหยิ่งอยู่ข้างกายเขา แล้วต้องมาเผชิญอันตรายร่วมกันกับเขาได้

ผู้หญิงสมควรมีไว้เพื่อรักใคร่ทะนุถนอม ไม่ใช่มีไว้เพื่อเผชิญกับอันตรายรอบด้าน

ในฐานะสามี เฉินตงรู้สึกว่าเขาควรแบกรับหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะสามีให้ดีที่สุด

ในเวลาแบบนี้ การหลอกให้กู้ชิงหยิ่งไปห่างจากเขา ถือเป็นการปกป้องภรรยาที่ดีที่สุดแล้ว

เขาขับรถรวดเร็วปานลมกรด ตะบึงราวสายฟ้าแลบ

อารมณ์ของเฉินตงหดหู่อัดอั้นอย่างมาก

ดาร์กเว็บ นักฆ่าอำพราง The hidden killer สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเมฆหมอกมืดครึ้ม ที่ปกคลุมอยู่บนหัวของเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ทำให้เขากระสับกระส่ายไม่สบายใจ แต่ก็ไม่มีหนทางจะทำอะไรได้ทั้งนั้น

ต่อจากนี้ไป สิ่งที่เขาต้องเผชิญ อาจโหดร้ายเสียยิ่งกว่าประสบการณ์ในคุกมืดนั่นเสียอีก

“คุณชายครับ เมื่อครู่นี้ท่านหลงเพิ่งจะโทรมาบอกว่า คุณท่านได้ระดมทีมรักษาความปลอดภัยทั้งหมดรอบตัวท่านแล้ว รวมทั้งหมดมีหนึ่งร้อยคนครับ”

คุนหลุนพูดด้วยท่าทีกระตือรือร้น: “ทีมรักษาความปลอดภัยทีมนี้ มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยของคุณท่าน นับตั้งแต่ที่คุณท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านครับ ก่อนหน้านี้มีผมเป็นผู้นำทีม มาตอนนี้คุณท่านส่งพวกเขามาให้ ผมยังพอจะสั่งการทีมได้ง่ายหน่อย เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วครับ”

ส่งมาทั้งหมดเลยเหรอ?

ขอบตาของเฉินตงไหวสั่นน้อย ๆ จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกที่เป็นอารมณ์ซึ่งซับซ้อนมาก ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เขาจำได้ว่า คุนหลุนเคยเป็นบอดี้การ์ดของพ่อมาก่อน และยังเป็นหนึ่งในคนที่พ่อของเขาไว้วางใจมากที่สุดด้วย

คุนหลุนถูกส่งมาที่นี่ ก็เพื่อคอยดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้กับเขา

แต่การตัดสินใจครั้งนี้ ก็เป็นการเพิ่มอันตรายให้กับพ่อขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

มาตอนนี้ แม้แต่ทีมรักษาความปลอดภัยของตัวเอง ก็ยังถูกส่งมาให้คุนหลุนใช้เป็นแขนขา เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับเขาจนหมด….

ถ้าอย่างนั้น แล้วพ่อล่ะ?

ทีมรักษาความปลอดภัยที่สามารถปกป้องพ่อของเขามานานกว่าสองทศวรรษ เฉินตงย่อมไม่สงสัยเลยสักนิดว่า ทีมนี้ต้องเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน

แต่คุนหลุนมาแล้ว ทีมบอดี้การ์ดก็มาแล้ว อันตรายต่อชีวิตและความเสี่ยงที่พ่อจะต้องเจอ มันจะยิ่งทวีความน่าหวาดหวั่นขึ้นไปขนาดไหนกัน?

“ เพื่อจะปกป้องฉันแล้ว เขาไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลยรึยังไงกัน ? ” เฉินตงหลุดปากพูดออกมา ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนสับสนอย่างยิ่ง

คุนหลุนผงะไปเฮือกหนึ่ง ยกยิ้มอย่างฝืดฝืน: “แต่ไหนแต่ไรมา คุณท่านก็มักจะวางความปลอดภัยของตัวเอง เอาไว้ข้างหลังคุณชายมาตลอดอยู่แล้วล่ะครับ”

“เขาเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน อยู่สูงเหนือผู้คนทั้งหลาย แต่ต้นไม้สูงย่อมปะทะสายลมแรง ยิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกเป็นเป้าโจมตีเท่านั้น อันตรายที่เขาต้องเผชิญอยู่ทุกวัน ก็คงไม่ด้อยไปกว่าฉันที่ถูกนักฆ่าในเงามืดไล่ตามฆ่าหรอกมั้ง?”

คุนหลุนยังคงนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ

ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของเฉินเต้าหลิน เขาย่อมรู้ดีที่สุดว่า ตลอดเวลาเฉินเต้าหลินต้องเผชิญกับอันตรายมากมายขนาดไหน

การส่งเขา กับทีมรักษาความปลอดภัยมาให้ทางเฉินตงจนหมดแบบนี้ พูดในฐานะของคนที่มีตัวตนซึ่งดำรงอยู่ในระดับเฉินเต้าหลิน นั่นเท่ากับเป็นการถอดเขี้ยวเล็บมังกรอย่างแท้จริง!

ชั่วขณะนั้น

เฉินตงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดหมายเลขของเฉินเต้าหลินอย่างรวดเร็ว

เมื่อต่อสายติด เฉินตงก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ พอจะเปลี่ยนเป็นทีมรักษาความปลอดภัยมืออาชีพให้ผมแทนได้ไหมครับ? ”

“ไม่ได้!” คำพูดของเฉินเต้าหลินแน่วแน่อย่างยิ่ง “ฉันรู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ แต่เรื่องนี้ฉันพิจารณาอย่างจริงจังดีแล้วถึงได้ตัดสินใจทำแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการคุ้มครองความปลอดภัยของแก ส่วนความปลอดภัยของฉัน ก็ให้ฉันเป็นคนจัดการวางแผนเอง เรื่องนี้ยังไง ๆ แกก็ต้องฟังฉัน!”

“ด้วยเหตุใดล่ะ?”

เฉินตงรู้สึกคับข้องใจเกินจะทานทนขึ้นมาบ้างแล้ว พ่อคำนึงถึงความปลอดภัยของเขา แล้วไม่คิดว่าตัวเขา จะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพ่อบ้างเลยหรือ?

ในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยมีความแค้นเคืองต่อเฉินเต้าหลินมาก่อน

แต่เมื่อได้รับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีตไปทีละขั้นทีละตอน ความคับข้องใจและความเคืองแค้นในใจเหล่านั้น ก็ค่อย ๆ มลายหายไป

พ่อกับลูกชาย

พ่อไม่เคยอยู่เคียงข้างดูการเจริญเติบโตของเขา แต่เขาเติบโตขึ้นแล้ว และกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งงามสง่า ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคอย่างทุกวันนี้

ในฐานะลูกผู้ชาย ถ้าไม่เทิดทูนพ่อแม่มาเป็นอันดับแรก ไม่กตัญญูกตเวทีมีความรับผิดชอบ นั่นจะนับว่าเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ?

“ก็กูเป็นพ่อแก! กูจะปกป้องแก แกที่เป็นลูกคนก็ต้องทำตามที่กูสั่ง!”

จู่ ๆ เฉินเต้าหลินก็ตวาดด่าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เสียงตวาดอย่างกะทันหันนี้ ทำให้อารมณ์ที่ซับซ้อนอยู่แล้วของเฉินตง ยิ่งทวีความกระอักกระอ่วนมากขึ้นไปอีก

ขอบตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ เฉินตงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ ขอบคุณนะครับพ่อ ”

“ส่วนทางด้านดาร์กเว็บนั่น ฉันกำลังพยายามหาทางอยู่ ถ้าภารกิจลอบฆ่าครั้งนี้ไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่รากฐานล่ะก็ เรื่องนี้ก็คงจะไม่มีวันจบสิ้นลงแน่ ๆ”

เสียงของเฉินเต้าหลินลดต่ำลง แต่ยังแฝงความรู้สึกจนใจอยู่บ้างเล็กน้อย : “น่าเสียดายที่ต่อให้ฉันจะใช้พลังของตระกูลเฉิน ไปบดขยี้ทำลายตระกูลหลี่จนราบคาบอย่างสมบูรณ์ได้ ฉันก็ยังไม่มีวิธีที่จะทำให้ดาร์กเว็บมันยกเลิกภารกิจลอบฆ่าอยู่ดี เรื่องนี้มันยุ่งยากเกินไป ฉันต้องการเวลาอีกสักหน่อย”

“การส่งทีมรักษาความปลอดภัยทั้งหมดไปให้แก โดยให้คุนหลุนสามารถออกคำสั่งใช้สอยได้ ก็คือการพยายามซื้อเวลาในครั้งนี้แล้ว”

พูดมาถึงตอนท้าย จู่ ๆ เสียงของเฉินเต้าหลินก็เปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นมาในทันใด

“เฉินตง ฉันรู้จักนิสัยของแกดี แต่ในเรื่องนี้ แกต้องฟังฉันและจำไว้ให้ขึ้นใจ! มันอันตรายมากจริงๆ แกอย่าได้ทำอะไรโดยใช้อารมณ์เป็นอันขาด คุนหลุน ท่านหลง ฉินเย่ หรือแม้แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ แกที่ชื่อกูหลังคนนั้น ต่างก็ตายได้ทั้งนั้น แต่แกต้องทำทุกวิถีทางเพื่อมีชีวิตรอด!”

จิตใจของเฉินตงดิ่งวูบ รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความหมายของคำพูดที่พ่อได้สื่อออกมา

พี่น้องผองเพื่อน ผู้อาวุโสที่มีบุญคุณ ทุกสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจยอมปล่อยวางทิ้งขว้างได้

ด้วยสัญชาตญาณ เฉินตงเหลือบสายตาไปมองคุนหลุน แต่กลับพบว่าสีหน้าของคุนหลุนดูสงบ แลดูเฉยเมยราบเรียบเหมือนเวลาปกติ

“คุณชาย สิ่งที่คุณท่านพูดมาถูกต้องแล้วล่ะครับ!”

คุนหลุนมองตรงไปข้างหน้า พลันส่งยิ้มให้เขา แต่ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างแล้วพูดด้วยความตกใจว่า: “คุณชายระวัง!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset